Q
“Nissan March ใช้ยางขนาดเท่าไหร่?”
ยางรถยนต์ Nissan March มีขนาด 165/70 R14 โดย "165" หมายถึงความกว้างของยาง 165 มิลลิเมตร ส่วน "70" คืออัตราส่วนความสูงของยางเมื่อเทียบกับความกว้าง ซึ่งก็คือ 70% ของความกว้างยางนั่นเอง ส่วนตัว "R" บอกว่ายางนี้เป็นยางเรเดียล และ "14" คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของยางที่ 14 นิ้ว แปลว่ายางนี้เหมาะกับล้อขนาด 14 นิ้วโดยเฉพาะ ขนาดยางแบบนี้ทางผู้ผลิตได้ทดลองมาหลายรอบแล้วว่าให้สมรรถนะการขับขี่และความมั่นคงที่ดี ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญมากเพราะต้องสัมผัสกับพื้นถนน รับน้ำหนักและแรงกระแทกต่างๆ ควรตรวจสอบสภาพยางบ่อยๆ ว่ามีการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพหรือไม่ ถ้าถึงเวลาแล้วก็ควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ Nissan March มีอะไรบ้าง
รถยนต์ Nissan March ในตลาดไทยถูกมองว่าเป็นรถประหยัดตัวท็อปที่ขายดี ด้วยความประหยัดน้ำมัน ขับเคลื่อนคล่องตัว และราคาไม่แรงจนเกินไป แต่ก็มีจุดอ่อนบ้าง เช่น เรื่องพื้นที่ภายในรถที่ค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่อาจอึดอัดสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ส่วนเวลาขับบนทางด่วนก็จะได้ยินเสียงลมและเสียงยางค่อนข้างชัดเจนเพราะระบบกันเสียงยังไม่สุดยอด อีกทั้งวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่อาจดูไม่พรีเมียมเท่ารถคู่แข่งบางรุ่นในระดับเดียวกัน สภาพอากาศเมืองไทยที่ร้อนจัดก็ทำให้ระบบแอร์ของรุ่นพื้นฐานอาจเย็นไม่พอเวลาติดรถนานๆ แนะนำให้อัพเกรดเป็นรุ่นสูงหรือติดฟิล์มกันความร้อนเพิ่ม ส่วนเครื่องยนต์ 1.2L แบบธรรมดานั้นเพียงพอสำหรับขับในเมือง แต่เวลาขึ้นเขาหรือโหลดเต็มคันจะรู้สึกว่าแรงยังไม่ค่อยพอ ต้องบอกว่าคนไทยนิยมรถกระบะกับ SUV มากกว่าเพราะเหมาะกับสภาพถนนบางพื้นที่ แต่จุดเด่นของ March คือขนาดกะทัดรัดที่จอดง่ายในกรุงเทพฯที่รถติดหนัก เลยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่าจะเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองยังไง
Q
Nissan March อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน?
Nissan March จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-segment หรือที่เรียกกันว่ารถอีโคคาร์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นประเภทของรถยนต์นั่งที่มีขนาดเล็กที่สุดตามมาตรฐานสากล เหมาะมากสำหรับการใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ เพราะสามารถขับเคลื่อนและจอดได้คล่องตัวในพื้นที่แคบ ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีของประเทศไทยสำหรับรถที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200cc
ด้วยความยาวตัวถังไม่เกิน 4 เมตร และรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.2 เมตร ทำให้เหมาะมากกับการใช้งานในตรอกซอกซอยในเมืองไทย คู่แข่งในกลุ่มนี้ ได้แก่ Honda Brio, Suzuki Swift และ Toyota Yaris Ativ ซึ่งมีจุดเด่นคล้ายกัน เช่น ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย และค่าดูแลรักษาต่ำ
ผู้บริโภคในกลุ่ม A-segment ของไทยมักให้ความสำคัญกับพื้นที่ศีรษะและความสูงจากพื้นถนน ทำให้รถรุ่นอย่าง March มักจะมีการออกแบบให้ตัวรถสูงกว่ารุ่นที่ขายในตลาดอื่น และมีการปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนนที่ขรุขระของไทย แม้ว่าในอนาคตจะมีทางเลือกในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นตามนโยบาย EV 3.5 ของรัฐบาล แต่ในปัจจุบัน Nissan March ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ด้วยระบบบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
Q
มูลค่าขายต่อของ Nissan March เท่าไหร่?
ราคาขายต่อของรถมือสอง Nissan March จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพรถ, อายุรถ, ระยะทางที่ใช้งาน, และความต้องการในตลาด ตัวอย่างราคาสำหรับรุ่นปี 2020 เช่น รุ่น 1.2L S MT ราคา 420,000 บาท, รุ่น 1.2L E MT ราคา 480,000 บาท, รุ่น 1.2L E CVT ราคา 495,000 บาท, และรุ่น 1.2L EL CVT ราคา 510,000 บาท ถ้ารถสภาพดี ใช้งานน้อย อายุไม่มาก ราคาขายต่อก็จะสูง อาจใกล้เคียงกับราคาเดิมในสัดส่วนหนึ่ง แต่ถ้ารถสภาพไม่ดี ระยะทางมาก อายุเยอะ ราคาก็จะตกฮวบได้เหมือนกัน ถ้าตลาดมีความต้องการสูง ราคาขายต่อก็อาจจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีรถรุ่นเดียวกันในตลาดเยอะ ราคาก็อาจจะลดลงได้ เว้าซื้อรถมือสอง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถให้ดี ว่ามีประวัติอุบัติเหตุหรือน้ำท่วมหรือเปล่า แล้วก็ลองเช็คราคาในแพลตฟอร์มขายรถมือสองในพื้นที่เพื่อเปรียบเทียบราคา จะได้รู้แนวทางไม่เสียเปรียบ
Q
Nissan March มีกี่ซีซี
Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ A-Segment ขนาดเล็ก เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ไม่ใหญ่เกินไป ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันในระยะยาว
แม้ว่าจะมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก แต่ทุกรุ่นของ Nissan March จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี เท่ากัน ซึ่งให้พละกำลังที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปบนถนนในเมือง ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้อย่างมั่นใจ ทั้งในเรื่องของความคล่องตัวและความคุ้มค่าด้านการดูแลรักษา
Q
Nissan March ใช้เครื่องยนต์อะไร
รถ Nissan March ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัสเครื่อง 1198mL เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบแบบเรียง ความเรียบของเครื่องดี ให้กำลังพอเหมาะกับการใช้งานในเมืองประจำวัน จุดเด่นของเครื่องยนต์ขนาดเล็กแบบนี้คือประหยัดน้ำมัน ช่วยให้เจ้าของรถลดค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมันได้อีกด้วย แถมโครงสร้างยังไม่ซับซ้อน ทำให้ดูแลรักษาได้ง่ายและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาก็ไม่สูงด้วย รุ่นต่างๆของ Nissan March จะมีสเปกและราคาแตกต่างกันไป แต่ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ตัวนี้เหมือนกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณได้ตามสะดวก
Q
“Nissan March มีเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต้
รถ Nissan March มีให้เลือกทั้งเกียร์ MT (เกียร์ธรรมดา) และเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง) สำหรับรุ่นปี 2020 นั้น รุ่น 1.2L S MT และ 1.2L E MT จะมาแบบเกียร์ธรรมดา ที่ให้ความรู้สึกสนุกกว่าเวลาขับ เพราะคนขับสามารถเปลี่ยนเกียร์เองได้ตามต้องการ ช่วยให้ควบคุมความเร็วและกำลังเครื่องได้อย่างเต็มที่ ส่วนรุ่น 1.2L E CVT และ 1.2L EL CVT จะใช้เกียร์ CVT ที่เปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล ไม่สะดุด ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะในเมืองที่ต้องขับ停ขับบ่อยๆ เกียร์ CVT จะช่วยลดอาการกระตุกเวลเปลี่ยนเกียร์ได้ดีกว่า ทำให้ขับสบายกว่าในชีวิตประจำวัน
Q
PCD Nissan March เท่าไหร่
รถ Nissan March มีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) แบบ 4x100 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของล้อรถขนาดเล็กที่นิยมใช้ในตลาดไทย เหมาะสำหรับล้อขนาด 14 หรือ 15 นิ้ว ในไทยรถหลายรุ่นที่ฮิตๆ เช่น Honda Jazz หรือ Toyota Yaris ก็ใช้ขนาด PCD แบบเดียวกันนี้ ทำให้เจ้าของรถหาล้อที่เข้ากันได้ง่ายขึ้นหรือจะอัพเกรดก็สะดวก PCD นี่เป็นพารามิเตอร์สำคัญเวลาติดตั้งล้อ เลือกขนาดให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยเวลาขับขี่ แนะนำว่าเวลาจะเปลี่ยนล้อควรตรวจสอบค่าอื่นๆ ด้วย เช่น Center Bore (CB) และ Offset (ET) เพื่อให้ล้อเข้าได้พอดี สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุกแบบนี้ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของยางและล้อเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่มีการรับรอง และตรวจสอบการยึดสลักболท์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่ชอบแต่งรถให้สวยโดนใจ ในไทยมีร้านขายล้อมืออาชีพหลายเจ้า ที่มีล้อขนาด 4x100 ให้เลือกเพียบ ทั้งล้ออัลลอยน้ำหนักเบาไปจนถึงล้อดีไซน์สวยๆ แต่ต้องอย่าลืมว่าหลังแต่งล้อแล้วต้องผ่านมาตรฐานการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกด้วยนะ
Q
Nissan March รองรับ Apple Carplay หรือไม่?
สำหรับ Nissan March ในตลาดไทย รุ่นท็อปบางรุ่นมีการรองรับระบบ Apple CarPlay แล้วนะ แต่รายละเอียดอาจแตกต่างกันไปตามปีและรุ่นที่เลือก แนะนำให้สอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงก่อนซื้อเพื่อความชัดเจน เพราะบางทีสเปคอาจมีการอัปเดต Apple CarPlay เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ใช้งานแอปจาก iPhone บนหน้าจอรถได้สะดวกมากๆ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่รถติดบ่อย แบบนี้จะใช้แผนที่ ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ก็ง่ายไปเลย นอกจาก Nissan March แล้ว รุ่นอื่นๆ ในตลาดอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City ก็เริ่มมีฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น แสดงว่าเดี๋ยวนี้คนไทยเน้นความสะดวกสบายด้านคอนเนคติวิตี้พอสมควร แต่ละค่ายระบบอาจใช้งานต่างกันนิดหน่อย แนะนำให้ลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด เพราะอนาคตไทยกำลังขับเคลื่อนสู่สมาร์ทซิตี้และรถ EV ฟีเจอร์เชื่อมต่อแบบนี้คงกลายเป็นมาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ แน่นอน
Q
ยางติดรถ Nissan March ใช้ยี่ห้ออะไร?
ในตลาดประเทศไทย Nissan March แต่ละรุ่นและแต่ละออปชันจะมียี่ห้อยางที่ติดรถแตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่จะใช้ยางแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Bridgestone และ Dunlop รวมถึงแบรนด์ที่นิยมในไทยอย่าง Deestone และ Vee Rubber ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นในด้านความทนทานและการยึดเกาะถนนเปียก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยของประเทศไทย
เวลาซื้อยาง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดและสเปกตรงกับที่โรงงานกำหนดไว้ เช่น ขนาดยอดนิยมคือ 165/70 R14 หรือ 175/60 R15 สามารถดูได้จากคู่มือรถหรือตรงสติกเกอร์ที่กรอบประตูด้านคนขับ
นอกจากนี้ คนขับในไทยอาจพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างความประหยัดน้ำมันและความเงียบในการขับขี่ เพราะสภาพการจราจรในเมืองค่อนข้างติดขัด ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้ขับสบายมากขึ้น หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายหรือศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขาย และควรตรวจสอบแรงดันลมและสภาพยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
Q
รถ Nissan March เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถยนต์ Nissan March เป็นรถขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง ข้อดีของ March คือ ประหยัดน้ำมันมาก ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรและ 1.5 ลิตร ที่วิ่งในสภาพการจราจรติดขัดของไทยได้อย่างคุ้มค่า ค่าบำรุงรักษาไม่สูง ชิ้นส่วนอะไหล่มีพร้อมและราคาไม่แรง ขนาดตัวรถกะทัดรัด ขับเคลื่อนคล่องตัวในซอยแคบๆของกรุงเทพหรือลานจอดรถที่คับคั่ง ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง มีอุปกรณ์พื้นฐานเช่นแอร์และระบบเสียงที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน แถมยังตั้งราคาเหมาะสม ให้ความคุ้มค่า เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความประหยัด
อย่างไรก็ตาม March ก็มีข้อด้อยบ้าง เช่น พื้นที่เบาะหลังค่อนข้างจำกัด อาจไม่สะดวกสบายในการเดินทางไกล ระบบกันเสียงไม่ค่อยดี เวลาขับความเร็วสูงจะได้ยินเสียงลมค่อนข้างชัด ส่วนระบบความปลอดภัยก็เรียบง่าย รุ่นเริ่มต้นมีแถมแค่ถุงลมนิรภัยและ ABS เท่านั้น ดูจะขาดความทันสมัยเมื่อเทียบกับรถรุ่นใหม่ในระดับเดียวกัน
ในตลาดไทย March เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศหรือครอบครัวเล็กที่มองหาความประหยัดและใช้งานจริง หากต้องการความสบายหรืออุปกรณ์ครบครันกว่า อาจลองเปรียบเทียบกับ Honda Brio หรือ Toyota Yaris แต่ March ก็ยังคงมีความแข่งแกร่งในเรื่องความทนทานและต้นทุนการใช้ต่ำ แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อ และพิจารณาตามความต้องการส่วนตัวให้ดี
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
2022 CR-V เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ CR-V รุ่นปี 2022 เป็น SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานในครอบครัวได้ดีทุกด้าน มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T ที่ให้กำลังขับเคลื่อนแรงแต่ยังประหยัดน้ำมัน คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ทำให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันนุ่มนวลและสบายๆ ด้านพื้นที่ภายในยังคงเป็นจุดแข็งของ CR-V ซีรีส์ โดยมีระยะขาที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระหลังท้ายที่ใหญ่เพียงพอต่อการเดินทางแบบครอบครัว ในส่วนของอุปกรณ์ความปลอดภัยก็มีระบบ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับสภาพถนนไทยนั้นระยะล่างตัวถังสูงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และระบบแอร์ก็เย็นฉ่ำเหมาะกับอากาศร้อนแบบไทย แค่จุดนิดนึงตรงที่วัสดุแผงคอนโซลบางส่วนยังเป็นพลาสติกแข็ง และเสียงอยู่ในระดับปานกลางในระดับเดียวกันของรถระดับเดียวกัน แต่ข้อดีคือค่าบำรุงรักษาไม่แพง อะไหล่ก็หาง่าย แถมยังขายต่อได้ราคาดี ถ้ามีงบประมาณเหลือแนะนำให้เลือกรุ่น Hybrid จะยิ่งช่วยประหยัดน้ำมันในเมืองได้มากขึ้น สรุปแล้ว CR-V 2022 นี่เป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คความชอบส่วนตัวในเรื่องการตั้งค่าสปริง
Q
คุณควรจ่ายเท่าไหร่สำหรับรถ 2022 CR-V Hybrid?
ราคาที่เหมาะสมสำหรับ Honda CR-V Hybrid รุ่นปี 2022 จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับระดับเครื่องแต่ง รายละเอียดการใช้งาน และสภาพรถ โดยถ้าเป็นรถใหม่แนะนำให้เช็คโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายหรือราคามาตรฐานจากช่องทางรถมือสองรับประกันคุณภาพจาก Honda โดยตรง รุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด i-MMD ของ Honda ที่ประหยัดน้ำมันเพียง 4.5 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับขับในเมืองที่รถติด ค่าดูแลรักษาไม่ต่างจากรุ่นน้ำมันปกติ แต่ต้องระวังเรื่องระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ที่มักจะอยู่ที่ 5-10 ปี ถ้าเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 Hybrid รุ่นปีเดียวกันอาจจะแพงกว่าเล็กน้อยประมาณ 5-10% ส่วนสีที่คนไทยนิยมอย่างสีขาวหรือสีเทาเมทัลลิกจะช่วยให้รถทรงตัวดีในเรื่องมูลค่าค้างคลัง แนะนำให้ตรวจสอบประวัติการบริการจากฮอนด้าก่อนซื้อ โดยเฉพาะประวัติการลุยน้ำในช่วงฤดูฝนเพราะระบบไฮบริดต้องการการป้องกันวงจรไฟฟ้าที่ดีเป็นพิเศษ ถ้าต้องการประหยัดงบประมาณอาจจะมองหารุ่นปี 2020 ที่ราคาถูกกว่า 15-20% แต่ต้องทำความเข้าใจว่าระบบ i-MMD รุ่นที่ 2 จะตอบสนองเรื่องกำลังขับต่างไปเล็กน้อย
Q
เครื่องยนต์ของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นแบบไหน?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหล ชุดขับเคลื่อนนี้ทั้งประหยัดน้ำมันและให้พลังสมรรถนะสูง เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเดินทางไกล เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยี VTEC ของ Honda ที่พัฒนาการทำงานของวาล์วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษ ตอบโจทย์เทรนด์รักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในตลาดไทยที่เครื่องยนต์นี้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายภูมิประเทศ ทั้งถนนติดขัดในกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ก็ขับสบาย นอกจากนี้ CR-V ยังมีรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงถึง 215 แรงม้า ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นและเงียบกว่า เป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
Q
2022 CR-V เหมาะสมสำหรับการใช้งานในหิมะหรือไม่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 แสดงสมรรถนะพอใช้ได้บนถนนหิมะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ที่มากับตัวรถมาตรฐานสามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ เมื่อทำงานร่วมกับโหมดขับขี่บนหิมะจะช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะบนพื้นผิวลื่นได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนถนนทั่วไปมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องเดินทางไปยังพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือหรือเขตอากาศหนาวบ่อยๆ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ยางฤดูหนาวหรือติดโซ่ล้อเพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีหิมะตกน้อย แต่สภาพถนนที่เปียกลื่นในช่วงฤดูฝนที่ยาวนานก็คล้ายกัน CR-V ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถ 187 มม. และระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้รถผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังในฤดูฝนได้อย่างมั่นคง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาหรือโตโยต้า RAV4 ที่มีระบบ Dynamic Torque Vectoring AWD อาจทำได้ดีกว่าในสภาพถนนสุดขั้ว แต่ CR-V ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับการขับขี่ในเมืองทั่วไปด้วยระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ข้อควรระวังอีกอย่างสำหรับการใช้งานในพื้นที่อากาศหนาวคือความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ บางเจ้าของรถอาจเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเครื่องเกรด 0W-20 เพื่อให้เครื่องยนต์สตาร์ทในอากาศเย็นได้สะดวกขึ้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้งานรถในพื้นที่สูงอย่างเชียงใหม่
Q
"อัตราประหยัดน้ำมันของ Honda CR-V ปี 2022 เป็นเท่าไหร่?"
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยข้อมูลจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5T ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมประมาณ 6.4-6.7 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะสิ้นเปลืองมากกว่าหน่อยที่ 6.7-7.0 ลิตร/100 กม. ส่วนรุ่นไฮบริด e:HEV จะประหยัดน้ำมันที่สุด โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมเพียง 4.7-5.0 ลิตร/100 กม. เหมาะมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการเดินทางไกล ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ CR-V นี้มาจากเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบประสิทธิภาพสูงและระบบไฮบริดที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึงเกียร์ CVT ที่ทำงานลื่นไหลก็ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย ในตลาดไทย CR-V มีจุดแข็งด้านประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถ SUV รุ่นเดียวกัน โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากในยุคที่ราคาน้ำมันสูง แนะนำให้เลือกรุ่นตามความต้องการใช้งานจริง ถ้าขับในเมืองบ่อยรุ่นไฮบริดจะคุ้มค่ากว่า ส่วนรุ่นเบนซินเหมาะสำหรับคนที่เน้นความแรงและราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้การดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศและใช้น้ำมันเครื่องตามที่แนะนำ ก็ช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้ดีตลอดการใช้งาน
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nissan Kicks e-POWER ผ่อนครั้งแรก 25% ขั้นต่ำ 9,xxx บาทต่องวด
ณัฐวุฒิNov 20, 2025

มันเคยแข็งแกร่งพอ ๆ กับ Hilux แต่ว่าตอนนี้ต้องหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับ Hilux
พงศธรNov 18, 2025

ตารางผ่อนล่าสุด Nissan Almera ขั้นต่ำ 6, xxx บาท ต่องวด
พงศธรNov 17, 2025

2025 รถมือสอง 10 รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในการซื้อ
พงศธรNov 10, 2025

เปิดจอง Nissan Leaf B7 ในญี่ปุ่นแล้ว เตรียมเปิดตัว Leaf B5 รุ่นใหม่ราคาย่อมเยา ปี 2026
AshleyOct 31, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย