Q

ค่าบำรุงรักษารถยนต์ Toyota Hilux Champ อยู่ที่เท่าไร?

รถกระบะ Toyota Hilux Champ เป็นรุ่นที่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริงในไทย ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ การบริการพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและเปลี่ยนไส้กรองที่ศูนย์บริการของ Toyota จะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาท (ราคาอาจแตกต่างกันไปตามเกรดน้ำมันเครื่องและพื้นที่) ซึ่งควรทำทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ต้องระวังเรื่องสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่ส่งผลต่อการดูแลรถเป็นพิเศษ แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์ น้ำหล่อเย็น และแบตเตอรี่เป็นประจำ ส่วนช่วงฤดูฝนควรดูแลเรื่องการป้องกันสนิมใต้ท้องรถด้วย ถ้าเทียบกับรถกระบะรุ่นเดียวกัน Hilux Champ ได้เปรียบเรื่องค่าบำรุงในระยะยาวเพราะ Toyota มีระบบจัดอะไหล่ที่ชัดเจนและพร้อมจำหน่ายทั่วไทย แถมยังมีบริการรับประกันจากศูนย์ทั่วไป 1-3 ปี แต่ต้องอย่าลืมเก็บหลักฐานการเข้าบำรุงรักษาทุกครั้งไว้จะได้ไม่เสียสิทธิ์ ส่วนใครที่อยากใช้บริการอู่นอกศูนย์ ต้องเลือกอะไหล่ที่ได้มาตรฐาน Toyota เพื่อความทนทานของรถ สำหรับคนที่กำลังมองหารถมือสอง แนะนำให้ซื้อผ่านโครงการ T-Value ของ Toyota เพราะจะมีรายงานประวัติการบำรุงรักษามาให้ด้วย ทำให้คำนวณค่าใช้จ่ายในอนาคตได้แม่นยำขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Toyota Hilux Champ สามารถขับขี่บนเส้นทางออฟโรดได้หรือไม่?
รถกระบะ Toyota Hilux Champ ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Hilux นี้ ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริง โดยสืบทอดโครงสร้างพื้นฐานของ Hilux ที่มีทั้งช่วงล่างสูงและโครงสร้างตัวรถที่แข็งแรง พิสูจน์แล้วว่าสามารถรับมือกับสภาพถนนนอกเมืองแบบไทยๆได้ดี ไม่ว่าจะเป็นทางลูกรัง ทางดิน หรือเส้นทางออฟโรดแบบเบาๆ รุ่นนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเสริม (ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าเฉพาะ) เมื่อรวมกับระยะความสูงจากพื้นรถที่มากและระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนเส้นทางโคลนในช่วงฤดูฝนหรือทางลาดชันในพื้นที่ภูเขาได้อย่างมั่นใจ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า Hilux Champ นั้นถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานแบบรถทำงานเป็นหลัก ถ้าเทียบกับรถออฟโรดระดับมืออาชีพแล้ว มุมเข้า-ออกและระบบเกียร์ถ่ายกำลังอาจจะเหมาะกับการขนของมากกว่าการปีนป่ายแบบสุดโต่ง สำหรับคนไทยที่ใช้งานจริง แนะนำให้ปรับความดันลมยางตามน้ำหนักบรรทุก และในช่วงหน้าฝนอาจจะเลือกใช้ยาง AT เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ ถ้าจะขับออฟโรดจริงๆ ควรศึกษาสภาพเส้นทางล่วงหน้า และสำหรับมือใหม่ที่ต้องขับบนพื้นทรายหรือทางลาดชัน ควรมีผู้มีประสบการณ์คอยแนะนำ จะปลอดภัยกว่า ในไทยหลายจังหวัดมีคอร์สฝึกขับรถ 4x4 โดยเฉพาะ ช่วยให้เจ้าของรถใช้งานศักยภาพของรถได้อย่างเต็มที่และปลอดภัยยิ่งขึ้น
Q
Toyota Hilux Champ ผลิตในประเทศไทยหรือไม่
ใช่แล้ว Toyota Hilux Champ ผลิตที่ประเทศไทยครับ รุ่นนี้โตโยต้าออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ ทั้งเรื่องความทนทานและการใช้งานจริง ถือว่าสืบทอดมาคุณสมบัติเด่นของตระกูล Hilux ที่แข็งแรงน่าเชื่อถือ พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการใช้งานจริงและความคุ้มต้นทุนในการออกแบบและฟังก์ชันอีกด้วย เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบและความต้องการของผู้ใช้ไทยเป็นอย่างดี ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของโตโยต้าในภูมิภาคนี้ นอกจากสนับสนุนตลาดในประเทศแล้วยังส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและความสำคัญที่โตโยต้าให้กับตลาดไทย การผลิต Hilux Champ ยังช่วยยกระดับฐานะประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตรถกระบะของโลกอีกด้วย สำหรับคนไทย การเลือกใช้รถที่ผลิตในประเทศนอกจากจะได้บริการหลังการขายที่สะดวกแล้ว ยังถือเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจและอาชีพคนในชาติอีกด้วย อีกทั้งไลน์การผลิตของโตโยต้าในไทยใช้เทคโนโลยีชั้นนำและมาตรฐานควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด ทำให้ทุกคัน Hilux Champ ที่ออกจากโรงงานมีคุณภาพระดับสากล ลูกค้าไว้ใจได้ทั้งการใช้งานและการบริการ
Q
Toyota Hilux Champ มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง
Toyota Hilux CHAMP เป็นรถกระบะที่เน้นความใช้งานจริง แม้ระบบความปลอดภัยจะไม่ได้อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสูง แต่ก็มาพร้อมกับระบบพื้นฐานที่เชื่อถือได้ เช่น ถุงลมนิรภัยคู่ ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน BA ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะบนเส้นทางในไทยที่ต้องสลับระหว่างขับในเมืองกับต่างจังหวัด ตัวถังทำจากเหล็กความแข็งแรงสูง ทำให้ทนทานต่อการชน ส่วนครอบครัวก็มีจุดยึดเก้าอี้เด็กและล็อคประตูกันเด็กเปิดให้ใช้แน่นอน จุดเด่นของ Hilux CHAMP คือออกแบบมาเหมาะกับสภาพบ้านเราโดยเฉพาะ เช่น ระยะช่วงล่างสูงพอให้ลุยน้ำท่วมขังช่วงหน้าฝน โครงสร้างเรียบง่ายซ่อมง่าย ทนอากาศร้อนชื้นได้ดี แถมยังเป็นรถกระบะที่ชาวบ้านนิยมใช้ขนของหรือวิ่งบนถนนลูกรัง เลยขอแนะนำให้เช็คสภาพยางกับระบบเบรกบ่อยๆ และอย่าขนของหนักเกินไป แค่นี้ก็ขับได้ปลอดภัยหายห่วงแล้ว
Q
ต้องดูแลรักษารถ Toyota Hilux Champ อย่างไรบ้าง
สำหรับการดูแลรักษาประจำวันรถ Toyota Hilux Champ แนะนำให้ตรวจสอบสภาพน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และน้ำหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ และเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการทำความสะอาดระบบหล่อเย็นและแผ่นกรองแอร์ แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาพื้นฐานทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ส่วนเรื่องยางรถยนต์ เนื่องจากฝนตกบ่อยในประเทศไทย จำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าดอกยางมีความลึกมากกว่า 3 มม. เพื่อเพิ่มการยึดเกาะบนถนนเปียก ขณะเดียวกัน ควรปรับแรงดันลมยางให้เป็นไปตามค่าที่ผู้ผลิตแนะนำ (โดยปกติจะติดไว้ที่กรอบประตู) ก่อนเข้าฤดูฝนควรตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนและร่องระบายน้ำรอบคันเพื่อป้องกันน้ำขังและเกิดสนิม เนื่องจากในไทยนิยมใช้รถปิกอัพบรรทุกของ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการหล่อลื่นของสปริงแผ่นช่วงล่างด้านหลังและการป้องกันสนิมของกล่องบรรทุกสินค้า หากบรรทุกหนักเป็นประจำ อาจต้องเปลี่ยนน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลบ่อยขึ้นเป็นทุก 20,000 กิโลเมตร เวลาจอดรถควรเลือกที่ร่ม เพราะแสงแดดจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว ถ้าต้องขับบนถนนลูกรังบ่อยๆ ควรตรวจสอบแผ่นกรองอากาศทุก 3,000 กิโลเมตร การดูแลรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานรถได้อย่างมาก
Q
Toyota Hilux Champ รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้เท่าไร?
Toyota Hilux CHAMP เป็นรถกระบะที่เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยจริงจัง ในตลาดไทยสามารถบรรทุกได้สูงสุดประมาณ 1,000 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปทั้งขนส่งวัสดุก่อสร้าง ผลผลิตทางการเกษตร หรือสินค้าขนาดเล็ก เหมาะสมกับความต้องการของคนไทยเป็นอย่างดี ประเทศไทยมีสภาพพื้นที่หลากหลายทั้งในเมืองและชนบท Hilux CHAMP ออกแบบระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือนมาเป็นพิเศษให้มีความมั่นคงและทนทานแม้ในสภาพบรรทุกหนัก เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมแบบไทย นอกจากนี้ เครื่องยนต์ดีเซลยังให้แรงบิดสูงแม้อยู่ในรอบต่ำ ทำให้สามารถขับขึ้นทางลาดชันหรือเส้นทางขรุขระได้อย่างสบายแม้บรรทุกเต็มพิกัด สำหรับใครที่ต้องการบรรทุกหนักเป็นประจำ แนะนำให้ตรวจสอบความดันลมยางและระบบกันสะเทือนอย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานระยะยาว วัฒนธรรมรถกระบะในไทยค่อนข้างแข็งแรง ผู้ใช้หลายคนมักปรับแต่งรถเพิ่มเติม แต่ต้องระวังเรื่องขีดจำกัดการบรรทุกตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับหรือปัญหาด้านความปลอดภัย Hilux CHAMP ยังโดดเด่นในเรื่องความเชื่อถือได้และค่าบำรุงรักษาต่ำ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เป็นที่นิยมในไทย เหมาะสำหรับทั้งร้านค้าขนาดเล็กและครอบครัวทั่วไป
Q
รุ่น Toyota Hilux Champ ที่เหมาะสำหรับครอบครัวมีอะไรบ้าง
สำหรับรถ Toyota Hilux Champ ที่เน้นความใช้งานจริง แนะนำให้ครอบครัวไทยเลือกรุ่น Double Cab เพราะมีที่นั่ง 5 ที่และพื้นที่ด้านหลังกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินทางกับครอบครัว ขณะเดียวกันยังคงรักษาระยะห่างจากพื้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Hilux (220 มม.) และโครงแบบบันไดที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย รวมถึงการเดินทางในเมืองและถนนในชนบทเป็นครั้งคราว เครื่องยนต์มาตรฐานมีทั้งแบบดีเซล 2.4L (150 แรงม้า/400 นิวตัน-เมตร) และเบนซิน 2.7L (166 แรงม้า/245 นิวตัน-เมตร) ซึ่งให้สมดุลระหว่างประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำ ตรงตามความต้องการของคนไทยที่เน้นความทนทาน นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งฝากั้นน้ำกันฝนหรือจัดระบบเก็บของในกระบะหลังได้ตามต้องการ สะดวกสำหรับการขนสิ่งของขนาดใหญ่เช่นรถเข็นเด็ก ส่วนในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้เลือกรุ่นที่ติดตั้งแอร์ด้านหลัง (มีในบางรุ่นสูง) เพื่อความสบายมากขึ้น ควรรู้ว่าตัวแทนจำหน่ายบางแห่งในไทยมีบริการด้านการเงินสำหรับครอบครัว เช่นดาวน์ต่ำหรือบริการรับประกันที่ยาวขึ้น ควรสอบถามรายละเอียดก่อนซื้อ หากจำเป็นต้องเดินทางไกลกับผู้โดยสารจำนวนมาก สามารถติดตั้งที่นั่งแถวที่สามในภายหลังได้ (ต้องเป็นไปตามกฎหมาย) แต่ควรระวังว่าการทำเช่นนี้จะลดพื้นที่เก็บของในกระบะหลังไปบ้าง
Q
Toyota Hilux Champ ประหยัดน้ำมันไหม?
รถกระบะ Toyota Hilux Champ เป็นรุ่นที่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ค่อนข้างดี เครื่องยนต์ดีเซล 2.4L และ 2.8L ของ Hilux Champ นั้นใช้เทคโนโลยีหัวฉีดตรงคอมมอนเรลขั้นสูงของโตโยต้าและระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์รูปทรงเรขาคณิตแบบแปรผัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ จากผลทดสอบการขับขี่จริง พบว่าในสภาพการขับขี่แบบผสมทั้งในเมืองและทางหลวง อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 7-8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับรถกระบะ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มักเจอปัญหารถติด การสิ้นเปลืองน้ำมันระดับนี้ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดค่าน้ำมันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ต้องบอกก่อนว่าอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น แนะนำให้ขับขี่อย่างนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกะทันหัน รวมถึงใช้แอร์อย่างเหมาะสม อากาศร้อนแบบประเทศไทยนี่แหละที่ทำให้แอร์ทำงานหนัก ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น เพราะฉะนั้นควรดูแลระบบแอร์ให้พร้อมใช้งานเสมอ สำหรับใครที่ต้องใช้รถในต่างจังหวัดหรือเส้นทางขรุขระ แม้ Hilux Champ จะขับเคลื่อนได้ดีในสภาพหลากหลาย แต่การขับบนถนนแบบนั้นย่อมทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นเป็นเรื่องปกติ สรุปแล้ว Hilux Champ นั้นเป็นรถกระบะที่ประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในตลาด เหมาะสมทั้งสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันและการขนส่งของในประเทศไทยจริงๆ
Q
Toyota Hilux Champ สามารถเปลี่ยนเป็นรถยนต์ SUV ได้หรือไม่?
รถปิกอัพ Toyota Hilux Champ ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Hilux นั้น ด้วยโครงสร้างตัวรถแบบ Non-truck chassis และช่วงล่างที่แข็งแรง แน่นอนว่ามีศักยภาพในการดัดแปลงเป็นรถ SUV ได้ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมทางเทคนิคและข้อกฎหมายในประเทศไทยอย่างรอบด้าน ในตลาดไทย การดัดแปลงประเภทนี้โดยปกติแล้วจำเป็นต้องให้ผู้ผลิตมืออาชีพปรับเปลี่ยนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบอิสระ ติดตั้งห้องโดยสารแบบปิด และปรับปรุงความสะดวกสบายภายใน พร้อมทั้งต้องผ่านการรับรองความปลอดภัยจากกรมการขนส่งทางบก (DLT) ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง เข็มขัดนิรภัย และมาตรฐานการปล่อยไอเสีย ที่ควรทราบคือ ประเทศไทยมีกฎหมายเกี่ยวกับการดัดแปลงรถที่ค่อนข้างเข้มงวด โดยเฉพาะกรณีการเปลี่ยนรถเชิงพาณิชย์เป็นรถส่วนบุคคล รถที่ดัดแปลงแล้วจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดในเรื่องการกระจายน้ำหนักและความปลอดภัยในการชน จากมุมมองทางเทคนิค การดัดแปลงปิกอัพเป็น SUV แบบ Hilux ในไทยมีตัวอย่างที่สำเร็จแล้ว เช่น วัฒนธรรมการดัดแปลง "ปิกอัพเป็น SUV" ที่นิยมในท้องถิ่น แต่แนะนำให้ผู้บริโภคเลือกโรงงานดัดแปลงที่ได้รับการรับรอง ISO และใช้อะไหล่แท้จากผู้ผลิตเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ หากต้องการประสบการณ์แบบ SUV ที่สมบูรณ์กว่า ก็สามารถพิจารณารุ่น Toyota Fortuner ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งออกแบบมาให้เป็น SUV ตั้งแต่แรกและได้รับประกันเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด ต้องระวังว่ากฎหมายไทยกำหนดให้ต้องแจ้งการดัดแปลงทั้งหมดต่อกรมการขนส่งทางบกและปรับปรุงประเภทรถในทะเบียนรถ มิฉะนั้นคุณอาจต้องเผชิญกับค่าปรับหรือมีความเสี่ยงที่ประกันของคุณจะถือเป็นโมฆะ
Q
Toyota Hilux Champ มีพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและนั่งสบายหรือไม่?
รถกระบะ Toyota Hilux Champ เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยสูง โดยเน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทย โครงสร้างภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เบาะนั่งด้านหน้ามีพื้นที่เหนือศีรษะและขาที่กว้างขวาง แม้ขับทางไกลก็ไม่เมื่อย ส่วนเบาะหลังอาจไม่กว้างขวางเท่าหน้านะ แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันหรือเดินทางใกล้ๆ โดยเฉพาะการใช้งานแบบครอบครัวไทยหรือขนของที่นิยมกัน ที่สำคัญ เบาะนั่งและระบบแอร์ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของไทย ให้ความรู้สึกสบายแม้อากาศจะร้อนจัด นอกจากนี้กระบะหลังยังมีขนาดใหญ่ พอดีกับความต้องการขนส่งสินค้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ ทั้งงานเกษตร งานก่อสร้าง หรือแม้แต่ใช้ทำมาหากิน ส่วนระบบช่วงล่างก็ถูกตั้งค่าให้สมดุลระหว่างความนุ่มสบายและรับน้ำหนักได้ดี แม้ถนนไทยจะหลากหลายแบบแค่ไหนก็ขับได้มั่นใจ สำหรับคนไทยแล้ว Hilux Champ ไม่ใช่แค่รถทำงานแต่ยังใช้เป็นรถครอบครัวได้อย่างลงตัว ด้วยความทนทานและคุณภาพที่เชื่อถือได้ รวมถึงค่าบำรุงรักษาที่ไม่แรงจนเกินไป ถือว่าเป็นรถที่ตอบโจทย์คนไทยได้ครบทุกด้านจริงๆ
Q
ราคาและสเปคของ Toyota Hilux Champ 2024 คืออย่างไร
รถกระบะ Toyota Hilux Champ รุ่นปี 2024 ที่ออกแบบมาเพื่อตลาดไทยเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ราคาอยู่ที่ประมาณ 400,000 - 600,000 บาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่งรถ รุ่นพื้นฐานติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ให้กำลัง 148 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ ส่วนรุ่นสูงอาจมีไฟหน้า LED จอทัชสกรีนระบบมัลติมีเดีย แถมยังมีกระบะยาวประมาณ 2.5 เมตร ขนส่งสินค้าได้เกือบ 1 ตัน เหมาะสำหรับการเกษตรหรือใช้งานเชิงพาณิชย์ Hilux Champ รุ่นนี้ยังคงความแกร่งของตระกูล Hilux แบบเดิม แชสซีส์ได้รับการเสริมความแข็งแรงเพื่อรับมือกับถนนไทยที่หลากหลาย ทั้งยังประหยัดน้ำมัน เข้าตาผู้บริโภคไทยที่เน้นใช้งานจริงและต้นทุนต่ำ ในตลาดไทย รถกระบะได้รับความนิยมเนื่องจากนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษ (เช่น การยกเว้นภาษี) และความหลากหลายในการใช้งาน การเปิดตัว Hilux Champ จะช่วยยกระดับตัวเลือกของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น คู่แข่งสำคัญก็มีทั้ง Isuzu D-Max และ Ford Ranger แต่โตโยต้ายังได้เปรียบจากภาพลักษณ์แบรนด์และเครือข่ายบริการหลังการขายที่แข็งแกร่งในไทย สำหรับลูกค้าที่สนใจ แนะนำให้เลือกซื้อตามความต้องการ เช่น ถ้าต้องการบรรทุกของบ่อยๆ แนะนำรุ่นที่ใช้สปริงใบด้านหลัง แต่ถ้าชอบความสบายก็อาจมองหารุ่นสูงที่อัพเกรดระบบกันเสียงและเบาะนั่งเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ระบบส่งกำลังและโซ่ที่ทนทาน
การเลือกเครื่องยนต์ที่น่าเชื่อถือ คุณภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและการเดินทางที่ราบรื่น

ข้อเสีย

คุณภาพการขับขี่ที่สม่ำเสมอและยืดหยุ่น
เครื่องยนต์ดีเซลที่เสียงดัง

Q&A ล่าสุด

Q
2022 CR-V เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ CR-V รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัวได้ดีทุกด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนุ่มนวลและสบายๆ ด้านพื้นที่ภายในยังคงเป็นจุดแข็งของ CR-V ซีรีส์ โดยมีระยะขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระหลังท้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อการเดินทางแบบครอบครัว ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับสภาพถนนไทยนั้นระยะล่างตัวถังสูงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และระบบแอร์ก็เย็นฉ่ำเหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย แค่จุดนิดนึงตรงที่วัสดุแผงคอนโซลบางส่วนยังเป็นพลาสติกแข็ง และเสียงอยู่ในระดับปานกลางในระดับเดียวกันของรถระดับเดียวกัน แต่ข้อดีคือค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่ก็หาง่าย แถมยังขายต่อได้ราคาดี ถ้ามีงบประมาณเหลือแนะนำให้เลือกรุ่น Hybrid จะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองได้มากขึ้น สรุปแล้ว CR-V 2022 นี่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คความชอบส่วนตัวในเรื่องการตั้งค่าสปริง
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถ 2022 CR-V Hybrid?
ราคาที่เหมาะสมสำหรับ Honda CR-V Hybrid รุ่นปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่ง รายละเอียดการใช้งาน และสภาพรถ โดยถ้าเป็นรถใหม่แนะนำให้เช็คโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือราคามาตรฐานจากช่องทางรถมือสองรับประกันคุณภาพจาก Honda โดยตรง รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด i-MMD ของ Honda ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับขับในเมืองที่รถติด ค่าดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันปกติ แต่ต้องระวังเรื่องระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ที่มักจะอยู่ที่ 5-10 ปี ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 Hybrid รุ่นปีเดียวกันอาจจะแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 5-10% ส่วนสีที่คนไทยนิยมอย่างสีขาวหรือสีเทาเมทัลลิกจะช่วยให้รถทรงตัวดีในเรื่องมูลค่าค้างคลัง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการจากฮอนด้าก่อนซื้อ โดยเฉพาะประวัติการลุยน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะระบบไฮบริดต้องการการป้องกันวงจรไฟฟ้าที่ดีเป็นพิเศษ ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณอาจจะมองหารุ่นปี 2020 ที่ราคาถูกกว่า 15-20% แต่ต้องทำความเข้าใจว่าระบบ i-MMD รุ่นที่ 2 จะตอบสนองเรื่องกำลังขับต่างไปเล็กน้อย
Q
เครื่องยนต์ของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นแบบไหน?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ชุดขับเคลื่อนนี้ทั้งประหยัดน้ำมันและให้พลังสมรรถนะสูง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยี VTEC ของ Honda ที่พัฒนาการทำงานของวาล์วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายภูมิประเทศ ทั้งถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ก็ขับสบาย นอกจากนี้ CR-V ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและเงียบกว่า เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
2022 CR-V เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหิมะหรือไม่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แสดงสมรรถนะพอใช้ได้บนถนนหิมะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มากับตัวรถมาตรฐานสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ เมื่อทำงานร่วมกับโหมดขับขี่บนหิมะจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนพื้นผิวลื่นได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือหรือเขตอากาศหนาวบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยางฤดูหนาวหรือติดโซ่ล้อเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีหิมะตกน้อย แต่สภาพถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝนที่ยาวนานก็คล้ายกัน CR-V ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถ 187 มม. และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝนได้อย่างมั่นคง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาหรือโตโยต้า RAV4 ที่มีระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD อาจทำได้ดีกว่าในสภาพถนนสุดขั้ว แต่ CR-V ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ข้อควรระวังอีกอย่างสำหรับการใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวคือความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ บางเจ้าของรถอาจเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทในอากาศเย็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่สูงอย่างเชียงใหม่
Q
"อัตราประหยัดน้ำมันของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 6.4-6.7 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสิ้นเปลืองมากกว่าหน่อยที่ 6.7-7.0 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV จะประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมเพียง 4.7-5.0 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกล ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ CR-V นี้มาจากเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึงเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหลก็ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย ในตลาดไทย CR-V มีจุดแข็งด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคที่ราคาน้ำมันสูง แนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการใช้งานจริง ถ้าขับในเมืองบ่อยรุ่นไฮบริดจะคุ้มค่ากว่า ส่วนรุ่นเบนซินเหมาะสำหรับคนที่เน้นความแรงและราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศและใช้น้ำมันเครื่องตามที่แนะนำ ก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีตลอดการใช้งาน
ดูเพิ่มเติม