Q
ที่ไหนที่ฉันสามารถทดลองขับ neta v
คุณสามารถทดลองขับ Neta V ได้ที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Neta หรือในกิจกรรมทดลองขับที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ในช่วงงานแสดงรถยนต์ขนาดใหญ่ อาจมีโอกาสให้ทดลองขับด้วยเช่นกัน สามารถตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองขับและสถานที่ได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ Neta หรือโทรสอบถามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ของคุณ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
neta v วิ่งได้กี่กิโล
ระยะทางที่ Neta V สามารถขับได้จะขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสภาพการใช้งาน โดยปกติแล้ว รุ่นที่พบได้ทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จะสามารถขับได้ระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร แต่ในความเป็นจริง ระยะทางที่ขับได้อาจเปลี่ยนแปลงได้จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพถนน พฤติกรรมการขับขี่ และอุณหภูมิ
Q
neta v มีสีอะไรบ้าง
Neta V มักมีสีให้เลือกหลากหลาย เช่น สีขาวมุก สีดำสตาร์ไลท์ สีแดงปะการัง และสีน้ำเงินออโรร่า ทั้งนี้ สีที่มีจำหน่ายอาจเปลี่ยนแปลงไปตามตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่และความต้องการของตลาด
Q
ที่ไหนที่ฉันสามารถทดลองขับรถ Neta V
โดยปกติแล้ว คุณสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Neta เพื่อจัดการทดลองขับรถ Neta V ได้ นอกจากนี้ ในงานแสดงรถยนต์ขนาดใหญ่บางงานก็อาจมีการจัดโอกาสทดลองขับด้วยเช่นกัน ยังสามารถติดตามเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Neta หรือช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์ เพื่ออัปเดตข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการทดลองขับ
Q
ฉันสามารถจอง neta v ที่ใด
คุณสามารถจอง Neta V ได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้:1.เข้าไปที่เว็บไซต์ทางการของแบรนด์ Neta ในประเทศไทย เพื่อดูข้อมูลและช่องทางการจอง 2.ติดต่อที่ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Neta ในประเทศไทย ซึ่งจะให้รายละเอียดขั้นตอนและบริการจองที่ครบถ้วน 3.อาจมีบริการจอง Neta V ที่งานแสดงรถยนต์ขนาดใหญ่บางงานด้วย
Q
neta v ใช้แบตเตอรี่ชนิดใด
Neta V ในประเทศไทยมักใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น ความหนาแน่นพลังงานสูง อายุการใช้งานยาวนาน และน้ำหนักค่อนข้างเบา ซึ่งสามารถให้พลังงานที่เสถียรและยาวนานแก่ Neta V ได้
Q
neta v ชาร์จไฟบ้าน กี่ ชั่วโมง
ระยะเวลาที่ Neta V ใช้ในการชาร์จที่บ้านอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับกำลังของอุปกรณ์ชาร์จและความจุแบตเตอรี่ของรถ โดยทั่วไป หากใช้อุปกรณ์ชาร์จแบบช้าทั่วไปอาจใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง แต่หากใช้อุปกรณ์ชาร์จกำลังสูง ระยะเวลาชาร์จก็จะลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาชาร์จจริงอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิของสภาพแวดล้อม หรือปริมาณพลังงานที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่
Q
neta v มาจากประเทศใด
Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนที่เริ่มได้รับความสนใจในตลาดประเทศไทย ด้วยสมรรถนะที่แข่งขันได้ อุปกรณ์ที่ครบครัน และราคาที่น่าสนใจ Neta V จึงกลายเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวไทย ตัวรถมีระยะทางขับขี่ที่ดี สามารถรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ภายในรถยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกและสบายให้กับผู้ใช้งาน
Q
neta v ii แตกต่างจาก neta v อย่างไร
Neta V II มีความแตกต่างจาก Neta V ในหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การออกแบบภายนอกที่ Neta V II อาจมีเส้นสายและรูปทรงที่ทันสมัยและมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ในด้านภายใน Neta V II อาจเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพิ่มความสบายและความหรูหรา สำหรับอุปกรณ์และฟังก์ชันต่าง ๆ Neta V II อาจมาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้ากว่า เช่น ระบบช่วยขับขี่ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ส่วนด้านสมรรถนะ Neta V II อาจมีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่แน่นอนยังขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้งในรถแต่ละรุ่น
Q
neta v ii แตกต่างจาก neta v อย่างไร
ความแตกต่างระหว่าง Neta V II และ Neta V มีหลายด้าน ประการแรก ในส่วนของการออกแบบภายนอก Neta V II อาจมาพร้อมกับเส้นสายที่ดูทันสมัยและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ด้านภายในห้องโดยสาร Neta V II อาจใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้นและเพิ่มความล้ำสมัยให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ในแง่ของสมรรถนะ Neta V II อาจได้รับการปรับปรุง เช่น การเพิ่มระยะทางวิ่งต่อการชาร์จหรือการปรับจูนกำลังขับเคลื่อนให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่แน่ชัดของความแตกต่างอาจขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและออปชันที่มีให้ในแต่ละเวอร์ชัน
Q
Neta V ใช้แบตเตอรี่ประเภทอะไร
Neta V ที่จำหน่ายในประเทศไทยมักใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีข้อดีหลายประการ เช่น ความหนาแน่นพลังงานสูง ระยะทางวิ่งที่ยาวนาน และระยะเวลาในการชาร์จที่ค่อนข้างสั้น ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการในการเดินทางในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี
Q&A ล่าสุด
Q
จากัวร์ I-Pace ต้องการบริการบำรุงรักษาบ่อยเพียงใด?
Jaguar I-PACE ในฐานะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีรอบการบำรุงรักษาที่แตกต่างจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิม โดยทั่วไป รถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนทางกลที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหรือทำการบำรุงรักษาหลายรายการเช่นรถน้ำมัน โดยปกติแล้ว I-PACE ควรเข้ารับการตรวจเช็กเบื้องต้นทุก ๆ 12 เดือน หรือทุก 20,000 – 30,000 กิโลเมตร แล้วแต่ว่าระยะใดถึงก่อน รายการตรวจสอบหลักได้แก่ การตรวจสภาพยาง ดูอัตราการสึกหรอ และตรวจสอบแรงดันลมยาง ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่และระยะทางวิ่ง การตรวจสอบระบบเบรก เพื่อให้แน่ใจว่ายังมีประสิทธิภาพที่ดี และการตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ แม้ I-PACE จะใช้แบตเตอรี่ขนาด 90kWh ซึ่งมีอายุการใช้งานที่มั่นคงภายใต้การใช้งานปกติ แต่การตรวจเช็กสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำจะช่วยให้สามารถพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นอกจากนี้ ทุก 2 – 3 ปี อาจจำเป็นต้องเข้ารับการบำรุงรักษาในระดับลึกมากขึ้น เช่น การตรวจสอบระบบไฟฟ้า ระบบช่วงล่าง และระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เพื่อรักษาสภาพการทำงานของรถให้อยู่ในระดับที่ดีที่สุด ทั้งนี้ คำแนะนำในการบำรุงรักษาที่เหมาะสมควรอ้างอิงตามคู่มือผู้ใช้ของตัวรถ และคำแนะนำจากศูนย์บริการหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
Q
แบตเตอรี่ Jaguar I-Pace ใช้งานได้นานเท่าไหร่
Jaguar I-PACE มีสมรรถนะด้านระยะทางที่โดดเด่น โดยภายใต้มาตรฐานการทดสอบ NEDC สามารถวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หากประเมินตามมาตรฐาน WLTP ระยะทางจะอยู่ที่ประมาณ 470 กิโลเมตร เมื่อต่อกับเครื่องชาร์จเร็วกระแสตรง (DC) กำลังไฟ 100 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ภายในเวลา 40 นาที หากใช้กล่องชาร์จติดผนังที่บ้าน จะใช้เวลาประมาณ 9.1 ชั่วโมงในการชาร์จถึง 80% แบตเตอรี่ของรถถูกออกแบบแบบแยกโมดูล พร้อมระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ทำหน้าที่เหมือน “สมอง” คอยตรวจสอบพารามิเตอร์ของแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ และควบคุมกระบวนการชาร์จ–คายประจุอย่างแม่นยำ เพื่อให้แบตเตอรี่ทำงานในสภาวะที่เหมาะสมที่สุดและช่วยยืดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ Jaguar ยังรับประกันแบตเตอรี่ของ I-PACE เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
Q
Jaguar I-pace มีการชาร์จแบบเร็วหรือไม่?
Jaguar I-PACE รองรับการชาร์จแบบเร็ว (DC Fast Charging) โดยสามารถรองรับกำลังชาร์จสูงสุดได้ถึง 100 กิโลวัตต์ ที่สถานีชาร์จเร็ว ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รถสามารถชาร์จจาก 20% ถึง 80% ได้ภายในประมาณ 35 นาที นอกจากนี้ หลังจากอัปเดตซอฟต์แวร์แล้ว กำลังชาร์จสูงสุดจะเพิ่มขึ้นเป็น 105 กิโลวัตต์ โดยช่วงชาร์จที่รวดเร็วที่สุดอยู่ระหว่าง 10% ถึง 40% ซึ่งในช่วงนี้กำลังชาร์จจะเกิน 100 กิโลวัตต์ เมื่อใช้การชาร์จแบบเร็วด้วยกระแสตรง (DC) ที่กำลังไฟ 100 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 0% ถึง 80% ได้ภายในเวลาประมาณ 40 นาที และการชาร์จเพียง 15 นาที สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ประมาณ 100 กิโลเมตร คุณสมบัติการชาร์จเร็วนี้ช่วยลดเวลารอคอยในการชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือขับขี่ระยะไกล ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดี ลดค่าใช้จ่ายด้านเวลาในการชาร์จ
Q
I-Pace เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
ใช่ครับ I-PACE เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ AWD ขั้นสูง เป็นรถยนต์มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแยกที่เพลาหน้าและเพลาหลัง มอเตอร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีกำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 348 นิวตันเมตร ซึ่งให้พลังขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมและการควบคุมที่แม่นยำ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยให้ I-PACE กระจายแรงขับได้ดีขึ้นในสภาพถนนที่หลากหลาย เช่น พื้นถนนลื่นหรือเส้นทางแบบออฟโรดเบา ๆ ส่งผลให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่และสมรรถนะในการผ่านอุปสรรคดีขึ้น ตัวรถมีขนาดความยาว 4,682 มิลลิเมตร กว้าง 2,011 มิลลิเมตร สูง 1,565 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,990 มิลลิเมตร ซึ่งให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบาย โดยรวมแล้ว I-PACE แสดงถึงความสมดุลทั้งในด้านสมรรถนะและการใช้งานจริงได้อย่างดี
Q
Jaguar I-PACE มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอย่างไร
Jaguar I-PACE ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบซอง (Pouch Cell) ซึ่งมีความหนาแน่นพลังงานสูง อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไม่มีตัวเลขที่ตายตัวแน่นอน เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ในชีวิตประจำวัน วิธีการชาร์จ และสภาพแวดล้อมในการใช้งาน หากผู้ใช้งานขับขี่แบบเร่งแรงบ่อยครั้ง ชาร์จเร็วเป็นประจำ หรือปล่อยให้แบตเตอรี่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากมีพฤติกรรมการใช้งานที่เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่ไฟหมดจนเกินไป ชาร์จในอุณหภูมิที่เหมาะสม และไม่จอดรถทิ้งไว้ในสภาพแวดล้อมสุดขั้วบ่อยครั้ง ก็สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ I-PACE มีระยะทางขับขี่ตามมาตรฐาน NEDC ประมาณ 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมาพร้อมระบบจัดการแบตเตอรี่และระบบควบคุมอุณหภูมิที่ทันสมัย ซึ่งช่วยรักษาสมรรถนะของแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ลดความเสื่อมสภาพ และส่งผลดีต่ออายุการใช้งานในระยะยาว
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Neta V หั่น 120,000 บาท! สงครามราคาเดือด! ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยอีกครั้ง
AshleyJul 26, 2024

เนตา V วางตําแหน่งเป็นเอสยูวีไฟฟ้าบริสุทธิ์ขนาดเล็ก ราคา 549,000 บาทหลังการอุดหนุน!
AshleyMay 30, 2024

บางกอกมอเตอร์โชว์: เปิดตัว NETA V-II รุ่นแรกจากโรงงานของ NETA ในไทย ราคาเริ่มต้น 549000 บาท
Kevin WongMar 25, 2024

NETA Auto Thailand ระบุว่ากำลังพยายามแก้ไขปัญหาความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มที่
วิรุฬห์Jun 6, 2025

สถาบันการเงินในประเทศไทยให้ NETA สินเชื่อสำรองเงินสด 10,000 ล้านบาท
ธนวัฒน์Mar 24, 2025
ดูเพิ่มเติม