2020 Honda Jazz 1.5 V+

รุ่น Honda Jazz GE ในตลาดไทยจะมีให้เลือก 2 แบบคือรุ่น S และรุ่น V ซึ่งความแตกต่างหลักๆจะอยู่ที่ความสบายและฟังก์ชันเทคโนโลยี โดยรุ่น V ที่เป็นรุ่นสูงกว่าจะมีฟีเจอร์หรูหรามากกว่า เช่น ระบบกุญแจอัจฉริยะ, พวงมาลัยหุ้มหนัง, ไฟเลี้ยวที่กระจกข้าง และระบบเสียงคุณภาพสูง ส่วนรุ่น S จะเน้นความประหยัดและใช้งานพื้นฐาน เหมาะกับคนที่ต้องการรถดีๆในงบจำกัด ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์เดียวกันคือ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ประหยัดน้ำมันแต่ยังให้ความสนุกในการขับขี่ เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทยเป็นอย่างดี จุดเด่นของ Jazz GE คือการออกแบบห้องโดยสารที่ยืดหยุ่นและความทนทาน โดยเฉพาะระบบ Magic Seat ที่ช่วยให้ขนของได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้สำหรับครอบครัวหรือวัยทำงานก็ตอบโจทย์ นอกจากนี้ Honda ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศและค่าบำรุงรักษาที่สมเหตุสมผล ทำให้ Jazz เป็นที่นิยมในไทย สำหรับใครที่ต้องการความครบครันและมีงบพอ รุ่น V ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าอยากได้รถดีในราคาประหยัด รุ่น S ก็ตอบโจทย์ไม่น้อย

ในรถ Honda Jazz (หรือที่ตลาดไทยเรียกว่า Honda Fit) สตาร์ทเตอร์รีเลย์มักจะอยู่ใกล้กล่องฟิวส์ในช่องเครื่องยนต์ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ด้านคนขับใกล้กับแบตเตอรี่ และอาจรวมอยู่ในกล่องฟิวส์หลักเพื่อให้สะดวกในการตรวจสอบหรือเปลี่ยนเมื่อจำเป็น สำหรับรุ่นที่ขายในประเทศไทย เนื่องจากอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ตรวจสอบรีเลย์และจุดต่อไฟฟ้าเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาการสัมผัสไม่ดีจากความชื้นหรือความร้อน สตาร์ทเตอร์รีเลย์เป็นส่วนสำคัญของระบบสตาร์ทรถ ทำหน้าที่ส่งกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปยังมอเตอร์สตาร์ท ถ้ามีปัญหาการสตาร์ทยากหรือได้ยินเสียงคลิกแต่เครื่องไม่ติด อาจเป็นเพราะรีเลย์เสีย นอกจากนี้ ผู้ใช้ในไทยควรเลือกใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ของแท้หรือคุณภาพสูง เพื่อให้มั่นใจในความเข้ากันได้และความทนทาน และหลีกเลี่ยงปัญหาวงจรไฟฟ้าจากอะไหล่คุณภาพต่ำ ถ้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งที่แน่นอน แนะนำให้ดูคู่มือเจ้าของรถหรือติดต่อศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของ Honda ในไทยเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

Honda Jazz ในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ ปัจจุบันรุ่นหลักที่วางขายมีด้วยกัน 4 รุ่นคือ S V SV และ RS แต่ละรุ่นมีความแตกต่างในเรื่องสเปคและสมรรถนะ เช่น รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานพื้นฐาน พร้อมฟังก์ชั่นความปลอดภัยและความบันเทิงพื้นฐาน ส่วนรุ่น RS เป็นรุ่นท็อปที่มาพร้อมกับชุดแต่งสปอร์ตและเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสนุกในการขับขี่ นอกจากนี้ Jazz ในตลาดไทยยังโดดเด่นในเรื่องความประหยัดน้ำมันและการใช้งานพื้นที่อเนกประสงค์ ด้วยระบบ Magic Seat ที่ได้รับความนิยมมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่เก็บของได้ง่าย ทั้งการใช้ในชีวิตประจำวันหรือขนส่งสินค้า ฮอนด้ายังมีสีรถและอุปกรณ์เสริมให้เลือกหลากหลาย เช่น ระบบกุญแจอัจฉริยะ หน้าจอสัมผัสสำหรับระบบมัลติมีเดีย เพื่อเพิ่มความสะดวกและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ สิ่งที่ควรทราบคือ Jazz ในตลาดไทยอาจมีรายละเอียดบางส่วนที่แตกต่างจากตลาดอื่น เช่น มาตรฐานการระบายไอเสียและอุปกรณ์บางอย่างที่ปรับให้เหมาะกับกฎหมายและความชอบของคนไทย ดังนั้นก่อนซื้อแนะนำให้ศึกษารายละเอียดสเปคจากตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นให้ดีก่อน

รถ Honda Jazz รุ่นแรก (ในบางตลาดเรียกว่า Honda Fit) เปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนปี 2001 ก่อนจะเข้ามาไทยในปี 2003 และกลายเป็นรถเล็กยอดนิยมทันที ด้วยดีไซน์ห้องโดยสารที่ปรับแต่งได้หลากหลายรวมถึงระบบ "ที่นั่งมหัศจรรย์" ที่ใช้งานได้จริง เหมาะกับทั้งถนนเมืองไทยและครอบครัว คนไทยชื่นชอบ Jazz ในเรื่องความประหยัดน้ำมันและความทนทาน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดบ่อย รุ่นแรกนี้ใช้เครื่องยนต์ 1.3 ลิตรและ 1.5 ลิตร แบบ i-DSI ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดและแรงดันดี ส่วนรุ่นหลังๆ ที่ไทยนำเข้ามีตัวเลือก 1.5 ลิตร VTEC ที่เพิ่มความสนุกในการขับขี่ขึ้นอีก Jazz รุ่นแรกประสบความสำเร็จในไทยจนทำให้ฮอนด้าตัดสินใจผลิตรถรุ่นต่อๆ มาที่ไทย เช่นรุ่น Jazz ไฮบริด ที่พัฒนามาเพื่อตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับตลาดไทยมาก แม้ทุกวันนี้แจ๊ซรุ่นแรกยังเป็นที่ต้องการในตลาดมือสอง เพราะความทนทานและค่าดูแลรักษาที่ถูกนั่นเอง

รถฮอนด้า Jazz ในตลาดประเทศไทยแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์ที่มีความหนืด 0W-20 หรือ 5W-30 โดยเลือกตามปีรถ ระยะทางที่ใช้งาน และสภาพการขับขี่ เช่น รุ่นใหม่เหมาะกับน้ำมันเครื่องความหนืดต่ำอย่าง 0W-20 เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน ส่วนรถที่ใช้งานมานานหรือขับในสภาพอากาศร้อนอาจเลือก 5W-30 เพื่อการปกป้องเครื่องยนต์ที่ดีกว่า เนื่องจากประเทศไทยอากาศร้อน แนะนำให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรที่ได้มาตรฐาน API SN หรือ SP เพราะทนความร้อนได้ดี ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ และยืดระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แต่หากขับบ่อยในสภาพการจราจรติดขัดหรือเดินทางไกล ควรเปลี่ยนบ่อยขึ้น นอกจากนี้ต้องตรวจสอบว่าผ่านมาตรฐาน HTO-06 ของฮอนด้าเพื่อความเข้ากันได้กับรถ สำหรับลูกค้าในไทยสามารถใช้น้ำมันเครื่องต้นฉบับจากศูนย์บริการฮอนด้าได้เลย เพราะผ่านการทดสอบมาแล้วว่าเหมาะกับรถแน่นอน

Honda Jazz GD เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดประเทศไทย ผลิตระหว่างปี 2004 ถึง 2008 รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยขนาดตัวถังกะทัดรัด การออกแบบพื้นที่ใช้งานที่สะดวกสบาย และสมรรถนะที่เชื่อถือได้ เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและการใช้งานครอบครัว ในไทย Jazz GD เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ซื้อรถครั้งแรกเนื่องจากประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาต่ำ รถรุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ให้แรงขับเรียบเนียนและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในไทย นอกจากนี้ระบบเบาะ “Magic Seat” สามารถปรับพื้นที่ด้านหลังได้อย่างยืดหยุ่น สะดวกในการขนสัมภาระขนาดใหญ่ ทำให้มีความได้เปรียบในตลาดรถขนาดเล็ก แม้ว่ารถรุ่นนี้จะเลิกผลิตไปหลายปีแล้ว แต่ในตลาดรถมือสองไทยยังคงได้รับความนิยม รถที่ดูแลรักษาดีสามารถให้ประสบการณ์ขับขี่ที่เชื่อถือได้ หากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถมือสอง Jazz GD เป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณา แนะนำให้ตรวจสภาพรถอย่างละเอียดและเลือกผู้ขายมือสองที่มีความน่าเชื่อถือ

รถฮอนด้า Jazz รุ่นปี 2010 ในตลาดไทยมีให้เลือก 2 รุ่นหลักคือ 1.5L S และ 1.5L SV ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เน้นความประหยัดและขับขี่คล่องตัว เหมาะกับสภาพถนนในเมืองไทยเป็นพิเศษ รุ่น 1.5L S เป็นแบบพื้นฐานที่มีอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่รุ่น 1.5L SV เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นมาอีกหน่อย เช่น ล้ออัลลอยและเซนเซอร์ถอยหลัง ช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้ได้หลากหลายขึ้น Jazz ได้รับความนิยมในไทยจากความประหยัดน้ำมันและการใช้พื้นที่ภายในรถได้อย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะระบบ "เก้าอี้มหัศจรรย์" ที่ปรับแต่งพื้นที่เก็บของได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะทั้งสำหรับครอบครัวและการขับขี่ประจำวัน รุ่นปี 2010 นี้ยังคงความแข็งแกร่งและความทนทานแบบฉบับฮอนด้า ทำให้นักลงทุนมือสองยังให้มูลค่าค่อนข้างสูง ถือเป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับคนงบประมาณจำกัด อีกจุดแข็งคือเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยที่ครอบคลุม ค่าบำรุงรักษาก็ไม่แรงเกินไป ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้และทำให้ Jazz เป็นรถที่แข่งขันในตลาดได้ดี

ฮอนด้า แจ๊ส GK เป็นรุ่นที่ 3 ที่เปิดตัวครั้งแรกในตลาดไทยปี 2013 และผลิตต่อเนื่องมาจนถึงปี 2020 รุ่นนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่ใช้งานได้หลากหลายและประหยัดน้ำมัน เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยโดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัด รุ่นยอดนิยมคือ GK5 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC กับเทคโนโลยี Earth Dream ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีและค่าบำรุงรักษาไม่สูง แจ๊ส GK เวอร์ชั่นไทยยังได้รับการปรับปรุงระบบแอร์ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อน และมีรุ่นพิเศษอย่าง RS ที่ออกแบบมาเพื่อคนชอบสปอร์ต ในปี 2017 มีการรีเฟรชหน้าให้ดูโมเดิร์นขึ้นและเพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น ระบบ VSA ควบคุมความมั่นคงของรถ ต้องบอกว่าตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ตลาดไทยได้อัปเกรดสู่รุ่นที่ 4 (GE) ที่ใช้ภาษาการออกแบบใหม่ล่าสุดของฮอนด้า ส่วนใครที่กำลังมองหาแจ๊ส GK มือสอง แนะนำให้ตรวจสอบเกียร์ CVT และการป้องกันสนิมเป็นพิเศษ เพราะอากาศร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่อส่วนเหล่านี้ได้

ในปี 2004 ฮอนด้า แจ๊ส ที่วางขายในตลาดประเทศไทยมีให้เลือก 2 รุ่นหลัก คือรุ่นเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีจุดระเบิดคู่ i-DSI ที่ทันสมัยของฮอนด้าในยุคนั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองและความต้องการขับทางไกลในประเทศไทย รุ่น 1.3 ลิตร เหมาะกับการใช้งานประจำวันทั่วไป ส่วนรุ่น 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบเบาะหลัง Ultra Seat ที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย สามารถพับหรือพลิกได้ง่าย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขนส่งสิ่งของต่างๆ ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์หรือของจ่ายตลาดสุดสัปดาห์ แจ๊ส รุ่นปี 2004 ยังได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทานในประเทศไทย ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ และหาอะไหล่ได้ง่าย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ที่น่าสนใจคือการออกแบบหลังคาสูงของรถคันนี้ให้พื้นที่เหนือศรีษะกว้างขวาง แม้แต่คนไทยตัวสูงก็ยังนั่งสบาย ส่วนระบบแอร์ก็ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับภูมิอากาศเขตร้อน ให้ความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ทำให้ฮอนด้า แจ๊ส เป็นหนึ่งในรถคอมแพคต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทยประจำปี 2004

ในปี 2008 ฮอนด้า ฟิตได้เปิดตัว 3 รุ่นหลักในตลาดประเทศไทย ได้แก่ รุ่น 1.3L S, 1.5L V และ 1.5L Sport ทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ i-VTEC ที่ทันสมัยของฮอนด้าในยุคนั้น ซึ่งให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะที่ดี ในตลาดไทย รุ่น 1.5L Sport เป็นที่นิยมเป็นพิเศษเพราะมีการเพิ่มอุปกรณ์ภายนอกสไตล์สปอร์ตและระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งให้สมรรถนะสูง เหมาะกับความชอบของคนรุ่นใหม่ไทย ฟิต 2008 ในไทยใช้แพลตฟอร์มรถขนาดเล็กระดับโลกของฮอนด้า ที่ให้การขับขี่คล่องตัวและใช้พื้นที่ภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเบาะหลังแบบ Magic Seat ที่พับได้หลายรูปแบบ ช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตครอบครัวคนไทย สิ่งที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้ในไทยจะใช้ชื่อว่า ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งเป็นชื่อที่ฮอนด้านิยมใช้ในตลาดอาเซียน ด้านความปลอดภัย ฟิต 2008 ถือว่ามีมาตรฐานที่ดีในยุคนั้น พร้อมถุงลมนิรภัยคู่และระบบ ABS เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ส่วนรุ่นสูงกว่ายังเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง ทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดไทย นอกจากนี้ ความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำยังทำให้มันเป็นที่ต้องการในตลาดรถมือสองของไทย จนถึงทุกวันนี้ยังเห็นฟิต 2008 สภาพดีวิ่งอยู่บนถนนไทยได้ไม่ยาก