Q

Yangwang U8 มีความเร็วเท่าไหร่

หยางหวัง U8 มีความเร็วสูงสุดจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 36 วินาที ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมมากสำหรับรถ SUV ออฟโรดขนาดใหญ่ระดับหรูที่มีน้ำหนักเกือบ 36 ตัน รถรุ่นนี้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระ 4 ตัว รวมเป็นระบบขับเคลื่อน E4 ให้กำลังรวมสูงสุด 880 กิโลวัตต์ หรือราว 1200 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 1280 นิวตันเมตร รองรับทั้งการขับขี่บนถนนและการลุยทางหินแบบสุดขีด เมื่อเทียบกับ SUV หรูเครื่องยนต์สันดาป เช่น Mercedes-Benz G-Class 40T ที่เร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 59 วินาที หรือรุ่นไฮบริด หยางหวัง U8 โดดเด่นด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ที่ตอบสนองทันที อีกทั้งโครงสร้างไฟฟ้าล้วนยังช่วยให้การขับที่ความเร็วสูงเงียบและราบรื่น สำหรับตลาดไทย สมรรถนะระดับนี้เกินพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ผู้ใช้ควรระวังขนาดตัวถังที่ใหญ่ อาจจำกัดความคล่องตัวในถนนเมืองที่แคบ และหากขับขี่แบบเร่งรุนแรงอาจส่งผลต่อระยะทางที่วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนซึ่งอยู่ที่ 180 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC หากมีแผนเดินทางไกลแนะนำใช้โหมดไฮบริดเพื่อเพิ่มระยะทางรวมที่สามารถวิ่งได้ถึง 1000 กิโลเมตรเมื่อเติมน้ำมันและชาร์จเต็ม
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
BYD Yangwang U8 ใช้แบตเตอรี่ประเภทอะไร
BYD หยางหวัง U8 ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟตขนาด 4905 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลายด้านและช่วยเสริมสมรรถนะของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 180 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 20 เทอร์โบและถังน้ำมันขนาด 75 ลิตร จะได้ระยะทางรวมสูงสุดถึง 1000 กิโลเมตร รองรับทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล ด้านการชาร์จแบบเร็ว DC จาก 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาเพียง 18 นาที ลดระยะเวลารอคอยอย่างมีนัยสำคัญ แบตเตอรี่ชนิดนี้ยังมีความปลอดภัยและเสถียรภาพสูง เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ร่วมกับระบบขับเคลื่อน E4 และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่
Q
u8 มีขนาดเท่าไหร่?
BYD Yangwang U8 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าระดับหรูขนาดเต็ม มาพร้อมขนาดตัวถังยาว 5319 มิลลิเมตร กว้าง 2050 มิลลิเมตร สูง 1930 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3050 มิลลิเมตร มอบพื้นที่ภายในกว้างขวาง เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวระดับพรีเมียมหรือการใช้งานเชิงธุรกิจ ตัวรถใช้ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระทั้ง 4 ล้อ อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที รองรับระยะทางวิ่งไฟฟ้าล้วนตามมาตรฐาน CLTC กว่า 1000 กิโลเมตร มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบหมุนกลับตัวในที่แคบด้วยการบังคับล้อแยก และโหมดฉุกเฉินลอยน้ำเพื่อฝ่าทางน้ำลึก ในตลาดประเทศไทย กลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าระดับหรูยังคงถูกครองโดย Mercedes-Benz EQS SUV และ Tesla Model X หาก Yangwang U8 เปิดตัวในไทยในอนาคต คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่โดดเด่นในด้านสมรรถนะและความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี
Q
Yangwang U8 ทำงานอย่างไร
Yangwang U8 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์จากจีนภายใต้แบรนด์ BYD มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริด PHEV ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ล้อและระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ มอบสมรรถนะและความสามารถในการลุยทางวิบากได้อย่างยอดเยี่ยม ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 20 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่แยกขับแต่ละล้อ ให้กำลังรวมกว่า 1100 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 39 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 180 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC รองรับการชาร์จเร็วและการจ่ายไฟออกภายนอก ใช้ระบบขับเคลื่อน E⁴ หรือ DMO ที่ควบคุมมอเตอร์แยกแต่ละล้ออย่างแม่นยำ ทำให้สามารถหมุนกลับทิศในที่แคบและลุยน้ำได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IP68 พร้อมช่วงล่างอัจฉริยะแบบไฮดรอลิก Cloud-P ที่ปรับระดับความสูงและแรงหน่วงได้ตามสภาพถนน ช่วยให้การขับขี่ทั้งทางเรียบและทางวิบากเป็นไปอย่างมั่นใจและสะดวกสบาย
Q
Yangwang U8 เป็นแก๊สหรือไฟฟ้า
Yangwang U8 เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานข้อดีของเครื่องยนต์น้ำมันและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเข้าด้วยกัน ระบบขับเคลื่อนลักษณะนี้ช่วยให้รถมีพลังแรงขับที่สูงพร้อมทั้งประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ รถปลั๊กอินไฮบริดสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนในระยะทางสั้นๆ ในชีวิตประจำวัน โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ลดการพึ่งพาน้ำมันและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพร้อมลดมลพิษ แต่หากเดินทางไกลหรือแบตเตอรี่ใกล้หมด เครื่องยนต์น้ำมันจะเข้าทำงานเพื่อเสริมพลัง ช่วยขจัดความกังวลเรื่องระยะทางขับเคลื่อนของรถไฟฟ้าล้วน การผสมผสานสองแหล่งพลังงานอย่างลงตัวทำให้การใช้งาน Yangwang U8 สะดวกและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
Q
BYD Yangwang U8 มีระยะทางเฉลี่ยเท่าไหร่
BYD Yangwang U8 รุ่น Luxury มีระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนสูงสุด 180 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และระยะทางวิ่งรวมสูงสุด 1000 กิโลเมตร CLTC หรือ China Light-duty Vehicle Test Cycle เป็นมาตรฐานการทดสอบที่จำลองการขับขี่บนถนนจริงเพื่อประเมินการใช้พลังงานและระยะทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น การทราบระยะทางวิ่งของรถเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ผู้ขับวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและรู้ว่าควรชาร์จเมื่อใด อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน น้ำหนักบรรทุก และการใช้ระบบไฟฟ้าภายในรถ ล้วนส่งผลต่อระยะทางวิ่งจริง เช่น การขับขี่แบบเร่งแรง การหยุดและออกตัวบ่อย หรือการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่าง อาจทำให้ระยะทางวิ่งจริงน้อยกว่าค่าที่ประกาศไว้
Q
Yangwang U8 มีการรับประกันตลอดชีวิตอย่างไร
ยางหวัง U8 ให้แพ็กเกจประกันที่ครอบคลุม โดยให้ประกันรถยนต์แบบขยายระยะเวลา 6 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรสำหรับรถทั้งคัน สำหรับเจ้าของคนแรก ระบบสามไฟฟ้า (แบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์) ได้รับการประกันตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าหากเกิดข้อบกพร่องหรือขัดข้องในส่วนประกอบหลักเหล่านี้ระหว่างการใช้งานปกติ ผู้ผลิตจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้ เจ้าของรถยังสามารถรับบริการบำรุงรักษาฟรีเป็นระยะเวลา 8 ปีหรือ 15 ครั้ง เพื่อให้รถอยู่ในสภาพดีและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในระยะยาว พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรีเป็นเวลา 8 ปี เพื่อความอุ่นใจระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น บริการรับ-ส่งรถฟรีเพื่อการบำรุงรักษา การติดตั้งสถานีชาร์จฟรี (สำหรับเจ้าของคนแรก) และข้อมูลเครือข่ายรถยนต์ 5G ฟรีเป็นเวลา 10 ปี มาตรการเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของยางหวังในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและความมั่นใจในคุณภาพของ U8
Q
