Q

สามารถจอง Neta V ได้ที่ไหน?

Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดไทย ถูกออกแบบมาให้เป็นรถเมืองประหยัดสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ด้วยระยะทางประมาณ 380 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างกรุงเทพฯ หรือการเดินทางระยะสั้น ในโหมดชาร์จเร็วสามารถเติมพลังงานได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 30 นาที โดยรุ่นนี้มีเครือข่ายบริการหลังการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถไฟฟ้า ทำให้ผู้ซื้อ Neta V ได้ส่วนลดภาษีสรรพสามิตประมาณ 150,000 บาท ส่วนเรื่องสถานีชาร์จนั้น ไทยกำลังเร่งติดตั้งจุดชาร์จทั่วประเทศ ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆและปั๊มน้ำมันหลายแห่งมีสถานีชาร์จเร็วให้บริการแล้ว สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อรถไฟฟ้า แนะนำให้เลือกรุ่นที่เหมาะสมกับระยะทางใช้งานประจำวัน และควรสำรวจจุดชาร์จใกล้บ้านไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ควรสังเกตพฤติกรรมของแบตเตอรี่ในสภาพอากาศร้อนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Neta V วิ่งได้กี่กิโลเมตร
รถยนต์ไฟฟ้า Neta V ในตลาดประเทศไทยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 401 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือท่องเที่ยวรอบเมือง แม้อากาศร้อนของไทยอาจส่งผลเล็กน้อยต่อประสิทธิภาพแบตเตอรี่ แต่รถรุ่นนี้ได้ติดตั้งระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะเพื่อรักษาความเสถียรของแบตเตอรี่ ในส่วนของการชาร์จ หากใช้ระบบชาร์จเร็วสามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ส่วนการชาร์จแบบปกติที่บ้านจะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมง ปัจจุบันประเทศไทยกำลังขยายสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยสามารถหาจุดชาร์จได้ตามห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงานต่างๆ สำหรับผู้บริโภคไทยที่กำลังพิจารณาซื้อรถไฟฟ้า นอกจากระยะทางแล้ว ควรสนใจนโยบายการรับประกันแบตเตอรี่ (ส่วนใหญ่รับประกัน 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร) รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานสะอาดจากรัฐบาลไทย ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน เช่น MG EP หรือ BYD ATTO 3 ที่ให้ระยะทางประมาณ 300-400 กิโลเมตร ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างในเรื่องพื้นที่ภายในและฟังก์ชันการใช้งานตามงบประมาณและความต้องการส่วนตัวได้
Q
ที่ไหนที่ฉันสามารถทดลองขับรถ Neta V
หากสนใจทดลองขับรถยนต์ไฟฟ้า Neta V ในประเทศไทย สามารถไปที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Neta ในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ๆ เพื่อจองทดลองขับได้ เช่น โชว์รูมที่บางนา หรือลาดพร้าวในกรุงเทพฯ หรือบางครั้งในช่วงงานอีเวนต์ก็อาจมีบริการทดลองขับในศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างสยามพารากอนหรือเซ็นทรัลเวิลด์ แนะนำให้ตรวจสอบจุดให้บริการและขั้นตอนการจองล่าสุดผ่านเว็บไซต์ทางการของ Neta ประเทศไทยหรือทางไลน์อย่างเป็นทางการก่อน Neta V เป็นรถไฟฟ้าที่เน้นการใช้งานในเมือง ด้วยระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และการออกแบบตัวรถขนาดกะทัดรัดที่เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทย แถมยังรองรับการชาร์จเร็ว (ชาร์จจาก 30% ถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันได้ดี รัฐบาลไทยมีนโยบายลดภาษีสำหรับรถไฟฟ้า และยังมีส่วนลดประมาณ 150,000 บาทเมื่อซื้อรถ บางตัวแทนอาจมีโปรโมชั่นติดตั้งที่ชาร์จฟรีในช่วงนี้ แนะนำให้สอบถามนโยบายการบริการหลังการขายแบบท้องถิ่นตอนทดลองขับด้วย หากสนใจรุ่นในระดับเดียวกัน คุณยังสามารถเปรียบเทียบแบรนด์ต่างๆ เช่น BYD Dolphin หรือ MG EP ได้ แต่คุณต้องใส่ใจกับความแตกต่างในด้านความเข้ากันได้ของการชาร์จ (เช่น CHAdeMO หรืออินเทอร์เฟซ CCS2) และเงื่อนไขการรับประกันของรุ่นต่างๆ
Q
Neta V ใช้แบตเตอรี่ชนิดใด
รถไฟฟ้า Neta V เป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภท NCM (นิกเกิล โคบอลต์ แมงกานีส) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ให้พลังงานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพอากาศร้อนของไทย แบตเตอรี่มีความจุประมาณ 31kWh ถึง 38kWh แล้วแต่รุ่น ให้ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพียงพอสำหรับการเดินทางในเมืองหรือการเดินทางใกล้ๆ สำหรับการใช้งานรถไฟฟ้าในไทย ควรตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน และสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสถานีชาร์จที่กำลังขยายตัวในไทย ทั้งในห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน และสถานีชาร์จเฉพาะจุด เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้า เช่น การลดภาษีและให้เงินอุดหนุน การเลือกซื้อ Neta V จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก สำหรับผู้ที่สนใจรถรุ่นนี้ การเข้าใจวิธีการดูแลแบตเตอรี่และรู้ตำแหน่งสถานีชาร์จในพื้นที่จะช่วยให้ใช้งานรถไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Q
การชาร์จ Neta V จากแหล่งจ่ายไฟที่บ้านใช้เวลากี่ชั่วโมง?
เวลาชาร์จรถ NETA V ในประเทศไทยเมื่อใช้ไฟฟ้าที่บ้านจะขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่และกำลังไฟเป็นหลัก แบตเตอรี่ของ NETA V มีความจุประมาณ 38.54kWh หากใช้เครื่องชาร์จที่บ้านแบบเฟสเดียว 220V/32A ซึ่งพบได้ทั่วไปในประเทศไทย (กำลังไฟประมาณ 7kW) โดยทฤษฎีแล้วการชาร์จจาก 0% ถึง 100% จะใช้เวลาประมาณ 5.5 ถึง 6 ชั่วโมง เวลาจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับสภาพแบตเตอรี่ อุณหภูมิแวดล้อมและประสิทธิภาพการชาร์จ แม้ว่าแรงดันไฟฟ้าในบ้านที่ไทยจะค่อนข้างเสถียร แต่แนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จเฉพาะเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ นอกจากนี้สภาพอากาศร้อนในประเทศไทยอาจส่งผลต่อความเร็วการชาร์จเล็กน้อย จึงแนะนำให้ชาร์จในช่วงเช้าหรือเย็นที่อุณหภูมิต่ำเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด NETA V รองรับการชาร์จหลายรูปแบบ นอกจากการชาร์จที่บ้านแล้ว ประเทศไทยยังกำลังพัฒนาระบบชาร์จเร็วสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ในโหมดชาร์จเร็วสามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที เหมาะสำหรับการเดินทางไกล เจ้าของรถสามารถเลือกวิธีการชาร์จตามความสะดวกของการใช้งานประจำวัน การชาร์จที่บ้านเหมาะสำหรับการชาร์จตอนกลางคืนขณะจอดรถ เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่มากกว่า
Q
Neta V มาจากประเทศใด
Neta V เป็นรถอีวีขนาดเล็กประเภท SUV จากแบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่ของจีน HOZON Auto ออกแบบมาสำหรับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนเมืองที่ต้องการรถสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน โดยรถรุ่นนี้ได้เปิดตัวในตลาดไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2022 ผ่านความร่วมมือระหว่าง HOZON Auto และพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศไทย พร้อมกับการปรับแต่งบางส่วนให้เหมาะสมกับกฎระเบียบและความชอบของผู้บริโภคไทย Neta V ดึงดูดความสนใจในตลาดรถอีวีไทยด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัด ระยะขับขี่ประมาณ 380 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ในตลาดไทย รถรุ่นนี้ต้องแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง MG EP และ Ora Good Cat โดยจุดแข็งของ Neta V คือราคาที่เข้าถึงง่ายและการขับขี่ที่คล่องตัว เหมาะกับสภาพถนนในเมืองแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลไทยยังได้สนับสนุนรถอีวีผ่านมาตรการลดภาษี เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับ Neta V และรถอีวีรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ ไทยกำลังผลักดันการผลิตชิ้นส่วนรถอีวีในประเทศ ทำให้ในอนาคต Neta V อาจมีการประกอบภายในประเทศเพื่อลดต้นทุน สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่ต้องการให้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดเป็นรถอีวีภายในปี 2030 สำหรับผู้บริโภคไทย การเลือกซื้อรถอีวีไม่ควรดูแค่ระยะขับขี่และราคา แต่ต้องพิจารณาการครอบคลุมของสถานีชาร์จด้วย ปัจจุบันในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ มีเครือข่ายสถานีชาร์จที่ค่อนข้างพร้อม แต่ในพื้นที่ห่างไกลยังจำเป็นต้องพัฒนาต่อไป
Q
ความแตกต่างระหว่าง Neta V II และ Neta V คืออะไร
รถ Neta V II เป็นรุ่นอัพเกรดจาก Neta V ที่ได้รับการพัฒนาด้านระบบสมาร์ท ค่าการใช้งานของแบตเตอรี่ และดีเทลการออกแบบ เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดย Neta V II มักมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงขึ้น ช่วยเพิ่มระยะทางได้ไกลกว่ารุ่นเดิม พร้อมอัพเกรดระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบ Cruise Control อัตโนมัติ ระบบรักษาช่องทางเดินรถ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ในด้านรูปลักษณ์ รถรุ่นนี้อาจมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้น เช่น ล้อแม็กซ์แบบใหม่ หรือกรอบหน้ารถที่โดดเด่นกว่าเดิม ขณะที่ภายในห้องโดยสารก็ใช้วัสดุคุณภาพดีขึ้น และเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น จอแสดงผลขนาดใหญ่ขึ้น หรือรองรับแอปพลิเคชันในท้องถิ่นได้มากขึ้น สำหรับตลาดไทย Neta V II ยังอาจปรับปรุงระบบปรับอากาศให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพแม้อุณหภูมิสูง ทั้งสองรุ่นเหมาะกับการใช้งานในเมืองไทย แต่ Neta V II จะให้ความสะดวกสบายและความอัจฉริยะที่เหนือกว่า เหมาะกับผู้ใช้ที่พร้อมจ่ายเพิ่มเพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่า ส่วนใครที่เน้นความคุ้มค่า Neta V รุ่นเดิมก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าอยากได้เทคโนโลยีล่าสุดและระยะทางที่ไกลขึ้น Neta V II คือคำตอบที่ตอบโจทย์กว่า
Q
NETA V II แตกต่างจาก NETA V อย่างไร
NETA V II คือรุ่นอัพเกรดจาก NETA V ที่ได้รับการปรับปรุงในหลายด้านเพื่อตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น เริ่มจากเรื่องระยะทางที่เพิ่มขึ้น แบตเตอรี่ของ NETA V II วิ่งได้ไกลกว่าเดิม ช่วยให้การเดินทางในเมืองหรือข้ามจังหวัดสะดวกขึ้น แถมยังชาร์จไฟเร็วกว่าเดิม ไม่ต้องรอนาน ส่วนระบบเทคโนโลยีก็อัปเดตกว่าเดิม พร้อมแอปพลิเคชันท้องถิ่นและระบบสั่งการด้วยเสียงที่ใช้ง่ายขึ้น ด้านความสบายก็ไม่แพ้กัน วัสดุภายในห้องและเบาะนั่งได้รับการออกแบบใหม่ให้เหมาะกับอากาศร้อนของไทย ขับนานๆ ก็ไม่เหนื่อย หน้าตาด้านนอก NETA V II มาด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบเทรนด์คนรุ่นใหม่ แถมยังเพิ่มฟีเจอร์ช่วยขับขี่อย่าง Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Assist ที่จำเป็นสำหรับสภาพถนนในเมืองไทย ที่พิเศษไปกว่านั้นคือระบบปรับอากาศและระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับไทย ทำให้ใช้งานได้มั่นใจแม้อากาศร้อนจัด ด้วยราคาที่คุ้มค่า NETA V II ถือเป็นตัวเลือกน่าสนใจในตลาดรถ EV ระดับเริ่มต้น ยิ่งตอนนี้รัฐบาลไทยสนับสนุนรถ EV อย่างเต็มที่ การใช้รถไฟฟ้าก็ยิ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
Q
Neta V ใช้แบตเตอรี่ประเภทอะไร
Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดไทย มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภท Ternary Lithium (NCM) ที่มีความหนาแน่นพลังงานสูง แบตเตอรี่ชนิดนี้ทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพในสภาพอากาศร้อนของไทย มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและชาร์จไฟเร็ว โดยความจุแบตเตอรี่จะอยู่ที่ประมาณ 31-38kWh ขึ้นอยู่กับรุ่น ซึ่งให้ระยะทางประมาณ 301-384 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ และ Neta V ยังได้รับการออกแบบระบบแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้น โดยเพิ่มระบบระบายความร้อนเพื่อป้องกันอุณหภูมิสูง นอกจากนี้โครงข่ายสถานีชาร์จในไทยก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเมืองใหญ่และสถานีบริการตามทางด่วน ทำให้หาจุดชาร์จได้ง่าย สำหรับคนไทยที่สนใจรถไฟฟ้า นอกจากประเภทแบตเตอรี่แล้ว ควรดูนโยบายการรับประกันแบตเตอรี่ (ส่วนใหญ่จะให้ประกัน 8 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร) รวมถึงสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เช่น การลดภาษีนำเข้าและเงินสนับสนุนการซื้อรถไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว
Q
ที่ไหนที่ฉันสามารถทดลองขับ Neta V
ในประเทศไทย คุณสามารถจองทดลองขับรถ Neta V ได้ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายหรือโชว์รูมอย่างเป็นทางการของ Neta โดยสามารถตรวจสอบสถานที่ได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Neta ประเทศไทยหรือเพจโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันมีจุดจำหน่ายในเมืองหลักๆ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ที่พร้อมให้บริการทดลองขับ รถ Neta V เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่โดดเด่นในเรื่องของระยะขับขี่และระบบอัจฉริยะ เหมาะกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นๆ ในประเทศไทย ขณะทดลองขับคุณจะได้สัมผัสถึงความแรงในการเร่งและฟังก์ชันเทคโนโลยีภายในรถ รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้า คุณอาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อซื้อรถ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์และการบริการติดตั้งสถานีชาร์จจากตัวแทนจำหน่ายขณะทดลองขับ หากคุณสนใจรถไฟฟ้า อาจลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่ควรสังเกตเรื่องความเข้ากันได้ของสถานีชาร์จและเครือข่ายบริการหลังการขายของแต่ละแบรนด์ เพื่อเลือกรถที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด ก่อนไปทดลองขับควรจองล่วงหน้าและนำใบขับขี่ไปด้วย บางจุดจำหน่ายอาจมีเงื่อนไขเกี่ยวกับอายุหรือประสบการณ์การขับขี่
Q
สามารถจอง Neta V ที่ไหน
ในประเทศไทย คุณสามารถจองรถ Neta V ได้ผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ Neta หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ Neta กำลังขยายเครือข่ายการขายในตลาดไทย โดยในกรุงเทพฯ และเมืองหลักอื่นๆ มีตัวแทนจำหน่ายที่พร้อมให้บริการทดลองขับและจองรถ นอกจากนี้คุณยังสามารถติดตามข้อมูลช่องทางการจองและโปรโมชันล่าสุดได้ผ่านทางโซเชียลมีเดียทางการของ Neta ในประเทศไทย รถ Neta V ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ที่คล่องตัวและระยะทางการใช้งานที่ตอบโจทย์ เหมาะสมกับการเดินทางในเมืองของประเทศไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ระบบชาร์จเร็วยังเข้ากันได้กับโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย หากคุณสนใจรถไฟฟ้า อาจลองศึกษานโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รถไฟฟ้าในราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น แนะนำให้ลองทดลองขับรถจริงที่ตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจ พร้อมทั้งเปรียบเทียบคุณสมบัติและบริการหลังการขายของรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ เพื่อเลือกรถที่เหมาะกับคุณที่สุด
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

มีตัวเลือกกำลังและระยะทางที่หลากหลาย
มีระบบเชื่อมต่อระหว่างรถที่ชาญฉลาด
มีรูปแบบเสาที่โปร่งใสที่สร้างสรรค์
มีราคาที่มีคุณสมบัติราคาถูก

ข้อเสีย

ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาด
ปรากฎว่าปริมาณยอดขายลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้
มีผลขาดทุนในตลาดไทยในระยะยาว

Q&A ล่าสุด

Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติม