Q
Honda Civic Hatchback ใช้น้ำมันอย่างไรต่อกิโลเมตรหลอดน้ำ?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากผู้ผลิตอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร ซึ่งสามารถคำนวณเป็นอัตราสิ้นเปลืองต่อกิโลเมตรได้ โดยนำ 5.8 ÷ 100 = 0.058 ลิตร หมายความว่ารถคันนี้จะใช้น้ำมันประมาณ 0.058 ลิตรต่อการวิ่ง 1 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจมีความผันแปรตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุกของรถ เช่น หากมีการเร่งเครื่องกะทันหัน เบรกบ่อย หรือจอดติดเครื่องยนต์นาน ๆ อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น แต่ถ้าขับขี่ในสภาพถนนที่ดี และมีพฤติกรรมการขับขี่ที่นุ่มนวล อัตราสิ้นเปลืองจริงก็อาจเข้าใกล้ตัวเลขจากผู้ผลิต
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
Honda Civic hatchback ใช้แก๊สธรรมดาได้หรือไม่?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเบนซิน ซึ่งตามทฤษฎีสามารถใช้น้ำมันเบนซินทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือข้อมูลที่ระบุบนฝาถังน้ำมันเพื่อทราบค่าความเหมาะสมของน้ำมันที่แนะนำสำหรับรถรุ่นนี้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละชนิดมีค่าออกเทนหรือความทนทานต่อการจุดระเบิดที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงหรือมีระบบเทอร์โบชาร์จมักต้องใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากใช้ค่าน้ำมันที่ไม่เหมาะสมติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เครื่องยนต์สั่น เร่งไม่ขึ้น หรือสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น โดยทั่วไปเครื่องยนต์เทอร์โบจะมีความไวต่อคุณภาพและค่าของน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ทั่วไป ดังนั้นเพื่อรักษาสมรรถนะและความทนทานของเครื่องยนต์ การเลือกใช้น้ำมันตามที่ผู้ผลิตแนะนำถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุด
Q
Honda Civic hatchback มีประสิทธิภาพการใช้น้ำมันอย่างไร?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo 2022 มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร โดยใช้เชื้อเพลิงเบนซิน ตัวเลขนี้ได้จากการทดสอบในสภาพแวดล้อมมาตรฐาน ซึ่งในการใช้งานจริงอัตราสิ้นเปลืองอาจมีความแตกต่างขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการขับขี่ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก และการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถ หากมีการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง หรือปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป อัตราสิ้นเปลืองก็จะสูงกว่าค่าที่ระบุไว้ ขณะที่การขับขี่อย่างนุ่มนวล รักษาความเร็วให้เหมาะสม และใช้ระบบต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เครื่องยนต์ที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ของรุ่นนี้ยังช่วยให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงให้กับผู้ใช้
Q
ฮอนด้าซิวิคแฮทช์แบ็กที่มีซันรูฟคือรุ่นไหน?
ในไลน์อัปของ Honda Civic Hatchback ที่จำหน่ายในประเทศไทย รุ่นที่มาพร้อมหลังคาซันรูฟคือ Civic Hatchback RS ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของซีรีส์นี้ รุ่น RS มาพร้อมหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายและแสงธรรมชาติเข้าสู่ห้องโดยสาร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทยที่ต้องการการระบายอากาศที่ดี นอกจากซันรูฟแล้ว Civic RS ยังมีชุดแต่งภายนอกแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เบาะหนัง ระบบกุญแจอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัย Honda Sensing เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่นย่อยอื่น เช่น รุ่น E และ EL จะไม่มีซันรูฟติดตั้งมา หากคุณให้ความสำคัญกับฟังก์ชันนี้ แนะนำให้เลือกตรงไปที่รุ่น RS โดยปกติแล้วดีลเลอร์ Honda ในไทยจะมีสีตัวถังให้เลือกหลากหลายสำหรับรุ่น RS โดยเฉพาะสีขาวมุก (Platinum White) และสีเงินเมทัลลิก (Lunar Silver) ซึ่งเป็นสองสีที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเข้ากันได้ดีกับดีไซน์ของหลังคาซันรูฟ
Q
Honda Civic hatchbacks ใช้งานได้นานแค่ไหน?
อายุการใช้งานของ Honda Civic Hatchback ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการใช้งาน สภาพการดูแลรักษา และคุณภาพของอะไหล่โดยรวม โดยทั่วไป หากมีการใช้งานและดูแลอย่างเหมาะสม รถรุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานกว่า 10 ปี หากเจ้าของรถปฏิบัติตามคู่มือการบำรุงรักษา เปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ และซ่อมแซมเมื่อเกิดปัญหา ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น เช่น การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองอากาศตามระยะ จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบและเปลี่ยนยางที่สึกหรอก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่ออายุการใช้งานของรถ นอกจากนี้ พฤติกรรมการขับขี่ก็มีผลเช่นกัน การขับขี่อย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน จะช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนของรถได้
Q
Honda Civic Hatchback มี CVT หรือไม่?
Honda Civic Hatchback มาพร้อมเกียร์ CVT (Continuously Variable Transmission) โดยรุ่น 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ใช้ระบบเกียร์ประเภทนี้ เกียร์ CVT สามารถเปลี่ยนอัตราทดได้อย่างต่อเนื่องขณะขับขี่ ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล ช่วยเพิ่มความเรียบลื่นในการขับขี่ และมีส่วนช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โดยสามารถควบคุมให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในช่วงรอบที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลระหว่างกำลังขับเคลื่อนและการใช้พลังงาน เมื่อจับคู่กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ระบบเกียร์ CVT สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีทั้งในเมืองและบนทางหลวง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว
Q
Honda Civic Hatchback มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือไม่?
ปัจจุบัน Honda Civic Hatchback ทุกรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FF: Front-Engine, Front-Wheel Drive) ทั้งหมด โดยไม่มีเวอร์ชันขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD หรือ AWD) ให้เลือก Honda มักนำระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไปใช้กับรถยนต์ประเภท SUV อย่าง CR-V หรือ HR-V มากกว่า ขณะที่ตระกูล Civic นั้นเน้นแพลตฟอร์มขับเคลื่อนล้อหน้าที่เน้นความสปอร์ต และระบบกันสะเทือนรวมถึงช่วงล่างก็ได้รับการปรับจูนอย่างพิถีพิถันเพื่อรองรับการควบคุมที่แม่นยำ
Q
คือประเภทต่าง ๆ ของฮอนด้าซีวิคแฮชแบ็คคืออะไร?
Honda Civic Hatchback มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย โดยแบ่งตามระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้ ในด้านขุมพลัง มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วน เช่น Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 6,500 รอบต่อนาที และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลโรงงานที่ 5.8 ลิตร/100 กิโลเมตร รวมถึงยังมีรุ่นไฮบริด ที่ให้ทั้งความประหยัดเชื้อเพลิงและการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ดี ในส่วนของระบบเกียร์ มีทั้งเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างลื่นไหล และยังมีเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ (6MT) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการควบคุมรถด้วยตนเอง ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำและดิบมากขึ้น ด้านอุปกรณ์ แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน เช่น บางรุ่นมาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย (Paddle Shift) หน้าจอกลางระบบสัมผัส ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ โดยรุ่นที่เน้นความสนุกในการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา หากเพิ่มงบเล็กน้อย อาจได้อุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงรุกที่ครบถ้วนยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นที่เน้นสไตล์ภายนอกหรือออปชันเบื้องต้น
Q
Honda Civic hatchback สามารถวิ่งได้กี่ไมล์เมื่อเติมถังเต็ม?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 มีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 47 ลิตร โดยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หากคำนวณตามตัวเลขนี้ รถจะสามารถวิ่งได้ประมาณ 810.34 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันเต็มถัง อย่างไรก็ตาม ระยะทางดังกล่าวเป็นค่าทางทฤษฎีเท่านั้น ในการใช้งานจริง ระยะทางที่วิ่งได้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพการจราจร สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ตัวอย่างเช่น หากมีการเร่งหรือเบรกอย่างรุนแรงบ่อยครั้ง หรือขับในสภาพการจราจรติดขัด อัตราสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้น ทำให้ระยะทางลดลง แต่หากขับขี่อย่างนุ่มนวล และอยู่บนถนนที่มีสภาพดี ระยะทางที่วิ่งได้จริงอาจใกล้เคียงกับค่าที่คำนวณไว้มากขึ้น
Q
ฉันสามารถทำให้ Honda Civic Hatchback ของฉันวิ่งเร็วขึ้นได้อย่างไร
หากต้องการให้ Honda Civic Hatchback วิ่งได้เร็วขึ้น สามารถเริ่มได้จากหลายด้าน ขั้นแรกคือการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ เช่น เปลี่ยนมาใช้ยางที่มีค่าความฝืดสูง จะช่วยลดการลื่นไถลของยาง ทำให้การเร่งความเร็วมีเสถียรมากขึ้น และเพิ่มแรงยึดเกาะถนนให้กับรถ อีกทั้งควรตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้หัวฉีด ท่อน้ำมัน ปั๊มน้ำมัน และกรองน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานได้ตามปกติ ช่วยให้เครื่องยนต์ได้รับเชื้อเพลิงเพียงพอและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ นอกจากนี้ ระบบไอดีก็มีความสำคัญ ควรหมั่นทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศ เพื่อให้เครื่องยนต์ดูดอากาศได้เพียงพอ และผสมกับเชื้อเพลิงได้อย่างเหมาะสมเพื่อการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ อีกจุดที่ควรให้ความสำคัญคือคุณภาพของการจุดระเบิด โดยการเปลี่ยนหัวเทียนและคอยล์จุดระเบิดที่เสื่อมหรือทำงานผิดปกติ จะช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ในด้านซอฟต์แวร์ การรีแมพกล่อง ECU จะช่วยเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์และปรับปรุงสมรรถนะในการเร่งความเร็วของรถได้
Q
ฮอนด้าซีวิคแฮตช์แบ็คมี VTEC หรือไม่?
Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์ VTEC ซึ่งย่อมาจากระบบควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วแบบแปรผันทั้งระยะเวลาและระยะยก (Variable Valve Timing and Lift Electronic Control) ระบบนี้ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถปรับการทำงานของแคมชาฟต์ตามรอบเครื่องได้อย่างเหมาะสม
ในรอบเครื่องต่ำถึงปานกลาง เครื่องยนต์จะใช้แคมมุมเล็ก เพื่อควบคุมการปล่อยมลพิษและประหยัดน้ำมัน ส่วนในรอบเครื่องสูง ระบบจะสลับไปใช้แคมมุมใหญ่เพื่อเพิ่มแรงม้าและสมรรถนะในการขับขี่
นอกจากรุ่น Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo 2022 แล้ว ที่งาน VTEC CAR SHOW ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย ยังมีรถยนต์ Honda รุ่นอื่น ๆ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ VTEC มาร่วมแสดงด้วย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นยอดนิยมอย่าง Civic หรือ Accord ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเครื่องยนต์ VTEC ในรถยนต์ Honda และยังได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟน ๆ ฮอนด้าในไทย
Q&A ล่าสุด
Q
ข้อเสียของ Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยนั้น จุดด้อยหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ภายในและสมรรถนะของเครื่องยนต์ แม้ว่า Jazz จะมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Magic Seat แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย พื้นที่ขาเบาะหลังอาจรู้สึกคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่สูงโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เมื่อใช้งานในเส้นทางภูเขาหรือเมื่อต้องบรรทุกเต็มที่ การเร่งความเร็วอาจรู้สึกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่เปิดแอร์เต็มกำลังจะเห็นการลดทอนของพละกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการเก็บเสียงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงลมและเสียงยางจะค่อนข้างเด่น ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่เน้นความเงียบสงบรู้สึกไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิจารณาในบริบทของการจัดวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นนี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสภาพการจราจรที่หนาแน่นในไทย Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในเมือง ผู้บริโภคในไทยสามารถชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียตามความต้องการส่วนตัว หากต้องการรถที่เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือสมรรถนะที่แรงขึ้น อาจพิจารณารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้
Q
Honda Jazz อยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
Honda Jazz ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment หรือที่เรียกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก (Subcompact Car) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นการใช้งานในเมืองและครอบครัวในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดเด่นที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด ประหยัดน้ำมัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว Honda Jazz มีฟังก์ชัน Magic Seat ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดเก็บสัมภาระ เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับสภาพถนนของไทย กลุ่ม B-Segment ในไทยยังมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Toyota Yaris และ Mazda2 ซึ่งเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ผู้บริโภคจึงมักเลือกตามความชอบในแบรนด์ ฟีเจอร์ และบริการหลังการขาย ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคงสูงเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเหมาะกับถนนที่ค่อนข้างแคบ Honda Jazz จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนี้ด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการเก็บมูลค่าที่ดี
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda Jazz คืออะไร
ในตลาดประเทศไทย Honda Jazz ถือเป็นรถมือสองที่มีอัตราการคงมูลค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความประหยัดน้ำมัน และภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ Honda ในประเทศไทย จากข้อมูลในอุตสาหกรรมพบว่า Jazz ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีมักมีอัตราการคงมูลอยู่ที่ประมาณ 60% - 70% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา สำหรับประเทศไทยซึ่งมีถนนในเมืองที่แออัดและราคาน้ำมันสูง รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ Honda มีฐานการผลิตในประเทศ ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่หาได้ง่ายและค่าบำรุงรักษาไม่สูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าของรถมือสองได้อีกทาง หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ Jazz รุ่นไฮบริดเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมักมีมูลค่าขายต่อสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบธรรมดา แนะนำให้เจ้าของรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารประวัติการบำรุงรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพราะสามารถช่วยเพิ่มราคาขายต่อได้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมักนิยมรถสีโทนกลางอย่างสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งขายต่อได้ง่ายกว่า หากต้องการทราบราคาประเมินที่แม่นยำมากขึ้น ควรอ้างอิงจากคู่มือราคารถมือสองของสมาคมรถยนต์ในประเทศไทย หรือปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในพื้นที่
Q
ฮอนด้า แจ๊ส มีกี่ซีซี
Honda Jazz ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบดูดอากาศธรรมดาขนาด 1.5 ลิตร มีปริมาตรกระบอกสูบ 1497 ซีซี โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพสูงและความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองที่มีการหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้งในประเทศไทย อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลยิ่งขึ้น Jazz ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในครอบครัวหรือเดินทางในเมือง จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวรถที่คล่องตัวแต่ภายในกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังควรพิจารณาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เพิ่มเติม เช่น ระบบ i-VTEC ของ Honda ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งนี้มาตรฐานมลพิษในไทย เช่น Euro 5 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ รวมถึงต้นทุนการใช้งานในระยะยาว ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์การขับขี่และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
Q
เครื่องยนต์ใน Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมดา มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่วางจำหน่ายในไทยยังได้รับการจูนให้ตอบสนองเร็วขึ้นแต่ยังคงประหยัดน้ำมันที่ประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะ และระบบปรับอากาศที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเขตร้อน ช่วยให้การขับขี่ในระยะทางไกลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างคือห้องเครื่องของ Jazz ออกแบบให้กะทัดรัดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความกว้างขวางภายในรถ ซึ่งสะท้อนแนวคิด MM หรือ “Man-Maximum, Machine-Minimum” ของ Honda ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าในอนาคตอาจมีการแนะนำรุ่น e:HEV ไฮบริดตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย แต่ในปัจจุบัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ยังคงเป็นทางเลือกหลักที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเมือง
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Honda ระบุว่า Civic Type R จะยุติการขายในยุโรป แต่เป็นการบอกใบ้ว่าในอนาคตอาจมีรุ่นไฟฟ้าล้วน
สุรเดชJul 17, 2025

Honda Type R Rocket ทดสอบการปล่อยจรวดสำเร็จ วางแผนบุกอุตสาหกรรมอวกาศในปี 2029
ณัฐวุฒิJun 24, 2025

Honda เปิดตัว Super EV ขนาดใกล้เคียงกับ Kei Car เจาะตลาดยุโรป
LienJun 20, 2025

Honda วางจำหน่าย Civic TYPE R รุ่น Ultimate เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซทำให้เลิกขายในยุโรป
พงศธรJun 11, 2025

ในเดือนนี้หากซื้อรถยนต์ Honda จะได้รับข้อเสนอปลอดดอกเบี้ย 0% และประกันภัยฟรี 1 ปี
พงศธรJun 6, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย