Q
Honda Civic Hatchback เป็นรถที่ดีหรือไม่?
Honda Civic Hatchback เป็นรถที่น่าประทับใจ ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตกว่ารุ่นซีดาน โดยเฉพาะท้ายรถที่ออกแบบให้ดูคล้ายรถสไตล์คูเป้ พร้อมติดตั้งสปอยเลอร์บริเวณกันชนหลัง เพิ่มความดุดันและความสปอร์ตให้กับตัวรถ ในด้านความปลอดภัย มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบถ้วน เช่น ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และจุดยึดเบาะเด็ก ISO FIX ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในด้านขุมพลัง ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุดที่รอบ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่รอบ 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลื่นไหล พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยตามข้อมูลจากโรงงานอยู่ที่ 5.8 ลิตร/100 กิโลเมตร ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดในเวลาเดียวกัน ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และลำโพง 8 ตำแหน่ง ให้ประสบการณ์ความบันเทิงที่ดีขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบสตาร์ท-ดับเครื่องอัตโนมัติขณะหยุดนิ่ง (Auto Start-Stop) และแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย (Paddle Shift) เพิ่มทั้งความสะดวกและความสนุกในการขับขี่
Q
จะมีฮอนด้าซีวิคแฮตช์แบ็คปี 2025 หรือไม่
ในปี 2025 จะมีการเปิดตัว Honda Civic Hatchback รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดย Civic รุ่นปี 2025 ได้วางจำหน่ายแล้ว พร้อมตัวเลือกทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก สำหรับรุ่นแฮทช์แบ็ก ตัวรถมีขนาดความยาว 4,548 มม. กว้าง 1,802 มม. สูง 1,420 มม. (หรือ 1,415 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) และมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,735 มม.
ด้านขุมพลังมีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมรรถนะที่แตกต่าง โดยมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 2 ระดับ — รุ่นกำลังต่ำสุดให้กำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ แรงบิด 180 นิวตันเมตร และรุ่นกำลังสูงสุดให้กำลัง 134 กิโลวัตต์ แรงบิด 240 นิวตันเมตร ทั้งสองรุ่นจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT นอกจากนี้ยังมีระบบไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ และมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ ส่วนมอเตอร์ให้กำลัง 135 กิโลวัตต์ ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาความสมดุลด้านสมรรถนะ
Q
ปีฮอนด้าซิวิคแฮชแบ็คที่ดีที่สุดคือปีใด?
Honda Civic Hatchback ปี 2022 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,230,000 บาท ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 180 กม./ชม. และสามารถเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 5 วินาที (ข้อมูลจากโรงงาน) อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ตัวรถเป็นแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 47 ลิตร และห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายจุได้ 414 ลิตร ในด้านความปลอดภัย มีระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISO FIX และระบบสตาร์ท-ดับเครื่องอัตโนมัติเมื่อหยุดนิ่ง ภายในห้องโดยสารมีอุปกรณ์ครบครัน เช่น แป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย หน้าจอกลางขนาด 8 นิ้ว และระบบเสียงพร้อมลำโพง 8 ตัว ฝากระโปรงท้ายแบบแฮทช์แบ็กช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบรรทุกสัมภาระ พร้อมดีไซน์สปอร์ตคล้ายรถคูเป้ที่ดึงดูดสายตา รุ่นเกียร์ธรรมดามาพร้อมคันเกียร์สไตล์สปอร์ตและแป้นเหยียบอะลูมิเนียมเพิ่มอารมณ์การขับขี่ ส่วนรุ่นท็อปอย่าง Sport Touring ยังเพิ่มอุปกรณ์ล้ำสมัย เช่น เซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง และแท่นชาร์จไร้สาย
Q
Honda Civic Hatchback เป็นรถที่ดีสำหรับครอบครัวหรือไม่
Honda Civic Hatchback เป็นรถที่เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,230,000 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางที่เข้าถึงได้ ในด้านพื้นที่ ตัวรถมีความยาว 4,501 มม. กว้าง 1,799 มม. สูง 1,421 มม. และระยะฐานล้อ 2,697 มม. ให้พื้นที่โดยสารที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับสมาชิกในครอบครัว ด้วยการจัดวางแบบ 5 ที่นั่ง รองรับการเดินทางทั่วไปได้สบาย นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 414 ลิตร เพียงพอสำหรับการใช้งานประจำวันหรือออกทริปท่องเที่ยว ในด้านความปลอดภัย มาพร้อมถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งเป็นมาตรฐาน พร้อมระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISO FIX ที่ช่วยให้ติดตั้งเบาะเด็กได้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง Honda Civic Hatchback มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 5.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างประหยัด ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอกลางขนาด 8 นิ้ว และลำโพง 8 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์การขับขี่และความบันเทิงที่ลงตัว จึงนับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับครอบครัว
Q
Honda Civic hatchback มีทอร์โบหรือไม่?
ใช่ Honda Civic Hatchback มาพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ โดยในรุ่น Honda Civic Hatchback 1.5 VTEC Turbo ปี 2022 ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1,498 ซีซี (1.5T) ซึ่งสามารถให้พละกำลังได้อย่างโดดเด่นในช่วงรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม โดยมีแรงบิดสูงสุดในช่วงรอบประมาณ 2,500 รอบต่อนาที และกำลังสูงสุดที่รอบ 6,500 รอบต่อนาที
เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จช่วยเพิ่มปริมาณอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ทำให้เครื่องยนต์สามารถสร้างกำลังได้มากขึ้นแม้มีขนาดความจุไม่สูง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์แบบไม่มีเทอร์โบ (NA) เทอร์โบสามารถตอบสนองการเร่งได้ไวกว่า ให้แรงดึงที่ชัดเจนกว่า และช่วยเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ โดยเฉพาะในสถานการณ์เร่งแซงหรือขับทางไกลด้วยความเร็วสูง จะเห็นข้อได้เปรียบได้ชัดเจน