Q
รุ่นแรกของ MG ZS ออกในปีอะไร
รุ่นแรกของ MG ZS เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยเป็น SUV ขนาดเล็กจากแบรนด์ MG ในเครือ Shanghai Automotive Industry Corporation (SAIC) ที่เน้นกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวและราคาจับต้องได้ ในตลาดไทยก็ได้รับความสนใจไม่น้อยเหมือนกัน จุดเด่นของ MG ZS ในไทยคือมีตัวเลือกเครื่องยนต์หลากหลาย ทั้งเครื่องเบนซิน 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศ และเครื่องเทอร์โบ 1.0 ลิตร แถมยังมีรุ่นไฟฟ้า 100% อย่าง MG ZS EV ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลายสไตล์ การออกแบบของ MG ZS ที่เป็นรถระดับโลกนั้นได้ความทันสมัยผสมผสานกับประโยชน์ใช้สอย อีกทั้งภายในยังครบครันด้วยระบบมัลติมีเดียหน้าจอสัมผัสและเทคโนโลยีความปลอดภัยหลายรายการ ในตลาดไทย MG ZS มีคู่แข่งสำคัญอย่าง Honda HR-V และ Toyota C-HR แต่จุดขายคือราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นที่มีงบจำกัด สุดท้ายนี้แบรนด์ MG ก็ยังคงเดินหน้าลงทุนในตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการผลิตในประเทศและการขยายเครือข่ายจำหน่าย เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของรถตระกูล ZS ให้แข็งแกร่งขึ้น
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ข้อเสียของ MG ZS มีอะไรบ้าง?
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีข้อด้อยบางจุดที่ควรรู้ไว้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางผู้ใช้รายงานว่าประสิทธิภาพระบบแอร์อาจไม่แรงพอเมื่อใช้งานหนัก โดยเฉพาะเวลาติดอยู่ในรถนานๆ อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเย็นสบาย ส่วนเครื่องยนต์ 1.5L แบบดูดธรรมดา แม้จะประหยัดน้ำมันแต่เมื่อต้องลากเต็มคันหรือขับขึ้นเขาในพื้นที่ต่างจังหวัดอาจรู้สึกได้ว่ากำลังไม่ค่อยพอ เวลาแซงจึงต้องเผื่อระยะมากขึ้น สำหรับวัสดุภายในรถ แม้จะทนทานแต่ใช้พลาสติกแข็งค่อนข้างเย็น ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบความรู้สึกพรีเมียมเท่าไร ต้องบอกว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและบริการหลังการขายค่อนข้างมาก แนะนำว่าควรไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายจริงๆ โดยเฉพาะระบบแอร์และการออกตัวบนทางชัน เพื่อความชัวร์ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Honda HR-V หรือ Toyota Corolla Cross ที่อาจมีจุดเด่นด้านการตั้งเครื่องยนต์หรือประสิทธิภาพแอร์ที่ต่างออกไป แล้วเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้งานในไทยได้ดีที่สุด
Q
MG ZS อยู่ในกลุ่ม Segment ไหน
MG ZS เป็นรุ่นที่อยู่ในระดับ C-Segment ซึ่งโดยทั่วไปก็จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กได้เช่นกัน การแบ่งระดับของรถยนต์จะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะฐานล้อ ขนาดตัวถัง ระบบแต่งเติม รวมถึงกำลังเครื่อง เป็นต้น สำหรับ MG ZS แล้วมีระยะฐานล้อ 2585 มม. ความยาว 4323 มม. ความกว้าง 1809 มม. และความสูงอยู่ระหว่าง 1628-1653 มม. จากขนาดตัวถังเหล่านี้ก็ถือว่าเข้าข่าย SUV ขนาดเล็กพอดี โดยทั่วไปแล้ว SUV ขนาดเล็กแบบนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะจอดง่าย ขับเคลื่อนคล่องตัว ด้วยตำแหน่งระดับนี้ MG ZS จึงตอบโจทย์การเดินทางในเมืองได้ดี มีพื้นที่ภายในรถที่เพียงพอสำหรับครอบครัวทั่วไปหรือการใช้งานส่วนตัว ทำให้มีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สนใจรถประเภทนี้ในตลาด
Q
MG ZS ขายต่อได้ราคาเท่าไหร่? หรือ MG ZS ราคาตกไหม?
MG ZS ในตลาดรถมือสองของไทยถือว่ามีอัตราการขายต่อในระดับปานกลางถึงค่อนข้างดี โดยมูลค่าขายต่อจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง รุ่นย่อย และประวัติการดูแลรักษารถ โดยทั่วไปแล้ว รถที่มีอายุประมาณ 3 ปี จะมีมูลค่าคงเหลืออยู่ที่ประมาณ 50%-60% ของราคารถใหม่ ซึ่งถือว่าสูงกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นในระดับเดียวกัน แต่ยังต่ำกว่ายี่ห้อที่มีชื่อเสียงเรื่องการขายต่ออย่าง Toyota
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาขายต่อของ MG ZS ได้แก่ การที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มยอมรับแบรนด์ MG มากขึ้น รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำจากการประกอบภายในประเทศ ขณะที่รุ่น ZS EV แบบไฟฟ้าล้วนมีอัตราการลดราคาที่เร็วกว่ารุ่นเบนซิน เนื่องจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดรถมือสองในไทยยังให้ความสำคัญกับประวัติการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ (4S) และการใช้ชิ้นส่วนแท้จากโรงงาน ดังนั้นผู้ใช้ควรเก็บเอกสารการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน รุ่นไฮบริดและไฟฟ้ามีโอกาสขายต่อได้ราคาดีกว่ารุ่นน้ำมันในบางกรณี จากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ แต่ควรตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เนื่องจากกลายเป็นปัจจัยใหม่ในการประเมินราคารถมือสองในไทย ปัจจุบันเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของ MG ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในไทย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการดูแลรักษารถและส่งผลดีต่อมูลค่าขายต่อโดยรวมอีกด้วย
Q
รถ MG ZS มีกี่ CC?
MG ZS ถือเป็นรถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดประเทศไทย โดยในแต่ละรุ่นย่อยจะมีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันเล็กน้อย รุ่นหลักที่วางจำหน่ายคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีเทอร์โบ ความจุจริงอยู่ที่ 1,498 ซีซี มาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดน้ำมันในระดับดี
ในบางรุ่นอาจมีการนำเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร เทอร์โบ (ความจุจริง 1,349 ซีซี) เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้น ในขณะที่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิง
MG ZS ได้รับการออกแบบให้ผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษของไทย ซึ่งมีความเข้มงวดมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้เจ้าของรถหมั่นตรวจสอบระบบระบายความร้อนและระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจากนี้ รถที่มีเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร ยังอยู่ในช่วงอัตราภาษีที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับรถที่มีความจุมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ MG ZS มีราคาคุ้มค่าและแข่งขันในตลาดได้ดี สำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและการใช้งานจริง การรู้ขนาดเครื่องยนต์จะช่วยในการประเมินสมรรถนะและต้นทุนการดูแลรักษาในระยะยาว ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จริงด้วยตัวเอง
Q
MG ZS ใช้เครื่องยนต์อะไร?
MG ZS มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1.5L แนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน รูปแบบการจ่ายอากาศเป็นแบบแนตเชอรัลลีแอสพายเรชัน มีความจุกระบอกสูบ 1498mL ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า กำลังสูงสุด 84kW ที่ 6000rpm แรงบิดสูงสุด 150N·m ที่ 4500rpm เครื่องยนต์นี้ให้ความรู้สึกเร่งที่ลื่นไหลและนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานในเมืองเพราะให้กำลังพอดี ไม่ว่าจะเจอสภาพการจราจรติดขัดก็ขับได้อย่างสบายๆ ระบบเกียร์เป็นแบบ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เรียบขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ นอกจากนี้เครื่องยนต์ยังประหยัดน้ำมันดี อัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐานอยู่ที่ 6.4L/100km ช่วยให้เจ้าของประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
Q
MG ZS มีเกียร์อะไรบ้าง? หรือ MG ZS ใช้เกียร์แบบไหน?
MG ZS มาพร้อมกับเกียร์ CVT ที่ทำงานแบบไร้ขั้น ซึ่งเทคโนโลยีเกียร์แบบนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว มีความน่าเชื่อถือสูง ระบบเปลี่ยนเกียร์ทำงานลื่นไหลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เวลาขับจริงๆก็รู้สึกว่าเกียร์ตอบสนองดี แม้จะเกิดอาการลื่นไปก็ยังควบคุมได้ง่าย ไม่มีอาการปัดท้ายน่ากลัวอย่างที่คิด
ถึงแม้แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์เสริมบ้าง แต่ทุกรุ่นล้วนใช้เกียร์ตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านกำลังและความลื่นไหลในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้เกียร์ CVT ยังทำงานประสานกับเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว ระบบเปลี่ยนเกียร์เข้าใจง่าย มีแรงตอบสนองที่ดี ทำให้ผู้ขับรู้สึกสบายมือเวลาขับ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นประจำ
Q
ล้อ MG ZS ใช้ PCD เท่าไหร่?
ขนาด PCD (Pitch Circle Diameter) ของล้อ MG ZS คือ 5x114.3 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พบได้บ่อยในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย โดยเฉพาะรถญี่ปุ่นหลายรุ่น เช่น Honda และ Toyota ทำให้ผู้ใช้ MG ZS สามารถเลือกเปลี่ยนหรืออัปเกรดล้อแม็กได้ง่ายขึ้น ด้วยล้อที่มีขนาดตรงกันในท้องตลาด
PCD เป็นค่าที่สำคัญสำหรับการติดตั้งล้อ หากเลือกขนาดไม่ตรง อาจส่งผลให้เกิดการสั่นหรือการสึกหรอของช่วงล่าง ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนและมีฝนตกบ่อยแบบประเทศไทย ที่ต้องใส่ใจเรื่องความทนทานของล้อและยางเป็นพิเศษ
แนะนำให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนล้อแม็ก เลือกล้อที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อเป็นประจำ หากไม่แน่ใจในสเปกล้อของรถ ควรอ้างอิงจากคู่มือรถหรือสอบถามจากศูนย์บริการ MG ที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อความมั่นใจในการใช้งานและความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่
Q
MG ZS รองรับ Apple CarPlay หรือไม่?
MG ZS ในตลาดไทยมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone เชื่อมต่อกับระบบในรถได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานอย่างการนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ผ่านหน้าจอกลางรถได้โดยตรง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปยาวๆ อีกทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทย ฟีเจอร์นี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ทำให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น นอกจาก Apple CarPlay แล้ว MG ZS ยังรองรับ Android Auto ด้วย จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการต่างกัน โดยทั่วไปรุ่นที่ขายในไทยจะมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มีการออกแบบอินเทอร์เฟซเรียบง่าย ใช้งานลื่นไหล พร้อมฟังก์ชันควบคุมด้วยเสียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ อย่างไรก็ตามฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละปีหรือรุ่นย่อย แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ ด้วยความที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อในรถกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว Apple CarPlay กำลังกลายเป็นฟีเจอร์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่ๆ และอาจมีอัปเดตเพิ่มเติมผ่านระบบ OTA ในอนาคต
Q
MG ZS ใช้ยี่ห้อยางอะไร
ยางที่ติดตั้งมาจากโรงงานสำหรับ MG ZS ในตลาดไทยอาจแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและระดับการแต่งเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Continental, Bridgestone หรือ Goodyear ที่ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนและความทนทานได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย สำหรับการเปลี่ยนยางใหม่ นอกจากจะเลือกใช้แบรนด์เดิมแล้ว คนไทยยังนิยมใช้ยางคุณภาพดีอย่าง Michelin หรือ Dunlop ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในเรื่องส่วนผสมยางและร่องดอกยางที่ช่วยระบายน้ำได้ดี แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพดอกยางเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนเข้าฤดูฝนของไทยที่ต้องมั่นใจว่าดอกยางยังเหลือความลึกเพียงพอ ตามกฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. หากต้องการเปลี่ยนยางสามารถไปที่ศูนย์บริการทางการของ MG หรือร้านยางมาตรฐาน พวกเขาจะช่วยแนะนำยางที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นยางที่เน้นความเงียบสบายหรือยางที่เน้นความทนทานเป็นพิเศษ
Q
รถ MG ZS เป็นรถที่ดีหรือไม่? เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
MG ZS เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยจุดเด่นที่การออกแบบภายนอกที่ทันสมัย ฟีเจอร์ครบครัน และราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวไทยเป็นอย่างดี ภายในรถมีพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงกระโปรงหลังที่จุของได้เพียงพอต่อความต้องการประจำวัน ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5L แบบธรรมชาติร่วมกับเกียร์ CVT ให้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว และกล้องถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ข้อเสียคือแรงเครื่องค่อนข้างเรียบเนิบ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ส่วนระบบกันเสียงอาจไม่ได้ดีนักเมื่อขับความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่ายอมรับได้ MG ZS ยังให้บริการรับประกัน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมแล้วหากคุณมีงบจำกัดแต่ต้องการความคุ้มค่า MG ZS ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงเพื่อระบบแอร์และอุปกรณ์บังแดดที่ทำงานได้ดีขึ้น
Q&A ล่าสุด
Q
2023 Santa Fe มีระบบขับเคลื่อนทุกล้อ (AWD) ไหม?
รถยนต์ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นมีแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) จริงๆ ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ HTRAC จะปรับการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังอัตโนมัติตามสภาพถนน ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะในถนนลื่นหรือเวลาออฟโรดเล็กน้อย โดยเฉพาะเหมาะกับพื้นที่ที่ฝนตกบ่อยๆ นอกจากแบบ AWD แล้ว Santa Fe ยังมีแบบขับเคลื่อนล้อหน้าให้เลือกด้วยนะ ถ้าใช้วิ่งในเมืองเป็นประจำ แบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะประหยัดน้ำมันกว่า
ระบบ AWD ของ Santa Fe ยังมีโหมดขับขี่หลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งโหมดสบายๆ โหมดประหยัด โหมดสปอร์ต และโหมดอัจฉริยะ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ ส่วนเรื่องพื้นที่ภายในก็กว้างขวางกว่า SUV คลาสเดียวกัน ที่นั่งแถวสามก็พอใช้สำหรับครอบครัว ส่วนท้ายรถก็จุของได้เยอะ เหมาะสำหรับการเดินทางไกลจริงๆ
เรื่องความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบเตือนจุดบอด ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาขับบนถนนสภาพซับซ้อน ถ้ามีงบพอและต้องการความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น แบบ AWD ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำให้ลองไปทดลองขับทั้งสองแบบที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
ค่าประกันภัยสำหรับรถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 เท่าไหร่?
ค่าเบี้ยประกันสำหรับ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 นั้นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นรถ (แบบเบนซิน 2.5L หรือแบบไฮบริด 1.6T), ราคาซื้อรถ, อายุและประวัติการขับขี่ของเจ้าของรถ รวมถึงนโยบายของบริษัทประกัน โดยทั่วไปค่าเบี้ยประกันต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-35,000 บาท แนะนำให้ตรวจสอบราคาที่แน่นอนผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันหรือแพลตฟอร์มเปรียบเทียบราคา เพราะความแตกต่างระหว่างประกันเต็มรูปแบบ (ครอบคลุมการชน, ภัยธรรมชาติ และความรับผิดต่อบุคคลที่สาม) กับประกันพื้นฐานอาจสูงถึง 40% นอกจากนี้ รุ่นไฮบริดอาจมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 10%-15% เนื่องจากค่าซ่อมแซมที่สูงกว่า การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยแบบ GPS หรือการเลือกความรับผิดชอบส่วนแรกที่สูงขึ้นสามารถช่วยลดเบี้ยประกันได้ประมาณ 5%-10% ในตลาดไทย บริษัทประกันชั้นนำเช่น วิริยะ ธรรมภักดี มักมีส่วนลดสำหรับปีแรกเมื่อทำประกันรถใหม่ และการซื้อประกันผ่านสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์อาจได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ในการเลือกประกันรถยนต์ นอกจากราคาแล้ว ควรพิจารณาประสิทธิภาพในการเคลม (โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ) และเครือข่ายศูนย์ซ่อมที่ครอบคลุม เพราะบางบริษัทอาจกำหนดให้ใช้ศูนย์ซ่อมเฉพาะซึ่งอาจส่งผลต่อสิทธิประกันจากศูนย์บริการของตัวแทนจำหน่าย
Q
รถ Hyundai Santa Fe ปี 2023 มีแถวที่สามหรือไม่?
รุ่น Hyundai Santa Fe ปี 2023 ในบางรุ่นระดับตัดแต่งนั้นมีตัวเลือกที่นั่งแถวที่สามให้เลือกจริงๆ รุ่นนี้จัดอยู่ในประเภท SUV ขนาดกลาง ที่มีการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2+3+2 รวมเป็น 7 ที่นั่ง โดยแถวที่สามจะเหมาะกับเด็กหรือผู้ใหญ่สำหรับการเดินทางระยะสั้นมากกว่า สำหรับครอบครัวที่ต้องเดินทางพร้อมกันหลายคนบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง ในตลาดไทย Santa Fe มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และรุ่นไฮบริดเทอร์โบ 1.6 ลิตร ซึ่งระบบไฮบริดนั้นช่วยประหยัดน้ำมันและยังให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมกับชุดความปลอดภัย SmartSense ของ Hyundai ที่มีระบบ cruise control อัตโนมัติและระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทั้งในการขับขี่บนถนนติดขัดในกรุงเทพหรือการเดินทางไกล แต่อย่างไรก็ตาม รุ่น 7 ที่นั่งจะทำให้พื้นที่กระโปรงหลังลดลง แนะนำให้ลองชั่งน้ำหนักความต้องการก่อนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับรถ SUV 3 แถวที่นั่งในระดับเดียวกันก็จะมี Toyota Fortuner Isuzu MU-X ให้เลือก แต่ Santa Fe ได้เปรียบในเรื่องเทคโนโลยีและความหรูหราของห้องโดยสาร แนะนำให้ไปทดลองสัมผัสพื้นที่ภายในด้วยตัวเองที่โชว์รูมก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด
Q
2023 Santa Fe เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่างไรบ้าง?
รุ่น 2023 ของ Hyundai Santa Fe ในตลาดบ้านเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่ามีจุดขายที่ดีไม่น้อย โฉมใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูหนักแน่นและทรงพลังมากขึ้นเหมาะกับคนที่ชอบ SUV ฟีลลิ่งบึกบึน ส่วนภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น แถมยังอัพเกรดระบบเทคโนโลยีด้วยหน้าจอความบันเทิงล่าสุดที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมาก ในส่วนเครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบ 2.5 ลิตร แอสปายร์ปกติ และแบบ 1.6 ลิตร เทอร์โบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการเซฟค่าน้ำมัน เมื่อเปรียบเทียบกับ Honda CR-V หรือ Toyota Highlander แล้ว Santa Fe ยังได้เปรียบในเรื่องความยืดหยุ่นของพื้นที่โดยสาร โดยเฉพาะเบาะแถวสามที่นั่งสบายกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ด้านความปลอดภัยมาพร้อมระบบ SmartSense มาตรฐานครบทุกรุ่น ทั้งควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เตือนออกเลน เรียกได้ว่าไม่เป็นรองใคร ส่วนบริการหลังการขายก็มีศูนย์บริการครอบคลุม ค่าบำรุงรักษาก็สมเหตุสมผล ใช้ยาวๆ ก็อุ่นใจ ถ้ามีงบประมาณพอและเน้นความคุ้มค่าแบบจัดเต็มพร้อมเทคโนโลยีครบเครื่อง รุ่นนี้น่าจับตามอง แนะนำให้ลองทดลองขับและเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันก่อนตัดสินใจ
Q
อัตราการบริโภคน้ำมันของ Hyundai Santa Fe 2023 เป็นเท่าไร?
รถ Hyundai Santa Fe รุ่นปี 2023 มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ โดยแบบเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาจะกินน้ำมันเฉลี่ยประมาณ 8.5-9.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตรจะประหยัดน้ำมันกว่าคือเฉลี่ยประมาณ 6.5-7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนน รุ่นนี้ถ้าขับในเมืองที่รถติดบ่อยๆจะกินน้ำมันมากหน่อย แต่พอขับทางไกลหรือบนทางหลวงจะประหยัดขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางไกล ส่วนรุ่นไฮบริดตอนนี้ยังไม่มีขายในประเทศไทย แต่คอยติดตามกันได้เลย
ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ควรดูแลรักษารถให้ดี เช่น เติมลมยางให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเหยียบกระแทกหรือเบรกกระทันหัน Santa Fe เป็น SUV ขนาดกลางที่กินน้ำมันพอๆกับรถระดับเดียวกัน แต่ได้ความสบายและพื้นที่กว้างขวาง พร้อมฟีเจอร์ครบครัน น่าจับตามองสำหรับครอบครัว
สรุปว่าถ้าคุณขับทางไกลบ่อย รุ่นดีเซลน่าจะเหมาะกว่า แต่ถ้าขับแค่ในเมือง รุ่นเบนซินก็พอแล้วครับ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

MG ZS มีราคาตั้งแต่ 599,000 บาท เป็นตัวเลือกประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายสูงของผู้บริโภคไม่ซื้อรถไฟฟ้า
Kevin WongMay 15, 2024

MG 5 ขายดีในตลาดไทย โดยรุ่น 1.5L CVT ผ่อนเพียงเดือนละ 6,xxx บาท
พงศธรNov 21, 2025

ตารางผ่อนล่าสุด MG S5 EV เพียง 8,xxx บาทต่องวด
LienNov 12, 2025

รถใหม่ MG4 เปิดตัวในจีนเพียงหนึ่งเดือนมียอดขายถึง 11,790 คัน รถใหม่มีระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนสูงสุดถึง 530 กิโลเมตร
Kevin WongNov 10, 2025

การผ่อนชำระค่างวดล่าสุดของ MG 4 ซึ่งน่าจะเป็น C-Segment SUV ที่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด
ณัฐวุฒิOct 30, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย