Q

คะแนนความปลอดภัยของ Nissan Navara 2020 คืออะไร?

รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2020 มีความแข็งแกร่งในด้านความปลอดภัย โดยได้คะแนนการทดสอบการชนจาก Global NCAP ระดับ 4 ดาวจากเต็ม 5 ดาว โดยเฉพาะในส่วนของการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ที่ได้คะแนนสูง ซึ่งตรงกับความต้องการด้านความปลอดภัยหลักของตลาดรถปิคอัพในไทย รุ่นนี้มีอุปกรณ์มาตรฐานพื้นฐานเช่น ถุงลมนิรภัยคู่ ระบบ ABS+EBD ระบบควบคุมความมั่นคงของรถ (ESC) ส่วนรุ่นระดับสูงยังเพิ่มฟังก์ชันช่วยบนทางลาดชันและระบบตรวจสอบความดันลมยาง เหมาะกับสภาพ地形ที่เป็นภูเขาและการขับขี่ระยะไกลในไทย สิ่งที่ควรสังเกตคือรุ่นไทยของ Navara ได้เสริมการป้องกันสนิมใต้ท้องรถและระบบระบายความร้อนให้เหมาะกับสภาพถนนในประเทศ แต่หากต้องการระบบความปลอดภัยเชิงรุกที่ครบครันมากขึ้น (เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติ ระบบรักษาช่องทางเดินรถ) อาจพิจารณารุ่นอื่นในระดับเดียวกัน แนะนำให้ผู้บริโภคไทยทดลองขับก่อนซื้อ และควรติดตามข้อมูลการเรียกคืนรถจากกรมการขนส่งทางบกด้วย เพราะบางรุ่นเคยมีการเรียกคืนจากปัญหาโมดูลไฟหน้า ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถที่เลือกได้ผ่านการซ่อมแซมแล้ว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
คะแนนความปลอดภัยของ Nissan Navara ปี 2021 คือเท่าไหร่?
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีผลการประเมินความปลอดภัยในระดับดีมาก จากผลทดสอบของ ASEAN NCAP ที่ให้คะแนนเต็ม 5 ดาว โดยคะแนนนี้มาจากการประเมินในหลายด้าน ทั้งการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ การปกป้องเด็ก รวมถึงระบบช่วยเหลือความปลอดภัย ส่วนตัวรถ Navara รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟมากมาย เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบควบคุมเสถียรภาพ VDC ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนสภาพซับซ้อนของไทยได้ดี แถมยังใช้โครงสร้างตัวถังเหล็กความแข็งแรงสูง ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยเวลเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย สำหรับคนไทยแล้ว Navara ถือว่าเหมาะมากกับคนที่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ หรือต้องใช้บนถนนชนบท อีกทั้งความทนทานและความเชื่อถือได้ก็เข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยได้ดี ถ้าอยากได้รถปิคอัพที่ความปลอดภัยสูงกว่านี้ ก็อาจจะมองตัวอื่นๆ อย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX ที่ก็ทำคะแนนได้ดีในทดสอบ ASEAN NCAP เช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องเลือกให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน
Q
ประหยัดนํา้มันของ Nissan Navara ปี 2021 เป็นอย่างไร
รุ่นต่างๆ ของ Nissan Navara ปี 2021 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกัน โดยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐานของทางโรงงานอยู่ที่ 6.5 - 8.1 ลิตร/100 กม. ตัวอย่างเช่น รุ่น King Cab 2.5 E 6MT มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐานที่ 6.5 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่น Double Cab 2.3 4WD VL 7AT มีอัตราสิ้นเปลืองที่ 8.1 ลิตร/100 กม. อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้น้ำมันจริงอาจแตกต่างจากข้อมูลของทางโรงงาน เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์การขับขี่ ถนนหนทาง หรือน้ำหนักบรรทุก สมมติถ้าคุณขับแบบเหยียบๆ เบรคๆ บ่อยๆ หรือติดอยู่ในรถติดนานๆ น้ำมันก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าขับด้วยความเร็วคงที่ ใช้แอร์อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
Q
Nissan Navara ปี 2021 ใช้เครื่องยนต์ประเภทไหน?
รถ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือก 2 แบบ คือแบบ 2.3 ลิตร และ 2.5 ลิตร สำหรับเครื่อง 2.3 ลิตรเป็นระบบเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ มีกำลังผลิตหลายระดับ ทั้งแบบ 160 แรงม้าและ 190 แรงม้า กำลังสูงสุดอยู่ที่ 118 กิโลวัตต์และ 140 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรและ 450 นิวตันเมตร ส่วนเครื่อง 2.5 ลิตรก็เป็น 4 สูบเหมือนกัน แต่ค่าสเปคจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น เครื่องยนต์เหล่านี้ให้กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแรง พอสำหรับทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการใช้งานหนักอย่างการบรรทุกหรือออฟโรด แถมเครื่องดีเซลยังประหยัดน้ำมันและให้แรงบิดสูง ซึ่งเหมาะกับรถปิคอัพที่ต้องลากจูงหรือบรรทุกของหนักเป็นประจำ
Q
รถ Nissan Navara ปี 2021 มี Apple CarPlay หรือไม่?
รถปิคอัพ Nissan Navara รุ่นปี 2021 ที่วางขายในตลาดไทยนั้นมาพร้อมกับฟังก์ชัน Apple CarPlay โดยเฉพาะในรุ่นท็อปอย่าง Pro-4X และ VL ที่ติดตั้งมาอยู่แล้วแบบมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับหน้าจอกลางรถเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การฟังเพลง หรือการโทร ได้อย่างสะดวกสบาย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ โดยฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์คนไทยโดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่ต้องเผชิญกับการจราจรติดขัด บวกกับการรองรับแผนที่ท้องถิ่นที่ช่วยให้การวางแผนเส้นทางมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม รุ่นย่อยบางรุ่นอาจต้องติดตั้งเพิ่มหรืออัปเกรดระบบความบันเทิงผ่านตัวแทนจำหน่ายก่อนจึงจะใช้ CarPlay ได้ นอกจาก Apple CarPlay แล้ว Navara 2021 ยังรองรับ Android Auto สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android อีกด้วย โดยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วของรถคันนี้ทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย และมีการออกแบบป้องกันแสงสะท้อนที่เหมาะกับสภาพแสงจ้าในเขตร้อน หากต้องการความสามารถด้านคอนเน็กต์ความบันเทิงที่มากขึ้น ลูกค้าสามารถสอบถามตัวแทนจำหน่าย Nissan ในไทยเกี่ยวกับบริการอัปเดตระบบล่าสุด โดยบางคันที่ผลิตหลังปี 2021 อาจได้รับฟังก์ชันเพิ่มเติมผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ สำหรับตลาดไทยแล้ว ผู้ใช้รถปิคอัปให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในรถ และ Navara ก็ตอบโจทย์นี้ได้ดีด้วยระบบสมาร์ทคอนเน็กต์ที่ปรับให้รองรับการแสดงผลภาษาไทยและแอปพลิเคชันท้องถิ่นบางตัว ทำให้ใช้งานได้อย่างคุ้นเคย
Q
รถ Nissan Navara ปี 2021 มีความน่าเชื่อถือหรือไม่?
Nissan Navara รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยแสดงความน่าเชื่อถือได้ค่อนข้างดี โดยระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร (190 แรงม้า) คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ผ่านการทดสอบมานาน เหมาะกับสภาพพื้นที่หลากหลายในไทย โดยเฉพาะภาคเหนือแบบภูเขาและภาคใต้แถบชายทะเล โหมดออฟโรดมาตรฐานและระบบล็อกเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้มีเสถียรภาพบนถนนโคลนในฤดูฝน จุดเด่นที่ผู้ใช้ในไทยพูดถึงบ่อยคือระบบขับเคลื่อนที่เสียยากและโครงสร้างช่วงล่างทนทาน แต่อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าเจ้าของรถบางรายรายงานว่าระบบปรับอากาศมีปัญหาการหน่วงเวลาทำความเย็นภายใต้อุณหภูมิที่สูงเกินไป ขอแนะนำให้ทำความสะอาดคอนเดนเซอร์เป็นประจำ ส่วนระบบช่วงล่างแบบ Double Wishbone ด้านหน้าและใบสปริงด้านหลังนั้นได้สมดุลระหว่างการบรรทุก (สูงสุด 1.1 ตัน) และความนุ่มสบาย เหมาะกับการขนส่งสินค้าเกษตรในไทย ที่น่าสนใจคือเครือข่ายอะไหล่ของ Navara ในไทยครอบคลุมดี โดยศูนย์บริการ Nissan ทั้งในกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ มีอะไหล่แท้พร้อมบริการ ซ่อมบำรุงรอไม่นาน เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน นโยบายประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรถือว่าแข่งขันได้ แต่แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเปลี่ยนฟิลเตอร์น้ำมันดีเซลทุก 20,000 กิโลเมตรเพื่อป้องกันปัญหาระบบคอมมอนเรลจากคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
