Q

ความยาวของ MG ZS คือเท่าไหร่ ?

MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยความยาวตัวถัง 4,323 มิลลิเมตร ที่ออกแบบมาเหมาะกับการใช้งานในเมือง ทั้งให้ความคล่องตัวและยังมีพื้นที่ภายในกว้างขวาง เพียงพอต่อการขับขี่ในซอยแคบๆ และการจอดรถในพื้นที่จำกัดของประเทศไทย ดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัย coupled with การจัดวางภายในที่ใช้งานได้จริง ทำให้ MG ZS กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับครอบครัวไทย โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองหรือทริปสั้นๆ ในวันหยุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบช่วยขับอัจฉริยะและตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมชาติหรือรุ่นไฟฟ้า 100% ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ของผู้บริโภค สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบปรับอากาศและความแน่นหนาของตัวถังยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อความสบายระหว่างการเดินทาง ที่สำคัญ MG ZS ยังโดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าและการใช้งานที่ลงตัว พร้อมเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถทุกคน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ MG ZS มีอะไรบ้าง?
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ควรรู้ไว้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางผู้ใช้รายงานว่าประสิทธิภาพระบบแอร์อาจไม่แรงพอเมื่อใช้งานหนัก โดยเฉพาะเวลาติดอยู่ในรถนานๆ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเย็นสบาย ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดธรรมดา แม้จะประหยัดน้ำมันแต่เมื่อต้องลากเต็มคันหรือขับขึ้นเขาในพื้นที่ต่างจังหวัดอาจรู้สึกได้ว่ากำลังไม่ค่อยพอ เวลาแซงจึงต้องเผื่อระยะมากขึ้น สำหรับวัสดุภายในรถ แม้จะทนทานแต่ใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างเย็น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบความรู้สึกพรีเมียมเท่าไร ต้องบอกว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและบริการหลังการขายค่อนข้างมาก แนะนำว่าควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายจริงๆ โดยเฉพาะระบบแอร์และการออกตัวบนทางชัน เพื่อความชัวร์ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่อาจมีจุดเด่นด้านการตั้งเครื่องยนต์หรือประสิทธิภาพแอร์ที่ต่างออกไป แล้วเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้ดีที่สุด
Q
MG ZS อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน
MG ZS เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ C-Segment ซึ่งโดยทั่วไปก็จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กได้เช่นกัน การแบ่งระดับของรถยนต์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะฐานล้อ ขนาดตัวถัง ระบบแต่งเติม รวมถึงกำลังเครื่อง เป็นต้น สำหรับ MG ZS แล้วมีระยะฐานล้อ 2585 มม. ความยาว 4323 มม. ความกว้าง 1809 มม. และความสูงอยู่ระหว่าง 1628-1653 มม. จากขนาดตัวถังเหล่านี้ก็ถือว่าเข้าข่าย SUV ขนาดเล็กพอดี โดยทั่วไปแล้ว SUV ขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะจอดง่าย ขับเคลื่อนคล่องตัว ด้วยตำแหน่งระดับนี้ MG ZS จึงตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้ดี มีพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือการใช้งานส่วนตัว ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สนใจรถประเภทนี้ในตลาด
Q
MG ZS ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่? หรือ MG ZS ราคาตกไหม?
MG ZS ในตลาดรถมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี โดยมูลค่าขายต่อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษารถ โดยทั่วไปแล้ว รถที่มีอายุประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 50%-60% ของราคารถใหม่ ซึ่งถือว่าสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรื่องการขายต่ออย่าง Toyota ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายต่อของ MG ZS ได้แก่ การที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ MG มากขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่รุ่น ZS EV แบบไฟฟ้าล้วนมีอัตราการลดราคาที่เร็วกว่ารุ่นเบนซิน เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว นอกจากนี้ ตลาดรถมือสองในไทยยังให้ความสำคัญกับประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ (4S) และการใช้ชิ้นส่วนแท้จากโรงงาน ดังนั้นผู้ใช้ควรเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน รุ่นไฮบริดและไฟฟ้ามีโอกาสขายต่อได้ราคาดีกว่ารุ่นน้ำมันในบางกรณี จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ แต่ควรตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เนื่องจากกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการประเมินราคารถมือสองในไทย ปัจจุบันเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของ MG ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลรักษารถและส่งผลดีต่อมูลค่าขายต่อโดยรวมอีกด้วย
Q
รถ MG ZS มีกี่ CC?
MG ZS ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นย่อยจะมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นหลักที่วางจำหน่ายคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ความจุจริงอยู่ที่ 1,498 ซีซี มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันในระดับดี ในบางรุ่นอาจมีการนำเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ (ความจุจริง 1,349 ซีซี) เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง MG ZS ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทย ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถหมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว นอกจากนี้ รถที่มีเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร ยังอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับรถที่มีความจุมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ MG ZS มีราคาคุ้มค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง การรู้ขนาดเครื่องยนต์จะช่วยในการประเมินสมรรถนะและต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จริงด้วยตัวเอง
Q
MG ZS ใช้เครื่องยนต์อะไร?
MG ZS มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1.5L แนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน รูปแบบการจ่ายอากาศเป็นแบบแนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน มีความจุกระบอกสูบ 1498mL ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า กำลังสูงสุด 84kW ที่ 6000rpm แรงบิดสูงสุด 150N·m ที่ 4500rpm เครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะให้กำลังพอดี ไม่ว่าจะเจอสภาพการจราจรติดขัดก็ขับได้อย่างสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เรียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังประหยัดน้ำมันดี อัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอยู่ที่ 6.4L/100km ช่วยให้เจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
Q
MG ZS มีเกียร์อะไรบ้าง? หรือ MG ZS ใช้เกียร์แบบไหน?
MG ZS มาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ทำงานแบบไร้ขั้น ซึ่งเทคโนโลยีเกียร์แบบนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว มีความน่าเชื่อถือสูง ระบบเปลี่ยนเกียร์ทำงานลื่นไหลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เวลาขับจริงๆก็รู้สึกว่าเกียร์ตอบสนองดี แม้จะเกิดอาการลื่นไปก็ยังควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการปัดท้ายน่ากลัวอย่างที่คิด ถึงแม้แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ทุกรุ่นล้วนใช้เกียร์ตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านกำลังและความลื่นไหลในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เกียร์ CVT ยังทำงานประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ระบบเปลี่ยนเกียร์เข้าใจง่าย มีแรงตอบสนองที่ดี ทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายมือเวลาขับ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นประจำ
Q
ล้อ MG ZS ใช้ PCD เท่าไหร่?
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของล้อ MG ZS คือ 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ผู้ใช้ MG ZS สามารถเลือกเปลี่ยนหรืออัปเกรดล้อแม็กได้ง่ายขึ้น ด้วยล้อที่มีขนาดตรงกันในท้องตลาด PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อ หากเลือกขนาดไม่ตรง อาจส่งผลให้เกิดการสั่นหรือการสึกหรอของช่วงล่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกบ่อยแบบประเทศไทย ที่ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของล้อและยางเป็นพิเศษ แนะนำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนล้อแม็ก เลือกล้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อเป็นประจำ หากไม่แน่ใจในสเปกล้อของรถ ควรอ้างอิงจากคู่มือรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการ MG ที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่
Q
MG ZS รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
MG ZS ในตลาดไทยมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เชื่อมต่อกับระบบในรถได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้โดยตรง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปยาวๆ อีกทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ฟีเจอร์นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น นอกจาก Apple CarPlay แล้ว MG ZS ยังรองรับ Android Auto ด้วย จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างกัน โดยทั่วไปรุ่นที่ขายในไทยจะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มีการออกแบบอินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีหรือรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Apple CarPlay กำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ และอาจมีอัปเดตเพิ่มเติมผ่านระบบ OTA ในอนาคต
Q
MG ZS ใช้ยี่ห้อยางอะไร
ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ MG ZS ในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการแต่งเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Continental, Bridgestone หรือ Goodyear ที่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย สำหรับการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากจะเลือกใช้แบรนด์เดิมแล้ว คนไทยยังนิยมใช้ยางคุณภาพดีอย่าง Michelin หรือ Dunlop ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องส่วนผสมยางและร่องดอกยางที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนของไทยที่ต้องมั่นใจว่าดอกยางยังเหลือความลึกเพียงพอ ตามกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการทางการของ MG หรือร้านยางมาตรฐาน พวกเขาจะช่วยแนะนำยางที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นยางที่เน้นความเงียบสบายหรือยางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
Q
รถ MG ZS เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบภายนอกที่ทันสมัย ฟีเจอร์ครบครัน และราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวไทยเป็นอย่างดี ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงกระโปรงหลังที่จุของได้เพียงพอต่อความต้องการประจำวัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว และกล้องถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ข้อเสียคือแรงเครื่องค่อนข้างเรียบเนิบ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ส่วนระบบกันเสียงอาจไม่ได้ดีนักเมื่อขับความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ MG ZS ยังให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมแล้วหากคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่า MG ZS ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงเพื่อระบบแอร์และอุปกรณ์บังแดดที่ทำงานได้ดีขึ้น

ข้อดี

คุณภาพการขับขี่ปราณีต
ราคาเทียบเท่ากับรถที่ทำงานด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกแต่รูปแบบมากกว่า พร้อมขายรุ่นท็อป 79.9 หมื่นบาท พื้นที่มากขึ้น และพื้นที่สําหรับกระเป๋าสุด
การปรับปรุงภายนอกที่ชัดเจน โดยใช้หน้าต่างและไฟหน้าใหม่ ดูเยาวชนนัก
อุปกรณ์ภายนอจดี ทำให้ความสามารถของระบบนอกตัวถูกปรับปรุง
การตกแต่งภายในสองสีหรูหรา มีจอแสดงผลสําหรับคนขับขี่ขนาด 7 นิ้ว และจอควบคุม 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย
ระบบพลังงานใหม่ที่ลื่นไหลมากขึ้น ใช้เครื่องเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ CVT8 พร้อมกับเครื่องยนต์น้ำมันสูบ 1.5 ลิตร การส่งกำลังที่นุ่มนวลขึ้น
ชาญิสัยที่ยอดเยี่ยม การปรับแต่งชาญิสัยแบบยุโรป มี 3 โหมดการปรับแต่งเพลิเทรน
มีความลึกลับเพียบ มีเบรกไฟฟ้า ระบบป้องกันรถลื่น กล้องระยะไกล 360 องศา การเตือนถอยหลัง ไฟนำทางหลังการกางเกยเครื่องยนต์ และแบนเพลิเทรนแบบ 6

ข้อเสีย

ภายในรถดูล้าสมัย
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไม่ดี, 1.5 ลิตร 114 แรงม้า, สำหรับรถที่มีน้ำหนัก 1.2 ตัน ไม่เพียงพอที่จะทำงานอย่างคล่องแคล่ว, การตอบสนองไม่ดีเท่าคู่แข่ง
ฉากกั้นเสียงภายในรถไม่ดี, การออกแบบรูปร่างสี่เหลี่ยมทำให้เกิดเสียงลมที่ความเร็วปานกลางและสูง, เสียงจากชุดล่างรถก็มาก
มีปัญหาเกี่ยวกับการบริการหลังการขาย, เมื่อเทียบกับคู่แข่ง, ศูนย์บริการจำเป็นต้องปรับปรุง, เทคนิคภาพไม่เพียงพอ, รอรับชิ้นส่วนยาวนาน

Q&A ล่าสุด

Q
Audi TT เป็นรถแข่งหรือเปล่า
Audi TT ในความหมายที่เคร่งครัดอาจไม่ใช่รถแข่งสนามแบบดั้งเดิม แต่ยังจัดอยู่ในกลุ่มรถสปอร์ต ชื่อ TT มาจากการแข่งขัน “Tourist Trophy” ที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความเป็นเลิศด้านมอเตอร์สปอร์ต Audi TT มีหลากหลายเวอร์ชัน ทั้งรุ่นเปิดประทุนแบบ 2 ประตู 2 ที่นั่ง และรุ่นคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง รูปแบบการขับเคลื่อนมีทั้งแบบวางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนล้อหน้า และวางเครื่องยนต์ด้านหน้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ ระบบเกียร์ก็มีให้เลือกหลายแบบ รุ่นมาตรฐานของ TT ให้สมรรถนะที่ไม่ธรรมดา เช่น เครื่องยนต์ 2.0T บางรุ่นให้กำลังที่สูงเมื่อผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่วนรุ่นสมรรถนะสูงอย่าง TTRS ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบเทอร์โบที่ให้พลังมหาศาล ด้านการออกแบบ TT แฝงด้วยเอกลักษณ์ของรถสปอร์ต เส้นสายโค้งมนหรูหรา ภายในตกแต่งด้วยแผงอะลูมิเนียมเพิ่มความสปอร์ตหรู แม้จะมีสมรรถนะและการควบคุมที่ดี แต่เมื่อเทียบกับรถแข่งแท้ ๆ ยังขาดองค์ประกอบเฉพาะสนาม เช่น การลดน้ำหนัก ระบบช่วงล่างแข่งเฉพาะทาง และโรลเคจ อย่างไรก็ตาม ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมควบคู่ราคาที่เข้าถึงได้ Audi TT จึงมักถูกมองว่าเป็นรถสปอร์ตระดับเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสความเร้าใจของการขับรถสปอร์ต
Q
Audi TT เป็นรถเทอร์โบหรือไม่
ใช่แล้วครับ ออดี้ TT เป็นรถเทอร์โบชาร์จ ส่วนใหญ่จะพบเครื่องยนต์ 1.8T และ 2.0T รหัสเครื่อง EA888 เครื่องยนต์ 1.8T ให้กำลังสูงสุด 132 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ส่วนเครื่อง 2.0T กำลังสูงสุด 169 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นให้กำลังขับเคลื่อนที่แรงดี สร้างประสบการณ์การขับที่สมรรถนะสูงให้กับคนขับครับ โดยเฉพาะเครื่อง 2.0TFSI ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จเจอร์กับระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลง FSI ทำให้ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันดีกว่าเครื่องยนต์แบบฉีดทางอ้อมทั่วไป แถมยังมาพร้อมเกียร์ Stronic 6 สปีดแบบคลัตช์คู่ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร ที่ช่วยเสริมสมรรถนะและการขับขี่ให้ดีขึ้นอีกด้วยครับ
Q
Audi TT เป็นรถสปอร์ตจริงหรือไม่
Audi TT เป็นรถสปอร์ตที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 และได้แสดงคุณลักษณะของรถสปอร์ตในหลายมิติ ภายนอกมาพร้อมเส้นสายตัวถังที่กระชับและสมดุล ปีกท้ายทรงโค้งมนและฝาถังน้ำมันอะลูมิเนียมเป็นจุดเด่น ตัวถังประกอบด้วยซุ้มล้อโค้งสี่ด้าน เชื่อมด้วยเส้นเอวสองเส้นเข้ากับหลังคาทรงโค้งสไตล์ Bauhaus ที่ให้สัดส่วนตัวถังทรงพลังสะดุดตา ด้านสมรรถนะก็ยอดเยี่ยม การบังคับเลี้ยวให้สัมผัสที่ชัดเจน ท้ายรถตอบสนองคล่องตัว ระบบกันสะเทือนปรับจูนมาอย่างลงตัว เสริมด้วยสปอยเลอร์หลัง โดย TT รุ่นแรกแม้เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าแต่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร ภายในตกแต่งด้วยแผงอะลูมิเนียมจำนวนมาก ช่องแอร์และองค์ประกอบต่างๆ ออกแบบด้วยโทนวงกลมให้สอดรับกับภายนอก ด้านขุมพลังมีหลายเวอร์ชัน เช่น เครื่องยนต์ 2.0T ที่มีกำลังเหลือเฟือ Audi TT โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีล้ำสมัย รักษาความเป็นรถสปอร์ตไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
Q
Audi TT ใช้สายพานหรือโซ่
อาวดี้ทีทีมีเครื่องยนต์หลายรุ่น บางรุ่นใช้สายพานไทม์มิ่งบางรุ่นใช้โซ่ไทม์มิ่ง สายพานไทม์มิ่งต้องเปลี่ยนตามระยะทางหรือระยะเวลาเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพและขาดซึ่งอาจทำให้วาล์วและลูกสูบเสียหายจนเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ ส่วนโซ่ไทม์มิ่งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยหากมีการใช้งานและบำรุงรักษาตามปกติ อย่างไรก็ตามเพื่อยืนยันว่าอาวดี้ทีทีรุ่นใดใช้สายพานหรือโซ่ควรตรวจสอบคู่มือผู้ใช้ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนวาล์วหรือสอบถามผู้แทนจำหน่ายอาวดี้ที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ซึ่งสามารถให้คำตอบที่ถูกต้องตามรุ่นรถ
Q
"Audi TT ขับง่ายไหม
อาวดี้ทีทีในฐานะรถคูเป้สปอร์ตระดับตำนานมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นมิตร เหมาะกับสภาพการจราจรที่แออัดในกรุงเทพและถนนภูเขาชานเมือง ตัวถังขนาดกะทัดรัดความยาว 42 เมตรและพวงมาลัยที่แม่นยำทำให้คล่องตัวในถนนแคบ รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเครื่องยนต์ 20 TFSI กำลัง 245 แรงม้าที่พบได้บ่อยในไทยมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด S tronic ตอบสนองฉับไวและเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น แม้ถนนเปียกในฤดูฝนก็ยังรักษาการทรงตัวได้ดีด้วยระบบควบคุมการทรงตัว ESC อย่างไรก็ตามตำแหน่งเบาะนั่งต่ำอาจทำให้บางคนรู้สึกอึดอัดในสภาพอากาศร้อนจึงควรเลือกเบาะนั่งระบายอากาศเป็นออปชัน เทียบกับรถระดับเดียวกันรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro แม้จะเพิ่มสมรรถนะในโค้งแต่เมื่อพิจารณาว่าสภาพถนนไทยไม่ค่อยมีความสุดขั้วรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าก็ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้ดีและประหยัดน้ำมันมากกว่า ช่วงล่างที่เซตมาในเชิงสปอร์ตอาจให้ความรู้สึกกระด้างบนถนนเก่าในไทย แนะนำให้ตั้งค่าความดันลมยางไว้ที่ค่าต่ำสุดตามสเปกโรงงานเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล ผู้แทนจำหน่ายอาวดี้ในไทยยังมีแพ็กเกจบำรุงรักษาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นเพื่อลดผลกระทบต่อระบบอัดอากาศเทอร์โบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูเพิ่มเติม