Q
ขนาดล้อของ Honda Civic คือเท่าไหร่?
ขนาดยางของ Honda Civic จะแตกต่างกันไปตามรุ่น เช่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ 2024 และ Honda Civic e:HEV EL+ 2024 ใช้ยางขนาด 215/50 R17 ทั้งล้อหน้าและหลัง ส่วนรุ่น Honda Civic e:HEV RS 2024 ใช้ขนาด 235/40 ZR18 ทั้งหน้าและหลัง
สำหรับรุ่นปี 2022 อย่าง Honda Civic EL และ EL+ ใช้ยางขนาด 215/55 R16 ขณะที่รุ่น e:HEV EL+ ใช้ขนาด 215/50 R17 และรุ่น e:HEV RS หรือ Civic RS ใช้ขนาด 235/40 ZR18 ที่ล้อหน้า และ 215/50 R17 ที่ล้อหลัง
ตัวเลขและตัวอักษรในขนาดยางมีความหมาย เช่น “215” คือความกว้างของยาง 215 มิลลิเมตร “55” หรือ “50” คืออัตราส่วนความสูงของแก้มยาง “R” หมายถึงยางเรเดียล และ “16” “17” “18” คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ (ล้อแม็ก) ซึ่งขนาดยางที่ต่างกันจะมีผลต่อการควบคุมรถ ความนุ่มนวล และรูปลักษณ์ของรถ.
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Honda Civic มีอะไรบ้าง?
Honda Civic เป็นรถที่ได้รับความนิยมสูง และโดยรวมถือว่าทำผลงานได้ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางจุดที่สามารถปรับปรุงได้บ้าง โดยเฉพาะระยะห่างจากพื้นถนนที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับรถซีดานในระดับเดียวกัน ทำให้เวลาใช้บนถนนต่างจังหวัดหรือถนนที่มีน้ำขังในหน้าฝนอาจต้องขับด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
เรื่องเสียงภายในห้องโดยสาร ขณะขับที่ความเร็วสูงยังมีเสียงรบกวนเข้ามาอยู่บ้าง โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์ในรอบสูง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกล้าเล็กน้อยเมื่อขับในสภาพอากาศร้อนนาน ๆ ทั้งนี้ก็เป็นผลจากดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ตของตัวรถ
อีกจุดที่มีผู้ใช้บางรายสะท้อนคือ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร อาจมีจังหวะที่ตอบสนองช้าลงเล็กน้อยในสภาพอากาศร้อนจัดอย่างในไทย
นอกจากนี้ แม้ออกแบบภายในจะดูทันสมัย แต่บางส่วนยังใช้วัสดุพลาสติกแข็งที่สัมผัสไม่เนียนเท่าที่ควร และเมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน อาจมีเสียงยืดหดของชิ้นส่วนบ้าง
ทั้งหมดนี้เป็นข้อสังเกตจากการใช้งานจริง ไม่ใช่ข้อบกพร่องของตัวรถโดยตรง โดยรวมแล้ว Honda Civic ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองของไทยเป็นอย่างดี.
Q
Honda Civic อยู่ใน Segment ไหน?
Honda Civic จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ระดับ C-Segment หรือที่เรียกว่ารถขนาดคอมแพ็ค ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดกลาง เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการใช้งานของครอบครัว
รถในกลุ่ม C-Segment มักมีข้อดีเรื่องความประหยัดน้ำมัน ขับง่าย จอดสะดวก และมีพื้นที่ภายในที่นั่งสบายพอสมควร สำหรับ Honda Civic เองก็ได้รับความนิยมในตลาด ด้วยตัวเลือกขุมพลังที่หลากหลาย ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาและรุ่นไฮบริด รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน และการควบคุมที่มั่นใจ
ภายในรถมีการจัดสรรพื้นที่อย่างลงตัว รองรับการเดินทางของผู้โดยสารในชีวิตประจำวัน รวมถึงการขนของในระดับหนึ่ง จึงนับว่าเป็นรถ C-Segment ที่มีความสามารถรอบด้านและแข่งขันได้ดีในตลาดประเทศไทย.
Q
เครื่องยนต์ของ Honda Civic มีขนาดกี่ซีซี?
ขนาดเครื่องยนต์ของ Honda Civic แต่ละรุ่นอาจแตกต่างกันไป รุ่นยอดนิยมบางรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,498 ซีซี (1.5 ลิตร) เช่น Honda Civic 1.5T Turbo EL+ ปี 2024 ส่วนรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,993 ซีซี (2.0 ลิตร) นอกจากนี้รุ่นเก่าอย่างปี 2020 ยังมีเครื่องยนต์ขนาด 1,799 ซีซี (1.8 ลิตร) ด้วย ดังนั้น ขนาดซีซีของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับรุ่นและปีของรถที่คุณพูดถึง.
Q
Honda Civic ใช้เครื่องยนต์แบบไหน?
Honda Civic มีเครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซินยอดนิยมคือขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ อย่างรุ่น Honda Civic 1.5 Turbo EL+ ปี 2024 มีความจุ 1498 มิลลิลิตร ใช้ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า (PS) กำลังสูงสุด 131 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่อง 1700 - 4500 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับขี่นุ่มนวลและตอบสนองดี เหมาะทั้งการใช้งานทั่วไปและการเร่งแซง
ส่วนรุ่นไฮบริด เช่น Honda Civic e:HEV EL+ ปี 2024 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์มีแรงม้าสูงสุด 141 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ ternary lithium และเกียร์ E-CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนกำลังระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ราบรื่นมากขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม
เครื่องยนต์ทั้งสองแบบตอบโจทย์ผู้ใช้ที่มีความต้องการหลากหลาย ไม่ว่าจะเน้นพลังขับเคลื่อนหรือความประหยัดน้ำมัน.
Q
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic คือเท่าไหร่?
ขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) ของ Honda Civic ที่พบได้บ่อยที่สุดในตลาดไทยคือ 5×114.3 มิลลิเมตร หมายความว่ามีรูน็อต 5 รู เรียงเป็นวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 114.3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของรุ่นที่ขายในไทย โดยเฉพาะในรุ่นเจเนอเรชันที่ 10 และ 11
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปลี่ยนล้อแม็กในไทย ควรตรวจสอบค่าต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่า ET (Offset) และขนาดรูดุมล้อให้ตรงกับรถ เพราะถึงแม้ PCD จะตรงกัน แต่ล้ออาจไม่พอดีกับรถทุกรุ่น นอกจากนี้ เนื่องจากถนนในไทยมีความหลากหลาย ควรเลือกใช้ล้อคุณภาพดีเพื่อความปลอดภัย และควรปรึกษาศูนย์บริการก่อนเปลี่ยนล้อ โดยเฉพาะหากเป็นรุ่นพิเศษที่อาจมีสเปกต่างออกไป.
Q
Honda Civic มีฟังก์ชัน Apple CarPlay ไหม?
ไม่ใช่ทุกรุ่นของ Honda Civic ที่ติดตั้ง Apple CarPlay มาจากโรงงาน โดยในรุ่นใหม่ ๆ หลายรุ่นเริ่มรองรับระบบอัจฉริยะนี้มากขึ้น หากต้องการเช็กว่ารถของคุณมีหรือสามารถติดตั้ง CarPlay ได้หรือไม่ ควรดูจากรายการอุปกรณ์ของรถหรือสอบถามที่ศูนย์บริการ Honda โดยตรง
แม้บางรุ่นจะไม่มีมาแต่แรก ปัจจุบันก็มีอุปกรณ์เสริมที่สามารถเพิ่มฟังก์ชันนี้ได้ เช่นใน Honda Civic รุ่นปี 2022 เฉพาะรุ่นท็อปอย่าง Touring เท่านั้นที่รองรับ CarPlay แบบไร้สาย ส่วนรุ่นอื่นจะใช้ได้เฉพาะแบบมีสาย CarPlay ช่วยให้ผู้ขับสามารถควบคุมโทรศัพท์ด้วยเสียง ใช้นำทาง ฟังเพลง ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่.
Q
ยางที่ใช้ใน Honda Civic มียี่ห้ออะไรบ้าง?
ยางที่ใช้ใน Honda Civic ที่ขายในไทย ส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อจากญี่ปุ่น เช่น Yokohama, Dunlop และ Bridgestone โดยรุ่นของยางจะต่างกันตามรุ่นย่อยและปีที่ผลิต เช่น รุ่น 1.5T ตัวท็อป มักใช้ยาง Bridgestone POTENZA ที่เน้นสมรรถนะสูง ส่วนรุ่น 1.8L รุ่นเริ่มต้น อาจใช้ยาง Yokohama BLUEARTH หรือ Dunlop ENASAVE ที่เน้นความประหยัดและความนุ่มนวลในการขับขี่
ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางติดรถเหล่านี้สามารถรองรับถนนลื่นในหน้าฝนได้ดี อย่างไรก็ตาม Honda อาจปรับเปลี่ยนยี่ห้อยางในแต่ละล็อตผลิตตามสถานการณ์ของซัพพลายเชน ทำให้รถรุ่นเดียวกันอาจมียางติดรถต่างกันเล็กน้อย แต่ทุกเส้นยังคงได้มาตรฐานที่เหมาะกับ Civic
ถ้าอยากรู้ว่ายางติดรถจากโรงงานเป็นยี่ห้อไหน แนะนำให้ดูที่สติกเกอร์แรงดันลมยางที่เสาประตูฝั่งคนขับ หรือสอบถามศูนย์ Honda ใกล้บ้าน.
Q
ภาษีถนนของ Honda Civic ราคาเท่าไหร่? คำนวณยังไง?
ภาษีถนนประจำปีของ Honda Civic จะคิดตามขนาดความจุเครื่องยนต์ โดยมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้:
– รุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.0-1.6 ลิตร (เช่น Civic 1.5T เทอร์โบ) จะมีภาษีถนนอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อปี
– รุ่นที่มีเครื่องยนต์ 1.6-1.8 ลิตร (เช่น Civic 1.8L) อยู่ที่ประมาณ 1,800-2,100 บาทต่อปี
การคำนวณภาษีจะยึดตามอัตราเฉลี่ยประมาณ 80-100 บาทต่อ 100 ซีซี ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีภาษีเพิ่มเติมตามอายุการใช้งานของรถ หากรถมีอายุเกิน 5 ปี จะมีการบวกเพิ่มอีกประมาณ 10%-30% แล้วแต่ปีที่ใช้งาน
แนะนำให้ตรวจสอบอัตราที่แน่นอนจากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (DLT) หรือสอบถามได้ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน และสามารถชำระภาษีผ่านธนาคารหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ได้เลย.
Q
น้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์ Honda Civic ต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่?
ปริมาณน้ำมันเครื่องของ Honda Civic จะแตกต่างกันตามประเภทของเครื่องยนต์ โดยรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T (รหัส L15B) ต้องใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.7 ลิตร (รวมการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง) ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรแบบธรรมดา (รหัส R18Z) ใช้ประมาณ 4.2 ลิตร
ในสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรด 0W-20 หรือ 5W-30 ที่ทาง Honda แนะนำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีและยืดอายุการใช้งาน ทั้งนี้ ควรเติมตามระดับที่วัดจากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ไม่ควรเติมมากหรือน้อยเกินไป เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์
ศูนย์บริการ Honda ในไทยมักใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเติมน้ำมันอย่างแม่นยำ และแนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน สำหรับรถที่ขับในสภาพการจราจรติดขัด เช่น ในกรุงเทพฯ ควรพิจารณาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องถี่ขึ้นเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี.
Q
ราคารถมือสองของ Honda Civic อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคามือสองของ Honda Civic จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ ระยะทางที่ใช้งาน และความต้องการในตลาด ดังนั้นราคาจึงอาจแตกต่างกันไป
ยกตัวอย่างรุ่นปี 2024 — Honda Civic 1.5 Turbo EL+ มีราคารถใหม่อยู่ที่ประมาณ 1,039,000 บาท ส่วนรุ่น e:HEV EL+ อยู่ที่ประมาณ 1,099,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 1,239,000 บาท
ถ้ารถอยู่ในสภาพดี วิ่งน้อย ราคามือสองก็จะสูงหน่อย แต่ถ้ามีร่องรอยการใช้งานหนัก หรือมีประวัติอุบัติเหตุ ราคาก็จะลดลง และถ้าตลาดมีความต้องการมาก ราคามือสองอาจสูงขึ้น แต่ถ้ามีรถเยอะกว่าคนซื้อ ราคาก็อาจลดลง
หากต้องการรู้ราคามือสองที่แน่นอน แนะนำให้ไปดูตามตลาดรถมือสอง แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือสอบถามจากตัวแทนจำหน่าย Honda โดยตรง จะได้ราคาที่ตรงกับสภาพรถจริงมากที่สุด.
Q&A ล่าสุด
Q
哪一个更快, M5 หรือ M8
ในตลาดไทย รุ่นบีเอ็มดับเบิลยู M5 (F90) และ M8 (G15/G16) ที่พบบ่อย M8 มีสมรรถนะเร่งและความเร็วสูงกว่าบ้าง โดย M8 Competition ใช้เครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลัง 625 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.2 วินาที ส่วน M5 Competition มีกำลัง 617 แรงม้า เร่ง 0-100 ใน 3.3 วินาที ข้อดีนี้มาจากน้ำหนักตัวรถ M8 ที่เบากว่าและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น แต่ M5 ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและดีไซน์สี่ประตูที่ใช้งานได้จริงกว่า จึงได้รับความนิยมมากกว่าในสภาพอากาศฝนตกบ่อยและความต้องการของครอบครัว รถทั้งสองรุ่นมีราคาขายในไทยเกิน 10 ล้านบาท แต่การเซ็ตสมรรถนะเน้นคนละแบบ M8 มุ่งเน้นการขับขี่บนสนามแข่งและความเร็วสูง ส่วน M5 เหมาะกับการขับขี่ประจำวัน ควรระวังว่าอากาศร้อนในไทยมีผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์เทอร์โบ ควรเลือกอุปกรณ์ระบายความร้อนเพิ่มและดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ รถสมรรถนะสูงเหล่านี้จะปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ในสนามแข่งรอบกรุงเทพฯ เช่น Bira Circuit แต่ในการขับขี่บนถนนทั่วไปต้องระวังเรื่องกฎหมายจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัดในไทย
Q
M8 เป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือไม่
บีเอ็มดับเบิลยู M8 เป็นรถคูเป้หรูสมรรถนะสูง แม้จะมีพละกำลังแรงและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่จัดว่าเป็นซูเปอร์คาร์ ซูเปอร์คาร์มักเน้นสมรรถนะสูงสุด น้ำหนักเบา และผลิตจำนวนจำกัด เช่น บางรุ่นของเฟอร์รารี่หรือแลมโบร์กินี ส่วน M8 ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถ GT หรู เหมาะกับการขับทางไกลและใช้งานประจำวัน ในประเทศเขตร้อนอย่างไทย M8 มีความสะดวกสบายและปรับตัวได้ดี ด้วยระบบช่วงล่างและแอร์ที่รองรับสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและโหมดขับขี่หลายรูปแบบของ M8 ช่วยให้ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมืองที่รถติดและเส้นทางภูเขา หากสนใจซูเปอร์คาร์จริงๆ สามารถพิจารณา Porsche 911 Turbo S หรือ McLaren GT ที่มีสมรรถนะและดีไซน์ใกล้เคียงกับคำนิยามซูเปอร์คาร์แบบดั้งเดิมมากกว่า
Q
M8 เป็น BMW ที่เร็วที่สุดหรือไม่
ในบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น M8 เป็นรถสมรรถนะสูงที่โดดเด่นแต่ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในสายการผลิต รุ่นที่เร็วที่สุดคือบีเอ็มดับเบิลยู M5 CS ที่เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหลังปลดล็อกความเร็ว ส่วน M8 Competition เร่ง 0-100 ได้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในการขับขี่บนสนามแข่ง M5 CS มีสมรรถนะดีกว่า ในไทยด้วยข้อจำกัดทางถนนและกฎหมายจราจร ความเร็วสูงสุดจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถ แต่ M8 ยังคงเป็นรถหรูสมรรถนะสูงที่เหมาะกับผู้บริโภคระดับพรีเมียม มีทั้งพลังแรงและความสะดวกสบายเหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ และทางด่วนของไทย หากสนใจรถสมรรถนะสูง สามารถศึกษารุ่น M อื่นๆ เช่น M3 M4 ที่มีความนิยมสูงในไทยและง่ายต่อการดูแลรักษา พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่
Q
ราคารถ BMW M8 อยู่ที่เท่าไหร่
ราคารถ BMW M8 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการปรับขึ้นลงบ้างจากอุปกรณ์เสริมที่เลือก ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่าย หรือโปรโมชั่นต่างๆ รถรุ่น M8 เป็นเรือธงสมรรถนะสูงจาก BMW ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความแรงและความมันส์ สำหรับในไทย รถหรั่งระดับนี้มักจะมีอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของเรา เช่น ระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและกระจกกันรังสียูวี ต้องบอกเลยว่าเมืองไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รถหรั่งอย่าง M8 มีราคาแพง นอกจาก M8 แล้ว ตลาดไทยยังมีรถสมรรถนะสูงหรูๆ ให้เลือกอีกเพียบ เช่น Mercedes-AMG GT หรือ Porsche 911 ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบตามความชอบและงบประมาณได้เลย ถ้าสนใจซื้อ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อขอราคาล่าสุดและรายละเอียดบริการหลังการขาย รวมถึงควรคำนึงถึงการดูแลรักษารถในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยด้วยนะ
Q
ยาริสดีสำหรับการเดินทางไกลหรือไม่
รถยนต์โตโยต้า ยาริส เป็นรุ่นที่เหมาะกับการขับขี่ระยะไกล โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย เครื่องยนต์ 1.2L หรือ 1.5L อาจจะไม่แรงมากแต่ประหยัดน้ำมันดี เหมาะกับทั้งการขับในเมืองและบนทางหลวง เกียร์ CVT ทำงานลื่นๆ ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับทางไกล ภายในรถสำหรับรุ่นเล็กแล้วถือว่ากว้างขวางพอสมควร เบาะนั่งก็รองรับร่างกายได้ดี แต่ถ้าเป็นสภาพอากาศร้อนๆของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงหน่อย เพราะรุ่นพื้นฐานบางแบบอาจไม่มีช่องแอร์ด้านหลัง เรื่องบริการหลังการขายในตลาดไทยก็ครบครัน ซ่อมบำรุงง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูง ที่น่าสนใจคือระยะความสูงจากพื้นรถที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไป ทำให้เหมาะกับสภาพถนนบางเส้นในชนบทที่อาจไม่ค่อยดีนัก สำหรับคนไทยที่ต้องการรถประหยัดแต่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง แต่ถ้าต้องการพาครอบครัวหรือมีสัมภาระมากๆ อาจต้องมองหารถที่ใหญ่กว่านี้หน่อย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Honda ระบุว่า Civic Type R จะยุติการขายในยุโรป แต่เป็นการบอกใบ้ว่าในอนาคตอาจมีรุ่นไฟฟ้าล้วน
สุรเดชJul 17, 2025

Honda วางจำหน่าย Civic TYPE R รุ่น Ultimate เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซทำให้เลิกขายในยุโรป
พงศธรJun 11, 2025

เปรียบเทียบ BYD Seal กับ Honda Civic: การต่อสู้ระหว่างรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้า!
ธนวัฒน์Sep 9, 2024

การออกแบบที่ทันสมัยและสปอร์ตของ Honda Civic รุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้บริโภควัยรุ่นหรือไม่
สุรเดชSep 3, 2024

2025 Honda Civic ปรากฏตัว เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในภายนอก รุ่น 1.5 Turbo จะเป็นรุ่นยกเลิก?
LienMay 22, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย