Volvo เรียกคืนรถ EV ประมาณ 12,000 คัน เนื่องจากฟังก์ชัน One Pedal Driving อาจเป็นอันตราย
สุรเดชJul 01, 2025, 05:22 PM
【PCauto】ตามประกาศล่าสุด Volvo กำลังเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกประมาณ 12,000 คันที่มาพร้อมฟังก์ชันการขับขี่แบบแป้นเดียว (One Pedal Driving) โดยรุ่นที่ได้รับผลกระทบหลักคือ XC40 Recharge และ C40 Recharge ปีผลิต 2023 ถึง 2024.
การเรียกคืนครั้งนี้เกิดจากการที่สำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHTSA) ตรวจพบข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ ซึ่งอาจทำให้รถไม่สามารถหยุดนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ในบางสภาพการใช้งาน.
สาเหตุหลักมาจากข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ที่กระทบระบบเบรก
ตามเอกสารที่เผยแพร่โดย NHTSA (หมายเลข 24V-085) พบว่าต้นตอของปัญหามาจากข้อผิดพลาดในตรรกะของซอฟต์แวร์ที่ควบคุมฟังก์ชันขับขี่แบบแป้นเดียว (One Pedal Driving).
เมื่อผู้ขับปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง รถควรจะชะลอความเร็วลงอย่างราบรื่นและหยุดนิ่งโดยอาศัยระบบชาร์จพลังงานกลับ (Regenerative Braking) แต่ในรถบางคันที่ได้รับผลกระทบ พบว่าหากขับลงเนินติดต่อกันนานเกิน 1 นาที 40 วินาที โมดูลควบคุมเบรก (Brake Control Module) อาจตอบสนองล่าช้า ส่งผลให้รถไม่สามารถหยุดได้ตามที่ควรจะเป็น.
Volvo จะส่งการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ OTA (การดาวน์โหลดทางอากาศ) ทำให้เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์บริการก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ สำหรับรถที่ยังไม่รองรับการอัปเดต OTA หรือมีปัญหาทางเทคนิค Volvo จะให้บริการอัปเกรดซอฟต์แวร์ที่ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต โดยทางบริษัทแนะนำอย่างชัดเจนว่า ก่อนการอัปเดตเสร็จสิ้น เจ้าของรถควรงดใช้ฟังก์ชัน One Pedal Driving และโหมด B-Mode ชั่วคราว.
ขอบเขตการเรียกคืนและแนวทางแก้ไขของ Volvo
การเรียกคืนครั้งนี้ครอบคลุมตลาดอเมริกาเหนือเป็นหลัก โดยในสหรัฐฯ มีจำนวนรถที่ได้รับผลกระทบ 9,607 คัน แคนาดา 1,538 คัน และภูมิภาคอื่น ๆ ประมาณ 855 คัน ส่วนข้อมูลจากฝั่งไทยระบุว่าจำนวนรถที่เรียกคืนอาจแตกต่างจากนี้ โดยในเอกสารของ NHTSA มีการบันทึกตัวเลขไว้ที่ 11,469 คัน และ 14,014 คันตามลำดับ ทั้งนี้ยังต้องรอยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการจาก Volvo.
Volvo จะใช้เทคโนโลยี OTA (การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบไร้สาย) เพื่อส่งการอัปเดตซอฟต์แวร์ เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังตัวแทนจำหน่ายเพื่อทำการแก้ไข สำหรับรถยนต์ที่ยังไม่ได้เปิดใช้บริการ OTA หรือกรณีที่มีปัญหาทางเทคนิค ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตของ Volvo จะให้บริการอัปเกรดแบบออฟไลน์ บริษัทแนะนำอย่างชัดเจนว่า ก่อนที่จะทำการอัปเดตซอฟต์แวร์เสร็จสิ้น เจ้าของรถควรหยุดการใช้งานฟังก์ชัน One Pedal Driving และโหมด B-Mode
Volvo จัดการเรียกคืนนี้เป็นการดำเนินการด้านความปลอดภัยระดับสูง
แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับข้อบกพร่องนี้ แต่ Volvo ก็ยังจัดให้การเรียกคืนนี้เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยระดับสูง เอกสารทางเทคนิคของบริษัทระบุว่า ปัญหาจะเกิดขึ้นในเงื่อนไขการขับขี่เฉพาะ เช่น เมื่อลงทางลาดชันต่อเนื่อง (ความชันตั้งแต่ 6% ขึ้นไป) และมีการใช้งานโหมดชาร์จพลังงานกลับขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง ระบบเบรกอาจทำงานผิดปกติเป็นช่วง ๆ ได้.
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เจ้าของรถสามารถตรวจสอบเวอร์ชันซอฟต์แวร์ได้จากหน้าจอกลางภายในรถ หากพบว่าเป็นเวอร์ชัน 3.5.14 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีปัญหา ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Volvo ทันทีเพื่อดำเนินการอัปเดต ในระหว่างนี้ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้โหมดขับขี่ปกติ ซึ่งเมื่อผู้ขับถอนเท้าออกจากคันเร่ง รถจะเข้าสู่โหมดไถล (coasting) และต้องใช้เบรกเท้าเพื่อหยุดรถตามปกติ.
Volvo เรียกคืนรถ EV รอบสองในรอบ 2 ปี เหตุซอฟต์แวร์มีปัญหา
ในปี 2023 รถบางรุ่นในซีรีส์ Recharge เคยถูกเรียกคืนมาแล้วเนื่องจากปัญหาที่โมดูลควบคุมพลังงาน ทำให้รถดับกระทันหัน เหตุการณ์ต่อเนื่องเหล่านี้สะท้อนถึงความท้าทายที่บริษัทรถยนต์ดั้งเดิมต้องเผชิญในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในด้านความเสถียรของซอฟต์แวร์.
NHTSA เน้นย้ำในประกาศว่า เมื่อฟังก์ชันการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มพึ่งพาระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ผู้ผลิตจำเป็นต้องมีขั้นตอนตรวจสอบและทดสอบซอฟต์แวร์ที่เข้มงวดกว่าเดิม สำหรับผู้บริโภค การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านระบบ OTA ที่ทางผู้ผลิตส่งมาให้ทันเวลา จึงกลายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาความปลอดภัยขณะขับขี่.
Volvo ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการแจ้งเตือนเจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 6 สิงหาคม 2025 ขณะนี้ได้เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคและช่องทางตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถ (VIN) บนเว็บไซต์ทางการระดับโลกเรียบร้อยแล้ว เจ้าของรถยังสามารถโทรติดต่อผู้แทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อสอบถามสถานะการเรียกคืนได้โดยตรง.
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

iCar V23 กำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ราคาจะต่ำกว่า Jaecoo 6 EV
【PCauto】มีรายงานว่า หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 6 EV แล้ว iCar V23 จาก Chery อาจเตรียมทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน โดย iCar V23 และ iCar 03 (หรือ Jaecoo 6 EV) ได้รับความสนใจอย่างมากจากดีไซน์ภายนอกที่ดูล้ำอนาคต จนมีข่าวลือว่าทีมออกแบบของรถทั้งสองรุ่นนี้ อาจเป็นทีมเดียวกับ Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi สำหรับ iCar V23 มาพร้อมสไตล์การออกแบบทรงเหลี่ยมและดูแข็งแกร่ง ด้วยดีไซน์สไตล์ออฟโรดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและสมรรถนะในการลุยเส้นทางทุรกันดารได้เป็นอย่างดี

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Toyota ประกาศเปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ ครั้งแรกที่เพิ่มระดับ GR SPORT
【PCauto】Toyota เปิดตัว Corolla Cross รุ่นใหม่ในยุโรปโดยยังคงเอกลักษณ์เดิมพร้อมปรับดีไซน์ภายนอกและภายในเล็กน้อย ด้านรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าทรงรังผึ้งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและส่งเสริมการไหลเวียนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นระดับสูงมาพร้อมเทคโนโลยีไฟสูงอัตโนมัติแบบปรับอัจฉริยะ AHS เพื่อให้มุมมองการขับขี่ชัดเจนในทุกสภาพถนน ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยแถบไฟ LED ภายในโคมที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอทั่วทั้งพื้นที่เพิ่มความทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน