Q

Triton ปี 2023 จะใช้เครื่องยนต์แบบไหน?

รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร MIVEC (รหัส 4N16) ที่ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.4 ลิตร MIVEC ที่ให้กำลังสูงถึง 204 แรงม้า แรงบิดสุดแรงถึง 470 นิวตันเมตร ทั้งคู่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ทั่วไปและการลุยออฟโรด จุดเด่นของ Triton ในไทยคือการออกแบบเครื่องยนต์ให้มีแรงบิดต่ำที่รอบต่ำ เหมาะสมกับเส้นทางภูเขาและการบรรทุกของ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีคลีนดีเซลที่ตรงตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมล่าสุดของไทย สำหรับคนไทยเวลาซื้อรถกระบะมักจะเน้นเรื่องประหยัดน้ำมันและความทนทาน ซึ่ง Triton ได้รับการปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ทำงานเสถียรในสภาพอากาศร้อนชื้น พร้อมช่วงระยะการบำรุงรักษาที่สมเหตุสมผล เป็นจุดสำคัญสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องขับทางไกลหรือใช้เพื่อการค้า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
"2021 Mitsubishi Triton มีความจุถังน้ำมันเท่าไหร่"
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2021 มีความจุถังน้ำมัน 75 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางไกลและการใช้งานประจำวัน เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายแบบในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือเส้นทางขรุขระในชนบทก็ให้ความอุ่นใจเรื่องระยะทาง เพราะในไทยรถดีเซลเป็นที่นิยมมากด้วยเหตุผลเรื่องความประหยัดน้ำมันและความทนทาน สำหรับ Triton ในฐานะรถกระบะ ถังน้ำมันขนาดใหญ่แบบนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องขนของระยะไกลบ่อยๆ หรือชอบท่องเที่ยวแบบขับรถทริปยาว อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงที่ขับได้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ขนาดสัมภาระและสภาพถนน แนะนำให้บริการรักษารถอย่างสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการใช้น้ำมันที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงในไทยนั้นคุณภาพดี มีจำหน่ายทั่วไป ช่วยรักษาสมรรถนะเครื่องยนต์ได้ดี สำหรับใครที่ขับทางไกลบ่อยๆ อาจพิจารณาติดตั้งถังน้ำมันเสริมเพื่อเพิ่มระยะทางได้ แต่ต้องตรวจสอบให้ตรงตามกฎหมายไทยด้วย
Q
เครื่องยนต์ใน Mitsubishi Triton GSR รุ่นปี 2021 เป็นแบบไหน?
รถกระบะ Mitsubishi Triton GSR รุ่นปี 2021 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 2.4 ลิตร รหัส 4N15 ที่ใช้เทคโนโลยี MIVEC ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมทั้งแท่ง ให้กำลังสูงสุด 133 กิโลวัตต์ (181 แรงม้า) แรงบิดสูงถึง 430 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด ที่โดดเด่นเรื่องแรงบิดต่ำเหมาะกับทางขึ้นเขาหรือการบรรทุกของหนักในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยี VGT (Variable Geometry Turbo) ลดอาการเทอร์โบแลกได้ดี ช่วยประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น แม้ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทยก็ยังทำงานเสถียร ที่สำคัญ Triton GSR ซึ่งเป็นรถกระบะยอดนิยมในตลาดไทย เครื่องยนต์ถูกปรับแต่งพิเศษให้เข้ากับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงท้องถิ่น และผ่านมาตรฐาน Euro 5 ล่าสุดของไทย ทั้งแรงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนใครที่ต้องขับทางไกลหรือขนของบ่อยๆ จะถูกใจเรื่องความทนทานและค่าบำรุงไม่แพง แถมยังมีศูนย์บริการ Mitsubishi ให้ความช่วยเหลือทั่วไทย
Q
“อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Mitsubishi Triton ปี 2021 เป็นเท่าไหร่?”
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2021 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและระบบขับเคลื่อน โดยรุ่น 2.4 ลิตร เทอร์โบดีเซล (รหัสเครื่องยนต์ 4N15) แบบขับเคลื่อนสองล้อและเกียร์ธรรมดาจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 13.3 กม./ลิตร (หรือประมาณ 7.5 ลิตร/100 กม.) ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเกียร์อัตโนมัติจะอยู่ที่ประมาณ 12.5 กม./ลิตร (หรือ 8.0 ลิตร/100 กม.) เครื่องยนต์นี้ใช้เทคโนโลยีคอมมอนเรลดีเซลและเทอร์โบแบบเวเรียเบิลจีออเมทรี ที่ออกแบบมาเพื่อสมดุลระหว่างพลังและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน สำหรับผู้ใช้ในไทยควรระวังว่าค่าการสิ้นเปลืองจริงจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะถิ่น เช่น การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ภาระการขับขี่บนภูเขา หรือการใช้แอร์บ่อยครั้ง แนะนำให้บำรุงรักษาตัวกรองอากาศและลมยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับรถปิคอัพในคลาสเดียวกันอย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX แล้ว Triton มีค่าการสิ้นเปลืองใกล้เคียง แต่จุดเด่นคือระบบ Super Select 4WD-II ที่ให้ความยืดหยุ่นในการเลือกโหมดขับเคลื่อนช่วงหน้าฝนหรือเส้นทาง off-road ถ้าต้องการใช้งานบรรทุกบ่อย แนะนำให้เลือกรุ่นดีเซลแทนรุ่นเบนซิน เพราะเครื่องดีเซลให้แรงบิดสูงและประหยัดน้ำมันกว่าในรอบต่ำ เหมาะสมกับความต้องการขนส่งระยะไกลในไทย อีกทั้งรัฐบาลไทยยังมีการันตีคุณภาพน้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโรที่ช่วยให้ค่าบำรุงรักษามั่นคงกว่า
Q
Mitsubishi Triton เป็นรถที่ดีไหม?
รถกระบะ Mitsubishi Triton ในตลาดไทยเป็นรุ่นที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทานและความประหยัด เครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายและการเดินทางไกลในไทย การออกแบบตกแต่งภายในเน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลักและพื้นที่กว้างขวาง สามารถขนส่งสัมภาระได้ดี ทั้งการใช้ในครอบครัวและการค้า ด้านความปลอดภัย Triton ติดตั้งระบบ ABS และ EBD เป็นมาตรฐาน ในรุ่นท็อปบางรุ่นยังมีระบบช่วยขับขี่เพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Mitsubishi ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วไทย ทำให้สะดวกในการซ่อมบำรุง สำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะทนทานในงบประมาณจำกัด Triton ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ควรระลึกไว้ว่าตลาดรถกระบะไทยมีการแข่งขันสูง มีหลายแบรนด์เปิดตัวรุ่นแข่ง แนะนำให้ทดลองขับเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด
Q
Triton รุ่นใหม่ผลิตที่ไหน?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นใหม่ล่าสุดส่วนใหญ่ผลิตที่โรงงานแหลมฉบังในจังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของ Mitsubishi ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถที่ผลิตที่นี่ไม่เพียงแต่จัดจำหน่ายในตลาดไทยเท่านั้น แต่ยังส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักของรถกระบะ Mitsubishi ที่ช่วยรับประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือของ Triton รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตรที่ทันสมัย และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Super Select 4WD-II ที่เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบในไทย รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมนิรภัยหลายจุดและเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบแอคทีฟ ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและการเดินทางผจญภัยของคนไทย ที่น่าสนใจคือ Triton ที่ผลิตในไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพท้องถิ่น โดยเฉพาะระบบช่วงล่างที่ออกแบบมาสำหรับถนนไทยโดยเฉพาะ เพื่อความนุ่มนวลและทนทาน นอกจากนี้ Mitsubishi ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้เจ้าของรถสามารถเข้าถึงการบำรุงรักษาและซ่อมแซมได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษา
Q
รถ Mitsubishi Triton ปี 2021 มีความยาวเท่าไหร่?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2021 มีความยาวตัวรถ 5,305 มิลลิเมตร ถือเป็นหนึ่งในรถกระบะขนาดกลางที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่ออกแบบมาอย่างลงตัวทั้งความคล่องตัวสำหรับขับขี่ในเมืองและประโยชน์ใช้สอยในการขนส่ง เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือขนของก็ทำได้ดี นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอุปกรณ์ครบครัน เช่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและโหมดขับขี่หลากหลาย ที่ช่วยให้รับมือกับสภาพถนนทุกแบบในไทย ทั้งเส้นทางลูกรังหรือถนนลื่นช่วงหน้าฝน Triton ยังได้ชื่อเรื่องความทนทานและความเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดไทย รวมถึงเครือข่ายบริการหลังการขายของ Mitsubishi ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้รถรุ่นนี้เป็นตัวเลือกแรกๆ ของหลายๆ คน และที่สำคัญ Triton ยังประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนไทยโดยเฉพาะในยุคที่ราคาน้ำมันขึ้นลงไม่คงที่ ถ้าคุณกำลังมองหารถกระบะสักคัน Mitsubishi Triton รุ่นปี 2021 นี่แหละคือตัวตอบโจทย์ เพราะประสิทธิภาพและการตอบรับในตลาดถือว่าครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี
Q
Triton ในปี 2021 คือรุ่นอะไร?
รถกระบะ Mitsubishi L200 รุ่นปี 2021 ที่อัพเกรดใหม่ล่าสุดนี้เป็นรุ่นที่ขายดีมากในตลาดไทย ผลิตภายในประเทศโดยมีความทนทานและสมรรถนะออฟโรดที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค รุ่นปี 2021 นี้มาพร้อมกับดีไซน์ Dynamic Shield ล่าสุดจาก Mitsubishi ที่ให้หน้าตาดุดันยิ่งขึ้น พร้อมอัพเกรดภายในห้องโดยสารด้วยหน้าจอกลางขนาดใหญ่กว่าเดิมและวัสดุเบาะที่นั่งที่ให้ความสบายเพิ่มขึ้น ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ที่จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ ให้กำลังสูงสุดถึง 181 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายและการขนส่งสินค้าในไทย ระบบความปลอดภัยก็ครบครันด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพอัตโนมัติ ระบบช่วยออกรถบนทางลาดและถุงลมนิรภัย 7 จุด ที่สำคัญคือ Triton ในตลาดไทยมีอัตราการรักษามูลค่าสูง ราคาขายต่อจึงค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ซึ่งเป็นจุดแข็งสำหรับผู้บริโภคไทย แถมยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายของ Mitsubishi ที่ครอบคลุมเกือบทุกจังหวัด ทำให้สะดวกในการดูแลรักษา คู่แข่งหลักของ Triton ก็คือ Toyota Hilux และ Ford Ranger แต่ Triton ยังคงมีความได้เปรียบในด้านราคาที่คุ้มค่าและความสามารถออฟโรด ที่เหมาะกับเกษตรกร ช่างก่อสร้างและคนรักกิจกรรมกลางแจ้งในไทยเป็นอย่างดี
Q
เครื่องยนต์ชนิดใดอยู่ใน Triton GSR ปี 2021?
รถกระบะ Mitsubishi Triton GSR รุ่นปี 2021 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร แบบ MIVEC ที่ใช้เทคโนโลยีคลีนดีเซลอันล้ำสมัยจาก Mitsubishi โดยเครื่องยนต์นี้ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพถนนหลากหลายรูปแบบในไทย ทั้งขับในเมืองหรือลุยออฟโรดก็เอาอยู่ นอกจากนี้ยังติดตั้งเทอร์โบแบบแปรผันรูปทรงเรขาคณิต (VGT) ช่วยเพิ่มการตอบสนองรอบต่ำ ลดอาการเทอร์โบแลก ทำให้การขับขี่สมรรถนะยิ่งขึ้น ในตลาดไทย Triton GSR ได้รับความนิยมจากความแข็งแรงและการใช้งานที่ลงตัว โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ เพราะแรงบิดสูงของเครื่องยนต์นี้ตอบโจทย์มาก ส่วนเรื่องดูแลรักษาก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Mitsubishi กำหนดระยะซ่อมบำรุงที่ยาวนาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้เจ้าของรถ ทำให้ยิ่งโดนใจคนไทยมากขึ้นไปอีก
Q
2021 Triton มี CarPlay ไหม?
รุ่นปี 2021 ของ Mitsubishi Triton ในตลาดไทย รุ่นท็อปอย่าง GLS และ GLS Premium นั้นมาพร้อมฟีเจอร์ Apple CarPlay ให้ใช้งานกันครับ เจ้าตัวนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ในไทยเชื่อมต่อ iPhone กับหน้าจอกลางรถเพื่อใช้งานแอปแผนที่ ฟังเพลง หรือโทรออกได้สะดวกขึ้น แต่ต้องบอกก่อนนะว่าต้องเชื่อมต่อผ่านสายเสียบเท่านั้น และสำหรับรุ่นย่อยๆอาจจะได้แค่ระบบมัลติมีเดียพื้นฐานเท่านั้น สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนทั้งฝนบ่อยๆ แนะนำให้เลือกใช้สายเชื่อมต่อที่ทางศูนย์ฯรับรอง จะได้มั่นใจว่าใช้งานได้เสถียร ส่วนระบบ Smartphone-link Display Audio ของ Mitsubishi ก็รองรับ Android Auto ด้วย เอาใจคนใช้แอนดรอยด์เหมือนกัน ตอนนี้ฟังก์ชันเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบ CarPlay กลายเป็นมาตรฐานของรถปิคอัพระดับกลางขึ้นไปในไทยไปแล้ว เพราะคนไทยใช้รถทำงานทั้งในเมืองและต่างจังหวัด คอนเนคติวิตี้แบบนี้ช่วยได้ทั้งเรื่องขับขี่ประจำวันและทำงานบนรถ สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่อีกที เพราะบางรุ่นอาจจะไม่ได้มาพร้อมฟีเจอร์นี้ ส่วนเรื่องการดูแลหลังการขายไม่ต้องห่วง ศูนย์บริการของ Mitsubishi ในไทยพร้อมซัพพอร์ตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถให้คุณได้
Q
2021 Triton มีขนาดเท่าไร?
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2021 เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่ยาว 5,305 มิลลิเมตร กว้าง 1,815 มิลลิเมตร สูง 1,780 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร ทำให้ขับเคลื่อนได้คล่องตัวทั้งในซอยแคบๆ ในเมืองหรือเส้นทางชนบทของไทย ส่วนกระบะขนสินค้ามีขนาด 1,520 มิลลิเมตร × 1,470 มิลลิเมตร × 475 มิลลิเมตร จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าในชีวิตประจำวันหรือความต้องการในครัวเรือนของผู้ใช้ชาวไทย การออกแบบตัวรถของ Triton นั้นได้ความทันสมัยผสมกับประโยชน์ใช้สอยจริง ส่วนระยะความสูงจากพื้นก็ทำให้ขับลุยได้สบายๆ แม้แต่ช่วงหน้าฝนที่ถนนลื่นเป็นโคลน แถมยังมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกสำหรับคนชอบออฟโรดหรือต้องขับในเส้นทางยากๆ ด้วย ในไทยนี่รถกระบะไม่ใช่แค่รถทำงาน แต่เป็นรถครอบครัวคันแรกของหลายๆ บ้าน ดังนั้นพื้นที่และความอเนกประสงค์ของ Triton ทำให้มันเป็นตัวเลือกยอดนิยมในตลาดไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการเดินทางไกล

ข้อดี

ลุคทันสมัยและไม่เก่าตา
ระบบอากาศภายในสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นนวัตกรรม
สมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรยอดเยี่ยม มีกำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อง่ายในการควบคุม คุณเพียงจำโหมดที่ตรงกับเส้นทางได้
พื้นที่ภายในรถสบาย ที่นั่งพอดีกับร่างกาย มีพื้นที่ใหญ่ทั้งหน้าและหลัง
ระบบความปลอดภัยดี เช่น การตรวจจับจุดบอด การเตือนการชนไกล้ไกล กล้อง 360 องศา เป็นต้น
มีความสบายในการตั้งค่าอย่างมาก เช่น ที่นั่งที่สามารถปรับไฟฟ้า ระบบเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ, บางคู่แข่งยังไม่มีอุปกรณ์

ข้อเสีย

การอัปเดตผลิตภัณฑ์ช้าลง การเปลี่ยนแปลงล่าสุดเกิดขึ้นในสิ้นปี 2018
การเลือกพลังงานเครื่องยนต์เป็นเดียว พึ่งพาเครื่องยนต์เดียว

Q&A ล่าสุด

Q
Jaecoo 7 มีซันรูฟหรือไม่?
รถยนต์รุ่น Jaecoo 7 ที่วางตำแหน่งเป็น SUV ระดับพรีเมียมในตลาดประเทศไทย ได้ติดตั้งระบบซันรูฟแบบพาโนราม่าที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในรถ แต่ยังมอบประสบการณ์การนั่งที่โปร่งสบายเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย โดยเฉพาะเมื่อขับชมวิวภูเขาที่เชียงใหม่หรือเส้นทางชายฝั่งพัทยา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนและฝนตกชุกระยะยาว ขอแนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบสภาพยางซีลของซันรูฟเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการเปิดซันรูฟทันทีหลังจากจอดรถตากแดดเป็นเวลานานเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนยาง นอกจากนี้ตัวแทนจำหน่ายบางแห่งอาจมีบริการอัพเกรดกระจกป้องกันรังสียูวีให้ด้วย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน การติดตั้งซันรูฟอาจแตกต่างกันไปตามเวอร์ชัน ดังนั้นควรตรวจสอบสเปคอย่างละเอียดบนเว็บไซต์ทางการของ Jaecoo ประเทศไทย หรือทดลองสักการะที่โชว์รูมในกรุงเทพฯหรือภูเก็ตก่อนตัดสินใจ ซันรูฟจะช่วยบรรเทาความอึดอัดภายในรถในช่วงฤดูฝนได้มาก แต่ควรทราบว่ารุ่นระดับพื้นฐานบางรุ่นอาจไม่รวมฟีเจอร์นี้มาให้
Q
Jaecoo 7 มีติดตั้งกล้องหน้ารถหรือไม่?
รถยนต์ Jaecoo 7 ในรุ่นปัจจุบันยังไม่มีระบบกล้องติดรถยนต์ (dashcam) มาให้ในตัว แต่เจ้าของรถสามารถซื้ออุปกรณ์เสริมจากร้านอื่นมาติดตั้งเองได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในตลาดเมืองไทย ร้านขายอุปกรณ์รถยนต์หรือเว็บขายของออนไลน์ก็มีกล้องให้เลือกเพียบ แนะนำให้เลือกรุ่นที่ถ่ายภาพความละเอียดสูงคุณภาพกลางคืนก็เห็นชัด และมีระบบบันทึกวนลูปเพื่อความปลอดภัยเวลาขับรถ ส่วนในไทยเนี่ย กล้องติดรถยนต์ถือเป็นไอเทมจำเป็นมาก เพราะช่วยบันทึกอุบัติเหตุเวลามีเรื่องรวมถึงรับมือสภาพการจราจรวุ่นวาย เช่น รถติดหนักในกรุงเทพฯ หรือมอเตอร์ไซค์ตัดหน้ากะทันหัน บางรุ่นแพงหน่อยยังมีฟังก์ชัน GPS กับระบบบันทึกตอนจอดรถเหมาะกับอากาศเมืองไทยทั้งร้อนทั้งฝน นอกจากนี้ แม้ว่ากฎหมายไทยจะไม่ได้บังคับให้ติดตั้งกล้องบันทึกการขับขี่ แต่ตํารวจมักจะอ้างอิงหลักฐานวิดีโอเมื่อจัดการกับอุบัติเหตุ ดังนั้นการติดตั้งอุปกรณ์ที่คุ้มค่าจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาด เมื่อติดตั้งให้ใส่ใจกับการเดินสายที่ซ่อนอยู่เพื่อหลีกเลี่ยงการบดบังสายตาหรือส่งผลกระทบต่อการทํางานของถุงลมนิรภัย
Q
Jaecoo J7 เหมาะสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดหรือไม่?
Jaecoo J7 นับเป็น SUV ที่ตอบโจทย์การขับขี่แบบ Light Off-Road ในสภาพแวดล้อมหลายภูมิประเทศของไทย ด้วยระยะความสูงจากพื้นรถขั้นต่ำ 215 มม. มุมเข้า 24 องศา และมุมออก 30 องศา ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับถนนลูกรัง ทางดินลาดชัน หรือเส้นทางที่มีน้ำขังเล็กน้อยได้อย่างคล่องตัว ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะร่วมกับโหมดขับขี่หลายภูมิประเทศ (โหมดโคลน/ทราย/หิมะ) ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนเส้นทางชนบทช่วงฤดูฝนหรือแถบภูเขาภาคเหนือ แต่อย่าลืมว่าเจ้า J7 นี้ไม่ใช่รถออฟโรดระดับฮาร์ดคอร์ ถ้าจะไปลุยดอยเชียงใหม่หรือโคลนลึกๆ แนะนำให้มองหารถที่เชี่ยวชาญด้านออฟโรดโดยเฉพาะจะเหมาะกว่า สำหรับคนไทยแล้ว จุดเด่นของ J7 อยู่ที่การผสมผสานระหว่างการใช้งานในเมืองกับทริปสั้นๆ วันหยุด เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6L ให้แรงบิดต่ำที่เพียงพอสำหรับการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง ส่วนระบบกล้องรอบทิศทาง 540 องศาก็ช่วยได้มากเวลาจอดในซอยแคบๆ แต่ถ้าคิดจะลุยกลางป่าหรือทางวิบากเป็นประจำ แนะนำให้อัพเกรดยาง AT และเสริมการป้องกันช่วงล่างจะดีกว่า ในตลาดไทย รุ่นใกล้เคียงมักเน้นความ Multifunctional มากกว่าการออฟโรดสุดโต่ง แนะนำให้เลือกตามความถี่ของการใช้งานจริง ถ้าแค่ลุยเบาๆ เป็นครั้งคราว J7 ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากลุยหนักจริงๆ อาจต้องมองหารถที่ออกแบบมาสำหรับออฟโรดโดยเฉพาะหรือปรับแต่งเพิ่มเติม
Q
ระยะทางของแบตเตอรี่ใน Jaecoo J7 คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ SUV อย่าง Jaecoo J7 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเกิดใหม่ ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่จะแตกต่างกันไปตามการกำหนดค่าและสภาพการขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนของไทยและเส้นทางแบบผสม รุ่น Pure Electric คาดว่าจะให้ระยะทางประมาณ 400-450 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางในกรุงเทพฯ หรือทริปสั้นๆ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดนั้นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตรขึ้นไป เหมาะมากสำหรับคนไทยที่ชอบเดินทางไกล อย่างไรก็ตาม อากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ และควรจอดรถในที่ร่มเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมรถไฟฟ้าอย่างเต็มที่ การซื้อ Jaecoo J7 รุ่นไฟฟ้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 150,000 บาท และสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ก็กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนไทยที่สนใจ นอกจากจะดูตัวเลขระยะทางตามที่ประกาศแล้ว ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น การใช้แอร์ การจราจรติดขัด แนะนำให้ทดลองขับและสังเกตการทำงานของระบบจัดการแบตเตอรี่ในสภาพอากาศของไทยให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Jaecoo J7 มีระบบช่วยจอดหรือไม่?
Jaecoo J7 ได้รับการติดตั้งระบบ Park Assist (ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงในสภาพแวดล้อมการจอดรถที่ซับซ้อนของเมืองไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อย่างกรุงเทพฯ ที่ช่องจอดรถมักคับแคบ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจอดรถแนวขนานและจอดแนวตั้งได้อย่างง่ายดาย พร้อมลดความเสี่ยงการเกิดรอยขีดข่วน ระบบ Park Assist นี้ใช้เซ็นเซอร์อัลตราโซนิกรอบคันรถเพื่อจดจำช่องจอดที่ว่างได้เอง และควบคุมพวงมาลัยเพื่อดำเนินการจอดรถอัตโนมัติ ผู้ขับขี่เพียงทำตามคำแนะนำเพื่อควบคุมเกียร์และเบรก นอกจาก Park Assist แล้ว Jaecoo J7 ยังมาพร้อมระบบช่วยขับขี่อื่นๆ เช่น กล้องรอบทิศทาง 360 องศา และระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนถนนที่แออัดของไทย สำหรับผู้บริโภคไทย ฟีเจอร์ช่วยขับขี่อัจฉริยะเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดความเครียดในการจอดรถประจำวัน แต่ยังเหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของไทย ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่นในช่วงฤดูฝนหรือการมองเห็นที่ลดลงในเวลากลางคืน ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและความปลอดภัย
ดูเพิ่มเติม