Q
2021 Nissan Navara ราคาเท่าไหร่?
รถ Nissan Navara รุ่นปี 2021 มีหลายรุ่นให้เลือก ราคาเริ่มตั้งแต่ 599,000 บาท ไปจนถึง 1,149,000 บาท อย่างรุ่น Nissan Navara King Cab 2.5 S 6MT ราคา 599,000 บาท ส่วนรุ่น King Cab 2.5 SL 6MT ราคา 609,000 บาท และรุ่น King Cab 2.5 E 6MT ราคาอยู่ที่ 689,000 บาท ส่วนรุ่นโปรอย่าง Nissan Navara PRO-4X นั้นราคาสูงถึง 1,149,000 บาท แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์สมรรถนะและอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคา เช่น ความจุเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณที่มีได้
Q
Nissan Navara 2020 เป็นรถ 4x4 หรือไม่?
ใช่แล้วครับ สำหรับ Nissan Navara 2020 ในตลาดไทยมีการเปิดตัวรุ่น 4x4 ด้วย โดยเจ้ารุ่นนี้มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับได้ตามสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นโหมดขับสองล้อ (2H) โหมดขับสี่ล้อความเร็วสูง (4H) หรือโหมดขับสี่ล้อความเร็วต่ำ (4L) ซึ่งตอบโจทย์สภาพเส้นทางหลากหลายในไทยได้ดี ไม่ว่าจะเป็นถนนภูเขาทางเหนือหรือเส้นทางลุยโคลนช่วงฤดูฝน รุ่น 4x4 ของ Navara 2020 นี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร ที่ให้แรงบิดต่ำสูง พ่วงกับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ทำให้ทั้งลุยได้สะดวกและขับสบายในชีวิตประจำวัน สำหรับคนไทยแล้ว รถปิคอัพไม่ใช่แค่รถใช้งานแต่ยังเป็นรถครอบครัวด้วยครับ และ Navara รุ่น 4x4 ก็เป็นที่นิยมเพราะความทนทาน ความสูงของช่วงล่างที่มากพอ และระบบช่วงหลังแบบ Multi-Link Spring ที่แข็งแรง ทนทาน นอกจากนี้เวลาคนไทยเลือกรถรุ่น 4x4 ก็มักจะดูเรื่องความสามารถในการบรรทุก ประหยัดน้ำมัน และความสะดวกในการบริการหลังการขาย ซึ่ง Navara ก็ทำได้ดีทุกด้าน แถมยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายของนิสสันในไทยที่ครอบคลุม ทำให้เจ้านี้ค่อนข้างแข่งขันได้ในตลาดครับ
Q
2020 Nissan Navara สามารถลากจูงได้มากแค่ไหน
รถยนต์ Nissan Navara รุ่นปี 2020 ในประเทศไทยมีความสามารถในการลากจูงที่แตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร สามารถลากจูงได้สูงสุดถึง 3.5 ตัน เหมาะสำหรับการลากรถบ้าน เรือยอชต์ขนาดเล็ก หรืออุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการทั้งการขนส่งและการพักผ่อนของคนไทยได้เป็นอย่างดี เมื่อต้องใช้งานในสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์และระบบระบายความร้อนเป็นประจำ พร้อมทั้งต้องมั่นใจว่าตัวรถที่ถูกลากจูงมีระบบเบรกแยกต่างหากเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น ข้อควรระวังคือ กฎหมายไทยกำหนดให้รถที่ลากจูงพ่วงที่มีน้ำหนักเกิน 1.5 ตัน ต้องมีใบขับขี่พิเศษ และความยาวรวมของรถพ่วงต้องไม่เกิน 18 เมตร เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Mitsubishi Triton ที่มีความสามารถลากจูงอยู่ที่ 3-3.5 ตัน เช่นกัน แต่ Navara โดดเด่นด้วยโครงสร้างแบบขั้นบันไดและเทคโนโลยีไฮดรอลิกฟอร์มมิ่งที่ให้ความแข็งแรงในการรับแรงบิดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้งานบนถนนลูกรังในชนบทของไทย นอกจากนี้ในการลากจูงจริง ต้องระวังไม่ให้น้ำหนักรวมของรถเกินค่าที่ระบุในทะเบียนรถ แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ลากจูงและปรับตั้งระบบ ECU ที่ศูนย์บริการ Nissan ในกรุงเทพฯหรือเชียงใหม่เพื่อความเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

ข้อดี

เครื่องยนต์และส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องน่าเชื่อถือ
นั่งอยู่ที่ดูดีและมีความรู้สึกรักซิ่ง ได้รับการแต่งตัวด้วยชุดพิเศษ เจ้าของรถ, แกนหน้า, กระจกส่องหลังและบันไดข้างมีสติกเกอร์สีส้มทำให้เด่นขึ้น
ขอบล้อใหญ่ช่วยในการขับขี่ ทำให้รถสกปรกน้อยลง
ที่นั่งสบาย ใช้ที่นั่งสีดำสร้างความเหมาะสมกับเส้นปักสีส้ม ออกแบบที่เข้ากับรูปร่างบริการรับภาระที่ดีนุ่มนวลและสบาย
มีการตั้งค่าเทคโนโลยีอย่างมาก เช่น กระจกมองหลังอัตโนมัติ กล้องทัศนียภาพรอบทิศทาง สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับการควบคุมด้วยเสียงอัจฉริยะ
การแสดงของชั้นล่างทำได้ดี สตาร์ทอย่างมีพลัง การเปลี่ยนแถวและหักมุมตอบสนองที่ดี

ข้อเสีย

การออกแบบภายในรถดูมักจะร้อน
ความเสถียรขณะขับรถด้วยความเร็วสูงไม่ดีพอ
ไม่มีด้ามประตูเพื่อช่วยเข้ารถ การขึ้นรถนั้นค่อนข้างยาก
การปรับเปลี่ยนเบาะเป็นแบบธรรมดา
กำหนดการหลายรายการไม่โดดเด่น เช่น การปรับเบาะเป็นแบบธรรมดา ไม่มีสวิทซ์ปรับอากาศหลัง ไม่มีพอร์ตชาร์จ USB ฯลฯ
ไม่มีก้านเปลี่ยนเกียร์ ซึ่งทำให้ความสนุกในการขับขี่น้อยลง
ไม่มีถุงลมด้านข้างและถุงลมแบบม่าน

Q&A ล่าสุด

Q
2024 Camry สบายไหม
รถโตโยต้า คัมรี่ รุ่นปี 2024 ออกแบบมาเพื่อความสบายเป็นพิเศษ เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและถนนสภาพ复杂ของประเทศไทย เก้าอี้ทำจากวัสดุระบายอากาศ พร้อมระบบปรับไฟฟ้าหลายทิศทาง แม้นั่งขับนานๆก็ยังรู้สึกสบาย ระบบช่วงล่างถูกปรับให้นุ่มเป็นพิเศษ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากถนนขรุขระที่พบได้บ่อยในไทย ส่วนด้านหลังมีพื้นที่กว้างขวาง ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทย ระบบแอร์เย็นฉับ且标配ช่องลมด้านหลัง ควบคุมเสียงรบกวนได้ดีขึ้นด้วยวัสดุดูดซับเสียง ทำให้ขับบนทางดูลดเสียงรบกวนลงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังปรับระบบช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลแม้อยู่ในรถนานๆ ที่สำคัญยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนไทย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับทางไกลได้ดี โดยรวมแล้วคัมรี่ 2024 อัพเกรดทั้งระบบเพื่อความสบายแบบครบวงจร ถือเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมในตลาดรถยนต์ระดับกลางถึงสูงของประเทศไทย
Q
2024 Toyota Camry เร็วแค่ไหน?
รุ่นปี 2024 ของ Toyota Camry ที่ขายในประเทศไทยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 210 กม./ชม. แต่ความสามารถจริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นระบบ 2.5 ลิตร 4 สูบแบบธรรมดาหรือระบบไฮบริด 2.5 ลิตร ซึ่งทั้งสองแบบได้รับความนิยมในตลาดไทย โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ นอกจากเรื่องความเร็วแล้ว คนไทยที่สนใจรถรุ่นนี้ยังควรดูระบบ Toyota Safety Sense ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดซึ่งมีสภาพถนนค่อนข้างซับซ้อน อีกจุดสำคัญคือระบบระบายความร้อนของ Camry ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีในสภาพอากาศร้อนของไทย อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่ากฎหมายไทยกำหนดความเร็วสูงสุดบนถนนส่วนใหญ่ไว้ไม่เกิน 120 กม./ชม. ดังนั้นความเร็วสูงสุดของรถจึงเป็นเหมือนตัวบอกศักยภาพมากกว่าสิ่งที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อยระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง Camry ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะมีความสมดุลทั้งในด้านสมรรถนะและความน่าเชื่อถือ
Q
วิธีเริ่มต้นใช้งาน Toyota Camry ปี 2024
การใช้งาน Toyota Camry 2024 นั้นง่ายมากๆครับ ขั้นแรกให้แน่ใจว่ากุญแจอยู่ในรถหรือถือกุญแจอัจฉริยะอยู่ใกล้ๆรถ จากนั้นเหยียบแป้นเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทที่อยู่แถบคอนโซลกลางเพื่อติดเครื่องยนต์ สำหรับรุ่นไฮบริด ระบบจะทำการเช็คตัวเองก่อนแล้วจึงสตาร์ทมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำว่าเมื่อติดเครื่องแล้วควรรอสักครู่ให้ระบบหล่อลื่นทำงานเต็มที่ พร้อมเปิดแอร์โหมดอัตโนมัติเพื่อลดความร้อนในรถเร็วๆ ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ของ Camry นั้นทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนจัดของที่นี่ ข้อควรระวังคือระบบกุญแจอัจฉริยะของรุ่นนี้แม้จะใช้งานได้เสถียรในสภาพอากาศชื้นของไทย แต่ควรตรวจสอบแบตเตอรี่กุญแจเป็นประจำ หากหน้าปัดแสดงข้อความเตือนว่าแบตเตอรี่กุญแจอ่อน สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ CR2032 ได้ด้วยตัวเอง สำหรับกรณีที่จอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน แนะนำให้สตาร์ทรถสัปดาห์ละครั้งเพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ ส่วนลูกค้าในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบระบายอากาศด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ของทางศูนย์ ซึ่งจะช่วยปรับอุณหภูมิในรถขณะจอดได้ นอกจากนี้ฟังก์ชัน Remote Start ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือยังช่วยให้คุณสามารถเปิดแอร์ล่วงหน้าได้ โดยเฉพาะเมื่อจอดรถในที่จอดรถกลางแจ้งตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งฟังก์ชันนี้ใช้งานได้สะดวกมากๆในเมืองร้อนๆอย่างกรุงเทพฯครับ
Q
2024 Toyota Camry สามารถวิ่งได้กี่ไมล์เมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง
รุ่น Toyota Camry 2024 ในสภาพเชื้อเพลิงเต็มถังจะสามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพการขับขี่ โดยถ้าเป็นรุ่น Hybrid 2.5 ลิตรที่นิยมในประเทศไทย ถังน้ำมันมีความจุประมาณ 50 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 4.5 ลิตร/100 กิโลเมตร ทฤษฎีแล้วเชื้อเพลิงเต็มถังจะวิ่งได้ประมาณ 1,100 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริงระยะทางจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศร้อนของไทย การขับขี่ในเมืองกรุงเทพฯที่ต้องเร่งและหยุดบ่อย หรือการขับบนทางหลวง ส่วนระบบ Hybrid จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากในสภาพการจราจรติดขัดด้วยการเก็บพลังงานไฟฟ้ากลับมาใช้ใหม่ ในขณะที่รุ่นเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป (เช่นรุ่น 2.0 ลิตร) จะวิ่งได้น้อยกว่าประมาณ 800-900 กิโลเมตร ควรดูแลรักษาตัวกรองอากาศและลมยางอย่างสม่ำเสมอเพราะมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และในประเทศไทยมีน้ำมันทั้งแบบ 91/95 และ E20 ควรเลือกใช้ตามคู่มือเพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ก่อนเดินทางไกลสามารถตรวจสอบระยะทางโดยประมาณผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในรถได้
Q
2025 Camry ใหญ่กว่า 2024 ไหม
รุ่นปี 2025 ของ Toyota Camry เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2024 มีการปรับขนาดตัวถังเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่เป็นการอัปเกรดในด้านดีไซน์และเทคโนโลยี รุ่นปี 2025 ใช้ภาษาการออกแบบล่าสุดของโตโยต้า หน้าตาและท้ายรถดูสปอร์ตมากขึ้น แถมยังใช้วัสดุภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เช่น จอแสดงผลกลางที่ใหญ่ขึ้นและรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้มากขึ้น สำหรับผู้บริโภคไทย ทั้งสองรุ่นให้พื้นที่ใช้งานในระดับที่ตอบโจทย์ครอบครัวได้ดี โดยเฉพาะในเมืองไทยที่ถนนหนทางค่อนข้างติดขัด ขนาดที่คล่องตัวและความสบายในการขับขี่ของ Camry ยังคงเป็นจุดแข็ง นอกจากนี้ โตโยต้ายังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและอะไหล่พร้อมจำหน่ายในไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยเลือก Camry ถ้าคุณให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและดีไซน์ล่าสุด รุ่นปี 2025 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากประหยัดงบ รุ่นปี 2024 ก็ยังคุ้มค่า ทั้งสองรุ่นยังคง保持了ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันและความน่าเชื่อถือแบบมาตรฐานของโตโยต้า เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม