Q
MG ZS เติมน้ำมันเครื่องกี่ลิตร
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ MG ZS จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ โดยทั่วไปเครื่องยนต์แบบ 1.5 ลิตร แนทชูรัลลี แอสไพร์ จะใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.7 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์แบบ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ จะใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 4.2 ลิตร แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบข้อมูลที่แน่นอนในคู่มือประจำรถหรือติดต่อศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ MG ในประเทศไทยเพื่อยืนยันปริมาณน้ำมันเครื่องที่เหมาะสม การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรที่ได้มาตรฐาน API SN หรือ SP เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องเครื่องยนต์และยืดอายุการใช้งาน
การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่องเป็นประจำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลเครื่องยนต์ แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน (ขึ้นกับอย่างไหนถึงก่อน) โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในเมืองต่างๆ ของประเทศไทยที่อาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น หากเจ้าของรถเติมน้ำมันเครื่องเอง ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องด้วยก้านวัดให้อยู่ในระดับระหว่างขีดต่ำสุดและขีดสูงสุด เพราะการเติมน้อยหรือมากเกินไปอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ MG ZS มีอะไรบ้าง?
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ควรรู้ไว้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางผู้ใช้รายงานว่าประสิทธิภาพระบบแอร์อาจไม่แรงพอเมื่อใช้งานหนัก โดยเฉพาะเวลาติดอยู่ในรถนานๆ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเย็นสบาย ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดธรรมดา แม้จะประหยัดน้ำมันแต่เมื่อต้องลากเต็มคันหรือขับขึ้นเขาในพื้นที่ต่างจังหวัดอาจรู้สึกได้ว่ากำลังไม่ค่อยพอ เวลาแซงจึงต้องเผื่อระยะมากขึ้น สำหรับวัสดุภายในรถ แม้จะทนทานแต่ใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างเย็น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบความรู้สึกพรีเมียมเท่าไร ต้องบอกว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและบริการหลังการขายค่อนข้างมาก แนะนำว่าควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายจริงๆ โดยเฉพาะระบบแอร์และการออกตัวบนทางชัน เพื่อความชัวร์ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่อาจมีจุดเด่นด้านการตั้งเครื่องยนต์หรือประสิทธิภาพแอร์ที่ต่างออกไป แล้วเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้ดีที่สุด
Q
MG ZS อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน
MG ZS เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ C-Segment ซึ่งโดยทั่วไปก็จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กได้เช่นกัน การแบ่งระดับของรถยนต์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะฐานล้อ ขนาดตัวถัง ระบบแต่งเติม รวมถึงกำลังเครื่อง เป็นต้น สำหรับ MG ZS แล้วมีระยะฐานล้อ 2585 มม. ความยาว 4323 มม. ความกว้าง 1809 มม. และความสูงอยู่ระหว่าง 1628-1653 มม. จากขนาดตัวถังเหล่านี้ก็ถือว่าเข้าข่าย SUV ขนาดเล็กพอดี โดยทั่วไปแล้ว SUV ขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะจอดง่าย ขับเคลื่อนคล่องตัว ด้วยตำแหน่งระดับนี้ MG ZS จึงตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้ดี มีพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือการใช้งานส่วนตัว ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สนใจรถประเภทนี้ในตลาด
Q
MG ZS ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่? หรือ MG ZS ราคาตกไหม?
MG ZS ในตลาดรถมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี โดยมูลค่าขายต่อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษารถ โดยทั่วไปแล้ว รถที่มีอายุประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 50%-60% ของราคารถใหม่ ซึ่งถือว่าสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรื่องการขายต่ออย่าง Toyota
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายต่อของ MG ZS ได้แก่ การที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ MG มากขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่รุ่น ZS EV แบบไฟฟ้าล้วนมีอัตราการลดราคาที่เร็วกว่ารุ่นเบนซิน เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดรถมือสองในไทยยังให้ความสำคัญกับประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ (4S) และการใช้ชิ้นส่วนแท้จากโรงงาน ดังนั้นผู้ใช้ควรเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน รุ่นไฮบริดและไฟฟ้ามีโอกาสขายต่อได้ราคาดีกว่ารุ่นน้ำมันในบางกรณี จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ แต่ควรตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เนื่องจากกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการประเมินราคารถมือสองในไทย ปัจจุบันเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของ MG ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลรักษารถและส่งผลดีต่อมูลค่าขายต่อโดยรวมอีกด้วย
Q
รถ MG ZS มีกี่ CC?
MG ZS ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นย่อยจะมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นหลักที่วางจำหน่ายคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ความจุจริงอยู่ที่ 1,498 ซีซี มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันในระดับดี
ในบางรุ่นอาจมีการนำเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ (ความจุจริง 1,349 ซีซี) เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง
MG ZS ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทย ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถหมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ รถที่มีเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร ยังอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับรถที่มีความจุมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ MG ZS มีราคาคุ้มค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง การรู้ขนาดเครื่องยนต์จะช่วยในการประเมินสมรรถนะและต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จริงด้วยตัวเอง
Q
MG ZS ใช้เครื่องยนต์อะไร?
MG ZS มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1.5L แนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน รูปแบบการจ่ายอากาศเป็นแบบแนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน มีความจุกระบอกสูบ 1498mL ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า กำลังสูงสุด 84kW ที่ 6000rpm แรงบิดสูงสุด 150N·m ที่ 4500rpm เครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะให้กำลังพอดี ไม่ว่าจะเจอสภาพการจราจรติดขัดก็ขับได้อย่างสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เรียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังประหยัดน้ำมันดี อัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอยู่ที่ 6.4L/100km ช่วยให้เจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
Q
MG ZS มีเกียร์อะไรบ้าง? หรือ MG ZS ใช้เกียร์แบบไหน?
MG ZS มาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ทำงานแบบไร้ขั้น ซึ่งเทคโนโลยีเกียร์แบบนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว มีความน่าเชื่อถือสูง ระบบเปลี่ยนเกียร์ทำงานลื่นไหลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เวลาขับจริงๆก็รู้สึกว่าเกียร์ตอบสนองดี แม้จะเกิดอาการลื่นไปก็ยังควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการปัดท้ายน่ากลัวอย่างที่คิด
ถึงแม้แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ทุกรุ่นล้วนใช้เกียร์ตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านกำลังและความลื่นไหลในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เกียร์ CVT ยังทำงานประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ระบบเปลี่ยนเกียร์เข้าใจง่าย มีแรงตอบสนองที่ดี ทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายมือเวลาขับ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นประจำ
Q
ล้อ MG ZS ใช้ PCD เท่าไหร่?
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของล้อ MG ZS คือ 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ผู้ใช้ MG ZS สามารถเลือกเปลี่ยนหรืออัปเกรดล้อแม็กได้ง่ายขึ้น ด้วยล้อที่มีขนาดตรงกันในท้องตลาด
PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อ หากเลือกขนาดไม่ตรง อาจส่งผลให้เกิดการสั่นหรือการสึกหรอของช่วงล่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกบ่อยแบบประเทศไทย ที่ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของล้อและยางเป็นพิเศษ
แนะนำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนล้อแม็ก เลือกล้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อเป็นประจำ หากไม่แน่ใจในสเปกล้อของรถ ควรอ้างอิงจากคู่มือรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการ MG ที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่
Q
MG ZS รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
MG ZS ในตลาดไทยมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เชื่อมต่อกับระบบในรถได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้โดยตรง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปยาวๆ อีกทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ฟีเจอร์นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น นอกจาก Apple CarPlay แล้ว MG ZS ยังรองรับ Android Auto ด้วย จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างกัน โดยทั่วไปรุ่นที่ขายในไทยจะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มีการออกแบบอินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีหรือรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Apple CarPlay กำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ และอาจมีอัปเดตเพิ่มเติมผ่านระบบ OTA ในอนาคต
Q
MG ZS ใช้ยี่ห้อยางอะไร
ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ MG ZS ในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการแต่งเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Continental, Bridgestone หรือ Goodyear ที่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย สำหรับการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากจะเลือกใช้แบรนด์เดิมแล้ว คนไทยยังนิยมใช้ยางคุณภาพดีอย่าง Michelin หรือ Dunlop ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องส่วนผสมยางและร่องดอกยางที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนของไทยที่ต้องมั่นใจว่าดอกยางยังเหลือความลึกเพียงพอ ตามกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการทางการของ MG หรือร้านยางมาตรฐาน พวกเขาจะช่วยแนะนำยางที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นยางที่เน้นความเงียบสบายหรือยางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
Q
รถ MG ZS เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบภายนอกที่ทันสมัย ฟีเจอร์ครบครัน และราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวไทยเป็นอย่างดี ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงกระโปรงหลังที่จุของได้เพียงพอต่อความต้องการประจำวัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว และกล้องถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ข้อเสียคือแรงเครื่องค่อนข้างเรียบเนิบ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ส่วนระบบกันเสียงอาจไม่ได้ดีนักเมื่อขับความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ MG ZS ยังให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมแล้วหากคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่า MG ZS ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงเพื่อระบบแอร์และอุปกรณ์บังแดดที่ทำงานได้ดีขึ้น
Q&A ล่าสุด
Q
MG Maxus 9 มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
MG Maxus 9 ในตลาดไทยมีให้เลือก 3 สีที่各有เอกลักษณ์ แสดงถึงความหรูหราสมัยใหม่ของรถ MPV รุ่นพรีเมียม สี GRANITE GREY BLACK TOP ใช้โทนสีเทาเข้มคู่กับหลังคาสีดำแบบ Two-Tone พร้อมสีเมทัลลิกที่ให้เอฟเฟกต์สะท้อนแสงเป็นชั้นๆ ดูคลาสสิกแต่ก็มีความทันสมัย เหมาะกับนักธุรกิจที่ชอบความหรูหราแบบเรียบหรู ส่วนสี PEARL WHITE ใช้เทคนิคสีไข่มุกพิเศษ โดยมีการผสมผงมุกที่ให้แสงแวววาวอ่อนๆ ใต้แสงแดด ดูสดชื่นและมีระดับ ช่วยขับความเป็นเจ้าของที่มีรสนิยมดี และเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นพิเศษ สำหรับสี BLACK KNIGHT เป็นสีดำลึกเฉพาะตัว พร้อมฟินิชชิ่งที่ให้ความเงางามสูงสุด แสดงถึงความหรูหราอลังการของรถ MPV รุ่นเรือธง แต่ต้องดูแลรักษาบ่อยหน่อยในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากของไทย ทุกสีถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในเขตร้อน มีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีเป็นอย่างดี โดยสีขาวไข่มุกถือว่าปฏิบัติการได้ดีที่สุด เพราะดูแลง่ายและไม่ร้อน车内 ส่วนสีเทาแกรนิตกับดำไนท์เหมาะกับคนที่ชอบความโดดเด่นเป็นพิเศษ
Q
MG Maxus 9 ราคาเท่าไหร่
MG Maxus 9 เปิดตัว 2 รุ่นในไทยแล้ว ทั้งรุ่น X และรุ่น V ราคาเริ่ม 2.499 ล้านบาท และ 2.699 ล้านบาทตามลำดับ รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการเป็น MPV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดตัวถัง 5,270×2,000×1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง แม้จะใช้เป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ก็สะดวกสบาย แบตเตอรี่ขนาด 90kWh ให้ระยะทางสูงสุดถึง 540 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมฟีเจอร์หรูหราอีกมากมาย เช่น เก้าอี้ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวดและปรับความร้อน/เย็น ระบบเปิด-ปิดประตูหลังและประตูสไลด์อัตโนมัติ ไปจนถึงซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านในติดตั้งหน้าจอมัลติมีเดีย 12.3 นิ้ว คู่กับหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้วหรือ 9 นิ้ว ยอดจองในไทยพุ่งแรง ภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์มียอดจองทะลุ 1,100 คัน และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งตัวท้าทาย Toyota Alphard ในตลาดอาเซียน
Q
MG Maxus 9 มีสเปคอะไรบ้าง
MG Maxus 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ MPV ระดับไฮเอนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและกลุ่มธุรกิจในตลาดไทย ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถคันนี้มีขนาดตัวถัง 5270x2000x1840 มม. ระยะฐานล้อ 3200 มม. จุผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้าน ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับการชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จจาก 30% ถึง 80% ด้านในติดตั้งหน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วและหน้าจอกลางแบบลอยตัว พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและท่องเที่ยวระยะไกลในไทย
สำหรับผู้สนใจในไทยควรทราบว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Ternary ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน MG ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษี ทำให้มีราคาคุ้มค่า แนะนำให้ทดลองนั่งแถวที่สามและตรวจสอบพื้นที่เก็บของเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ขนาดตัวถัง Toyota Crown เท่าไหร่?
รถโตโยต้า คราวน์ เป็นรุ่นคลาสสิกที่ขนาดตัวถังจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและรุ่นย่อย ถ้าเอารุ่นล่าสุดเป็นตัวอย่าง ความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 4,910-5,030 มม. ความกว้างประมาณ 1,800-1,840 มม. ส่วนความสูงประมาณ 1,450-1,470 มม. ระยะฐานล้อประมาณ 2,920 มม. จัดอยู่ในกลุ่มรถซีดานขนาดกลางใหญ่ ขนาดแบบนี้สำหรับในเมืองไทยถือว่าโอเคเลย ทั้งให้พื้นที่โดยสารที่เพียงพอ แต่ก็ไม่ใหญ่จนขับยากหรือจอดลำบากในลานจอดรถ
สำหรับตลาดไทย คราวน์ถือว่าเหมาะกับครอบครัว โดยเฉพาะช่วงขาหลังที่กว้างขวาง ช่วยให้สบายเวลาเดินทางไกล ส่วนกระโปรงหลังก็จุของได้เยอะพอใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากขนาดตัวรถแล้ว คนไทยที่กำลังมองหารถอาจจะสนใจระบบไฮบริดของคราวน์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ควรคิดถึงเวลาเลือกซื้อรถเหมือนกัน
Q
Toyota Crown ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่?
จำนวนผ่อนรายเดือนของ Toyota Crown ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นที่เลือก ระยะเวลาผ่อน เงินดาวน์ และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร ยกตัวอย่างรุ่นไฮบริด 2.5L ที่มีราคารถประมาณ 2 ล้านบาท หากวางเงินดาวน์ 30% และผ่อนนาน 5 ปี ภายใต้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของธนาคารชั้นนำที่ประมาณ 2.5%-3.5% จะมีค่างวดประมาณ 25,000-28,000 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ ในการซื้อรถยนต์ในไทยนอกจากราคารถและดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประกันภัยชั้นหนึ่งประมาณ 3% ของราคารถ, ค่าจดทะเบียนราว 1,000-2,000 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีกด้วย หากเลือกไฟแนนซ์ บางดีลเลอร์อาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% สำหรับปีแรก
ในระยะยาว รถยนต์ไฮบริดอย่าง Toyota Crown ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีบางส่วน และมีความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขกับรถระดับเดียวกัน เช่น Lexus ES หรือ Honda Accord Hybrid พร้อมทั้งตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยล่าสุดผ่านเว็บไซต์ของสมาคมธนาคารไทยก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MG ZS มีราคาตั้งแต่ 599,000 บาท เป็นตัวเลือกประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายสูงของผู้บริโภคไม่ซื้อรถไฟฟ้า
Kevin WongMay 15, 2024

SAIC เปิดสายการผลิต MG4 รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ! วิ่งไกลทะลุ 700 กม. ต่อชาร์จ
ธนวัฒน์Jul 14, 2025

MG เปิดตัว MPV ไฟฟ้าหรูรุ่นใหม่ “MAXUS 9 PLUS” ราคาเริ่ม 1.799 ล้านบาท!
ณัฐวุฒิJul 10, 2025

MG 5 2026 เปิดตัวในจีน ราคาเริ่ม 3.7 แสนบาท มีให้เลือกทั้งเครื่อง 1.5L และ 1.5T
สุรเดชJul 4, 2025

MG EP PLUS เหลือเพียง 469,900 บาท! อะไหล่พร้อมเปลี่ยน ไม่ต้องรอนาน
ณัฐวุฒิJun 20, 2025
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย