Q
ขนาดตัวถังของ Toyota Fortuner คือเท่าไหร่?
Toyota Fortuner เป็น SUV ยอดนิยมที่มีความยาวตัวถัง 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. และสูง 1,835 มม. โดยมีระยะฐานล้อ 2,745 มม. หรือ 2,750 มม. (แล้วแต่รุ่น) ขนาดตัวถังที่ใหญ่แบบนี้ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง พร้อมการจัดวางห้องโดยสารแบบ 5 ประตู 7 ที่นั่ง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ยังทำให้ดูโดดเด่นและดูหรูหราเวลาออกวิ่งบนถนน อีกทั้งข้อมูลบางส่วนยังใกล้เคียงกับ Toyota Prado ที่แตกต่างแค่ไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น จึงทำให้เห็นว่าเจ้า Fortuner นี้มีความสามารถในการขับเคลื่อนออฟโรดได้ในระดับหนึ่ง พร้อมให้ความมั่นใจเวลาเจอสภาพถนนที่หลากหลาย
Q
Toyota Fortuner มีรุ่นย่อยอะไรให้เลือกบ้าง?
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์มีหลายรุ่นย่อย ครอบคลุมปี 2020-2024 ในปี 2020 มีรุ่น 2.4G, 2.4V, 2.4V 4WD, 2.4 Legender, 2.4 Legender 4WD, 2.8 Legender, 2.8 Legender 4WD เป็นต้น ส่วนปี 2021 มีรุ่น 2.8 GR Sport 4WD สำหรับปี 2022 จะมีรุ่น 2.4 Leader G AT, 2.4 Leader V AT, 2.4 Leader V 4WD AT, 2.4 Legender AT, 2.4 Legender 4WD AT, 2.8 Legender AT, 2.8 Legender 4WD AT และ 2.8 GR Sport 4WD มาถึงปี 2023 มีรุ่น 2.4 Leader G 6AT 4x2, 2.4 Leader V 6AT 4x2, 2.4 Leader V 6AT 4x4, 2.4 Legender 6AT 4x2, 2.4 Legender 6AT 4x4, 2.8 Legender 6AT 4x2, 2.8 Legender 6AT 4x4, 2.8 GR Sport 6AT 4x4 และ 2.8 GR Sport Black Top 6AT 4x4 สุดท้ายปี 2024 มีรุ่น 2.4 Leader S 6AT 2024 และ 2.8 GR Sport 6AT 4×4 2024 แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งราคา สเปค และสมรรถนะ ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณที่มี
Q
ราคาบริการของ Toyota Fortuner คือเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายในการบริการรักษารถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ที่ประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรายการบริการและนโยบายของตัวแทนจำหน่าย โดยทั่วไปบริการพื้นฐานเช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องจะมีราคาประมาณ 2,500-3,500 บาท ส่วนการบริการใหญ่ที่รวมถึงการเปลี่ยนกรองอากาศ น้ำมันเบรก อาจมีราคาสูงถึง 6,000-8,000 บาท ควรตรวจสอบราคาล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของโตโยต้าหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สำหรับเจ้าของรถในไทยสามารถติดตามโปรโมชั่นจากโตโยต้าได้ เช่น บางตัวแทนอาจมีแพ็กเกจบริการลดราคาหรือบริการตรวจเช็คฟรี ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานรถได้ ข้อสำคัญคือการบริการรักษารถอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ แต่ยังรักษามูลค่าการขายต่อของรถได้ จึงควรปฏิบัติตามระยะการบริการที่กำหนดในคู่มือซึ่งอยู่ที่ 5,000-10,000 กิโลเมตร เนื่องจากสภาพอากาศในไทยที่ร้อนชื้นส่งผลต่อการสึกหรอของระบบระบายความร้อนและชิ้นส่วนเบรกเป็นพิเศษ จึงควรตรวจสอบจุดเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย หากเลือกใช้บริการนอกศูนย์บริการ ต้องมั่นใจว่าอู่修理ใช้ชิ้นส่วนแท้ที่ได้มาตรฐานของโตโยต้าเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสิทธิ์การรับประกัน
Q
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา Toyota Fortuner คือเท่าไหร่? ดูแนวคิดที่นี่
รถโฟร์จูนเนอร์ของโตโยต้าเป็น SUV ยอดนิยมในตลาดไทย ค่าบำรุงรักษาจะแตกต่างกันไปตามปีรุ่นและประเภทเครื่องยนต์ สำหรับบริการทั่วไป เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ที่ศูนย์บริการโตโยต้าจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,500 บาท ต่อครั้ง ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน ส่วนบริการใหญ่ที่รวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก จะอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจของศูนย์บริการ ด้วยสภาพอากาศร้อนของไทย แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองแอร์บ่อยขึ้นเป็นทุก 1 ปี และในช่วงฤดูฝนควรตรวจสอบระบบเบรกบ่อยๆ อะไหล่แท้ของโตโยต้าในไทยมีพร้อมจำหน่ายและราคาชัดเจน ร้านซ่อมทั่วไปอาจถูกกว่าประมาณ 20%-30% แต่ต้องตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันว่าอนุญาตหรือไม่ สำหรับรุ่นไฮบริดนั้นช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว แต่ต้องคำนึงถึงค่าบำรุงรักษาแบตเตอรี่ด้วย ผู้ใช้ในไทยยังสามารถรับส่วนลดค่าบำรุงรักษาผ่านโปรแกรมสมาชิก Toyota TH โดยรวมแล้วค่าบำรุงรักษาของโฟร์จูนเนอร์อยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับ SUV รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน การบำรุงรักษาสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถได้ดี
Q
ประกันภัยรถยนต์ Toyota Fortuner ต้องจ่ายเท่าไหร่?
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์เป็น SUV ยอดนิยมที่มีความยาวตัวถัง 4,795 มม. กว้าง 1,855 มม. และสูง 1,835 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,745 มม. หรือ 2,750 มม. แล้วแต่รุ่น ซึ่งขนาดตัวที่ใหญ่แบบนี้ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง พร้อมการจัดวางห้องโดยสารแบบ 5 ประตู 7 ที่นั่ง เหมาะสมกับการใช้งานแบบครอบครัวเป็นอย่างดี นอกจากนี้ขนาดตัวที่ใหญ่ยังให้ความรู้สึกสง่างามและดูโดดเด่นบนถนนอีกด้วย ถ้าดูจากขนาดตัวแล้วจะพบว่าข้อมูลบางอย่างใกล้เคียงกับ丰田普拉多แค่ต่างกันไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น แสดงให้เห็นว่ามันมีความสามารถในการขับเคลื่อนออฟโรดอยู่ไม่น้อย ช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาเจอสภาพถนนที่หลากหลาย