Q

ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันของ Honda CR-V 2023 เป็นอย่างไร?

รถฮอนด้า CR-V รุ่นปี 2023 นี่ประหยัดน้ำมันสุดๆ แบบเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบคู่กับเกียร์ CVT นี่ในเมืองจะกินน้ำมันประมาณ 7.8 ลิตรต่อ 100 กิโล ส่วนขับทางไกลจะลดลงเหลือ 6.5 ลิตรต่อ 100 กิโล ถ้าเฉลี่ยรวมๆก็อยู่ที่ 7.0 ลิตรต่อ 100 กิโล แต่ตัวเลขอาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยขึ้นอยู่กับการขับและสภาพถนนนะ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการปล่อยมลพิษ เหมาะมากทั้งขับในเมืองและเดินทางไกล โดยเฉพาะในไทยที่รถติดบ่อย แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีโหมด Eco จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกหน่อย ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ก็มีรุ่นไฮบริดที่น้ำมันเฉลี่ยต่ำถึง 4.7 ลิตรต่อ 100 กิโล ใช้ไปนานๆช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนเลย อย่าลืมว่าการดูแลรักษาและลมยางที่เหมาะสมก็สำคัญมากๆสำหรับการประหยัดน้ำมัน ส่วนอากาศร้อนๆแบบไทยๆ แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดบางจะช่วยให้เครื่องทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในระดับเดียวกัน CR-V นี่ถือว่าประหยัดน้ำมันเป็นอันดับต้นๆ ทั้งแรงและประหยัด เลือกเป็นรถครอบครัวได้สบายใจ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Honda CR-V ปี 2022 ใช้น้ำมันประเภทใด?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบความหนืด 0W-20 น้ำมันเครื่องความหนืดต่ำแบบนี้ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นและลดการสึกหรอขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนเย็น โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองร้อนที่ต้องสตาร์ทรถบ่อยๆ ถ้าต้องขับทางไกลหรือขับเร็วบนทางหลวงในพื้นที่อากาศร้อนเป็นประจำ อาจพิจารณาใช้น้ำมันเครื่องความหนืด 5W-30 เป็นทางเลือก แต่ต้องเน้นย้ำว่าต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน API SN/SP หรือ ILSAC GF-6 ที่ระบุในคู่มือผู้ใช้เป็นหลัก ต้องบอกเลยว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบแม้ราคาจะสูงกว่าแต่มีความเสถียรและทนทานต่อความร้อนได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องแร่แบบธรรมดามาก แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน แต่ถ้าต้องเจอสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นหน่อย เวลาเข้าศูนย์บริการสามารถเลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรด OEM ของ Honda หรือยี่ห้ออื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน เช่น เชลล์ เฮลิกซ์ อัลตร้า หรือโมบิล 1 ที่หาซื้อได้ง่ายตามศูนย์บริการทั่วไป และยังเหมาะกับรถเราด้วย ที่สำคัญต้องตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนที่น้ำมันเครื่องอาจระเหยเร็วกว่าปกติ แนะนำให้เช็คระดับน้ำมันเครื่องทุกเดือนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
Q
ระบบเกียร์ของ Honda CR-V 2022 คืออะไร?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีให้เลือกสองแบบเกียร์ รุ่นเบนซินใช้เกียร์ CVT ที่ทำงานเรียบเนียนและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมือง ส่วนรุ่นไฮบริดติดตั้งเกียร์ E-CVT ที่ทันสมัยกว่า ใช้ระบบทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์และเครื่องยนต์ ให้การตอบสนองกำลังขับที่ตรงไปตรงมา ทั้งสองแบบเกียร์ถูกปรับแต่งพิเศษให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย ระบบระบายความร้อนทำงานได้ดี แม้ขับนานก็ไม่ร้อนง่าย สิ่งที่ควรรู้คือเกียร์ CVT ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เฉพาะตามระยะ ราวๆ 40,000 กม. ส่วนเกียร์ E-CVT ของระบบไฮบริดดูแลรักษาน้อยกว่าเพราะโครงสร้างต่างกัน ปัจจุบันรถ SUV ขนาดกะทัดรัดส่วนใหญ่หันมาใช้เกียร์ CVT หรือ Double Clutch แล้ว การเลือกเกียร์ของ CR-V ถือว่าคุมทั้งความน่าเชื่อถือและความสบายในการขับ เมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นรุ่นเดียวกันในตลาดแล้ว เกียร์ของ CR-V ทำได้อยู่ในระดับมาตรฐานเลย
Q
รถ Honda CR-V ปี 2022 ใช้น้ำมันเกียร์เท่าไหร่?
สำหรับรถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 ความจุของน้ำมันเกียร์จะแตกต่างกันไปตามประเภทของเกียร์ ถ้าเป็นเกียร์ CVT ที่ติดมากับเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L จะใช้น้ำมันเกียร์ประมาณ 3.7 ลิตรเมื่อทำการเปลี่ยน ส่วนรุ่นไฮบริดที่ใช้เกียร์ E-CVT จะมีความจุที่ต่างออกไป แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Honda เพื่อความแน่ใจ โดยทั่วไปแล้วที่ศูนย์บริการ Honda จะใช้น้ำมันเกียร์ Honda ATF DW-1 ซึ่งเป็นน้ำมันเกียร์เฉพาะสำหรับเกียร์ CVT ช่วยปกป้องและยืดอายุการใช้งานของเกียร์ได้ดี ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร แต่ถ้าต้องเผชิญกับสภาพอากาศร้อนหรือขับในเมืองที่รถติดบ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนบวกขึ้นหน่อย ถ้าเริ่มรู้สึกว่าเกียร์กระตุกหรือมีเสียงผิดปกติเมื่อเปลี่ยนเกียร์ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้ว สามารถตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์ด้วยตัวเองเป็นประจำโดยดูจากสีและกลิ่น น้ำมันเกียร์ปกติควรมีสีแดงใส ถ้าเริ่มดำหรือมีกลิ่นไหม้ควรรีบไปเช็คกับช่างทันที ทั้งนี้การเติมน้ำมันเกียร์น้อยหรือมากเกินไปต่างก็ส่งผลต่อการทำงานของเกียร์ จึงควรให้ช่างมืออาชีพเป็นคนจัดการให้ พวกเขาจะตรวจสอบด้วยว่าต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเกียร์ไปพร้อมกันหรือไม่
Q
ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใน Honda CR-V ปี 2022 บ่อยแค่ไหน?
สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ปฏิบัติตามที่ Honda กำหนดไว้ คือเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) แต่ช่วงเวลาการเปลี่ยนอาจปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพการใช้งานจริง ถ้าต้องขับในสภาพอากาศร้อนตลอดปี หรือเจอรถติดบ่อย ๆ หรือขับระยะสั้นเป็นประจำ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุก 8,000 กิโลเมตร เพราะความร้อนและการขับความเร็วตํ่าทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การใช้น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์แท้จากฮอนด้าจะช่วยให้ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้ดีกว่า และควรตรวจสอบระดับและสภาพน้ำมันเครื่องผ่านก้านวัดเป็นประจำด้วย สำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบนั้นต้องการน้ำมันเครื่องที่สะอาดมากเป็นพิเศษ การเปลี่ยนน้ำมันตามเวลาที่กำหนดจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว ต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งด้วย และตรวจสอบสภาพไส้กรองอากาศเพราะสภาพอากาศร้อนและฝุ่นมากอาจทำให้ไส้กรองอุดตันเร็ว ถ้ารถติดตั้งระบบตรวจสอบอายุการใช้งานน้ำมันเครื่องสามารถอ้างอิงคำแนะนำของระบบได้ แต่ยังแนะนำให้เปลี่ยนไม่เกิน 1 ปี นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบสถานะของน้ำหล่อเย็นและน้ำมันเบรกระหว่างการบำรุงรักษาประจำวันซึ่งลดทอนได้ง่ายขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูง
Q
เมื่อไหร่ถึงควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใน Honda CR-V ปี 2022?
สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ของ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้อ้างอิงตามคู่มือการดูแลรักษาของทางศูนย์อย่างเป็นทางการ โดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร หรือทุก 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่และเส้นทางจริง เช่น หากขับบ่อยในเมืองกรุงเทพฯ ที่รถติดหนัก หรือขับระยะสั้นบ่อยครั้ง อาจต้องเปลี่ยนเร็วขึ้นที่ 40,000 กิโลเมตร เกียร์ CVT ของ Honda มีความต้องการความสะอาดของน้ำมันเกียร์สูง แนะนำให้ใช้น้ำมันเกียร์รุ่น HCF-2 ที่ทางศูนย์กำหนดเพื่อประสิทธิภาพและการป้องกันที่ดีที่สุด หากสังเกตว่ามีอาการเกียร์กระตุก เปลี่ยนเกียร์ช้า หรือมีเสียงผิดปกติ ควรตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์ทันที น้ำมันเกียร์ที่เสื่อมสภาพจะทำให้การหล่อลื่นไม่เพียงพอและระบายความร้อนได้ไม่ดี หากไม่เปลี่ยนเป็นเวลานานอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหายได้ บางอู่ซ่อมอาจตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์จากสีและกลิ่นเพื่อตัดสินใจเปลี่ยน แต่แนะนำให้ใช้ระยะทางและเวลาตามที่กำหนดเป็นหลัก การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนดจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความนุ่มนวลขณะขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนที่อาจทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ขณะทำการบำรุงรักษาสามารถตรวจสอบถาดรองน้ำมันเกียร์และซีลว่ามีรอยรั่วหรือไม่ ซึ่งเป็นจุดที่มักพบปัญหาบ่อยๆ
Q
น้ำมันเครื่องชนิดไหนที่ Honda CR-V ปี 2022 ใช้?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบความหนืด 0W-20 น้ำมันเครื่องความหนืดต่ำประเภทนี้ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นและลดการสึกหรอขณะสตาร์ทเครื่องยนต์เย็น โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและสภาพการขับขี่ที่ต้องสตาร์ทรถบ่อยๆ ตามมาตรฐานโรงงานควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน แต่ถ้าขับในเมืองที่รถติดบ่อยหรือขับระยะสั้นเป็นประจำ อาจพิจารณาเปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุก 8,000 กิโลเมตรเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ดีที่สุด ข้อควรระวังคือหากรถคุณใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ ต้องเลือกน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6 เพราะมาตรฐานเหล่านี้รับมือกับสภาพทำงานความดันสูงและอุณหภูมิสูงของเครื่องเทอร์โบขนาดเล็กได้ดีกว่า โดยทั่วไปศูนย์บริการจะใช้น้ำมันเครื่อง Ultra ของ Honda หรือสินค้าคุณภาพเทียบเท่า แต่ถ้าซื้อเองแนะนำให้เลือกแบรนด์ดังอย่างเชลล์ เฮลิกซ์ อัลตรา หรือโมบิล 1 ส่วนไส้กรองน้ำมันเครื่องควรเลือกของแท้จากโรงงานหรือแบรนด์คุณภาพเช่น MANN หรือ MAHLE เพราะไส้กรองคุณภาพต่ำอาจทำให้การกรองไม่ดีพอ สำหรับคนที่ขับในพื้นที่ภูเขาบ่อยๆ แม้ว่า 0W-20 จะยังเป็นตัวเลือกหลัก แต่เวลาขึ้นเขาต่อเนื่องนานๆ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นระยะ
Q
ขนาดของปลั๊กถ่ายน้ำมันของรถ Honda CR-V ปี 2022 คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 นะครับ ขนาดสลักเกลียวระบายน้ำมันเครื่องจะอยู่ที่ 14 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของรุ่นนี้ แต่ก่อนจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แนะนำให้ใช้ประแจวัดแรงดึงเช็คขนาดอีกที เพราะบางทีรุ่นปีอื่นหรือตัวเลือกอุปกรณ์อาจจะต่างกันบ้าง เวลาเอาไปซ่อมตามร้านอะไหล่ทั่วไป หาซื้อแหวนรองสลักเกลียวที่ได้มาตรฐาน JIS หรือ DIN ได้ง่ายมาก ราคาก็ไม่แพง แถมเวลาจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นประจำ ถ้าอยู่ในสภาพอากาศร้อนแบบไทย แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือนถ้าใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตร จะช่วยดูแลเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น ถ้าจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเองที่บ้าน อย่าลืมเตรียมประแจปลายตันขนาด 14 มม. ด้วย แล้วขันสลักเกลียวให้ได้แรงดึง 89 นิวตันเมตรตามที่คู่มือระบุไว้ การขันแน่นเกินไปอาจทำให้เกลียวถังน้ำมันเครื่องเสียหายได้ บางคนอาจจะอัพเกรดไปใช้สลักเกลียวแบบแม่เหล็กที่ช่วยดักเศษโลหะในเครื่องยนต์ แต่จริงๆ แล้วสลักเกลียวมาตรฐานของทางโรงงานก็ใช้งานได้ดีอยู่แล้ว ถ้าเจอกรณีเกลียวหลวมหรือเสียหาย ควรเปลี่ยนชุดซ่อมเกลียวถังน้ำมันเครื่องทันที จะได้ป้องกันปัญหาน้ำมันเครื่องรั่ว
Q
Honda CR-V ปี 2022 ใช้น้ำมันชนิดใด?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบเกรด 0W-20 น้ำมันเครื่องความหนืดต่ำแบบนี้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทย ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นแม้อากาศร้อนจัดและยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย แต่ถ้าเป็นรถที่ใช้งานหนักหรือมักติดอยู่ในรถติดบ่อยๆ อาจพิจารณาใช้เกรด 5W-30 แทน แต่ต้องตรวจสอบกับคู่มือการดูแลรักษารถให้แน่ใจก่อน ข้อสำคัญเลย เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5L ของ Honda ต้องการน้ำมันเครื่องที่ช่วยทำความสะอาดได้ดี แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ILSAC GF-6A จะช่วยป้องกันปัญหา Low Speed Pre-Ignition และลดการเกิดคาร์บอนเกาะได้ เวลาซื้อน้ำมันเครื่องในไทยนี่ แนะนำให้มองหาแบรนด์ดังๆ อย่างเชลล์ เฮลิกซ์ อัลตร้า หรือน้ำมันเครื่อง ZEPRO ของอิเดมิตซึ ที่หาซื้อได้ตามร้านอะไหล่ทั่วไปหรือศูนย์บริการของฮอนด้า อย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ตรงเวลานะ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ดูอย่างไหนถึงก่อนได้ก่อน แต่ถ้าขับทางไกลบ่อยหรือชอบขับขึ้นเขาลงเขา ก็ควรเปลี่ยนถี่กว่านี้หน่อย เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็อย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วย แนะนำให้ใช้ของแท้จากฮอนด้าหรือแบรนด์ดังๆ อย่างบ๊อชหรือแมนน์ ฟิลเตอร์เกรดดีๆ จะช่วยกรองสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q
กรองอากาศภายในห้องโดยสารของ Honda CRV ปี 2022 อยู่ตรงไหน?
องค์ประกอบตัวกรองเครื่องปรับอากาศของ Honda CRV รุ่น 2022 อยู่ด้านหลังของกล่องถุงมือผู้โดยสารเมื่อเปลี่ยนคุณต้องล้างกล่องถุงมือออกก่อน ใช้มือกดสแนป จำกัด ทั้งสองด้านของกล่องถุงมือเพื่อให้หลุดออก หลังจากวางกล่องถุงมืออย่างช้า ๆ คุณจะเห็นฝาครอบไส้กรองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กดสแน็ปด้านขวาของฝาปิดเพื่อถอดฝาครอบออกเบา ๆ คุณสามารถดึงไส้กรองเก่าออกได้ เมื่อติดตั้งไส้กรองใหม่ควรระวังลูกศรทิศทางการไหลของอากาศควรคว่ำลง ขอแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองทุก 15,000 กิโลเมตรหรือปีละครั้ง กรุงเทพฯในช่วงฤดูฝนเปียกหรือหมอกควันทางตอนเหนือรุนแรงสามารถสั้นลงเหลือ 10,000 กิโลเมตร การเลือกไส้กรองคอมโพสิตคาร์บอนกัมมันต์สามารถกรอง PM2.5 และเกสรดอกไม้ได้ดีขึ้นระวังอย่าโลภซื้อตลับกรองจำนวนมากที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ในช่วงฤดูฝนเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นและเชื้อรา โดยปกติแล้วการบำรุงรักษาสามารถทำความสะอาดเครื่องระเหยของเครื่องปรับอากาศได้ตลอดเวลา สามารถป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบว่าปริมาณอากาศของเครื่องปรับอากาศมีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดหรือมีกลิ่นอับในช่องระบายอากาศอาจเป็นได้ว่าไส้กรองได้รับการอุดตันอย่างรุนแรงและต้องเปลี่ยนทันที
Q
ไส้กรองน้ำมันสำหรับ Honda CR-V ปี 2022 คืออะไร?
สำหรับการเลือกไส้กรองน้ำมันเครื่อง Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ใช้ไส้กรองตัวเดิมจากโรงงานหมายเลขพาร์ท 15400-PLM-A02 ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T โดยเฉพาะ ช่วยให้การกรองมีประสิทธิภาพและทนทาน แต่ถ้าจะเลือกแบรนด์อื่น แมนน์ (MANN) รุ่น W6019 หรือบ๊อช (BOSCH) รุ่น 3323 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะผ่านการทดสอบจากตลาดแล้ว หาซื้อได้ง่ายทั้งตามร้านอะไหล่และเว็บขายของ ส่วนในสภาพอากาศร้อนแบบไทย แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาจากความร้อนและความชื้น เวลาเลือกไส้กรองนอกจากต้องให้รุ่นตรงแล้ว ควรดูเครื่องหมายรับรอง API ด้วยว่าเป็นระดับ SN หรือ SP เพื่อให้เหมาะกับน้ำมันเครื่อง ส่วนรถที่ยังอยู่ในระยะประกัน การใช้ไส้กรองตัวเดิมจะช่วยรักษาสิทธิ์ประกันไว้ได้ แต่ถ้าหมดประกันแล้ว การใช้ไส้กรองคุณภาพดีจากแบรนด์อื่นก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เหมือนกัน
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Turbo 1.6 ลิตรใหม่ที่พร้อมกับระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ 9 ความเร็ว นี่คือความก้าวหน้าที่มากความประหยัดน้ำมันและความแรง
7 ที่นั่ง พื้นที่ขยายเพิ่ม สามารถโหลดผู้โดยสารและสินค้า แถวหลังมีระบบปรับอากาศแยกจากกัน
ระบบความปลอดภัยครบครัน ถุงลมนิรภัย 6 อัน หลากหลายระบบช่วยสนับสนุนการขับขี่
การป้องกันเสียงของรถยนต์ยอดเยี่ยม ควบคุมเสียงเครื่องยนต์ที่ดี ผลิตภัณฑ์ในรถยนต์เงียบมาก

ข้อเสีย

ฮอนด้าคาดว่าจะต้องอัปเดตรถคันนี้หลังจากที่มันวางขายในตลาดสักพักเพื่อรักษาความสดใหม่
ในตลาด, มาสด้า CX-5 และนิสสัน X-Trail เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหรือมีความคุ้มค่าแค่ไหน, ผู้บริโภคควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนซื้อ

Q&A ล่าสุด

Q
2023 CR-V ใหญ่กว่าขนาดเท่าไหร่?
CR-V รุ่นปี 2023 มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมีความยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 82 มม. และฐานล้อขยายขึ้นประมาณ 40 มม. ส่งผลให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะด้านหลัง ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับครอบครัว ในตลาดท้องถิ่น การเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ตอบโจทย์ความต้องการพื้นที่ใช้สอยของรถ SUV ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยและมีผู้โดยสารหลายคน หรือบรรทุกสัมภาระจำนวนมาก นอกจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว CR-V รุ่นปี 2023 ยังได้รับการอัพเกรดวัสดุภายในและคุณสมบัติทางเทคโนโลยี เช่น หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ขึ้นที่รองรับฟังก์ชั่นเฉพาะจุดได้มากขึ้น และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น ยังคงมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบเบนซินและไฮบริด ระบบไฮบริดช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมากในสภาพการจราจรติดขัดในเมือง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ใช้งานได้จริงมากสำหรับผู้ขับขี่ในเมืองที่มักเจอปัญหารถติด ที่สำคัญคือ แม้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่การออกแบบที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวในการควบคุมรถอย่างมีนัยสำคัญ รัศมีวงเลี้ยวอยู่ในช่วงที่เหมาะสม ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในถนนแคบๆ หรือลานจอดรถ
Q
ในปี 2023 มีจำนวน Honda CR-V ขายไปทั้งหมดกี่คัน?
รถฮอนด้า CR-V ปี 2023 ทำผลงานได้ดีในตลาดโลก แม้ว่าตัวเลขยอดขายที่แน่นอนต้องอ้างอิงจากรายงานประจำปีของฮอนด้าเท่านั้น แต่รุ่นนี้ก็ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวด้วยความน่าเชื่อถือและประโยชน์ใช้สอยครบครัน CR-V ในฐานะรถ SUV เมืองที่ถือเป็นมาตรฐาน มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 2 แบบ คือ 1.5T เทอร์โบชาร์จและ 2.0L ไฮบริด ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและการขับขี่ลื่นไหล โดยเฉพาะในสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล สำหรับตลาดในไทย CR-V โดดเด่นด้วยพื้นที่เบาะหลังกว้างขวางและการออกแบบช่องเก็บของที่ใช้งานได้หลากหลาย ทำให้เป็นตัวเลือกยอดฮิตสำหรับครอบครัวใหญ่ นอกจากนี้ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย ที่น่าสนใจคือรุ่นปี 2023 ได้รับการปรับปรุงเรื่องการกันเสียงและอัพเกรดขนาดหน้าจอกลางถังรถ ทำให้การขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึงเรื่องมูลค่าขายต่อ CR-V มักจะอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ผู้บริโภคหลายคนเลือกมัน
Q
“Swift 2021 ได้รับรีวิวดีๆ ไหม?”
สวิฟท์รุ่นปี 2021 ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีทั้งจากผู้ใช้และนักวิจารณ์มืออาชีพ รถคันเล็กคันนี้โดดเด่นในเรื่องความประหยัด ความคล่องตัว และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรแบบธรรมชาติคู่กับเกียร์ CVT เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นพิเศษ โดยกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 18-20 กม./ลิตร ค่าบำรุงรักษาก็ไม่สูงจนเกินไป เหมาะกับการใช้งานประจำวัน ขนาดตัวรถกะทัดรัด จอดในซอยแคบๆ ได้สะดวก ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้วัสดุพลาสติกแข็งเป็นหลัก ด้านเทคโนโลยีมีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วและระบบความปลอดภัยพื้นฐาน แต่มีจุดอ่อนเรื่องเสียงรบกวนเมื่อขับความเร็วสูง และอาจจะคับเกินไปสำหรับครอบครัวใหญ่ คู่แข่งหลักในตลาดได้แก่ ฮอนด้า บริโอ และโตโยต้า ยาริส แอทีวี ซึ่งแต่ละรุ่นมีจุดเด่นแตกต่างกัน แนะนำให้ผู้สนใจลองขับเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ ส่วนในตลาดรถมือสอง สวิฟท์ยังครองอัตราการครองรถอยู่ในระดับปานกลาง แต่ควรตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และเกียร์ให้ดีก่อนซื้อ จริงอยู่ที่รถขนาดเล็กแบบนี้ใช้งานสะดวกในพื้นที่ติดขัด แต่ถ้าต้องเดินทางไกลบ่อยๆ อาจต้องมองหารถขนาดใหญ่ขึ้นจะเหมาะสมกว่า
Q
“Swift เป็นรถที่ดีสำหรับการซื้อหรือไม่?”
ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นรถขนาดเล็กที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองมาก ตัวรถกะทัดรัดและคล่องตัว ทำให้ขับผ่านถนนที่ติดขัดได้สะดวก เครื่องยนต์ 1.2L และ 1.0T ประหยัดน้ำมันได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการลดต้นทุน ส่วนภายในออกแบบเรียบง่ายและใช้งานได้ดี แม้ว่าจะใช้วัสดุพลาสติกแข็งเป็นหลักแต่ก็ทำออกมาได้แน่นหนา ในด้านความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัยคู่และระบบ ABS เป็นมาตรฐาน ส่วนรุ่นท็อปยังมีฟังก์ชันความปลอดภัยเพิ่มเติม ในตลาดรถมือสองยังรักษามูลค่าได้อยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง และมีอะไหล่ให้เลือกมากมาย รถคันนี้เหมาะกับวัยทำงานหรือครอบครัวขนาดเล็กเป็นพิเศษ คู่แข่งในระดับเดียวกันก็อย่างเช่น ฮอนด้า บริโอ และ โตโยต้า ยาริส แนะนำว่าก่อนซื้อควรลองขับเปรียบเทียบและเลือกรุ่นที่เหมาะกับความต้องการ ส่วนโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายก็มีบ่อยๆ ควรติดตามข้อมูลราคาให้ดีก่อนตัดสินใจ
Q
ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นปี 2021 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
สวิฟต์รุ่นปี 2021 เป็นรถที่ความน่าเชื่อถือถือว่าใช้ได้เลยครับ เครื่องยนต์มาสองแบบคือ 1.2 ลิตร แบบธรรมดากับ 1.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังเรียบๆ แต่ประหยัดน้ำมันมากๆ เหมาะกับการขับขี่ในเมือง ค่าบำรุงรักษาก็ไม่หนักกระเป๋า อะไหล่ก็หาง่าย ซ่อมก็สะดวก ตัวรถขนาดกะทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัว ช่วยให้ขับในที่ติดขัดหรือซอยแคบๆ ได้สบายๆ แถมยังมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบครัน เช่น ABS, EBD และถุงลมนิรภัยคู่前线 ด้านในห้องโดยสารออกแบบเรียบๆ วัสดุอาจจะดูพื้นฐานหน่อยแต่ทำออกมาแน่นหนา จัดวางพื้นที่ใช้งานได้ดี ที่นั่งหลังพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ อย่างไรก็ตาม เวลาขับความเร็วสูงอาจจะเสียงรบกวนเข้ามาในห้องบ้าง แต่ถ้าดูจากราคาและระดับรถแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ ถ้าคิดถึงเรื่องความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก สวิฟต์ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แนะนำให้ลองขับดูก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากับสไตล์การขับขี่ของคุณครับ
ดูเพิ่มเติม