Neta ได้รับเงินลงทุนจาก 47 ราย ฟื้นตัวและกลับมาเดินสายการผลิตแล้ว
วิรุฬห์Aug 05, 2025, 01:38 PM

【PCauto】หลังจากเผชิญวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก Neta Auto ได้เริ่มกระบวนการฟื้นฟูกิจการในเดือนกรกฎาคม 2025 พร้อมกับดึงดูดนักลงทุนจำนวน 47 รายที่แสดงความสนใจเข้าร่วมแผนปรับโครงสร้างบริษัทแม่ Hozon New Energy ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการล้มละลาย
ความคืบหน้านี้เกิดขึ้นหลังจากโรงงานของ Neta ในเมืองถงเซียง มณฑลเจ้อเจียง กลับมาจ่ายเงินเดือนพนักงานเต็มจำนวน และเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาผลิตอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินจำนวนมากและยอดขายที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง

Neta เริ่มเห็นความคืบหน้าในแผนฟื้นฟูกิจการ
จนถึงต้นเดือนสิงหาคม 2025 มีนักลงทุนจำนวน 47 รายยื่นหนังสือแสดงความจำนงเข้าร่วมแผนฟื้นฟูกิจการของ Hozon New Energy ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Neta Auto โดยผู้ยื่นความจำนงต้องมีความน่าเชื่อถือทางธุรกิจและศักยภาพทางการเงินเพียงพอ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 45 รายที่ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านแพลตฟอร์ม Alibaba ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของตลาดที่มีต่อสินทรัพย์หลักของ Neta Auto
กลุ่มนักลงทุนมีความหลากหลาย ครอบคลุมทั้งกองทุนรัฐวิสาหกิจ บริษัทในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์พลังงานใหม่ และทุนจากต่างประเทศ เช่น กลุ่มทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มเดินทาง Grab ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สาระสำคัญของแผนฟื้นฟูคือการระดมทุนรอบแรกผ่านหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Bonds) มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านหยวน (ราว 226,000 ล้านบาท) พร้อมตั้งเป้าเข้าระดมทุนเพิ่มเติมในตลาดหุ้น STAR Market ภายในปี 2026 โดยผู้ถือหุ้นเดิมอย่าง 360 Group และ CATL (Contemporary Amperex Technology) จะยังคงถือหุ้นต่อไป ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ที่มีประสบการณ์จากค่ายรถยนต์ระดับโลกเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมบริหาร

จ่ายเงินเดือนเต็มจำนวน จุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูการผลิต
การจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวนให้กับพนักงานโรงงานถงเซียง ถือเป็นการยุติวิกฤตที่เคยเกิดขึ้นจากการค้างจ่ายหรือจ่ายเพียงเงินเดือนพื้นฐานก่อนหน้านี้ โดยมาตรการนี้นับเป็นก้าวสำคัญในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ขณะนี้พนักงานกำลังเร่งดำเนินงานบำรุงรักษาเครื่องจักรและทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้ง
แม้ว่าพนักงานจะพยายามเร่งฟื้นฟูความพร้อมของโรงงาน แต่จากการที่มีการปลดพนักงานจำนวนมาก ทำให้กำลังคนที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ ส่งผลให้การฟื้นฟูกำลังการผลิตยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังไม่สามารถกลับสู่ระดับปกติได้ในขณะนี้

ในขณะเดียวกัน Neta กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูเครือข่ายการขายและบริการ โดยมีการจัดสรรวัสดุและเงินทุนเพื่อสนับสนุนและรักษาเสถียรภาพของเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย แต่อัตราความคืบหน้ายังคงเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยในไตรมาสแรกของปี 2025 Neta Auto มียอดขายทั่วโลกเพียง 487 คัน ซึ่งส่งผลให้ระบบดีลเลอร์เกือบถึงจุดล่มสลาย
บริษัทจึงวางแผนให้ความสำคัญกับการส่งมอบรถตามคำสั่งซื้อในประเทศจีนเป็นอันดับแรก ส่วนตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศไทยและอินโดนีเซีย ยังคงดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้

แม้เริ่มฟื้นตัว Neta ยังเผชิญความท้าทายหนัก
ปัญหาด้านเงินทุนยังคงเป็นจุดที่น่ากังวลอย่างยิ่ง โดยจนถึงสิ้นปี 2024 บริษัทมีหนี้ค้างชำระกับซัพพลายเออร์มากกว่า 6 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 271,000 ล้านบาท) และมีผลขาดทุนสะสมสูงถึง 1.83 แสนล้านหยวน (ประมาณ 825,000 ล้านบาท) ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ตึงเครียด และเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงในห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากปัญหาทางการเงินแล้ว Neta Auto ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด โดยจำเป็นต้องยกระดับความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด เพื่อต่อกรกับแบรนด์ใหญ่อย่าง BYD และ Tesla ในกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเติบโต รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ของบริษัทกลับมียอดขายในไตรมาสแรกของปี 2025 ไม่ถึง 500 คัน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกยังเต็มไปด้วยความซับซ้อน แม้ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทยและมาเลเซีย จะมีศักยภาพในการเติบโต แต่ Neta Auto จำเป็นต้องมีแผนกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละภูมิภาค แม้การขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทจะยังไม่หยุดชะงัก แต่ข้อจำกัดด้านทรัพยากรอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในอนาคต

โดยรวมแล้ว การที่ Neta Auto กลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้ง พร้อมกับการมีนักลงทุนเข้าร่วมแผนฟื้นฟู ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกในกระบวนการปรับโครงสร้างกิจการ อย่างไรก็ตาม การขาดทุนในระดับสูงและยอดขายที่ยังตกต่ำยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่บริษัทต้องเร่งแก้ไขเพื่อกลับมาแข่งขันในอุตสาหกรรมได้อย่างเต็มรูปแบบ
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน
หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

