Honda ประกาศแผนรถใหม่ประจำปี 2025 ปีนี้จะวางขาย Passport
Kevin WongJan 17, 2025, 10:49 AM
【PCauto】Honda มีแผนเปิดตัว Passport เจเนอเรชันใหม่ในปีนี้ รวมถึงรุ่นย่อย Passport TrailSport
ซึ่ง Passport เป็นรถ SUV ขนาดกลางที่มีตำแหน่งสูงกว่า Honda CR-V คู่แข่งหลักได้แก่ Jeep Grand Cherokee Subaru Outback และ Ford Edge

Passport มีการออกแบบด้านหน้าที่เน้นสไตล์อันโดดเด่นของ Honda พร้อมเส้นสายของตัวรถที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง ทรงพลัง บางรุ่นมีการเพิ่มดีไซน์ ราวหลังคา และระยะห่างจากพื้นดินที่สูงกว่า SUV เมือง ทำให้เหมาะสมกับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเบาและถนนที่ไม่ปูพื้น

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 แบบ NA ให้กำลังสูงสุด 280 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพ พร้อมติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-VTM4 ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่หลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางที่ซับซ้อน และมีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 2,268 กิโลกรัม

ความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่: มาพร้อมกับชุดความปลอดภัย Honda Sensing เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเบรกเพื่อบรรเทาการชน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบช่วยป้องกันรถออกนอกช่องทาง ในรุ่นสูงบางรุ่นยังมีระบบตรวจจุดบอดและระบบเตือนการจราจรตัดผ่านด้านหลัง
นอกจากนี้ Honda ยังได้เปิดตัว Passport TrailSport ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ในสภาพออฟโรดที่โหดร้ายมากขึ้น

รถรุ่นนี้มาพร้อมกับสีตัวถังพิเศษ Sunset Orange และ Ash Green พร้อมการตกแต่งด้วยสีดำบนชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น กันชนล่าง มือจับประตู กรอบหน้าต่าง และราวหลังคา ฝากระโปรงหน้ามีการออกแบบช่องระบายอากาศ ด้านหน้ามาพร้อมกับ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยม, ตะแกรงสีดำ, และไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED สีเหลืองรูปทรง C ที่สอดรับกับดีไซน์โดยรวม กันชนหน้าดูกว้างและแข็งแรง พร้อมแผ่นกันกระแทกสีดำและสีเงินที่ฐานล่าง และมีตะขอลากสีแดงติดตั้ง

Passport TrailSport มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสูงจากพื้นดิน มุมไต่ และ มุมจาก ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังติดตั้ง แผ่นกันกระแทกเหล็ก ตะขอลาก ล้อออฟโรดขนาด 18 นิ้ว ยาง All-Terrain ขนาด 31 นิ้ว แพลตฟอร์มหลังคา และตะขอลากอีกด้วย ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายในมาพร้อมกับ หน้าจอแผงหน้าปัดขนาด 10.2 นิ้ว และ หน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto

รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ ระบบเสียง BOSE 12 ลำโพง ถุงลมนิรภัย 8 ตำแหน่งและระบบช่วยขับขี่ระดับ L2 รวมถึงฟังก์ชัน TrailWatch ที่แสดงภาพรอบตัวรถ ข้อมูลมุมตัวถัง / ระดับความสูง และมีโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ให้เลือกใช้งาน

ในด้านสมรรถนะมีการปรับปรุงเล็กน้อย โดยติดตั้งเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 ให้กำลังสูงสุด 285 แรงม้า จับคู่กับระบบส่งกำลัง เกียร์ 10 สปีด และครั้งแรกกับ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-VTM4 เจเนอเรชันที่ 2 ของ Honda ที่เพิ่มความจุแรงบิดขึ้น 40% และตอบสนองได้เร็วขึ้น 30% อีกทั้งเพลาหลังยังสามารถล็อกอิสระ 100% ซ้าย-ขวา ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

มีข่าวลือว่า Sensteed Hi-Tech จะเข้าควบคุม NETA โดยจะเสร็จสิ้นการถ่ายโอนในเดือนตุลาคมและเริ่มการผลิตอีกครั้ง
มีรายงานว่า Sensteed Hi-Tech วางแผนที่จะเข้าควบคุมบริษัทแม่ของ NETA คือ HOZON อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม 2025 โดยจะเสร็จสิ้นการโอนย้ายสินทรัพย์และทีมผู้บริหารทั้งหมด หลังจากนั้น NETA จะเริ่มการผลิตอีกครั้ง

รุ่นที่สองของ JAECOO 5 EV จะเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายน โดยนับตั้งแต่วางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันได้ส่งมอบแล้วทั้งหมด 3,000 คัน
JAECOO 5 EV ล็อตที่สองจำนวน 1,000 คัน ถูกส่งจากประเทศจีนมาถึงประเทศไทยแล้ว นับเป็นการส่งมอบครั้งใหญ่ครั้งที่สองของแบรนด์นี้ในตลาดไทย หลังจากการส่งมอบล็อตแรกจำนวน 300 คันเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยการมาถึงของล็อตที่สอง การส่งมอบ JAECOO 5 EV ในประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเร่งความเร็ว

Suzuki Fronx เปรียบเทียบกับToyota Yaris Cross รุ่นไหนคุ้มค่ากว่าที่จะซื้อ?
รถ SUV ขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคล่องตัวและความประหยัดน้ำมัน ดังนั้น Suzuki Fronx จึงเข้าร่วมแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

Omoda & Jaecoo ล็อต 2 เข้าไทยเพิ่ม 14 กันยายนนี้! เตรียมส่งมอบกว่า 1,000 คัน
หลังสร้างกระแสแรงจากการเปิดตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุด Omoda & Jaecoo เตรียมเดินหน้าส่งมอบรถล็อต 2 โดยมีกำหนดเดินทางจากจีนมาถึงประเทศไทยในวันที่ 14 กันยายน 2568 ก่อนจะทำการตรวจสอบคุณภาพและทยอยส่งมอบกว่า 1,000 คัน

ในประเทศไทย เลือกรถยนต์ซันรูฟ: ซันรูฟพาโนรามาหรือซันรูฟเดี่ยว? อ่านจบไม่พลาด
ในประเทศไทย ซันรูฟของรถยนต์ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องปรับให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อน สภาพการจราจรที่คับคั่ง และการใช้งานในชีวิตประจำวันอีกด้วย — เพราะอุณหภูมิสูง 28-35℃ ตลอดทั้งปี ฝนตกบ่อยในช่วงฤดูฝน และการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น อย่างกรุงเทพฯ มีผลต่อการใช้งานของซันรูฟโดยตรง
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์

