BYD เปิดตัวรถสปอร์ตแนวคิด DENZA Z พร้อมเทคโนโลยีบังคับเลี้ยวด้วยสายไฟ

สุรเดชApr 24, 2025, 05:53 PM

【PCauto】ในงานแสดงรถยนต์เซี่ยงไฮ้ปี 2025 BYD ได้เปิดตัว YangWang U8L รุ่นตัวถังยาว Ocean-S รถต้นแบบ และ Dynasty-D รถต้นแบบขนาดใหญ่ที่ตั้งเป้าในตลาดระดับหรู นอกจากนี้ Denza ยังได้เผยโฉมรถสปอร์ตแนวคิดคันแรกในไลน์อัพของตนเองในชื่อ DENZA Z

DENZA Z ไม่เพียงแต่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยหลายอย่าง ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้เข้าชมงาน

ในด้านการออกแบบภายนอก Denza Z ใช้ปรัชญาการออกแบบ “Pure Emotion” ผสมผสานอากาศพลศาสตร์เข้ากับฟังก์ชันที่มีประโยชน์ ไฟหน้าที่ประกอบด้วยแหล่งกำเนิดแสงสี่จุดและไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบโค้ง ทำให้หน้ารถดูโดดเด่น ส่วนกันชนหน้าและช่องระบายอากาศที่ฝากระโปรงหน้าออกแบบในสไตล์ช่องระบายอากาศรูปเหงือกปลา โดยทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในด้านสมรรถนะของตัวรถ

ด้านข้างตัวรถมีกรอบกระจกที่ใช้เทคนิคการตัดแต่งแบบไร้ขอบ พร้อมช่องระบายอากาศที่ซุ้มล้อหน้าและหลัง ล้อขนาด 21 นิ้วและคาลิปเปอร์เบรกสีเหลืองสดช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้ตัวรถ ประตูแบบไร้กรอบและมือจับประตูแบบซ่อนตัว ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังสอดคล้องกับสไตล์ที่เรียบหรูและลื่นไหลของรถสปอร์ตอีกด้วย

ส่วนท้ายของรถออกแบบด้วยเส้นโค้งที่พลิ้วไหว พร้อมสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่แบบติดตั้งถาวร ซึ่งสามารถสร้างแรงกดเพียงพอขณะขับด้วยความเร็วสูง ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ไฟท้ายออกแบบด้วยลวดลายรูปทรงเหลี่ยมเพชรที่เมื่อเปิดใช้งานจะให้ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

ภายในของ Denza Z ถูกออกแบบให้เป็นสไตล์ค็อกพิทรถแข่ง พร้อมใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้ใช้งานได้จริงและสะดวกสบายในการขับขี่

ที่นั่งด้านหน้ามาพร้อมกับหน้าจอดิจิทัลขนาดใหญ่เต็มรูปแบบและหน้าจอกลางแบบลอยตัว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถดูข้อมูลรถยนต์และใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

ผู้โดยสารด้านหน้ายังมีหน้าจอดิจิทัลเฉพาะ ทำให้การเดินทางสนุกสนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้แผงคอนโซลเสริมด้านหน้ามีดีไซน์ลอยตัว พร้อมตกแต่งด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ ยกระดับความล้ำสมัยและคุณภาพในเวลาเดียวกัน

เบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์แบบชิ้นเดียว พร้อมเข็มขัดนิรภัย 4 จุด ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับการรองรับและการป้องกันที่ดีเยี่ยมในขณะขับขี่อย่างดุเดือด นอกจากนี้ โครงป้องกันการพลิกคว่ำในพื้นที่โดยสารด้านหลัง ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวรถอีกระดับ

ในด้านเทคโนโลยี Denza Z มาพร้อมนวัตกรรมใหม่หลากหลาย โดยหนึ่งในจุดเด่นคือระบบบังคับเลี้ยวด้วยสายไฟที่พัฒนาขึ้นเองทั้งหมดในจีนเป็นครั้งแรก ระบบนี้ตัดการเชื่อมต่อทางกลไกแบบดั้งเดิมออกไป ทำให้ตอบสนองได้รวดเร็ว แม่นยำสูง และช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

พวงมาลัยแบบพับฝังทั้งชิ้นที่พัฒนาจากเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงช่วยกำจัดความเสี่ยงที่เกิดจากแกนพวงมาลัยแบบดั้งเดิมในกรณีชน แต่ยังเพิ่มพื้นที่ในส่วนคนขับขึ้นอีก 14% ทำให้การจัดวางภายในห้องโดยสารยืดหยุ่นมากขึ้น

ระบบควบคุมตัวถังแบบแม่เหล็กไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับรถพลังงานใหม่ — Yunnian-M ก็ถูกนำมาใช้ใน Denza Z ด้วยเช่นกัน ระบบนี้ใช้หลักการแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อปรับแรงหน่วงของระบบกันสะเทือนอย่างรวดเร็ว โดยมีเวลาตอบสนองน้อยกว่า 10 มิลลิวินาที เมื่อทำงานร่วมกับระบบคาดการณ์ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเจอสภาพถนนแบบไหน Denza Z ก็สามารถรักษาเสถียรภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงที่มีการเลี้ยวอย่างรวดเร็ว ตัวรถยังคงมั่นคง ในการเบรกตัวรถไม่เกิดอาการหน้าโหม่ง และสามารถวิ่งบนถนนขรุขระได้อย่างราบรื่น ซึ่งช่วยเสริมทั้งสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายของผู้โดยสารได้อย่างลงตัว

Denza Z ยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่างแบบควบคุมด้วยสายไฟทั้งระบบ ซึ่งช่วยให้การควบคุมท่าทางและสมรรถนะของตัวรถมีความแม่นยำยิ่งขึ้น เสริมความเสถียรและความคล่องตัวในการขับขี่ นอกจากนี้ Denza Z ยังเป็นแพลตฟอร์ม e³ Technology Platform แห่งแรกของโลกที่สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์สามตัวอิสระพร้อมกับระบบบังคับล้อหลังที่พัฒนาขึ้นเอง

ทาง BYD ยืนยันว่า Denza Z สามารถใช้ได้ทั้งระบบพลังงานไฟฟ้าล้วนและระบบไฮบริด โดยเน้นความคล่องตัวในการควบคุม ดีไซน์ล้ำสมัย และความปลอดภัยที่สูง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายในทุกสถานการณ์

ในฐานะรถรุ่นแรกที่ Denza นำเข้าสู่ตลาดรถสปอร์ต Denza Z ใช้ดีไซน์ที่โดดเด่นและเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อแสดงถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์พลังงานใหม่ระดับพรีเมียมจากจีน

Denza Z ได้ทำลายข้อจำกัดด้านสมรรถนะของรถสปอร์ตแบบเดิม และพิสูจน์ให้เห็นว่าจีนสามารถผลิตรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ได้ ด้วยการเปิดตัวครั้งนี้ เราคาดหวังว่าหลังจาก Denza Z เข้าสู่การผลิตและวางจำหน่ายในอนาคต จะสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ

# ข้อมูลรถใหม่

คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์

ติดตามเรา

You Tube Facebook Google News

ข้อมูลยอดนิยม

Jeacoo J7 เปิดตัวรุ่น PHEV ใน Motor Expo 2024 สามารถขับขี่โดยใช้แบตเตอรี่ได้ 80 กิโลเมตร

Jeacoo J7 เปิดตัวรุ่น PHEV ใน Motor Expo 2024 สามารถขับขี่โดยใช้แบตเตอรี่ได้ 80 กิโลเมตร

หลังจาก Jaecoo J7 วางจำหน่ายในประเทศแถบเซียนใต้ Chery ที่พึงพอใจกับผลการขายดังนั้นในงานรถยนต์ที่ประเทศไทยที่จะมาถึงนี้ แพลนที่จะวางจำหน่าย Jaecoo J7 เวอร์ชัน PHEV ที่ประเทศไทยที่เหมาะกับ Jaecoo J7 PHEV สำหรับมาเลเซียครั้งนี้ Chery ที่เตรียมวางจำหน่าย Jaecoo J7 PHEV ที่ประเทศไทยสนับสนุนระยะทางการเดินทางด้วยแบตเตอรี่เต็ม 80 กม. (WLTP) นั่นหมายความว่าถ้าคุณขับ J7 ไป-กลับที่ทำงานราคาน้ำมันจะต่ำมากJaecoo J7 PHEV ที่จะใช้เครื่องยนต์ 1.5T มีแรงม้า 156Ps และมอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงม้า 204Ps แรงม้ารวม 360Ps แรง

AshleyNov 7, 2025
มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง

มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

วิรุฬห์Sep 18, 2025
Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?

รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

LienOct 5, 2025
ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด

ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง

Kevin WongSep 12, 2025
รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน

JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

LienSep 18, 2025
ดูเพิ่มเติม
  • รถยอดนิยม

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

  • ภาพภายใน

  • รุ่นปีรถยนต์

  • รุ่นรถยนต์