ราคาเริ่มต้นที่ 117,788 ริงกิต! Subaru XV: SUV ที่มาพร้อมสไตล์สปอร์ตและความสะดวกในการใช้งาน
AshleyJul 22, 2024, 05:18 PM
ยังจำเส้นทางที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้หรือไม่? ภูเขาสูงตระหง่าน ชายฝั่งที่กว้างใหญ่ หรือป่าไม้ที่เงียบสงบ ล้วนรอคอยให้พวกเราไปสำรวจอยู่ แต่การจะมีรถยนต์สักคันที่เชื่อถือและไว้ใจได้นั้น จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างไม่ต้องกลัวอุปสรรคใดๆ เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ตลอดเส้นทาง Subaru XV รถยนต์ที่สามารถเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทางของคุณได้อย่างยอดเยี่ยม วันนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับรุ่นนี้กัน

Subaru XV ในตลาดมาเลเซียมีให้เลือกทั้งหมดสี่รุ่น ราคาตั้งแต่ 117,788 ถึง 159,000 ริงกิต ซึ่งถือมีช่วงราคาแตกต่างกันมาก ทำให้พื้นที่ในการเลือกสำหรับผู้ซื้อหลากหลายมากขึ้น รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมนโยบายการรับประกันหลังการขาย 5 ปี หรือ 100,000 กม. เพื่อให้ความมั่นใจในการซ่อมบำรุงแก่ลูกค้า
2021 Subaru XV 2.0i: 117,788 ริงกิต
2021 Subaru XV 2.0iP: 131,788 ริงกิต
2022 Subaru XV 2.0 i-P EyeSight: 152,000 ริงกิต
2022 Subaru XV 2.0 i-P GT Edition: 159,000 ริงกิต

ดีไซน์ภายนอกรถ
Subaru XV มีขนาดยาว 4,465 มม. กว้าง 1,800 มม. สูง 1,615 มม. และฐานล้อ 2,665 มม. มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาด 345 ลิตร แม้ว่าพื้นที่เก็บสัมภาระจะไม่มาก แต่สามารถตอบสนองความต้องการในการบรรทุกสิ่งของชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 สี ซึ่งเป็นโทนสีที่ค่อนข้างเรียบง่ายและมีความเข้ม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสีที่ไม่โดดเด่นหรือไม่สะดุดตา


Subaru XV มีการออกแบบภายนอกที่ยังคงสไตล์จากรุ่นก่อนหน้า แต่มีความทันสมัยและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านหน้าใช้กระจังหน้าหกเหลี่ยมที่เต็มไปด้วยตะแกรงสีดำ โดยมีแถบโครเมียมที่ยื่นออกมาจากโลโก้ Subaru เชื่อมต่อกับไฟหน้าทรงแบนและเรียบ พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันที่คมชัด ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมดูเรียบหรูและละเอียด กันชนหน้าใช้เส้นตกแต่งแบบครอสโอเวอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีช่องลมด้านล่างที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและข้างๆ มีการตกแต่งที่หนาแน่น บริเวณด้านบนมีการยกตัวสูงเพื่อสร้างความโดดเด่น ขณะที่ไฟตัดหมอกทรงกลมแบบอิสระเน้นถึงความเป็น Subaru ที่แท้จริง

ด้านข้างของรถยนต์ ยังคงรักษาลักษณะของครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดที่เป็นเอกลักษณ์ไว้มากที่สุด แต่ได้เพิ่มองค์ประกอบที่มีความสปอร์ตมากขึ้น เช่น หลังคาที่มีความลาดลงเล็กน้อย เส้นข้างที่คมชัด และเสาหลัง D ที่มีมุมเอียงเกือบเป็นรูปสามเหลี่ยม ทำให้ตัวรถดูทันสมัยมากขึ้น การตกแต่งข้างรถด้วยสีดำอย่างเด่นชัดนั้นสอดคล้องกับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดของ Subaru แสดงถึงการึงรักษาดีไซน์ต้นแบบ นอกจากนี้ขอบล้อขนาดใหญ่ยังช่วยเพิ่มความเป็นแฟชั่นให้กับรถยนต์

ส่วนท้ายของรถยนต์ใหม่ Subaru XV ไฟท้ายมีการออกแบบใหม่ที่ซับซ้อน โดยใช้แถบไฟสีแดงแบนที่ล้อมรอบด้วยไฟสีขาว มีการออกแบบเป็นหลายช่วงที่มีลักษณะนูนและยุบ ทำให้ดูมีเอกลักษณ์และโดดเด่น เส้นสายของฝากระโปรงท้ายมีความลึกตื้นที่ชัดเจน ขณะที่กันชนหลังใช้การตกแต่งพิเศษที่สอดคล้องกับการตกแต่งด้านหน้า เพื่อให้สไตล์ของรถยนต์ดูเป็นหนึ่งเดียว

ภายในห้องโดยสาร
Subaru XV มีการออกแบบภายในที่เน้นการจัดวางที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่ ด้วยสไตล์ที่เรียบง่ายและใช้งานได้จริง หน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ด้านบนของคอนโซลกลาง ด้านล่างมีปุ่มจริงที่ใช้งานสะดวก การควบคุมระบบแอร์ใช้การออกแบบแบบปุ่มหมุน ด้านล่างมีพอร์ต USB สองช่องและพอร์ตไฟ 12V
พวงมาลัยสามก้านที่หุ้มด้วยหนังมีความรู้สึกสบายมือ ส่วนที่นั่งใช้วัสดุผ้าหรือหนังที่มีการรองรับนุ่มสบาย และรองรับการปรับไฟฟ้าโดยเฉพาะที่นั่งคนขับยังมีฟังก์ชันการจำตำแหน่งที่นั่ง ด้านหลังที่นั่งสามารถปรับมุมพนักพิงได้และพับได้ทั้งหมดเพื่อขยายพื้นที่เก็บสัมภาระ

Subaru XV มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย EyeSight ของ Subaru ซึ่งรวมถึงฟังก์ชันควบคุมความเร็วอัตโนมัติ การเตือนการออกนอกเลน การเบรกอัตโนมัติ และยังมีฟังก์ชัน Wireless CarPlay/Android Auto การควบคุมด้วยเสียง และอื่น ๆอีกมากมาย

ด้านพลังงานและการขับขี่
Subaru XV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรที่ไม่อัดอากาศ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร โดยมาพร้อมกับระบบเกียร์ CVT (Continuously Variable Transmission) ซึ่งให้ประสิทธิภาพการขับขี่ที่พอเหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.3 ลิตรต่อ 100 กม. และความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ถึง 194 กม./ชม.

ในด้านการควบคุม Subaru XV ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเต็มเวลาที่ให้การยึดเกาะถนนและความสามารถในการผ่านอุปสรรคที่ยอดเยี่ยม การตั้งค่าช่วงล่างเน้นความสะดวกสบาย สามารถกรองการสั่นสะเทือนจากพื้นถนนได้ดี ระบบพวงมาลัยเบาและแม่นยำ ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ดี
จากข้อมูลที่ได้บรรยายไป เชื่อว่าทุท่านจะเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับรุ่นSubaru XV แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการไปสัมผัสตัวจริงที่โชว์รูมเพื่อรับรู้และสัมผัสฟังก์ชั่นต่างๆจากข้อมูลที่กล่าวมาเมื่อครู่นี้ จากข้อมูลเบื้องต้นทุกคนคิดว่ามีแนวโน้มจะซื้อรถรุ่นนี้หรือไม่?
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

Jeacoo J7 เปิดตัวรุ่น PHEV ใน Motor Expo 2024 สามารถขับขี่โดยใช้แบตเตอรี่ได้ 80 กิโลเมตร
หลังจาก Jaecoo J7 วางจำหน่ายในประเทศแถบเซียนใต้ Chery ที่พึงพอใจกับผลการขายดังนั้นในงานรถยนต์ที่ประเทศไทยที่จะมาถึงนี้ แพลนที่จะวางจำหน่าย Jaecoo J7 เวอร์ชัน PHEV ที่ประเทศไทยที่เหมาะกับ Jaecoo J7 PHEV สำหรับมาเลเซียครั้งนี้ Chery ที่เตรียมวางจำหน่าย Jaecoo J7 PHEV ที่ประเทศไทยสนับสนุนระยะทางการเดินทางด้วยแบตเตอรี่เต็ม 80 กม. (WLTP) นั่นหมายความว่าถ้าคุณขับ J7 ไป-กลับที่ทำงานราคาน้ำมันจะต่ำมากJaecoo J7 PHEV ที่จะใช้เครื่องยนต์ 1.5T มีแรงม้า 156Ps และมอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงม้า 204Ps แรงม้ารวม 360Ps แรง

Toyotaเปิดตัวรุ่น Sienta Juno ซึ่งคุณสามารถนอนหลับ ทำงาน หรือดื่มกาแฟในรถได้
【PCauto】ในตลาด MPV ขนาดกะทัดรัดของญี่ปุ่น Toyota Sienta ได้ครอบครองตำแหน่งสำคัญเสมอด้วยการจัดพื้นที่ใช้งานที่ยืดหยุ่นและการติดตั้งฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง ล่าสุด Toyota ได้ร่วมมือกับแบรนด์แต่งรถ Modellista เปิดตัว Sienta Juno รุ่นพิเศษ ที่ใช้การออกแบบโมดูลาร์ที่ล้ำสมัย เพื่อเปลี่ยนรถตู้ขนาดเล็กให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ

Toyota Land Cruiser FJ ไม่ทำให้ผิดหวัง รถออฟโรดสำหรับทุกคนที่น่าตื่นเต้นที่สุดกลับมาแล้ว
นับตั้งแต่เปิดตัวในชื่อ Toyota BJ ในปี 1951 ซีรีส์ Land Cruiser ได้มียอดขายรวมประมาณ 12.15 ล้านคันในกว่า 190 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการขับขี่ออฟโรดที่ยืนยาวมากว่า 70 ปี

JAECOO 6 EV เปรียบเทียบกับ BYD Atto 3 JAECOO 6 EV จะท้าทาย Atto 3 ที่ขายดีทั่วโลกอย่างไร?
Atto 3 สามารถกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ BYD ในระดับโลก อย่างไรก็ตาม สำหรับ Atto 3 ซึ่งมีความสำคัญต่อ BYD อย่างมาก ขณะนี้ได้มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น คู่แข่งรายนี้มีการออกแบบภายนอกที่น่าประทับใจ และมาจากผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเช่นกัน

ตารางผ่อนชำระล่าสุดอย่างเป็นทางการของ TANK 300 มีทั้งรุ่นดีเซลและรุ่น HEV
Tank 300 เป็น SUV ที่รวมความแข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสบายสไตล์เมือง ดีไซน์มาพร้อมกับโครงสร้างรถแบบ Non-bearing Body และล็อคดิฟเฟอเรนเชียล 3 ตัว ทำให้มันมีความสามารถในการฝ่าอุปสรรคได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและโหมดขับขี่หลายภูมิประเทศ ก็ช่วยให้ปรับตัวได้ดีแม้ในเส้นทางที่หลากหลาย สำหรับคนที่ชอบการผจญภัยกลางแจ้งแต่ก็ยังต้องการรถสำหรับใช้ในเมือง Tank 300 ถือเป็นจุดสมดุลที่น่าสนใจ แถมยังมีโอกาสปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์นักรบออฟโรดตัวจริง เช่น อัพเกรดเป็นโช้กไนโตรเจนหรือยางออฟโรดเพื่อรับมือกับเส้นทางสุดทรหดได้อีกด้วย
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ

