Q
รุ่น CX-5 ปี 2024 ใดที่มีกล้อง 360 องศา
สำหรับรุ่นปี 2024 ของ Mazda CX-5 ในตลาดไทย ระบบกล้องรอบรถ 360 องศาจะมีให้ในรุ่นท็อปๆ เช่น รุ่น AWD GT SP ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.5 ลิตร ซึ่งรุ่นนี้ได้ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE แพ็คเกจขั้นสูง รวมถึงกล้องรอบรถ 360 องศาที่ช่วยให้ขับขี่สะดวกขึ้นโดยเฉพาะในซอยแคบๆ หรือเวลาจอดรถในพื้นที่ยากๆ ของไทย นอกจากกล้องรอบรถแล้ว ยังมีระบบช่วยจอดรถทั้งหน้าและหลัง ระบบเตือนจุดบอด และระบบเตือนขณะถอยหลัง ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย
ด้วยโครงสร้างตัวรถที่แข็งแรงและการตั้งค่าตัวลดโคลงที่ยอดเยี่ยม ทำให้ CX-5 ขับเคลื่อนได้มั่นคงแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ส่วนวัสดุภายในรถยังออกแบบมาให้ทนต่อความร้อน เหมาะกับสภาพอากาศที่นี่เป็นพิเศษ สำหรับใครที่ต้องการระบบช่วยขับขี่เพิ่มเติม สามารถอัพเกรดเป็นแพ็คเกจเทคโนโลยีที่รวมระบบจอดรถอัตโนมัติได้ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ถือว่าคุ้มค่าและน่าสนใจสำหรับคนไทยที่กำลังมองหา SUV ในระดับนี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
วิธีเปิดท้ายรถใน Mazda CX-5 รุ่นปี 2024
สำหรับรถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 ที่ขายในประเทศไทย ระบบเปิดท้ายหลังนั้นใช้ง่ายมาก มีถึง 3 วิธีให้เลือกใช้เลยครับ วิธีแรกคือกดปุ่มเปิดท้ายที่รีโมทคีย์ค้างไว้ 2 วินาที ประตูท้ายจะปลดล็อกและเปิดอัตโนมัติ แบบนี้สะดวกเวลาที่มือไม่ว่างอย่างตอนถือถุงช้อปปิ้งเต็มมือ วิธีที่สองคือใช้ปุ่มเปิดท้ายที่แผงประตูคนขับด้านในรถ แค่ดึงเบาๆก็เปิดได้แล้ว ส่วนวิธีที่สามก็กดปุ่มเปิดท้ายที่ใต้ประตูท้ายแล้วยกขึ้นได้เลย
ต้องบอกว่า CX-5 มีระบบประตูท้ายไฟฟ้าให้เลือกติดตั้งเพิ่ม (บางรุ่นสูงอาจมีมาให้อยู่แล้ว) ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยมาก เพราะสามารถปรับความสูงการเปิดท้ายให้เหมาะสมกับที่จอดรถต่างๆได้ โดยเฉพาะที่จอดรถใต้ดินในห้างแถวกรุงเทพฯที่มักมีข้อจำกัดเรื่องความสูง
พื้นที่เก็บของที่ท้ายรถจุถึง 506 ลิตร (ถ้าเก็บเบาะหลังจะเพิ่มเป็น 1620 ลิตร) เหมาะสำหรับครอบครัวไทยที่ชอบเที่ยวช่วงวันหยุดหรือเวลาเดินทางกลับบ้านเกิด ส่วนความสูงของพื้นท้ายก็พอดี ไม่สูงเกินไป ผู้หญิงก็ยกของหนักขึ้นลงได้ไม่ยาก
เคล็ดลับนิดนึงสำหรับคนใช้รถในไทยที่อากาศชื้น แนะนำให้ทำความสะอาดยางขอบท้ายรถเป็นประจำเพื่อป้องกันเสียงดังเวลาขับขี่ นี่คือทิปเล็กๆน้อยๆสำหรับการดูแลรถในสภาพอากาศร้อนชื้นครับ
Q
รุ่น Mazda CX-5 ปี 2024 รุ่นไหนที่มีระบบ Head-up Display
ในรุ่นปี 2024 ของ Mazda CX 5 ตลาดประเทศไทยได้มีการนำเสนอรุ่นสูงสุด 25 Turbo SP ที่มาพร้อมระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าแบบสี HUD ซึ่งสามารถฉายข้อมูลสำคัญเช่นความเร็วและการนำทางขึ้นไปบนกระจกบังลมด้านหน้า ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องก้มมองลงมาขณะขับขี่ เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นของกรุงเทพฯ ระบบ HUD ยังทำงานได้เสถียรในสภาพอากาศร้อนและฝนชุกของไทย โดยสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติเพื่อรับมือกับแสงแดดที่แรง นอกจาก HUD แล้ว รุ่นท็อปนี้ยังติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 25 ลิตร ซันรูฟพาโนรามา ระบบเสียง BOSE และอุปกรณ์ระดับพรีเมียมอื่นๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำสมัยและประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งนี้อุปกรณ์ของ CX 5 ในประเทศไทยอาจแตกต่างจากเวอร์ชันยุโรปและอเมริกาเหนือ ผู้สนใจควรตรวจสอบรายการอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก่อนการตัดสินใจซื้อ และเมื่อเทคโนโลยีรถยนต์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ฟังก์ชัน HUD มีแนวโน้มที่จะถูกติดตั้งในรุ่นย่อยระดับกลางของ CX 5 มากขึ้นในอนาคต
Q
วิธีเปิดใช้งานหน้าจอสัมผัสใน Mazda CX-5 2024
สำหรับรถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 ในตลาดไทย บางรุ่นอาจตั้งค่าให้หน้าจอสัมผัสปิดใช้งานขณะขับรถโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อจอดรถคุณสามารถใช้งานหน้าจอสัมผัสได้ตามปกติ ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า ให้เข้าไปที่เมนู "การตั้งค่า" บนหน้าจอกลาง จากนั้นเลือก "แสดงผล" หรือ "ระบบ" เพื่อค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับการเปิด/ปิดหน้าจอสัมผัส อย่างไรก็ตาม กฎหมายจราจรไทยมีข้อกำหนดเคร่งครัดเกี่ยวกับการใช้หน้าจอขณะขับรถ ดังนั้นแนะนำให้ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเฉพาะเมื่อจอดรถอย่างปลอดภัยเท่านั้น นอกจากนี้ระบบ Mazda Connect ยังรองรับการควบคุมผ่านปุ่มหมุน ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดการเสียสมาธิขณะขับรถ เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ หากพบปัญหาการใช้งาน สามารถติดต่อผู้จำหน่าย Mazda ที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย เพื่อรับคำแนะนำเฉพาะทางที่เหมาะกับสภาพอากาศและถนนในไทย เช่น การปรับค่าหน้าจอเพื่อลดแสงสะท้อน หรือการปรับความไวของหน้าจอสัมผัสในช่วงฤดูฝน
Q
2024 Mazda CX-5 มีระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถหรือไม่
รุ่นปี 2024 ของมาสด้า CX-5 นั้นมาพร้อมกับระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดความปลอดภัยอัจฉริยะ i-Activsense ของมาสด้า ระบบนี้ทำงานผ่านกล้องและเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับเส้นแบ่งช่องทาง เมื่อรถเริ่มเบี่ยงออกจากเลน จะมีการแจ้งเตือนด้วยการสั่นสะเทือนที่พวงมาลัยหรืออาจมีการช่วยเหยี่ยงเบาๆ เพื่อให้รถกลับมาอยู่กึ่งกลางช่องทาง ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมาะมากสำหรับการขับขี่บนทางด่วนหรือการเดินทางไกลในไทย ช่วยลดความเสี่ยงจากการขับเมื่อยล้าได้ดี แต่ต้องเข้าใจว่าระบบนี้ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ คนขับยังต้องควบคุมรถอยู่ตลอดเวลา นอกจากระบบช่วยรักษาช่องทางแล้ว CX-5 ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับตามรถคันหน้า ระบบเตือนจุดบอด ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ในสภาพอากาศร้อนชื้นและถนนซับซ้อนแบบไทยๆ สำหรับคนไทยที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดการใช้งานเพิ่มเติมจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ได้ เช่น การปรับระดับความไวของระบบหรือวิธีการปิดชั่วคราว เพื่อให้เหมาะกับการขับขี่ในสภาพต่างๆ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ
Q
รถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 มีระบบ Active Driving Display หรือไม
สำหรับรุ่นปี 2024 ของ Mazda CX-5 ที่วางขายในตลาดไทยนั้น ได้ติดตั้งระบบ Active Driving Display ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแสดงผลแบบ Head-Up ที่ใช้งานได้จริง โดยระบบจะฉายข้อมูลสำคัญเช่น ความเร็วและเส้นทางนำทางไปยังกระจกหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่คับคั่งของกรุงเทพฯ เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยการลดความถี่ในการก้มมองหน้าปัดรถ พร้อมทั้งปรับความสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสง ทำให้มองเห็นชัดเจนแม้ในวันที่แดดจัดแบบประเทศไทย ต้องบอกว่าเทคโนโลยีคล้ายๆ กันนี้กลายเป็นมาตรฐานในรถรุ่นกลางถึงสูงของหลายแบรนด์แล้ว ไม่ว่าจะเป็น HUD ของ Toyota หรือระบบแสดงผลของ BMW แต่ Mazda ได้ปรับตำแหน่งการฉายและลำดับการแสดงข้อมูลให้เข้ากับสรีระมนุษย์มากกว่า สำหรับคนไทยแล้ว ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์ทั้งในการขับทางไกลหรือเวลาติดรถติดในเมือง แนะนำให้ลองทดสอบระบบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนซื้อ และควรดูแลรักษาความสะอาดของกระจกหน้ารถเพื่อให้ภาพคมชัดเสมอ
Q
วิธีพับกระจกบน Mazda CX-5 2024
การพับกระจกหลังของ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 นั้นทำได้ง่ายมาก ถ้าเป็นรุ่นพับมือก็แค่ดันกระจกเข้าหาตัวรถเบาๆ ให้สุด ส่วนรุ่นพับไฟฟ้าก็แค่กดปุ่มในรถปุ่มเดียวจบ ปุ่มนี้มักอยู่ตรงแผงควบคุมประตูด้านคนขับ มีสัญลักษณ์รูปกระจกหน้า กดค้างไว้กระจกก็จะพับหรือกางอัตโนมัติ ซึ่งช่วยได้มากเวลาจอดในซอยแคบๆ หรือลานจอดรถแน่นๆ แบบบ้านเรา แถมยังช่วยป้องกันกระจกเฉี่ยวอีกด้วย จุดเด่นของกระจกหลัง CX-5 คือออกแบบมาเพื่อให้อากาศไหลลื่น พับแล้วลดเสียงลมเวลาขับเร็วได้ด้วย ยิ่งช่วงฤดูฝนแบบไทยๆ ถ้าเป็นรุ่นไฟฟ้าก็ไม่ต้องเปียกแขนเวลาพับกระจก แนะนำว่าถ้าจอดริมทางบ่อยๆ ควรฝึกนิสัยพับกระจกหลังทุกครั้ง ทั้งป้องกันรถตัวเองและเผื่อที่ให้รถคันอื่นด้วยนะ
Q
รถ Mazda CX-5 มีกระจกพับอัตโนมัติหรือไม่
ใช่แล้วครับ Mazda CX-5 ในรุ่นท็อปบางรุ่นมีฟีเจอร์พับกระจกหลังอัตโนมัติ ซึ่งฟีเจอร์นี้ในตลาดไทยถือว่าสะดวกมากโดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่ถนนคับแคบ เวลาจอดรถกระจกจะพับเองอัตโนมัติ ช่วยลดการขูดขีดและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งาน โดยทั่วไปเมื่อล็อครถกระจกจะพับเข้า และเมื่อปลดล็อคกระจกก็จะกางออก บางรุ่นยังมีปุ่มกดในรถให้ควบคุมการพับกระจกได้ด้วย หากคุณกำลังมองหาซื้อ CX-5 ในไทย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายอีกทีเพราะแต่ละปีและแต่ละรุ่นอาจมีความแตกต่างกัน อีกจุดที่น่าสนใจคือกระจกพับอัตโนมัติในสภาพอากาศร้อนและฝนชุกของไทยยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและน้ำฝนบนกระจกได้ด้วย แถมหลายแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า ฮอนด้าก็เริ่มนำฟีเจอร์แบบนี้มาใช้ในตลาดอาเซียนมากขึ้น แสดงว่าการออกแบบนี้ตอบโจทย์การใช้งานในภูมิภาคนี้จริงๆ นอกจากนี้ CX-5 ยังมีระบบทำความร้อนกระจกและปรับกระจกด้วยไฟฟ้า ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่ช่วงฤดูฝนของไทยได้อีกด้วยครับ
Q
รถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 มีระบบเปิด-ปิดประตูหลังแบบไม่ใช้มือหรือไม่
รุ่นปี 2024 ของ Mazda CX-5 ในตลาดไทยไม่ได้ติดตั้งระบบเปิด-ปิดประตูหลังอัตโนมัติแบบสัมผัสเท้า (hands-free liftgate) เป็นมาตรฐานทุกรุ่น แต่บางรุ่นที่แพ็กเกจสูงอาจมีปุ่มเปิด-ปิดประตูหลังไฟฟ้าให้ใช้งาน อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นเพื่อยืนยันสเปคที่แน่นอนอีกครั้ง ในสภาพอากาศเมืองไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ระบบประตูหลังไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกได้มากเวลาที่คุณมือเต็ม โดยเฉพาะเวลาที่ต้องถือของหนักหลายชิ้น แต่ควรระวังเรื่องความสูงของช่วงล่างรถและความสะอาดของเซนเซอร์ด้วย หากคุณมักต้องขนของขนาดใหญ่เป็นประจำ อาจลองเปรียบเทียบระบบสัมผัสเท้าของคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 หรือ Honda CR-V แต่ต้องเข้าใจว่าแต่ละแบรนด์จะมีการออกแบบพื้นที่สัมผัสและความไวของเซนเซอร์ที่แตกต่างกัน แนะนำให้ทดสอบระบบเปิด-ปิดประตูหลังด้วยตัวเองที่โชว์รูม เพื่อเช็คความเร็วในการตอบสนองและถามถึงระบบป้องกันการทำงานผิดพลาดในช่วงฤดูฝน เพราะรายละเอียดเหล่านี้ส่งผลต่อประสบการณ์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
Q
รถ Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 มีพวงมาลัยแบบให้ความร้อนหรือไม่
Mazda CX-5 รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยรุ่นสูงสุดติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้าอุ่น ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ในสภาพอากาศเย็นหรือการใช้แอร์ เหมาะกับพื้นที่ภาคเหนือของไทยเช่นเชียงใหม่ที่อุณหภูมิต่างกันมากระหว่างเช้าและเย็น นอกจากพวงมาลัยอุ่นแล้วยังมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกลเพื่ออุ่นห้องโดยสาร การติดตั้งเหล่านี้ทำให้ CX-5 มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับ SUV ญี่ปุ่นรุ่นเดียวกัน พวงมาลัยอุ่นมักอยู่ในชุดอุปกรณ์ฤดูหนาวหรือรุ่นท็อป แนะนำให้ผู้บริโภคในไทยตรวจสอบรายการอุปกรณ์ก่อนซื้อ ด้านเทคนิคพวงมาลัยอุ่นสมัยใหม่ใช้ใยคาร์บอนหรือเส้นลวดความต้านทาน ทำความร้อนเร็ว ใช้พลังงานต่ำไม่กระทบระบบไฟฟ้าของรถ Mazda ยังเน้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก CX-5 ติดตั้งประตูท้ายไฟฟ้า เครื่องเสียง BOSE และเทคโนโลยี Skyactiv ปรับตัวได้กับถนนหลายรูปแบบในไทย ประหยัดน้ำมันได้ดี
Q
วิธีเปิดระบบทำความร้อนใน Mazda CX-5 2024
การเปิดระบบทำความร้อนใน Mazda CX-5 รุ่น 2024 นั้นง่ายมากครับ ขั้นแรกให้สตาร์ทรถและรอจนเกจวัดอุณหภูมิน้ำขึ้นมาถึงระดับปกติ (ประมาณกลางเกจ) จากนั้นกดปุ่ม "AUTO" ที่แผงควบคุมแอร์หรือปรับปุ่มอุณหภูมิไปที่โซนสีแดง (ปกติจะอยู่ที่ 26°C ขึ้นไป) แล้วปรับความแรงลมให้รู้สึกสบายๆ สุดท้ายเลือกโหมดลมออกว่าจะให้เป่าที่เท้าหรือที่หน้าได้ตามชอบ แม้ว่าอากาศไทยจะร้อนแต่ทางเหนือหรือช่วงฤดูฝนอาจเย็นหน่อยแนะนำให้ใช้โหมดออโต้ไว้ก่อนครับ ระบบจะปรับสัดส่วนความเย็น-ร้อนให้อัตโนมัติ ทั้งประหยัดและสบายตัว
ข้อควรระวังคือการเปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายในนานๆ อาจทำให้กระจกฝ้าได้ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ความชื้นสูง แนะนำให้สลับไปใช้ระบบหมุนเวียนภายนอกหรือเปิดระบบไล่ฝ้าบ้าง ส่วนระบบแอร์แบบ Dual Zone ของ CX-5 นี่ดีมากครับ เพราะปรับอุณหภูมิคนขับกับผู้โดยสารแยกกันได้ เหมาะกับครอบครัวไทยที่แต่ละคนอาจชอบอุณหภูมิไม่เหมือนกัน
อย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองแอร์ทุก 15,000 กม. ด้วยนะครับ โดยเฉพาะถ้าใช้รถในกรุงเทพฯ ที่ฝุ่นเยอะ จะช่วยให้ระบบแอร์ทำงานมีประสิทธิภาพดีตลอด
Q&A ล่าสุด
Q
Suzuki Swift GLX และ GLX Navi แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างหลักระหว่าง Suzuki Swift รุ่น GLX กับ GLX Navi อยู่ที่ระบบนำทางครับ โดยรุ่น GLX Navi จะมีระบบนำทางในตัวให้ในขณะที่รุ่น GLX ไม่มี ส่วนคุณสมบัติหลักอื่นๆ เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ ความปลอดภัย ทั้งสองรุ่นแทบไม่ต่างกัน เหมาะสำหรับคนไทยที่ใช้ขับขี่ในเมืองหรือท่องเที่ยวระยะสั้นครับ ในตลาดไทย Swift ได้รับความนิยมจากขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด รถขนาดเล็กแบบนี้จะขับเคลื่อนได้คล่องตัวกว่าในซอยแคบๆ สำหรับคนที่เน้นความประหยัด รุ่น GLX ก็ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้อยู่แล้ว ส่วน GLX Navi จะเหมาะกับคนที่ใช้งานระบบนำทางบ่อยๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่ถนนหนทางซับซ้อนหรือเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดครับ ทั้งสองรุ่นยังคงความแข็งแรงของเครื่องยนต์และค่าบำรุงรักษาต่ำเหมือนรุ่นอื่นๆ ในตระกูล Swift ซึ่งตรงกับความต้องการของตลาดรถขนาดเล็กประหยัดน้ำมันในไทย ข้อควรระวังคือสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้นอาจกระทบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถ แนะนำให้ทดลองใช้งานระบบนำทางจริงก่อนซื้อครับ ตรวจสอบความลื่นไหลของระบบและปัญหาแสงสะท้อนบนหน้าจอให้แน่ใจว่าเหมาะกับการใช้งานของเรา
Q
suzuki swift แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร
Suzuki Swift ในตลาดไทยมีหลายรุ่นแตกต่างกันที่ระบบขับเคลื่อน อุปกรณ์และราคารุ่นเริ่มต้น GL ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรแบบดูดอากาศธรรมชาติ เน้นความประหยัดและใช้งานง่าย มาพร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่นถุงลมคู่และ ABS เหมาะกับผู้มีงบจำกัด รุ่นกลาง GLX เพิ่มหน้าจอสัมผัส กล้องถอยหลังและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆเพื่อการใช้งานประจำวันที่ดีขึ้น รุ่นท็อป RS ใช้เครื่องยนต์ 1.4 ลิตรเทอร์โบพร้อมช่วงล่างและชุดแต่งสไตล์สปอร์ต เน้นความสนุกในการขับขี่ทุกรุ่นเป็นไปตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมไทยและมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีเหมาะกับการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ Swift ได้รับความนิยมเพราะตัวรถขนาดกะทัดรัดจอดง่ายและเครือข่ายบริการหลังการขายของ Suzuki ครอบคลุม ผู้บริโภคสามารถเลือกตามความต้องการหากเน้นสมรรถนะ RS เหมาะสม หากเน้นความคุ้มค่า GL หรือ GLX เป็นตัวเลือกที่ดีและรถรุ่นนี้ในตลาดมือสองไทยยังคงรักษามูลค่าได้ดี
Q
Suzuki Swift สามารถเติมน้ำมัน 95 ได้หรือไม่
รถ Suzuki Swift สามารถใช้เบนซิน 95 ได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะเครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้ออกแบบมาให้รองรับเบนซินตั้งแต่เลข 91 ถึง 95 ดังนั้นการเติมเบนซิน 95 ในประเทศไทยถือว่าปลอดภัยและเหมาะสม แถมอาจช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานเรียบขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย เบนซิน 95 ในตลาดประเทศไทยมีค่าออกเทนสูง เหมาะกับเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนการอัดสูง ส่วนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ Swift สามารถปรับตัวให้เข้ากับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนต่างกันได้ อีกทั้งสภาพอากาศร้อนๆในประเทศไทยก็ต้องการน้ำมันคุณภาพสูง ซึ่งเบนซิน 95 มีคุณสมบัติป้องกันการน็อคที่ดีกว่า ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องเครื่องยนต์น็อคในสภาพอากาศร้อนได้ แม้เบนซิน 95 จะราคาสูงกว่าเล็กน้อย แต่การใช้ในระยะยาวจะช่วยบำรุงเครื่องยนต์ได้ดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่ขับในเมืองที่ต้องเจอรถติดบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกใช้เบนซิน 91 หรือ 95 ควรหลีกเลี่ยงการผสมเบนซินเลขต่างกัน และควรเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนบางปั๊มในประเทศไทยอาจขายเบนซิน 95 ที่ผสมเอทานอล (เช่น แกโซฮอล์ 95) ซึ่งเครื่องยนต์ของ Swift ก็ใช้งานได้ปกติ แต่แนะนำให้เจ้าของรถศึกษาจากคู่มือรถและสังเกตจากการขับขี่จริงเพื่อเลือกใช้ชนิดน้ำมันที่เหมาะสมที่สุด
Q
เมื่อ Porsche Macan รุ่นใหม่จะวางจำหน่าย
ตามข่าวล่าสุด รุ่นใหม่ล่าสุดของ Porsche Macan คาดว่าจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในตลาดไทยภายในปี 2024 โดยรุ่นนี้จะถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน PPE ถือเป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Porsche ที่เปิดตัวในไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการก้าวสู่ยุคไฟฟ้าอย่างเต็มตัว สำหรับผู้บริโภคไทยแล้ว Macan รุ่นใหม่ไม่เพียงรักษา DNA ความสปอร์ตและความหรูหราแบบ Porsche ดั้งเดิม แต่ยังได้รับการปรับระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศร้อน แถมยังวิ่งได้ไกลกว่า 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลจากกรุงเทพไปพัทยา หรือเส้นทางยอดนิยมอื่นๆ ที่น่าสนใจคือมาตรการสนับสนุนรถ EV ของรัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ก็จะช่วยให้ราคา Macan รุ่นใหม่นี้จับต้องได้มากขึ้น และแข่งขันในตลาด SUV ไฟฟ้าระดับหรูได้อย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและสถานีชาร์จของ Porsche ในไทยที่ครอบคลุมยังช่วยให้บริการหลังการขายและการชาร์จเป็นเรื่องง่าย สบายใจได้ทุกการเดินทาง ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน EV ของไทยที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและความนิยมรถรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น การเข้ามาของ Macan รุ่นใหม่นี้จะช่วยเติมสีสันให้ตลาดรถไฟฟ้าระดับพรีเมียมของไทยอย่างแน่นอน
Q
วิธีปิดระบบนำทางใน porsche macan
บน Porsche Macan การปิดระบบนำทางทำได้ง่ายผ่านหน้าจอกลางเริ่มจากกดปุ่ม NAV ด้านล่างหน้าจอเพื่อเข้าสู่หน้าแผนที่จากนั้นเลือกเมนูปิดนำทางที่มุมขวาบนหรือในเมนูตั้งค่า สำหรับ PCM เวอร์ชันใหม่สามารถใช้คำสั่งเสียงปิดนำทางได้โดยตรงควรอัปเดตแผนที่อย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ที่สภาพการจราจรเปลี่ยนแปลงเร็วระบบนำทางของ Porsche รองรับข้อมูลจราจรไทยและแจ้งเตือนกล้องจับความเร็วได้หากต้องการใช้แผนที่มือถือสามารถปิดระบบนำทางภายในรถโดยไม่กระทบฟังก์ชันอื่นสำหรับการเดินทางไกลควรตั้งค่าจุดสนใจ POI เช่น ปั๊มน้ำมันหรือจุดพักรถเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mazdaเปิดตัวทีเซอร์ CX-5 เจเนอเรชันใหม่ รถรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 10 กรกฎาคม
ณัฐวุฒิJul 3, 2025

Mazda CX-5 ใหม่ คาดมาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv-Z และภายในโฉมใหม่
ณัฐวุฒิJun 24, 2025

Mazda CX-5 นำเสนอใน Motor Expo 2024 ในประเทศไทย, รุ่นใหม่อาจจะเปิดตัวในงาน Tokyo Auto Show ในปีหน้า
สุรเดชDec 4, 2024

Mazda CX-5 รุ่นที่สามจะเดบิวต์ในปี 2025! มีการใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาด้วยตนเอง
ธนวัฒน์Nov 25, 2024

ข้อมูลตลาดรถในเดือนกรกฎาคมของออสเตรเลีย: Toyota RAV4 คว้าแชมป์ขาย, รุ่น PHEV เติบโต 128.9%!
AshleyAug 6, 2024
ดูเพิ่มเติม
ข้อดี
ข้อเสีย