Q
MG ZS ใช้เครื่องยนต์อะไร?
MG ZS มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1.5L แนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน รูปแบบการจ่ายอากาศเป็นแบบแนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน มีความจุกระบอกสูบ 1498mL ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า กำลังสูงสุด 84kW ที่ 6000rpm แรงบิดสูงสุด 150N·m ที่ 4500rpm เครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะให้กำลังพอดี ไม่ว่าจะเจอสภาพการจราจรติดขัดก็ขับได้อย่างสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เรียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังประหยัดน้ำมันดี อัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอยู่ที่ 6.4L/100km ช่วยให้เจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ MG ZS มีอะไรบ้าง?
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ควรรู้ไว้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางผู้ใช้รายงานว่าประสิทธิภาพระบบแอร์อาจไม่แรงพอเมื่อใช้งานหนัก โดยเฉพาะเวลาติดอยู่ในรถนานๆ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเย็นสบาย ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดธรรมดา แม้จะประหยัดน้ำมันแต่เมื่อต้องลากเต็มคันหรือขับขึ้นเขาในพื้นที่ต่างจังหวัดอาจรู้สึกได้ว่ากำลังไม่ค่อยพอ เวลาแซงจึงต้องเผื่อระยะมากขึ้น สำหรับวัสดุภายในรถ แม้จะทนทานแต่ใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างเย็น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบความรู้สึกพรีเมียมเท่าไร ต้องบอกว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและบริการหลังการขายค่อนข้างมาก แนะนำว่าควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายจริงๆ โดยเฉพาะระบบแอร์และการออกตัวบนทางชัน เพื่อความชัวร์ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่อาจมีจุดเด่นด้านการตั้งเครื่องยนต์หรือประสิทธิภาพแอร์ที่ต่างออกไป แล้วเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้ดีที่สุด
Q
MG ZS อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน
MG ZS เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ C-Segment ซึ่งโดยทั่วไปก็จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กได้เช่นกัน การแบ่งระดับของรถยนต์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะฐานล้อ ขนาดตัวถัง ระบบแต่งเติม รวมถึงกำลังเครื่อง เป็นต้น สำหรับ MG ZS แล้วมีระยะฐานล้อ 2585 มม. ความยาว 4323 มม. ความกว้าง 1809 มม. และความสูงอยู่ระหว่าง 1628-1653 มม. จากขนาดตัวถังเหล่านี้ก็ถือว่าเข้าข่าย SUV ขนาดเล็กพอดี โดยทั่วไปแล้ว SUV ขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะจอดง่าย ขับเคลื่อนคล่องตัว ด้วยตำแหน่งระดับนี้ MG ZS จึงตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้ดี มีพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือการใช้งานส่วนตัว ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สนใจรถประเภทนี้ในตลาด
Q
MG ZS ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่? หรือ MG ZS ราคาตกไหม?
MG ZS ในตลาดรถมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี โดยมูลค่าขายต่อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษารถ โดยทั่วไปแล้ว รถที่มีอายุประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 50%-60% ของราคารถใหม่ ซึ่งถือว่าสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรื่องการขายต่ออย่าง Toyota
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายต่อของ MG ZS ได้แก่ การที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ MG มากขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่รุ่น ZS EV แบบไฟฟ้าล้วนมีอัตราการลดราคาที่เร็วกว่ารุ่นเบนซิน เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดรถมือสองในไทยยังให้ความสำคัญกับประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ (4S) และการใช้ชิ้นส่วนแท้จากโรงงาน ดังนั้นผู้ใช้ควรเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน รุ่นไฮบริดและไฟฟ้ามีโอกาสขายต่อได้ราคาดีกว่ารุ่นน้ำมันในบางกรณี จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ แต่ควรตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เนื่องจากกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการประเมินราคารถมือสองในไทย ปัจจุบันเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของ MG ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลรักษารถและส่งผลดีต่อมูลค่าขายต่อโดยรวมอีกด้วย
Q
รถ MG ZS มีกี่ CC?
MG ZS ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นย่อยจะมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นหลักที่วางจำหน่ายคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ความจุจริงอยู่ที่ 1,498 ซีซี มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันในระดับดี
ในบางรุ่นอาจมีการนำเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ (ความจุจริง 1,349 ซีซี) เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง
MG ZS ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทย ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถหมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ รถที่มีเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร ยังอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับรถที่มีความจุมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ MG ZS มีราคาคุ้มค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง การรู้ขนาดเครื่องยนต์จะช่วยในการประเมินสมรรถนะและต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จริงด้วยตัวเอง
Q
MG ZS มีเกียร์อะไรบ้าง? หรือ MG ZS ใช้เกียร์แบบไหน?
MG ZS มาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ทำงานแบบไร้ขั้น ซึ่งเทคโนโลยีเกียร์แบบนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว มีความน่าเชื่อถือสูง ระบบเปลี่ยนเกียร์ทำงานลื่นไหลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เวลาขับจริงๆก็รู้สึกว่าเกียร์ตอบสนองดี แม้จะเกิดอาการลื่นไปก็ยังควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการปัดท้ายน่ากลัวอย่างที่คิด
ถึงแม้แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ทุกรุ่นล้วนใช้เกียร์ตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านกำลังและความลื่นไหลในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เกียร์ CVT ยังทำงานประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ระบบเปลี่ยนเกียร์เข้าใจง่าย มีแรงตอบสนองที่ดี ทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายมือเวลาขับ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นประจำ
Q
ล้อ MG ZS ใช้ PCD เท่าไหร่?
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของล้อ MG ZS คือ 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ผู้ใช้ MG ZS สามารถเลือกเปลี่ยนหรืออัปเกรดล้อแม็กได้ง่ายขึ้น ด้วยล้อที่มีขนาดตรงกันในท้องตลาด
PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อ หากเลือกขนาดไม่ตรง อาจส่งผลให้เกิดการสั่นหรือการสึกหรอของช่วงล่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกบ่อยแบบประเทศไทย ที่ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของล้อและยางเป็นพิเศษ
แนะนำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนล้อแม็ก เลือกล้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อเป็นประจำ หากไม่แน่ใจในสเปกล้อของรถ ควรอ้างอิงจากคู่มือรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการ MG ที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่
Q
MG ZS รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
MG ZS ในตลาดไทยมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เชื่อมต่อกับระบบในรถได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้โดยตรง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปยาวๆ อีกทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ฟีเจอร์นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น นอกจาก Apple CarPlay แล้ว MG ZS ยังรองรับ Android Auto ด้วย จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างกัน โดยทั่วไปรุ่นที่ขายในไทยจะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มีการออกแบบอินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีหรือรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Apple CarPlay กำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ และอาจมีอัปเดตเพิ่มเติมผ่านระบบ OTA ในอนาคต
Q
MG ZS ใช้ยี่ห้อยางอะไร
ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ MG ZS ในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการแต่งเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Continental, Bridgestone หรือ Goodyear ที่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย สำหรับการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากจะเลือกใช้แบรนด์เดิมแล้ว คนไทยยังนิยมใช้ยางคุณภาพดีอย่าง Michelin หรือ Dunlop ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องส่วนผสมยางและร่องดอกยางที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนของไทยที่ต้องมั่นใจว่าดอกยางยังเหลือความลึกเพียงพอ ตามกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการทางการของ MG หรือร้านยางมาตรฐาน พวกเขาจะช่วยแนะนำยางที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นยางที่เน้นความเงียบสบายหรือยางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
Q
รถ MG ZS เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบภายนอกที่ทันสมัย ฟีเจอร์ครบครัน และราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวไทยเป็นอย่างดี ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงกระโปรงหลังที่จุของได้เพียงพอต่อความต้องการประจำวัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว และกล้องถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ข้อเสียคือแรงเครื่องค่อนข้างเรียบเนิบ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ส่วนระบบกันเสียงอาจไม่ได้ดีนักเมื่อขับความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ MG ZS ยังให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมแล้วหากคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่า MG ZS ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงเพื่อระบบแอร์และอุปกรณ์บังแดดที่ทำงานได้ดีขึ้น
Q
MG ZS กว้างกี่เมตร
MG ZS มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 1,809 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่กำลังดีสำหรับการใช้งานในเมืองไทย ทั้งบนถนนในเมืองและลานจอดรถ ไม่กว้างเกินไปจนขับลำบากในซอยแคบๆ แบบกรุงเทพฯ แต่ก็ยังให้พื้นที่ภายในรถที่สบายๆ พอดีตัว แถมยังนั่งได้ครบ 3 คนที่เบาะหลังแบบไม่เบียดกันเลย สำหรับ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในไทย อย่าง ZS นี่เค้าออกแบบความกว้างมาเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเอเชียโดยเฉพาะ โดยคิดถึงการใช้รถแบบครอบครัวไทยอยู่แล้ว ที่สำคัญนอกจากตัวเลขความกว้างตัวรถแล้ว เวลาขับจริงต้องระวังระยะกระจกข้างด้วยนะ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวายของไทย ถือว่าเป็นขนาดที่บาลานซ์ได้ดีทั้งเรื่องความมั่นคงบนถนนและประหยัดน้ำมัน แถมยังขับง่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งไปทำงานหรือจะขับเที่ยวต่างจังหวัดก็ได้ แม้แต่บนถนนเลียบชายทะเลหรือทางแคบๆ ตามต่างจังหวัดก็ยังไหว ไม่มีสะดุด
Q&A ล่าสุด
Q
HR-V 2022 ราคาเท่าไหร่
รถยนต์ Honda HR-V รุ่นปี 2022 ในประเทศไทยมีเฉพาะรุ่น Hybrid เท่านั้น โดยแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยคือ E, EL และ RS ราคาเริ่มต้นที่ 979,000 บาท ส่วนรุ่นสูงสุดราคาไม่เกิน 1,200,000 บาท HR-V รุ่นปี 2022 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและมีฟังก์ชันครบครันสำหรับทุกคน โดย HR-V ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมดใช้ระบบขับเคลื่อน e:HEV i-MMD Full Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบ Atkinson Cycle i-VTEC ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เพื่อส่งกำลังไปยังล้อหน้าอีกทั้ง Honda Thailand ยังให้บริการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 10 ปี พร้อมรับประกันระบบ Hybrid 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง หากคุณกำลังมองหารถคันใหม่ สามารถไปที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสอบถามราคาจริงและโปรโมชั่นต่างๆได้เลยครับ
Q
ความแตกต่างระหว่าง Honda HRV 2022 และ 2023 คืออะไร
Honda HR-V รุ่นปี 2023 เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2022 ในตลาดไทย การปรับปรุงหลักอยู่ที่ด้านการออกแบบและเทคโนโลยี โดยภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์คมชัดและกระจังหน้าที่ออกแบบใหม่ ทำให้รูปลักษณ์สอดคล้องกับภาษาการออกแบบล่าสุดของ Honda พร้อมเพิ่มตัวเลือกสีภายนอกใหม่อย่างสีเทาเมทัลลิกเข้ม ภายในห้องโดยสารรุ่นปี 2023 ได้อัปเกรดจอสัมผัส 7 นิ้ว และติดตั้งระบบ Honda CONNECT เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทยและระบบนำทางแบบเรียลไทม์ ด้านความปลอดภัยเพิ่มระบบ Honda SENSING ครบชุดในทุกรุ่นย่อย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ขุมพลังในตลาดไทยยังคงใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i VTEC จับคู่เกียร์ CVT แต่รุ่นปี 2023 ได้ปรับปรุงการตอบสนองของคันเร่งและการเก็บเสียงให้ดีขึ้น สำหรับสภาพการใช้งานในไทย รุ่นปี 2023 ยังได้ปรับปรุงการทำงานของระบบควบคุมแรงฉุดเกาะถนนให้เหมาะกับถนนลื่นในช่วงฤดูฝน และระบบปรับอากาศก็ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นเพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น ความแตกต่างของราคาจำหน่ายระหว่างสองรุ่นอยู่ที่ประมาณ 5 ถึง 8 หมื่นบาทไทย โดยจุดต่างสำคัญคือเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงรุกและระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ซึ่งเมื่อพิจารณาสภาพจราจรที่หนาแน่นในเมืองใหญ่ของไทยแล้ว ฟังก์ชันควบคุมความเร็วตามคันหน้าในความเร็วต่ำที่เพิ่มเข้ามาถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก
Q
รถฮอนด้า HR-V ปี 2022 นั้นคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่
Honda HR-V รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยถือเป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่น่าพิจารณา จุดเด่นอยู่ที่คุณภาพการผลิตอันเชื่อถือได้ของ Honda พื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบอย่างลงตัว และความประหยัดน้ำมันที่เหมาะกับการขับในเมือง รถรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตรแบบดูดธรรมชาติ ให้พละกำลังที่ราบรื่นพร้อมค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงนัก เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทยอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีเบาะนั่งอเนกประสงค์ (Magic Seat) ที่สามารถปรับรูปแบบการใช้งานของเบาะหลังได้อย่างยืดหยุ่น รองรับทั้งการเดินทางของครอบครัวหรือการขนสัมภาระ ขณะที่เครือข่ายศูนย์บริการของ Honda ในไทยก็มีความครอบคลุมสูง ช่วยให้การซ่อมบำรุงเป็นเรื่องสะดวก นอกจากนี้ HR-V ยังมีมูลค่าขายต่อที่ดี ทำให้ต้นทุนการใช้งานระยะยาวอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ จุดที่ควรสังเกตคือรุ่นปี 2022 อาจมีอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีน้อยกว่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ระบบความปลอดภัยพื้นฐานอย่าง Honda SENSING (เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน) ก็มีมาให้ครบ สำหรับผู้บริโภคในไทยที่มีงบประมาณจำกัดแต่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ HR-V ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า และถ้าสนใจเทคโนโลยีไฮบริดก็สามารถติดตามรุ่น e:HEV ที่มีแผนทำตลาดภายหลัง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการลดการใช้น้ำมันในระยะยาว
Q
Porsche Cayenne 2023 สามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหนเมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง
Porsche Cayenne รุ่นปี 2023 เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังระยะทางที่วิ่งได้ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสภาพการขับขี่ โดยตัวอย่างรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร มาพร้อมถังน้ำมัน 90 ลิตร สามารถวิ่งได้ราว 650 ถึง 750 กิโลเมตรในสภาพถนนผสม หากขับในเมืองที่มีการจราจรติดขัดซึ่งพบได้บ่อยในไทยอัตราสิ้นเปลืองจะสูงขึ้นทำให้ระยะทางลดลงเหลือประมาณ 600 กิโลเมตร แต่หากวิ่งบนทางด่วนหรือนอกเมืองอาจทำได้เกิน 800 กิโลเมตร ทั้งนี้สภาพอากาศร้อนจัดและการหยุดติดบ่อยครั้งในไทยส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลือง จึงควรตรวจเช็กระบบแอร์และแรงดันลมยางเป็นประจำเพื่อคงประสิทธิภาพด้านพลังงาน สำหรับรุ่น Cayenne E Hybrid แบบปลั๊กอินไฮบริดสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ราว 50 กิโลเมตร เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและช่วยลดการใช้น้ำมันได้อย่างชัดเจน ผู้ใช้ในไทยควรให้ความสำคัญกับความเข้ากันได้ของน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น เบนซิน 95 หรือไบโอดีเซล B7 ที่ใช้ได้กับเครื่องยนต์ Cayenne หากมีแผนขับทางไกลไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือควรตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันล่วงหน้าเนื่องจากการขับขึ้นทางชันที่ระดับความสูงมากอาจทำให้การสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้น ระบบเกียร์ PDK และช่วงล่างถุงลมปรับระดับอัตโนมัติของ Porsche ช่วยให้การขับขี่บนสภาพถนนที่หลากหลายของไทยมีความสมดุลทั้งสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน
Q
เครื่องยนต์ของ Porsche ปี 2023 ทนทานไหม
เครื่องยนต์รุ่นปี 2023 ของปอร์เช่ยังคงยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดแบบเดิมๆ ของแบรนด์ ทั้งในด้านการออกแบบและการผลิต โดยใช้วัสดุและเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การออกแบบน้ำหนักเบาและระบบเทอร์โบชาร์จที่ปรับแต่งมาอย่างละเอียด เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเสริมความทนทานให้กับเครื่องยนต์อีกด้วย ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย แค่ดูแลรักษาตามคู่มือการบริการอย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็นตามกำหนดเวลา รวมถึงดูแลความสะอาดระบบระบายความร้อน เครื่องยนต์เหล่านี้ก็มักจะทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว นอกจากนี้ ศูนย์บริการปอร์เช่ในประเทศไทยยังให้การสนับสนุนอย่างมืออาชีพ การใช้น้ำมันเครื่องและอะไหล่ที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ สำหรับรถสปอร์ตสมรรถนะสูง การหลีกเลี่ยงการขับขี่แบบหนักติดต่อกันเป็นเวลานานและการวอร์มเครื่องที่เหมาะสมก็เป็นกุญแจสำคัญในการดูแลเครื่องยนต์ โดยรวมแล้วความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์ปอร์เช่ถือว่าดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับค่ายอื่นๆ แต่อายุการใช้งานจริงยังขึ้นอยู่กับนิสัยการขับขี่และการดูแลรักษาของเจ้าของรถด้วย แนะนำให้เจ้าของรถในประเทศไทยเลือกใช้บริการศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากปอร์เช่เพื่อให้เครื่องยนต์อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MG ZS มีราคาตั้งแต่ 599,000 บาท เป็นตัวเลือกประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายสูงของผู้บริโภคไม่ซื้อรถไฟฟ้า
Kevin WongMay 15, 2024

MG4 ใหม่กำลังจะเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ใช้แบตเตอรี่กึ่งแข็งชนิดใด
Kevin WongAug 18, 2025

SAIC เปิดสายการผลิต MG4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ! วิ่งไกลทะลุ 700 กม. ต่อชาร์จ
ธนวัฒน์Jul 14, 2025

MG เปิดตัว MPV ไฟฟ้าหรูรุ่นใหม่ “MAXUS 9 PLUS” ราคาเริ่ม 1.799 ล้านบาท!
ณัฐวุฒิJul 10, 2025

MG 5 2026 เปิดตัวในจีน ราคาเริ่ม 3.7 แสนบาท มีให้เลือกทั้งเครื่อง 1.5L และ 1.5T
สุรเดชJul 4, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย