Q
เกียร์ MG ZS ใช้น้ำมันเบอร์อะไร
สำหรับการเลือกน้ำมันเกียร์รถ MG ZS แนะนำให้ใช้น้ำมันเกียร์ที่มีความหนืด 75W-90 ตามมาตรฐาน API GL-4 หรือ GL-5 ที่ตรงกับสเปคของทางผู้ผลิต โดยสามารถตรวจสอบรุ่นที่แน่นอนได้จากคู่มือเจ้าของรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ MG ในประเทศไทยเพื่อความมั่นใจในความเข้ากันได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย การตรวจสอบสภาพน้ำมันเกียร์เป็นประจำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความร้อนอาจทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตรหรือตามที่คู่มือกำหนด ควรระวังด้วยว่ารุ่นรถแต่ละปีอาจมีความแตกต่างทางเทคนิค โดยเฉพาะรุ่นหลังปี 2017 ที่มีการออกแบบเกียร์ที่ละเอียดอ่อนกว่าและอาจต้องการน้ำมันเกียร์คุณภาพสูงขึ้น สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย ควรตรวจสอบความแน่นหนาของระบบเกียร์หลังขับผ่านน้ำท่วมในฤดูฝน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปเจือปนและลดประสิทธิภาพการหล่อลื่น หากพบว่ามีอาการเปลี่ยนเกียร์ยากหรือมีเสียงผิดปกติขณะขับขี่ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด แทนที่จะเพียงแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ การดูแลรักษาที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในเมื่อราคาน้ำมันในประเทศไทยค่อนข้างสูง เมื่อเลือกซื้อน้ำมันเกียร์ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน ISO หรือ JASO เพราะโดยทั่วไปจะมีประสิทธิภาพในการทนความร้อนสูงและป้องกันการสึกหรอได้ดีกว่า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ MG ZS มีอะไรบ้าง?
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ควรรู้ไว้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางผู้ใช้รายงานว่าประสิทธิภาพระบบแอร์อาจไม่แรงพอเมื่อใช้งานหนัก โดยเฉพาะเวลาติดอยู่ในรถนานๆ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเย็นสบาย ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดธรรมดา แม้จะประหยัดน้ำมันแต่เมื่อต้องลากเต็มคันหรือขับขึ้นเขาในพื้นที่ต่างจังหวัดอาจรู้สึกได้ว่ากำลังไม่ค่อยพอ เวลาแซงจึงต้องเผื่อระยะมากขึ้น สำหรับวัสดุภายในรถ แม้จะทนทานแต่ใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างเย็น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบความรู้สึกพรีเมียมเท่าไร ต้องบอกว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและบริการหลังการขายค่อนข้างมาก แนะนำว่าควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายจริงๆ โดยเฉพาะระบบแอร์และการออกตัวบนทางชัน เพื่อความชัวร์ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่อาจมีจุดเด่นด้านการตั้งเครื่องยนต์หรือประสิทธิภาพแอร์ที่ต่างออกไป แล้วเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้ดีที่สุด
Q
MG ZS อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน
MG ZS เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ C-Segment ซึ่งโดยทั่วไปก็จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กได้เช่นกัน การแบ่งระดับของรถยนต์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะฐานล้อ ขนาดตัวถัง ระบบแต่งเติม รวมถึงกำลังเครื่อง เป็นต้น สำหรับ MG ZS แล้วมีระยะฐานล้อ 2585 มม. ความยาว 4323 มม. ความกว้าง 1809 มม. และความสูงอยู่ระหว่าง 1628-1653 มม. จากขนาดตัวถังเหล่านี้ก็ถือว่าเข้าข่าย SUV ขนาดเล็กพอดี โดยทั่วไปแล้ว SUV ขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะจอดง่าย ขับเคลื่อนคล่องตัว ด้วยตำแหน่งระดับนี้ MG ZS จึงตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้ดี มีพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือการใช้งานส่วนตัว ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สนใจรถประเภทนี้ในตลาด
Q
MG ZS ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่? หรือ MG ZS ราคาตกไหม?
MG ZS ในตลาดรถมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี โดยมูลค่าขายต่อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษารถ โดยทั่วไปแล้ว รถที่มีอายุประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 50%-60% ของราคารถใหม่ ซึ่งถือว่าสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรื่องการขายต่ออย่าง Toyota
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายต่อของ MG ZS ได้แก่ การที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ MG มากขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่รุ่น ZS EV แบบไฟฟ้าล้วนมีอัตราการลดราคาที่เร็วกว่ารุ่นเบนซิน เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดรถมือสองในไทยยังให้ความสำคัญกับประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ (4S) และการใช้ชิ้นส่วนแท้จากโรงงาน ดังนั้นผู้ใช้ควรเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน รุ่นไฮบริดและไฟฟ้ามีโอกาสขายต่อได้ราคาดีกว่ารุ่นน้ำมันในบางกรณี จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ แต่ควรตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เนื่องจากกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการประเมินราคารถมือสองในไทย ปัจจุบันเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของ MG ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลรักษารถและส่งผลดีต่อมูลค่าขายต่อโดยรวมอีกด้วย
Q
รถ MG ZS มีกี่ CC?
MG ZS ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นย่อยจะมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นหลักที่วางจำหน่ายคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ความจุจริงอยู่ที่ 1,498 ซีซี มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันในระดับดี
ในบางรุ่นอาจมีการนำเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ (ความจุจริง 1,349 ซีซี) เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง
MG ZS ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทย ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถหมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ รถที่มีเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร ยังอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับรถที่มีความจุมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ MG ZS มีราคาคุ้มค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง การรู้ขนาดเครื่องยนต์จะช่วยในการประเมินสมรรถนะและต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จริงด้วยตัวเอง
Q
MG ZS ใช้เครื่องยนต์อะไร?
MG ZS มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1.5L แนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน รูปแบบการจ่ายอากาศเป็นแบบแนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน มีความจุกระบอกสูบ 1498mL ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า กำลังสูงสุด 84kW ที่ 6000rpm แรงบิดสูงสุด 150N·m ที่ 4500rpm เครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะให้กำลังพอดี ไม่ว่าจะเจอสภาพการจราจรติดขัดก็ขับได้อย่างสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เรียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังประหยัดน้ำมันดี อัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอยู่ที่ 6.4L/100km ช่วยให้เจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
Q
MG ZS มีเกียร์อะไรบ้าง? หรือ MG ZS ใช้เกียร์แบบไหน?
MG ZS มาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ทำงานแบบไร้ขั้น ซึ่งเทคโนโลยีเกียร์แบบนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว มีความน่าเชื่อถือสูง ระบบเปลี่ยนเกียร์ทำงานลื่นไหลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เวลาขับจริงๆก็รู้สึกว่าเกียร์ตอบสนองดี แม้จะเกิดอาการลื่นไปก็ยังควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการปัดท้ายน่ากลัวอย่างที่คิด
ถึงแม้แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ทุกรุ่นล้วนใช้เกียร์ตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านกำลังและความลื่นไหลในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เกียร์ CVT ยังทำงานประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ระบบเปลี่ยนเกียร์เข้าใจง่าย มีแรงตอบสนองที่ดี ทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายมือเวลาขับ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นประจำ
Q
ล้อ MG ZS ใช้ PCD เท่าไหร่?
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของล้อ MG ZS คือ 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ผู้ใช้ MG ZS สามารถเลือกเปลี่ยนหรืออัปเกรดล้อแม็กได้ง่ายขึ้น ด้วยล้อที่มีขนาดตรงกันในท้องตลาด
PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อ หากเลือกขนาดไม่ตรง อาจส่งผลให้เกิดการสั่นหรือการสึกหรอของช่วงล่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกบ่อยแบบประเทศไทย ที่ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของล้อและยางเป็นพิเศษ
แนะนำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนล้อแม็ก เลือกล้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อเป็นประจำ หากไม่แน่ใจในสเปกล้อของรถ ควรอ้างอิงจากคู่มือรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการ MG ที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่
Q
MG ZS รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
MG ZS ในตลาดไทยมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เชื่อมต่อกับระบบในรถได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้โดยตรง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปยาวๆ อีกทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ฟีเจอร์นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น นอกจาก Apple CarPlay แล้ว MG ZS ยังรองรับ Android Auto ด้วย จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างกัน โดยทั่วไปรุ่นที่ขายในไทยจะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มีการออกแบบอินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีหรือรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Apple CarPlay กำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ และอาจมีอัปเดตเพิ่มเติมผ่านระบบ OTA ในอนาคต
Q
MG ZS ใช้ยี่ห้อยางอะไร
ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ MG ZS ในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการแต่งเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Continental, Bridgestone หรือ Goodyear ที่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย สำหรับการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากจะเลือกใช้แบรนด์เดิมแล้ว คนไทยยังนิยมใช้ยางคุณภาพดีอย่าง Michelin หรือ Dunlop ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องส่วนผสมยางและร่องดอกยางที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนของไทยที่ต้องมั่นใจว่าดอกยางยังเหลือความลึกเพียงพอ ตามกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการทางการของ MG หรือร้านยางมาตรฐาน พวกเขาจะช่วยแนะนำยางที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นยางที่เน้นความเงียบสบายหรือยางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
Q
รถ MG ZS เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบภายนอกที่ทันสมัย ฟีเจอร์ครบครัน และราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวไทยเป็นอย่างดี ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงกระโปรงหลังที่จุของได้เพียงพอต่อความต้องการประจำวัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว และกล้องถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ข้อเสียคือแรงเครื่องค่อนข้างเรียบเนิบ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ส่วนระบบกันเสียงอาจไม่ได้ดีนักเมื่อขับความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ MG ZS ยังให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมแล้วหากคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่า MG ZS ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงเพื่อระบบแอร์และอุปกรณ์บังแดดที่ทำงานได้ดีขึ้น
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ประหยัดน้ำมันไหม?
Mercedes-Benz C-Class ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดี โดยเฉพาะรุ่น C 200 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 6-7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาพแวดล้อมที่ราคาน้ำมันในประเทศค่อนข้างสูง หากเลือกรุ่นปลั๊กอินไฮบริดอย่าง C 300 e จะสามารถวิ่งได้ระยะทาง 50-60 กิโลเมตรโดยใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ทำให้การเดินทางระยะสั้นไม่ต้องใช้น้ำมันเลย ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้มากขึ้น นอกจากนี้เทคโนโลยี EQ Boost ยังช่วยเสริมการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงเร่งและออกตัว ทำให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจริงจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษารถ การบริการอย่างสม่ำเสมอและการขับขี่อย่างนุ่มนวลจะช่วยรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน C-Class ประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ยังสู้รถหรูญี่ปุ่นที่เน้นประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษไม่ได้ หากต้องขับบ่อยในกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่น แนะนำให้เปิดโหมดขับขี่ประหยัด ระบบจะปรับการตอบสนองของคันเร่งและเกียร์เพื่อลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้เหมาะกับสภาพการจราจร
Q
ถังน้ำมันเชื้อเพลิงของรถ C-Class รุ่นปี 2024 มีขนาดเท่าไร?
รถรุ่น C-Class ปี 2024 มีความจุถังน้ำมัน 66 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ระยะไกล ถังน้ำมันขนาดนี้เมื่อเติมเต็มจะให้ระยะทางประมาณ 700-800 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดบ่อยๆในกรุงเทพฯ ถังน้ำมันขนาดใหญ่จะช่วยลดความยุ่งยากในการเติมน้ำมันบ่อยๆ ส่วนเวลาขับบนทางหลวงก็มั่นใจได้ว่าจะไปได้ไกลกว่า นอกจากนี้ C-Class ยังมาพร้อมระบบจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดน้ำมันและลดค่าใช้จ่ายลงได้อีก ถ้าอยากได้ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่านั้น ก็อาจจะเลือกรุ่น Hybrid ที่ประหยัดน้ำมันกว่าในส่วนนี้ สำหรับการใช้รถในชีวิตประจำวัน แนะนำให้ตรวจสอบถังน้ำมันและระบบเชื้อเพลิงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดในขณะที่วางแผนเวลาในการเติมน้ำมันอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงปริมาณน้ำมันที่ต่ำเกินไปที่จะส่งผลกระทบต่อการขับขี่
Q
Mercedes C Class 2024 ใช้น้ำมันกี่ไมล์ต่อแกลลอน?
สำหรับรุ่น Mercedes-Benz C-Class ปี 2024 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและประเภทเครื่องยนต์ จากข้อมูลทางการ รุ่น C 200 ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ พร้อมระบบไฮบริด 48V จะให้ระยะทางประมาณ 10-12 กม./ลิตรในเมือง (หรือประมาณ 28-32 ไมล์/แกลลอน) และบนทางหลวงจะทำได้ถึง 14-16 กม./ลิตร (ประมาณ 38-42 ไมล์/แกลลอน) ส่วนรุ่น C 300 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จกับระบบไฮบริดจะสิ้นเปลืองมากกว่านิดหน่อยคือประมาณ 1-2 กม./ลิตร ทั้งนี้ตัวเลขจริงอาจแตกต่างไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับขี่ สภาพถนน และการใช้แอร์ ถ้าในเมืองแบบกรุงเทพฯที่รถติดบ่อย การสตาร์ท-หยุดบ่อยๆจะทำให้กินน้ำมันมากขึ้น แนะนำให้ใช้โหมด Eco และใช้ระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติอย่างเหมาะสมเพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดอย่าง C 300 e ถ้าใช้โหมดไฟฟ้าล้วนจะวิ่งได้ประมาณ 100 กม. เหมาะกับการขับระยะสั้นๆ ช่วยลดการใช้น้ำมันได้มาก แถมการดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เช่น เปลี่ยนฟิลเตอร์อากาศและใช้น้ำมันเครื่องเกรดที่เหมาะสมก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นด้วย
Q
ความเร็วสูงสุดของ C-Class ปี 2024 คือเท่าไร?
รุ่นปี 2024 ของ Mercedes-Benz C-Class มีความเร็วสูงสุดที่แตกต่างกันไปตามการตั้งค่าพลังงาน โดยรุ่น C 300 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ จะถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 250 กม./ชม. ส่วนรุ่นสมรรถนะสูง AMG C 43 ที่ใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร Twin-Turbo สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 265 กม./ชม. และหากเลือกติดตั้ง AMG Driving Package จะเพิ่มความเร็วสูงสุดเป็น 270 กม./ชม. ในสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรา แนะนำให้ระวังเรื่องความดันลมยางและสภาพระบบระบายความร้อนเวลาขับเร็วๆ โดยเฉพาะเวลาขับทางไกลควรเช็คประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้ดี รุ่น C-Class มาตรฐานจะมีระบบช่วยขับขี่อย่างฟังก์ชันจำกัดความเร็วที่ปรับตัวอัตโนมัติตามป้ายจำกัดความเร็ว 120 กม./ชม. บนทางด่วน ส่วนเกียร์ 9 จังหวะนั้นช่วยประหยัดน้ำมันในขณะที่ยังตอบสนองการเร่งได้ทันใจอยู่ สำหรับใครที่ต้องการสมรรถนะมากขึ้น ลองดูอุปกรณ์เสริมของซีรีส์ AMG อย่าง Dynamic Engine Mounts และระบบไอเสียสปอร์ตที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงและประสบการณ์การขับขี่เวลาใช้ความเร็วสูงได้อีก
Q
รถ C-Class รุ่นปี 2024 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ Mercedes-Benz C-Class รุ่นปี 2024 ราคาเริ่มต้นในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับระดับความประณีตของรุ่น ออปชั่นเสริมที่เลือก รวมถึงโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายด้วย รุ่นพื้นฐาน C 200 ใช้ระบบเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร ผสมผสานเทคโนโลยี Hybrid ส่วนรุ่น C 300 จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่แรงกว่า มาตรฐานของรถคันนี้มาพร้อมกับระบบความบันเทิง MBUX ล่าสุด ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ และวัสดุตกแต่งภายในระดับพรีเมียม ส่วนรุ่นสูงกว่ายังสามารถเลือกเพิ่มระบบกันสะเทือนแบบอากาศและระบบเสียงเบอร์ลินได้ ข้อควรท้ายคือ ราคารถยนต์หรูในประเทศไทยมักรวมภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตแล้ว จึงทำให้ราคาสูงกว่าต้นทางประมาณ 30-40% เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง BMW 3 Series และ Audi A4 ที่อยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน แต่แต่ละรุ่นมีจุดเด่นต่างกัน เช่น 3 Series จะเน้นความสนุกในการขับขี่ ส่วน A4 จะโดดเด่นด้านเทคโนโลยี สำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถในระยะยาว แนะนำให้พิจารณาชุดบริการรักษาตามระยะทางและบริการรับประกันที่ทางศูนย์บริการนำเสนอ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ นอกจากนี้บางตัวแทนอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำหรือประกันปีแรกฟรี ก่อนตัดสินใจซื้อควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ เจ้าด้วย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MG ZS มีราคาตั้งแต่ 599,000 บาท เป็นตัวเลือกประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายสูงของผู้บริโภคไม่ซื้อรถไฟฟ้า
Kevin WongMay 15, 2024

MG 5 ขายดีในตลาดไทย โดยรุ่น 1.5L CVT ผ่อนเพียงเดือนละ 6,xxx บาท
พงศธรNov 21, 2025

ตารางผ่อนล่าสุด MG S5 EV เพียง 8,xxx บาทต่องวด
LienNov 12, 2025

รถใหม่ MG4 เปิดตัวในจีนเพียงหนึ่งเดือนมียอดขายถึง 11,790 คัน รถใหม่มีระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนสูงสุดถึง 530 กิโลเมตร
Kevin WongNov 10, 2025

การผ่อนชำระค่างวดล่าสุดของ MG 4 ซึ่งน่าจะเป็น C-Segment SUV ที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด
ณัฐวุฒิOct 30, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย