Q

BMW X5 มีเครื่องยนต์อะไร

BMW X5 ปัจจุบันใช้เครื่องยนต์หลายรุ่นขึ้นอยู่กับตัวเลือก ซึ่งรวมถึงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ (B48B20G), 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบ (B58B30C) และเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตรเทอร์โบคู่ รุ่นบางรุ่นยังมาพร้อมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 48V ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ 2.0T ถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กเพื่อปรับปรุงแรงบิดที่ความเร็วต่ำและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ในขณะที่เครื่องยนต์ 3.0T สามารถผลิตกำลังได้ 340 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดที่ช่วยให้การเร่งความเร็วราบรื่น ส่วนเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตรเทอร์โบคู่ยังคงมีอยู่เพื่อรองรับความต้องการด้านสมรรถนะสูง เครื่องยนต์ทั้งหมดใช้เทคโนโลยี TwinPower Turbo ของ BMW ซึ่งผสมผสานเทอร์โบคู่แบบทวินสโรว์, การฉีดน้ำมันโดยตรง และระบบปรับตั้งวาล์วแบบแปรผันเพื่อให้ได้สมดุลระหว่างการตอบสนองของพลังงานและการควบคุมการใช้พลังงาน นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive แบบอัจฉริยะที่สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพถนนที่หลากหลาย ผู้ใช้ในประเทศไทยสามารถเลือกตามความต้องการจริง หากเน้นความประหยัดสำหรับการเดินทางในเมืองสามารถพิจารณารุ่น 2.0T ขณะที่ผู้ที่ต้องการความสนุกในการขับขี่หรือการขับขี่ระยะไกลนอกถนนสามารถเลือกใช้รุ่น 3.0T หรือ V8 ได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
เบ็มดับบลิว x5 วิธีเปิดไฟท้ายวิปเปอร์
การเปิดไฟปีกหลังของ BMW X5 โดยปกติจะมีปุ่มหรือการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องบนแผงควบคุมภายในรถคุณสามารถค้นหาสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดแต่ขั้นตอนการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของแต่ละรุ่นโดยทั่วไปคุณสามารถดูคำแนะนำจากคู่มือการใช้งานของรถเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียด
Q
วิธีการเปลี่ยนน้ำมัน BMW X5
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของ BMW X5 เริ่มต้นด้วยการจอดรถบนพื้นเรียบและดับเครื่องรอให้เวลาน้ำมันเครื่องไหลกลับจากนั้นใช้เครื่องมือยกรถและหาสกรูระบายน้ำมันเครื่องที่ก้นอ่างน้ำมันเครื่องแล้วหมุนออกเพื่อระบายน้ำมันเครื่องเก่า จากนั้นเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องใหม่แล้วเติมน้ำมันเครื่องใหม่ที่มีคุณสมบัติตรงตามสเปคของรถผ่านช่องเติมน้ำมันเครื่องโดยทั่วไป BMW X5 ต้องใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 6 ถึง 8 ลิตรขึ้นอยู่กับรุ่นและแบบเครื่องยนต์สุดท้ายสตาร์ทรถและตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องให้ถูกต้อง
Q
วิธีการเปลี่ยนแอร์ซัพเพนชันด้านหลัง BMW X5
การเปลี่ยนระบบกันสะเทือนแอร์หลังของ BMW X5 มีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนเริ่มจากการเตรียมเครื่องมือพิเศษยกยานพาหนะและตรวจสอบการรองรับให้ปลอดภัยจากนั้นถอดล้อ, แผ่นคลุมซุ้มล้อและส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าถึงระบบกันสะเทือนต้องถอดชิ้นส่วนกันสะเทือนแอร์เก่าอย่างระมัดระวังเมื่อทำการติดตั้งชิ้นส่วนใหม่ต้องระวังตำแหน่งการติดตั้งและแรงบิดที่ถูกต้องหลังจากติดตั้งเสร็จให้ทำการปรับแต่งและทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบกันสะเทือนทำงานได้ตามปกติอย่างไรก็ตามควรให้ช่างซ่อมรถยนต์มืออาชีพดำเนินการขั้นตอนนี้
Q
BMW X5 ใช้แก๊สประเภทไหน
BMW X5 ในประเทศไทยโดยทั่วไปใช้เบนซินเป็นเชื้อเพลิงหลักแต่หมายเลขออกเทนที่ใช้สามารถแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานน้ำมันในท้องถิ่นและการตั้งค่าของรถยนต์ที่ใช้กันบ่อยคือเบนซินหมายเลข 95 หรือ 98
Q
วิธีรีเซ็ตระบบระดับความสูงอัตโนมัติ BMW X5
วิธีการรีเซ็ตระบบความสูงอัตโนมัติของ BMW X5 อาจแตกต่างกันตามรุ่นและการตั้งค่า โดยทั่วไปท่านสามารถค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องในเมนูการตั้งค่าของรถเพื่อทำการรีเซ็ต หรืออาจลองปิดระบบไฟฟ้าของรถรอประมาณไม่กี่นาทีก่อนเปิดใหม่เพื่อตรวจสอบว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ หากปัญหายังคงอยู่แนะนำให้ท่านติดต่อศูนย์บริการ BMW ที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยหาทางแก้ไขที่ถูกต้อง
Q
BMW X5 มีความจุกี่แกลลอน
ความจุถังน้ำมันของ BMW X5 อาจจะแตกต่างกันไปด้วยรุ่นและการตั้งค่าที่แตกต่างกัน รุ่นทั่วไปมีความจุถังน้ำมันประมาณ 83 ลิตร
Q
คันไหนดีกว่าระหว่าง BMW X3 และ X5
BMW X3 และ X5 ต่างมีจุดเด่นของตัวเอง X3 มีขนาดที่กะทัดรัดและคล่องตัว การควบคุมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและการเดินทางประจำวัน โดยมีความประหยัดน้ำมันที่ดี ในขณะที่ X5 มีพื้นที่กว้างขวางและการตกแต่งที่หรูหรามากขึ้น พร้อมสมรรถนะที่ทรงพลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่และความสะดวกสบายที่สูงขึ้นและมีการเดินทางไกลบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม การเลือกที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานส่วนบุคคล หากคุณเน้นความคล่องตัวและประหยัดน้ำมัน X3 เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากคุณต้องการพื้นที่และสมรรถนะที่ดีกว่า X5 จะเหมาะสมกว่า
Q
BMW X5 M50d มีทูร์โบกี่ตัว
BMW X5 M50d มักจะมาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จ 4 ตัว รุ่นนี้ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทยด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและการตกแต่งที่หรูหรา การส่งกำลังที่มีความแรงและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมช่วยให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหา SUV หรูสมรรถนะสูง
Q
วิธีรีเซ็ตเบรกจอด BMW X5
วิธีการรีเซ็ตเบรกจอดของ BMW X5 อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและการตั้งค่าของรถ โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถลองรีเซ็ตได้โดยการเปิดสวิตช์จุดระเบิดและค้นหาตัวเลือกการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องในแผงควบคุมของรถ แต่หากระบบเบรกจอดแบบอิเล็กทรอนิกส์มีปัญหา แนะนำให้คุณติดต่อศูนย์บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
Q
ราคา BMW X5 เท่าไหร่
ราคาของ BMW X5 ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของเครื่องยนต์และการตั้งค่าของรถ โดยรุ่นเริ่มต้น BMW X5 xDrive30d ดีเซลมีราคาเริ่มต้นประมาณ 4,990,000 บาท ส่วน BMW X5 xDrive40i เบนซินมีราคาอยู่ที่ประมาณ 5,890,000 บาท หากเลือกเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริด BMW X5 xDrive45e ราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ 5,990,000 บาท ในขณะที่รุ่นประสิทธิภาพสูงสุด BMW X5 M60i xDrive มีราคาใกล้เคียงกับ 8,490,000 บาท ราคาที่แท้จริงอาจเพิ่มขึ้นจากการเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง ชุด M Sport หรือภายในหรูหรา คำแนะนำคือให้ไปที่ตัวแทนจำหน่าย BMW อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เช่น BMW Siam Premium Outlet หรือ BMW Rama 3 เพื่อสอบถามราคาและโปรโมชั่นล่าสุด บางโชว์รูมอาจมีบริการทดลองขับและข้อเสนอสินเชื่อที่น่าสนใจ

ข้อดี

รถถูกออกแบบในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ด้วยกระจังหน้าใหญ่ที่ผสานกับไฟหน้าที่เ sharp
ภายในมีการตกแต่งด้วยหนัง คอนโซลควบคุมนุ่ม ที่นั่งมีระบบระบายอากาศและเป็นหนังแท้
ช่องเก็บของมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถเพิ่มความจุได้มากขึ้นหลังจากพับเก้าอี้
มีระบบทันสมัยเพื่อช่วยในการโหลดสิ่งของ เปิดปิดประตูหลังได้ด้วยไฟฟ้า มีระบบเข้าสู่รถที่ส comfortable
มีจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้วที่สามารถควบคุมด้วยหลายวิธีและมีระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย
มีระบบจอดรถอัตโนมัติและกล้องวงจรปิดทัศนียภาพ 360 องศา มีเซนเซอร์ระยะห่างการจอดที่ด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทำงานอั intelligent มีความสามารถในการทำให้ยางเกาะถนนได้ดี สามารถเข้ากับสภาพถนนหลากหลาย
มีตัวเลือกในการขับเคลื่อนดีเซลและไฮบริด มีพลังงานที่แ robust รวดเร็วในการเร่งความเร็ว

ข้อเสีย

การทำงานด้วยมือบางครั้งมีความรู้สึกอ่อนไหวเกินไปทำให้เกิดการทำงานผิด
ที่นั่งแถวที่สามมีพื้นที่น้อย ครอบครัวใหญ่ๆควรพิจารณา
ราคาสูง เมื่อเทียบกับ SUV ประเภทเดียวกัน อาจไม่เหมาะกับทุกคน
ในฐานะรถหรู ค่าซ่อมบำรุงและราคาส่วนประกอบบางส่วนสูง

Q&A ล่าสุด

Q
รถ MG Maxus 9 เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG Maxus 9 เป็นรถ MPV ที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและธุรกิจ มีความสามารถแข่งขันในตลาดไทยด้วยจุดเด่นคือพื้นที่ภายในกว้างขวางและเบาะนั่งที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่หรือการรับรองธุรกิจ เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบให้ความสมดุลระหว่างความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะ เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและทางไกล ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะและฟังก์ชันความปลอดภัย เช่น กล้องมองหลังและระบบเตือนออกนอกเลน ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานประจำวัน อย่างไรก็ตาม ระบบช่วงล่างเน้นความนุ่มนวล อาจรู้สึกนิ่มไปบ้างในถนนบางจุดของไทย และเบาะแถวสามเมื่อเต็มที่อาจมีพื้นที่วางขาที่จำกัด สำหรับผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่และการใช้งาน MG Maxus 9 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ดีควรทดลองขับเพื่อประเมินสมรรถนะและความสบายให้ตรงกับความต้องการจริง ความต้องการรถ MPV ในไทยยังสูง MG Maxus 9 ด้วยความคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครันจึงตอบสนองผู้ใช้บางกลุ่มได้ดี แต่การตัดสินใจควรพิจารณางบประมาณและการใช้งานควบคู่กันไป
Q
ความกว้างของ MG Maxus 9 คือเท่าไร
MG Maxus 9 มีความกว้างตัวถังอยู่ที่ 2,000 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ากว้างกว่ามาตรฐานในตลาดรถยนต์ MPV ขนาดใหญ่ในประเทศไทย การออกแบบขนาดนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในให้กว้างขวาง เหมาะสมทั้งสำหรับการเดินทางกับครอบครัวและการรับรองทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ดีบนถนนในเมืองที่ค่อนข้างซับซ้อนของไทย โดยทั่วไปแล้วครอบครัวไทยมักนิยมเลือกรถ MPV ที่มีขนาดใหญ่เพราะไม่เพียงตอบโจทย์การเดินทางในชีวิตประจำวัน แต่ยังเหมาะสำหรับการท่องเที่ยวระยะไกลในช่วงวันหยุด ซึ่งความกว้างของ MG Maxus 9 ก็ตรงกับความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตัวถังที่กว้างยังช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีฝนบ่อยของไทย รถที่มีระยะฐานล้อกว้างจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนและความปลอดภัยให้มากขึ้น ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ ลองดูจุดเด่นอื่นๆ เช่น ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและอุปกรณ์ตกแต่งภายในสุดหรู ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
Q
ความดันลมยางของ MG Maxus 9 คืออะไร
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการของ MG Maxus 9 ความดันลมยางมาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ถึง 2.4 บาร์ (ประมาณ 32 ถึง 35 psi) แต่ค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นรถ น้ำหนักบรรทุก หรือขนาดยาง แนะนำให้ตรวจสอบคู่มือผู้ใช้หรือป้ายที่กรอบประตูรถเพื่อดูข้อมูลที่ถูกต้อง ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย ความดันลมยางอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอุณหภูมิสูง ดังนั้นควรตรวจสอบและปรับลมยางในช่วงเช้าหรือในที่ร่มเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ นอกจากนี้ การตรวจสอบความดันลมยางเป็นประจำไม่เพียงช่วยยืดอายุยางแต่ยังเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยที่ความดันลมยางที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการลื่นไถลได้ หากคุณขับทางไกลหรือบรรทุกน้ำหนักบ่อยครั้ง อาจปรับความดันลมยางให้อยู่ในระดับสูงของค่าที่แนะนำ แต่ห้ามเกินค่าความดันสูงสุดที่ระบุบนยางเด็ดขาด
Q
ขนาดล้อของ MG Maxus 9 คืออะไร
MG Maxus 9 ในฐานะรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย ใช้ล้อขนาด 18 นิ้ว ขนาดนี้ช่วยให้การยึดเกาะถนนดีพร้อมกับความนุ่มนวล เหมาะกับถนนหลากหลายทั้งในเมืองและทางหลวงระหว่างเมืองในไทย ในสภาพอากาศร้อนชื้นและฝนตกบ่อยในไทย แนะนำให้เลือกใช้ยางที่ระบายน้ำได้ดีและตรวจสอบการสึกหรอยางเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ผู้บริโภคไทยควรพิจารณาระยะห่างจากพื้นและการเซ็ตระบบช่วงล่าง เพราะส่งผลต่อการขับขี่ในถนนที่ซับซ้อน สำหรับผู้ที่ขับทางไกลหรือเดินทางเป็นครอบครัว ล้อและโครงสร้างใต้ท้องรถของ MG Maxus 9 ช่วยให้การขับขี่มั่นคง ตอบโจทย์ทั้งพื้นที่ใช้สอยและความสบายในการขับขี่ของผู้ใช้ในไทย
Q
MG Maxus 9 คุ้มค่าที่จะซื้อไหม มาดูสมรรถนะของมันกันเถอะ
MG Maxus 9 มีจุดเด่นหลายอย่างที่ควรพิจารณาเป็นเจ้าของ เป็นรถ MPV ไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่ง ติดตั้งแบตเตอรี่ 90 kWh วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันและเดินทางระยะกลางถึงสั้น ภายในมีเบาะ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวด ระบบความร้อนและระบายอากาศ ประตูท้ายไฟฟ้าและประตูสไลด์ พร้อมหลังคาพาโนรามาขนาดใหญ่ เพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหรา ขนาดตัวถัง 5,270x2,000x1,840 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,200 มิลลิเมตร ให้พื้นที่กว้างขวาง แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 6.4 เมตร ควรระวังเมื่อต้องขับในเมือง หน้าปัดจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้วตามรุ่น และหน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ชาร์จเร็วสูงสุด 80 kW ชาร์จจาก 20% ถึง 80% ใช้เวลาเพียง 36 นาที ราคาจำหน่ายเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาท ถูกกว่ารถโตโยต้า Alphard ที่ราคา 3.889 ล้านบาท คุ้มค่าและเหมาะกับครอบครัวใหญ่หรือผู้ที่มองหารถไฟฟ้าราคาคุ้มค่า
ดูเพิ่มเติม