Yangwang U8 มีแรงม้าเท่าไหร่
รถยนต์ Yangwang U8 มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 1196 แรงม้า รวมกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 1197 แรงม้า กำลังสูงสุดรวมอยู่ที่ 880 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 1280 นิวตันเมตร ด้วยพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลังนี้ ทำให้ Yangwang U8 มีสมรรถนะโดดเด่น อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รุ่น Luxury ใช้เวลาเพียง 36 วินาที รุ่น Off-road Player ใช้เวลา 39 วินาที ถือว่าโดดเด่นในกลุ่ม SUV ขนาดใหญ่ กำลังที่แข็งแกร่งช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจทั้งในเมือง ขณะเร่งแซง หรือเผชิญเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย
Q
U8 มีขีดจำกัดเป็นอย่างไร
U8 อาจมีข้อจำกัดบางประการ ประการแรกคือจุดบอดสายตา การออกแบบเสา A และกระจกมองข้างก่อให้เกิดจุดบอดขนาดใหญ่ ส่งผลต่อการมองเห็นสภาพการจราจรรอบด้าน โดยเฉพาะขณะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน ซึ่งอาจกระทบต่อความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่ ประการต่อมาคือด้านการออกแบบ ผู้ใช้บางรายมองว่ารายละเอียดบางจุด เช่น สัญลักษณ์ภายนอกและช่องแอร์ภายใน มีความแหวกแนว ไม่สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ อีกทั้งด้วยราคาจำหน่ายระดับหลายล้านบาท เมื่อเทียบกับรถทั่วไป อาจทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากลังเล ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายจำกัดเฉพาะผู้ที่มีงบประมาณสูง
Q
Yangwang U8 มันเป็นรถหรือไฮบริดหรือไม่
Yangwang U8 เป็นรถยนต์ไฮบริดแบบเพิ่มระยะทางหรือเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเครื่องยนต์ช่วยชาร์จแบตเตอรี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ตัวรถติดตั้งระบบขยายระยะทางซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว กำลังรวม 880 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าตามมาตรฐาน CLTC อยู่ที่ 120 กิโลเมตร และระยะทางรวมสูงสุด 780 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนแบบนี้ช่วยให้รถมีสมรรถนะและความเงียบแบบรถไฟฟ้า พร้อมทั้งลดความกังวลเรื่องระยะทางด้วยเครื่องยนต์ที่ช่วยชาร์จ จึงเหมาะทั้งสำหรับการขับขี่ในเมืองแบบไฟฟ้าล้วนและการเดินทางไกลที่ต้องการความต่อเนื่อง
Q
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการชาร์จ Yangwang U8
Yangwang U8 รองรับการชาร์จเร็วแบบกระแสตรงสูงสุด 110 กิโลวัตต์ โดยสามารถชาร์จจาก 30 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ได้ภายในเวลาเพียง 18 นาทีในกรณีเร่งด่วน ส่วนการชาร์จแบบธรรมดาจะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง ครอบคลุมช่วงแบตเตอรี่ตั้งแต่ 15 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ระยะเวลาชาร์จจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกำลังของอุปกรณ์ชาร์จ ระดับพลังงานคงเหลือของแบตเตอรี่ และสภาพของแบตเตอรี่เอง หากใช้อุปกรณ์ที่มีกำลังต่ำกว่าหรือแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนานแล้ว ระยะเวลาชาร์จจะเพิ่มขึ้น การเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวางแผนการเดินทางและการชาร์จได้สะดวกยิ่งขึ้น

ข้อดี

การออกแบบที่น่าทึ่งรวมเทคโนโลยีสมัยใหม่กับสไตล์ที่แข็งแรง
ห้องในรถกว้างขวางเพื่อการใช้งานครอบครัวหรือธุรกิจอย่างสบายดี
กำลังขับเคลื่อนที่แข็งแรงนำมาซึ่งการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็วและการขับรถที่ราบรื่น
ระยะทางการขับได้ที่ดีเพียงพอต่อการเดินทางประจำวันและการเดินทางระยะไกล
ห้องในรถหรูหราโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงและที่นั่งให้ความสบาย
คุณสมบัติปัญญาประกอบขั้นสูงเพิ่มประสบการณ์การขับรถ

ข้อเสีย

ฟีเจอร์เทคโนโลยีล้ำบางอย่างอาจใช้งานจริงได้ไม่สะดวกเท่าที่คาด
ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถมีข้อบกพร่องด้านการใช้งาน และตอบสนองช้า
ราคาสูง อาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม
ขนาดตัวรถใหญ่ ทำให้ขับหรือจอดในพื้นที่แคบได้ยาก
การเก็บแรงสั่นสะเทือนตอนขับความเร็วต่ำยังทำได้ไม่ดีนัก
ความจุถังน้ำมันอาจไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล

Q&A ล่าสุด

Q
รถ Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถยนต์เชิงพาณิชย์หรือไม่
Volkswagen Transporter Shuttle ในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์เนื่องจากลักษณะการออกแบบและการใช้งานเป็นหลัก ตัวถังแบบตู้พร้อมที่นั่ง 7 ถึง 9 ที่นั่งเหมาะสำหรับการใช้งานเชิงธุรกิจ เช่น รับส่งพนักงานหรือรถเช่าเหมาท่องเที่ยว เมื่อนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกจะต้องติดป้ายทะเบียนพื้นเหลืองและอยู่ภายใต้ข้อบังคับการตรวจสภาพตามรอบสำหรับรถพาณิชย์ อย่างไรก็ตามการจัดประเภทในไทยยังพิจารณาจากจำนวนที่นั่งและวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่นรุ่น Multivan ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันแต่มีจำนวนเบาะน้อยกว่าจะถูกจัดเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและใช้ป้ายทะเบียนพื้นขาว ผู้บริโภคไทยควรให้ความสำคัญกับประเภทการจดทะเบียนเนื่องจากส่งผลต่อภาษีและค่าใช้จ่าย เช่น รถพาณิชย์สามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แต่ต้องตรวจสภาพทุกสองปี ส่วนรถใช้ส่วนตัวแม้ไม่สามารถขอคืนภาษีได้แต่จะเสียภาษีและค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนในอัตราที่สูงกว่า รถในกลุ่มเดียวกันที่พบได้บ่อยในไทยยังมี Toyota Hiace Commuter และ Mercedes-Benz V-Class ซึ่งมีจุดเด่นต่างกันในด้านการจัดวางภายในและขุมพลัง แนะนำให้พิจารณารายละเอียดอย่างความยืดหยุ่นของเบาะแถวหลัง ระบบปรับอากาศ และความเหมาะสมกับการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจ
Q
VW Transporter shuttle คืออะไร
Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถตู้เอนกประสงค์ที่พัฒนาบนพื้นฐานของรถตู้ตระกูล T ของ Volkswagen โดยมุ่งเน้นตลาดการเดินทางแบบกลุ่มและการรับรองลูกค้าเชิงธุรกิจ เหมาะอย่างยิ่งกับประเทศเขตร้อนอย่างไทยในการใช้งานเป็นรถรับส่งสนามบินหรือรถเช่าเหมาท่องเที่ยว มีตัวเลือกที่นั่งแบบ 9 หรือ 11 ที่นั่ง ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI พร้อมพื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวางและประตูสไลด์ด้านข้าง เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือกิจกรรมองค์กรภายในประเทศไทย จุดเด่นคือมีรุ่นหลังคาสูงจำหน่ายในไทยรองรับผู้โดยสารรูปร่างสูงได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งระบบปรับอากาศยังถูกปรับจูนให้เหมาะกับภูมิอากาศร้อนโดยเฉพาะ รุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันอย่าง Multivan จะเน้นความหรูหราและภาพลักษณ์ธุรกิจในขณะที่ Transporter Shuttle เน้นความคุ้มค่าและการใช้งานจริง ความแตกต่างนี้ทำให้รถตู้เชิงพาณิชย์ของ Volkswagen สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มในตลาดไทย ด้วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตดีในไทย รถรุ่นนี้จึงพบได้บ่อยในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตและพัทยาโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการเช่ารถที่เลือกใช้เป็นรถบริการหลัก
Q
รถตู้ VW Transporter ยาวเท่าไหร่
รถยนต์大众 Transporter Shuttle รุ่นมาตรฐานที่มีระยะฐานล้อปกติมีความยาวตัวรถ 5,304 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,400 มิลลิเมตร ขนาดนี้ถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานบนถนนในเมืองและลานจอดรถในประเทศไทยเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะให้พื้นที่ภายในกว้างขวางพอสำหรับผู้โดยสาร 9 ที่นั่งแล้ว ยังไม่ยาวเกินไปจนทำให้การขับขี่ขาดความคล่องตัว ในตลาดไทย Transporter Shuttle ได้รับความนิยมในฐานะรถรับส่งของโรงแรมหรือรถเช่าท่องเที่ยว เนื่องจากมีความทนทานและใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะรุ่นหลังคาสูงที่สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ของนักท่องเที่ยวไทยได้อย่างสบายๆ จุดที่น่าสนใจคือเวลาชาวไทยเลือกซื้อรถประเภทนี้ มักจะให้ความสำคัญกับความสูงจากพื้นรถด้วย เพราะ Transporter Shuttle มีความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 190 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะกับสภาพถนนบางสายในชนบทของไทย นอกจากนี้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 TDI ยังผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้งานได้เสถียรในสภาพอากาศร้อนของไทย และค่าบำรุงรักษาก็อยู่ในระดับสมเหตุสมผล นี่คือจุดเด่นที่เจ้าของรถเชิงพาณิชย์ในไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
Q
รถ Volkswagen Transporter Shuttle มีที่นั่งกี่ที่
Volkswagen Transporter Shuttle เป็นรถตู้เอนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและการท่องเที่ยว รุ่นมาตรฐานมาพร้อมที่นั่ง 9 ที่นั่งในรูปแบบ 2+2+2+3 และบางรุ่นมีตัวเลือก 11 ที่นั่งเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ที่หลากหลาย การออกแบบเบาะนั่งแบบโมดูล่าร์เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นรถเช่าเหมาเพื่อการท่องเที่ยวหรือรถรับส่งพนักงานในองค์กร จุดเด่นคือในไทย Transporter มักถูกนำไปดัดแปลงเป็นรถแคมป์หรูแต่รุ่น Shuttle จากโรงงานจะเน้นการใช้งานจริงโดยใช้ระบบช่วงล่างหลังแบบแหนบเหล็กเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี ผู้บริโภคไทยควรทราบว่า Transporter Shuttle มีจุดยืนต่างจากรุ่น Multivan ซึ่งเน้นความหรูหราและใช้ช่วงล่างหลังแบบอิสระ ในขณะที่ Shuttle เน้นความคุ้มค่าและความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้งาน มักพบเห็นได้บ่อยในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพฯ โดยใช้เป็นรถรับส่งสนามบินหรือรถโรงแรม แนะนำให้ตรวจสอบปีรุ่นและรายละเอียดอุปกรณ์ให้ชัดเจนก่อนซื้อเนื่องจากบางรุ่นหลังปี 2020 มีการปรับช่วงการเลื่อนเบาะแถวสองซึ่งอาจมีผลต่อความสะดวกในการขนสัมภาระขนาดใหญ่สำหรับผู้ใช้งานในไทย
Q
แอสตัน มาร์ติน V8 Vantage เป็นรถที่ดีหรือไม่
แอสตัน มาร์ติน V8 Vantage คือสุดยอดรถสปอร์ตหรูที่มาพร้อมสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 503 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที แสดงศักยภาพด้านความแรงได้อย่างน่าประทับใจ ไม่เพียงเท่านั้น การออกแบบสุดคลาสสิกแบบอังกฤษผสานงานฝีมือระดับมาสเตอร์พีซยังทำให้มันกลายเป็นรถในฝันของนักเลงรถหลายคน สำหรับในไทย V8 Vantage ถือว่ามีสมรรถนะการขับขี่และการปรับตัวได้ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะระบบช่วงล่างที่ถูกตั้งค่าให้รับมือกับสภาพถนนซับซ้อนในกรุงเทพฯ ได้อย่างมั่นใจ แถมความต้องการรถหรูในไทยที่สูงยังทำให้ดีไซน์เฉพาะตัวและแบรนด์มูลค่าสูงของ V8 Vantage ดึงดูดผู้ซื้อได้ไม่น้อย แอสตัน มาร์ตินยังมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย พร้อมให้บริการหลังการขายและดูแลรักษาอย่างครบวงจร มั่นใจได้ว่าคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม สำหรับคนไทยที่หลงใหลรถสปอร์ตสมรรถนะสูง V8 Vantage ไม่ใช่แค่ให้ความสนุกในการขับเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวบอกระดับความชิคของผู้เป็นเจ้าของได้ดีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าราคารถและค่าดูแลรักษาที่ค่อนข้างสูงอาจเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณพอสมควรเท่านั้น ถ้าสนใจรถสปอร์ตหรูระดับนี้ ลองมองหาตัวเลือกอื่นในคลาสเดียวกันดูก็ได้ เช่น พอร์เช่ 911 หรือ เมอร์เซเดส-AMG GT ที่แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป เลือกให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณจะดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม