Q

เลขเครื่องยนต์ Isuzu D-Max อยู่ที่ไหน

สำหรับรถยนต์ Isuzu DMAX ในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้วหมายเลขเครื่องยนต์จะอยู่ทางด้านขวาของบล็อกเครื่องยนต์ใกล้กับจุดเชื่อมต่อเกียร์ อาจจะอยู่ที่ด้านหน้าหรือด้านข้างของเครื่องยนต์บนแผ่นป้ายเมทัล คุณต้องเปิดฝากระโปรงหน้ารถแล้วตรวจดูอย่างละเอียด ถ้าหากไม่พบแนะนำให้ดูคู่มือผู้ใช้รถหรือติดต่อตัวแทนจำหน่าย Isuzu ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพื่อขอข้อมูลที่ถูกต้อง หมายเลขเครื่องยนต์เป็นข้อมูลประจำตัวที่สำคัญของรถยนต์ เมื่อต้องทำเรื่องโอนรถ, ต่อทะเบียนหรือทำประกันในประเทศไทยจะต้องใช้ข้อมูลนี้ ดังนั้นเจ้าของรถควรเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ให้ดี นอกจากนี้ประเทศไทยเป็นเขตภูมิอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิสูงและความชื้นสูงส่งผลต่อการดูแลรักษาเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก ควรตรวจสอบน้ำมันเครื่อง, น้ำหล่อเย็นและสภาพสายพานเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้น หากหมายเลขเครื่องยนต์เกิดสนิมหรือสึกหรอจนอ่านยาก ควรรีบไปที่ศูนย์บริการ Isuzu เพื่อดำเนินการแก้ไขทันที จะได้ไม่ส่งผลต่อการทำเอกสารของรถในขั้นตอนต่อไป
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
2022 D-MAX มีแรงม้าเท่าไหร่?
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Isuzu D-MAX ในตลาดไทย มีตัวเลือกเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ แบบแรกเป็นเครื่องดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่แรงกว่าคือรุ่น 3.0 ลิตร เทอร์โบดีเซล ที่ให้กำลังถึง 190 แรงม้าและแรงบิดสูงถึง 450 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ทั่วไปและการลุยออฟโรด ด้วยแรงบิดสูงของ D-MAX ทำให้เหมาะเป็นพิเศษกับการขับขึ้นเขาและเดินทางไกลในสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้เทคโนโลยี VGS หรือ Variable Geometry System ยังช่วยลดอาการเทอร์โบแลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่น่าสนใจคือโครงสร้างตัวถังแบบแชสซีแยกและระบบล็อกดิฟเฟอเรนเชียลหลัง ทำให้ D-MAX เป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกร ชาวประมง และคนรักกิจกรรมกลางแจ้งในไทย และที่สำคัญคือรถรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ล่าสุดของไทย ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Isuzu ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Q
"ความจุของถังน้ำมันสำหรับ 2022 D-MAX คือเท่าไหร่?
รถกระบะ D-MAX รุ่นปี 2022 มีความจุถังน้ำมันถึง 76 ลิตร ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการเดินทางไกลและการใช้งานประจำวัน โดยเฉพาะในประเทศอย่างไทยที่มีภูมิประเทศหลากหลายและมักต้องเดินทางไกล ถังน้ำมันขนาดใหญ่แบบนี้ช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมัน ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น D-MAX เป็นรถกระบะที่คนไทยนิยมมาก แถมยังประหยัดน้ำมันดี คู่กับเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานอีกด้วย สำหรับคนที่ต้องขนของหรือออฟโรดบ่อยๆ ความจุถังน้ำมันถือเป็นปัจจัยสำคัญ ถัง 76 ลิตรของ D-MAX นั้นจัดอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในคลาสเดียวกัน ทำให้วิ่งได้ไกลพอสมควร นอกจากนี้ในไทยมีปั๊มน้ำมันกระจายอยู่ค่อนข้างหนาแน่น แต่ถ้าต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกลหรือขึ้นเขาลงเขา ถังน้ำมันใหญ่จะเห็นข้อเด่นชัดเจน แนะนำให้เจ้าของรถวางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้าในการเดินทางไกล เพื่อให้การเดินทางราบรื่น
Q
เครื่องยนต์ใน Isuzu D-Max 2022 คืออะไร?
รถปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC และ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX โดยเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษ เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองและการเดินทางไกลในไทย ส่วนเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้าและแรงบิดสูงถึง 450 นิวตันเมตร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องบรรทุกหนักหรือขับบ่อยในพื้นที่ภูเขา ทั้งสองรุ่นสามารถเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์ออโต้ 6 สปีด และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 ล่าสุดของไทย ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลของ Isuzu ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ แม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยก็ยังทำงานได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ D-Max ยังติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ช่วยให้ขับเคลื่อนบนถนนลูกรังในช่วงฤดูฝนได้อย่างมั่นใจ ความนิยมของรถปิกอัพรุ่นนี้ในตลาดไทยมาจากการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยลูกค้าสามารถเลือกเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้ว่าจะเน้นพลังหรือประหยัดน้ำมันมากกว่า
Q
Isuzu D-Max 2022 มีกี่กิโลวัตต์ (kW)?
Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 มีกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) จากเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร เทอร์โบ ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ (190 แรงม้า) ทั้งสองรุ่นจับคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความทนทานและประหยัดน้ำมันของรถกระบะ D-Max ใช้เทคโนโลยี Blue Power Diesel ที่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดของประเทศไทย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเพลาท้าย D-Max มีระบบล็อคเฟืองท้าย (Time Fractional Quad Drive) และระบบล็อคเฟืองท้าย (Differial Lock) ที่เหมาะกับสภาพถนนที่เต็มไปด้วยโคลนในฤดูฝน นอกจากนี้ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น Adaptive Cruise และ Lane Keep ที่ติดตั้งในรถยนต์คันนี้ ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ได้อย่างมากท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นในกรุงเทพฯ ตลาดไทยให้การยอมรับในวัฒนธรรมการดัดแปลงรถกระบะเป็นอย่างดี การออกแบบตัวถังและอุปกรณ์ตกแต่งที่หลากหลายของ D-Max ทำให้เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการดัดแปลงรถกระบะ ตั้งแต่แร็คกันสะเทือนสำหรับรถบรรทุกไปจนถึงการอัพเกรดช่วงล่าง
Q
รถ D-Max 2022 มีขนาดเท่าไหร่?
รถกระบะ D-Max รุ่นปี 2022 เป็นที่นิยมมากในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่ยาว 5,265 มิลลิเมตร กว้าง 1,870 มิลลิเมตร สูง 1,790 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร ทำให้ขับเคลื่อนได้สะดวกทั้งในเมืองและเส้นทางชนบทของไทย พร้อมยังมีกระบะขนสินค้าขนาด 1,495 มิลลิเมตร × 1,530 มิลลิเมตร × 490 มิลลิเมตร ที่เหมาะสำหรับการบรรทุกของหรืออุปกรณ์ออกค้างแรม D-Max 2022 ในไทยยังมีหลายรุ่นให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร และ 1.9 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกกลุ่ม สำหรับคนไทย รถกระบะไม่ใช่แค่รถทำงาน แต่ยังเป็นรถครอบครัวที่ครบครัน D-Max 2022 จึงโดดเด่นด้วยความทนทานและใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงระบบความปลอดภัยเช่น ABS, EBD และถุงลมนิรภัยหลายจุด ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดไทย ทั้งการเดินทางไกลและการใช้ชีวิตประจำวัน
Q
Isuzu D-Max มีระยะความสูงจากพื้นเท่าไหร่?
รถปิคอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 มีระยะความสูงจากพื้น 240 มม. ซึ่งถือว่าโดดเด่นในกลุ่มรถปิคอัพด้วยกัน ทำให้สามารถขับเคลื่อนบนเส้นทางหลากหลายแบบในประเทศไทยได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลูกรังในชนบท สภาพถนนที่มีน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน หรือแม้แต่ทางออฟโรดแบบเบาๆ ด้วยการออกแบบโครงสร้างช่วงล่างที่มีความแข็งแกร่ง พร้อมระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี D-Max จึงไม่เพียงให้ความมั่นใจในเรื่องการขับขี่ผ่านเส้นทางยากๆ แต่ยังรักษาความมั่นคงขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ทั้งใช้ชีวิตในเมืองก็ขนของเป็นประจำ ระยะความสูงจากพื้นนับเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกถึงความสามารถในการผ่านพ้นสิ่งกีดขวาง ยิ่งตัวเลขสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งลดโอกาสการเกิดรอยขีดข่วนที่ช่วงล่าง แต่ก็ต้องระวังเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่สูงขึ้นอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงในโค้ง ซึ่ง D-Max ก็จัดการจุดนี้ได้อย่างลงตัว ด้วยการปรับแต่งที่แม่นยำ และยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเลือกได้ (Part-time 4WD) ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการหลุดพ้นจากปัญหาได้ได้อีกด้วย สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเดินทางไปและกลับจากสวนอุตสาหกรรมรอบกรุงเทพฯ หรือบริเวณภูเขาทางตอนเหนือเป็นประจำ การออกแบบดังกล่าวช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายที่เกิดจากพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาสนิมจากโรงงานเดิมยังคำนึงถึงลักษณะภูมิอากาศของประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงและความชื้นสูง การใช้งานในระยะยาวจึงสบายใจยิ่งขึ้น
Q
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Isuzu D-Max 2022 คือเท่าไร?
รถปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีมากครับ ตัวเลขการบริโภคน้ำมันจะแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน สำหรับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร จะวิ่งได้ประมาณ 15-17 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่น 3.0 ลิตรเทอร์โบจะอยู่ที่ 13-15 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ตัวเลขจริงอาจขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ถนน และน้ำหนักบรรทุกด้วยนะ ในสภาพอากาศร้อนและเส้นทางขึ้นเขาของไทย แนะนำให้เจ้าของรถดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเร่งหรือเบรกกระทันหัน จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นครับ Isuzu D-Max เป็นปิกอัพยอดนิยมในตลาดไทย ด้วยเทคโนโลยีเครื่องดีเซลที่เชื่อถือได้และความประหยัดน้ำมันที่ถือเป็นจุดเด่นสำคัญ เหมาะมากสำหรับทั้งการใช้งานทั่วไปและการขนส่งของในชีวิตประจำวัน แถมเครือข่ายบริการหลังการขายของ Isuzu ในไทยก็ครอบคลุม ทำให้สะดวกในการดูแลรักษารถอีกด้วย
Q
"ความจุของถังน้ำมันสำหรับ 2022 D-MAX คือเท่าไหร่?
รถปิคอัพ D-MAX รุ่นปี 2022 มีความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานในกลุ่มรถปิคอัพระดับเดียวกัน ทำให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาหรือการเดินทางข้ามจังหวัดของไทย ที่ถังน้ำมันขนาดใหญ่จะช่วยลดความถี่ในการเติมน้ำมัน เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงที่วิ่งได้ยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ น้ำหนักบรรทุกและสภาพถนน เช่น การเร่ง-เบรกบ่อยหรือการขับขึ้นเขาจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถปิคอัพ นอกจากความจุถังน้ำมันแล้ว อาจลองดูเรื่องประหยัดน้ำมันของรถด้วย อย่าง D-MAX ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.9T และ 3.0T ที่ทั้งแรงและประหยัด เหมาะกับสภาพการใช้งานที่หลากหลายในไทย แถมสถานีน้ำมันในไทยก็มีเยอะ ถัง 76 ลิตรนี้ส่วนใหญ่ก็วิ่งได้สบายๆระหว่างปั๊ม แต่ถ้าไปเที่ยวพื้นที่ห่างไกล แนะนำให้วางแผนจุดเติมน้ำมันล่วงหน้าจะดีกว่า
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน Isuzu D-MAX 2022?
สำหรับรุ่นปี 2022 ทาง Isuzu D-MAX ในตลาดไทยได้เตรียมเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงและความน่าเชื่อถือไว้ให้เลือก 2 รุ่น คือ 1.9 ลิตร RZ4E-TC และ 3.0 ลิตร 4JJ3-TCX เทอร์โบชาร์จ ซึ่งทั้งคู่ใช้เทคโนโลยีคลีนดีเซลอันล้ำสมัยจากอีซูซุ ที่ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมล่าสุดของไทย เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดน้ำมัน ส่วนเครื่อง 3.0 ลิตร ให้กำลังแรงถึง 190 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร เลยเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องลากของหนักหรือขับบนทางเขาบ่อยๆ ด้วยสภาพอากาศร้อนและภูมิประเทศเป็นภูเขาในไทย D-MAX ออกแบบระบบระบายความร้อนพิเศษมาเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์จะทำงานได้อย่างเสถียรแม้อยู่ในอุณหภูมิสูงหรือทางชัน แถมทั้งสองรุ่นยังติดตั้ง DPF (ตัวกรองอนุภาคดีเซล) ที่ช่วยให้ได้ทั้งกำลังเครื่องยนต์แรงๆ และยังผ่านกฎหมายควบคุมมลพิษอันเข้มงวดของไทย สำหรับคนไทยที่ต้องขับทั้งในซอยแคบๆ หรือขึ้นเขาลงห้วยบ่อยๆ D-MAX ถือว่าเหมาะมากเพราะเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้มีแรงบิดสูงแม้รอบต่ำ ช่วยให้ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวทั้งให้กำลังดีและประหยัดน้ำมันไปพร้อมๆ กัน นี่แหละที่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ D-MAX ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะไทยมาอย่างยาวนาน
Q
รถ Isuzu D-Max 2022 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีราคาอยู่ระหว่าง 579,000 บาท ถึง 1,199,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น ระบบขับเคลื่อน ประเภทเกียร์ และระดับความหรูหรา โดยรุ่นพื้นฐานอย่าง Cab 4x2 กับรุ่นท็อปอย่าง Prestige 4x4 จะมีราคาต่างกันค่อนข้างมาก ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2 แบบคือ 1.9L และ 3.0L ให้เลือก ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์ออโต้ 6 สปีด พ่วงได้หนักสุดถึง 3.5 ตัน เหมาะกับทุกการใช้งานในไทย ทั้งขับในเมืองหรือขนส่งการเกษตร จุดเด่นคือ D-Max เป็นรถที่ค่าตัวคงทนมาก แถมศูนย์บริการอิซูซุก็มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ แม้ในต่างจังหวัดก็เข้าถึงง่าย ส่วนคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Ford Ranger ก็มีจุดเด่น แต่ D-Max ยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ในตลาดปิกอัพไทย เพราะค่าบำรุงรักษาถูกและความทนทานเป็นเลิศ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ไปทดลองขับและเปรียบเทียบที่ตัวแทนจำหน่ายตามงบประมาณและความต้องการจริงๆของแต่ละคน
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

รูปลักษณ์ทรงพลังและทันสมัย สายการวาดตามธรรมชาติ การจับคู่ของไฟหน้าและกริดที่ทันสมัย
ภายในรถกว้างขวาง ที่นั่งแถวหน้านุ่มสบาย การออกแบบคอนโซลส่วนกลางเป็นประโยชน์และมีฟังก์ชั่นครบครัน
มีเครื่องยนต์สองรุ่นที่ให้เลือก ทนทานและประหยัดน้ำมัน
บริการหลังการขายยอดเยี่ยม ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดูแลอย่างดียิ่ง ราคาอะไหล่ไม่สูง มีศูนย์บริการทั่วประเทศ
ราคาของรถมือสองไม่ลดลงมาก ฐานรถสามารถดูดซับการสั่นสะเทือนได้ดีเมื่อขับขี่ในเมือง

ข้อเสีย

หน้ารถและกริลล์ไม่สอดคล้องกัน
เครื่องยนต์ 1.9 ลิตรเร่งความเร็วไม่ทันเวลาโดยเฉพาะในฟาสท์องค์และการแซง
เมื่อความเร็วสูงขึ้น ชาซีนิ่มเกินไป มีความเอียงชัดเจนในทางโค้ง
หลังจากการใช้งานเป็นระยะหนึ่ง มีเสียงแปลกๆ เมื่อหมุนพวงมาลัย

Q&A ล่าสุด

Q
2022 Subaru WRX มีระบบส่งกำลังแบบใด
สำหรับรุ่นปี 2022 ของ Subaru WRX ในตลาดไทย มีให้เลือก 2 แบบเกียร์ คือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ออโต้ Sport Lineartronic CVT ที่จำลอง 8 สปีด ซึ่งทั้งสองแบบทำงานเข้ากันได้ดีกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD อันเป็นเอกลักษณ์ของซูบารุ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในไทยที่มักมีฝนและความชื้นสูง เกียร์ธรรมดาจะตอบโจทย์คนรักการขับขี่ที่ต้องการสัมผัสการควบคุมอย่างเต็มที่ ส่วนเกียร์ CVT เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เพราะให้ความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ที่น่าสนใจคือ CVT ของซูบารุใช้ระบบส่งกำลังแบบโซ่แทนสายพานแบบทั่วไป ทำให้ทนทานกว่าโดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของไทย นอกจากนี้ผู้ใช้ในไทยยังสามารถเลือกติดตั้งระบบ SI-DRIVE เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นถนนคดเคี้ยวในเชียงใหม่หรือเส้นทางเลียบชายทะเลพัทยา แถมระบบช่วงล่างของ WRX ในตลาดไทยยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพถนนท้องถิ่นอีกด้วย
Q
มูลค่าคงเหลือของ Hyundai Santa Fe ปี 2024 คืออะไร
สำหรับรุ่น Hyundai Santa Fe 2024 ที่วางขายในตลาดไทย คาดว่ามูลค่าคงเหลือหลังจากใช้งาน 3 ปีจะอยู่ที่ประมาณ 60%-65% ของราคาเดิม และอาจลดลงเหลือประมาณ 50% เมื่อใช้งานครบ 5 ปี ซึ่งข้อมูลนี้มาจากประวัติการรักษามูลค่าของรถ Hyundai ในตลาดอาเซียนรวมถึงความนิยมในรถ SUV ขนาดกลางที่ค่อนข้างทรงตัวในไทย อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคไทยควรทราบว่ามูลค่าคงเหลือได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น การเลือกรุ่นดีเซลหรือไฮบริด (ซึ่งเป็นรุ่นที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย) ประวัติการบริการที่ครบถ้วน หรือการซื้อผ่านช่องทางทางการ (เช่น โครงการรถมือสองรับประกันจาก Hyundai ประเทศไทยที่จะช่วยรักษามูลค่าได้ดีกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังมีความได้เปรียบในตลาดมือสองจากพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่าและฟีเจอร์สมาร์ทที่ทันสมัยกว่า (เช่น ระบบเก้าอี้ระบายอากาศที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดไทย) แต่ในแง่ของความนิยมในแบรนด์อาจสู้ไม่ได้เลยทีเดียว แนะนำให้เจ้าของรถในไทยเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วนและใช้บริการผ่านศูนย์บริการทางการเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าตอนขายต่อได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยอาจส่งผลต่อมูลค่าคงเหลือของรุ่นไฮบริดในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้สนใจซื้อควรจับตามองไว้ด้วย
Q
Hyundai Santa Fe 2024 มีประสิทธิภาพแค่ไหน
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2024 ให้ประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการขับขี่ในเมืองและการเดินทางระยะไกลในประเทศไทย ชุดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตรในสภาพถนนแบบผสม หากเลือกรุ่นไฮบริดจะประหยัดน้ำมันได้ถึง 15-18 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนการใช้รถในสภาวะน้ำมันราคาสูงของไทยได้อย่างชัดเจน รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Smartstream ล่าสุดจาก Hyundai ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และลดแรงเสียดทานเครื่องยนต์เพื่อสมดุลระหว่างพลังและความประหยัด นอกจากนี้ระบบ Start-Stop อัจฉริยะที่มาพร้อมกับรถในสภาพอากาศร้อนของไทยยังช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะ idle อีกด้วย ที่น่าสนใจคือผู้บริโภคไทยควรพิจารณารุ่นไฮบริดเป็นอันดับแรก เพราะรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบไฮบริดยังแสดงจุดเด่นในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยครั้ง เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Santa Fe ยังให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ภายในและการตั้งค่าตัวถังที่สมดุลระหว่างความสบายและความมั่นคงในการขับขี่ เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายของไทย แนะนำให้ทดลองขับจริงโดยเน้นตรวจสอบประสิทธิภาพระบบแอร์และระบบไฮบริดในสภาพอากาศร้อน ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญสำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทย
Q
เครื่องยนต์แบบใดที่อยู่ใน 2024 Santa Fe
รุ่น 2024 Santa Fe ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตรแบบดูดธรรมดา และระบบไฮบริด 1.6 ลิตรเทอร์โบชาร์จ โดยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 191 แรงม้า คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เหมาะสำหรับคนที่ชอบการขับขี่เน้นความลื่นไหล ส่วนระบบไฮบริด 1.6T ให้กำลังรวมสูงถึง 230 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการขับขี่ที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ แบบในกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ของไทยเรียบร้อยแล้ว จุดเด่นของรุ่นไฮบริดคือการใช้เทคโนโลยี TMED ไฮบริดอันล้ำสมัยจาก Hyundai ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างชาญฉลาด นอกจากช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังคงสมรรถนะการขับขี่ระดับ SUV ที่ทรงพลัง ซึ่งตอบโจทย์ในสภาวะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงแบบปัจจุบัน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่มาพร้อมในรุ่นนี้ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนนลื่นๆ ในช่วงฤดูฝนได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานในเมืองทั่วไป ตัวเลือกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าถือว่าเพียงพอและคุ้มค่ากว่าในแง่ราคา
Q
Is Santa Fe 2024 4WD?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2024 บางรุ่นมีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ อย่างเช่น Hyundai Santa Fe Exclusive 1.6 Turbo Hybrid AWD 2024 ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมในสภาพถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นถนนลื่น โคลน หรือเวลาขึ้นเนิน ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับผ่านและความมั่นคงให้กับรถ ส่วนรุ่น Hyundai Santa Fe Premium 1.6 Turbo Hybrid FWD 2024 จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อ เวลาเลือกซื้อต้องดู specs ของรุ่นให้ดี ๆ เลยนะครับ จะได้เลือกรถที่เหมาะกับการใช้งานและสภาพถนนที่คุณต้องเจอจริง ๆ
ดูเพิ่มเติม