Q
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของ Mazda 2
Mazda 2 ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันมากๆ ด้วยเครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 1.3 และ 1.5 ลิตร ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการเผาไหม้ประสิทธิภาพสูงและการออกแบบน้ำหนักเบา ในเมืองจะวิ่งได้ประมาณ 15-17 กม./ลิตร ส่วนถนนทางหลวงพุ่งไปถึง 20-22 กม./ลิตร แต่ตัวเลขนี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ถนนหนทาง และการดูแลรักษาด้วย ถ้าเจอรถติดในกรุงเทพแนะนำให้เปิดโหมด ECO จะช่วยประหยัดน้ำมันกว่า ส่วนเจ้าของรถในไทยควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศและหัวเทียนตามกำหนด ใช้เบนซินมาตรฐานอย่าง 91 หรือ 95 แค่นี้ก็ช่วยให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพดีในระยะยาวแล้ว เทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน Mazda 2 ใช้เทคโนโลยี Skyactiv ที่ดึงจุดแข็งจากอัตราส่วนอัดสูงและระบบรีไซเคิลไอเสีย ทำให้สมดุลระหว่างแรงขับกับความประหยัดดีกว่าเครื่องยนต์ทั่วไปแบบสูบธรรมดา แถมในอากาศร้อนๆ แบบไทย แนะนำให้ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และรักษาลมยางอยู่ที่ 32-35 psi เท่านี้ก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีก สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยๆ ลองดูระบบ i-stop ที่จะตัดเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดติดไฟแดง ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉพาะในเมืองไทยที่มีไฟแดงเยอะแบบนี้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
มีรุ่นของ Mazda 2 กี่รุ่น?
รถ Mazda 2 มีหลายรุ่นให้เลือกครับ จากข้อมูลที่เห็นจะมีรุ่นปีต่างๆ เช่น ปี 2020, 2022, 2023 และ 2025 แบ่งตามระดับอุปกรณ์ก็จะมีแบบนี้ครับ - รุ่นปี 2025 มี Mazda 2 1.3 Prime, 1.3 Ultra, 1.3 Signature และ 1.5 XDL Signature ส่วนปี 2023 ก็จะมี 1.3 C AT, 1.3 S AT, 1.5 Turbo XD AT, 1.3 SP AT กับ 1.5 Turbo XDL AT สำหรับปี 2022 มีแค่รุ่น 1.3 E AT เท่านั้น ส่วนปี 2020 จะมีรุ่น Sedan 1.3 E, 1.3 C, 1.3 S, 1.3 S Leather, 1.3 SP, 1.5 XD และ 1.5 XDL เป็นต้น แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันทั้งราคาและสเปคครับ โดยเฉพาะในส่วนของระบบความปลอดภัย อุปกรณ์มัลติมีเดียต่างๆ ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะกับความต้องการและงบประมาณได้เลยครับ
Q
รถ Mazda 2 ใหญ่พอไหม
มาสด้า 2 เป็นรถเก๋งคอมแพคต์ที่เหมาะกับชีวิตในเมืองไทยโดยเฉพาะ ถนนในกรุงเทพฯรถติดขนาดนี้ แต่มาสด้า 2 ขับง่าย จอดสะดวก เพราะตัวรถไม่ใหญ่เกินไป มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.3 และ 1.5 ลิตร ที่ประหยัดน้ำมันมากๆ เหมาะกับการขับรถไปทำงานประจำวันจริงๆ ถึงแม้ว่าที่นั่งแถวหลังอาจจะคับไปหน่อยสำหรับคนตัวสูง แต่สำหรับคนโสดหรือครอบครัวเล็กๆ ก็เพียงพอแล้ว ส่วนกระโปรงหลังเก็บของได้พอใช้ ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป จะไปจ่ายตลาดหรือไปเที่ยวใกล้ๆ ก็เอาอยู่ แถมดีไซน์ยังสวยโดนด้วยสไตล์ KODO ที่เป็นลายเซ็นของมาสด้า ภายในห้องโดยสารก็ทำออกมาได้เนี๊ยบมาก ในเรื่องความปลอดภัยก็มี ABS, EBD ให้ ส่วนรุ่นท็อปๆ อาจจะมีกล้องถอยหลังให้อีกต่างหาก ที่สำคัญค่าซ่อมบำรุงในไทยก็ไม่แรง อะไหล่ก็หาง่าย สรุปแล้วถ้าคุณใช้รถแค่ในเมือง บางทีก็ไปเที่ยวใกล้ๆ มาสด้า 2 นี่แหละใช่เลย แต่ถ้าจะต้องมีผู้โดยสารเยอะหรือขนของบ่อยๆ อาจจะต้องมองรถตัวใหญ่ขึ้นหน่อย เช่น มาสด้า 3 หรือ CX-3 จะเหมาะกว่า
Q
รถ Mazda 2 มีเบรกดรัมหรือไม่?
รุ่น Mazda 2 บางรุ่นมีการติดตั้งเบรกแบบดรัมไว้ที่ล้อหลัง อย่างเช่นในข้อมูลรุ่นปี 2023 อย่าง Mazda 2 1.3 C AT, Mazda 2 1.3 S AT, Mazda 2 1.5 Turbo XD AT, Mazda 2 1.3 SP AT และ Mazda 2 1.5 Turbo XDL AT ล้วนใช้เบรกล้อหลังเป็นแบบดรัม ส่วนรุ่นปี 2025 อย่าง Mazda 2 1.3 Prime, Mazda 2 1.3 Ultra และ Mazda 2 1.3 Signature ก็ยังใช้เบรกแบบดรัมที่ล้อหลังเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกรุ่นของ Mazda 2 จะเป็นแบบนี้ เพราะอย่างรุ่นปี 2025 อย่าง Mazda 2 1.5 XDL Signature นั้นใช้เบรกทั้งล้อหน้าและล้อหลังเป็นแบบดิสก์ทั้งหมด เบรกแบบดรัมทำงานโดยใช้ผ้าเบรกเสียดสีกับดรัมเพื่อสร้างแรงหยุด มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนและต้นทุนต่ำ แต่ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนและด้านอื่นๆ จะสู้เบรกแบบดิสก์ไม่ได้
Q
ฉันจำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าเบรกหลังหรือไม่?
การจะเปลี่ยนผ้าเบรกหลังหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญหลายอย่าง เริ่มจากระดับการสึกหรอของผ้าเบรก โดยปกติถ้าความหนาน้อยกว่า 3 มม. ก็ควรเปลี่ยนแล้ว ในไทยที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาและการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุดบ่อยๆ จะเร่งให้ผ้าเบรกสึกเร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจเช็คทุก 10,000 กม. คุณสามารถสังเกตได้จากเสียงดังเอี๊ยดของแผ่นเตือนโลหะหรือไฟเตือนบนแผงหน้าปัด บางรุ่นยังสามารถมองเห็นความหนาที่เหลือผ่านช่องล้อได้ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ผ้าเบรกมักจะเกิดการกัดกร่อน แม้ความหนายังพอใช้แต่ถ้ามีการแข็งตัวหรือร้าวก็ควรเปลี่ยน ผ้าเบรกหลังมักจะใช้งานได้นานกว่าผ้าเบรกหน้าประมาณ 30% เพราะแรงเบรกส่วนใหญ่จะไปที่ล้อหน้า แต่การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ จะเพิ่มการใช้งานผ้าเบรกหลังมากขึ้น เวลาเปลี่ยนแนะนำให้เลือกวัสดุเซรามิกหรือกึ่งโลหะที่เหมาะกับอากาศร้อน เพราะทนความสูงและมีฝุ่นน้อย ข้อควรระวังคือรถบางรุ่นที่ใช้เบรกมือแบบอิเล็กทรอนิกส์可能需要ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการรีเซ็ต ควรไปที่อู่มืออาชีพจะดีกว่า การตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกและสภาพท่อเบรกเป็นประจำก็สำคัญ เพราะความชื้นในฤดูฝนของไทยอาจทำให้น้ำมันเบรกดูดความชื้นและเสื่อมสภาพเร็ว ถ้ารู้สึกว่าระยะเบรกยาวขึ้นหรือแป้นเบรกนิ่มลง แม้ผ้าเบรกยังไม่หมดอายุก็ควรตรวจสอบระบบเบรกทั้งหมด
Q
มาสด้า 2 มีสายพานหรือโซ่
รถมาสด้า 2 ที่ขายในตลาดไทยส่วนใหญ่ใช้ระบบไทม์มิ่งแบบขับเคลื่อนด้วยโซ่ ซึ่งออกแบบมาให้ทนทานกว่าการใช้สายพานแบบเดิมๆ และแทบไม่ต้องบำรุงรักษา เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนและมีฝุ่นของประเทศไทย เพราะโซ่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากความร้อนสูงหรือฝุ่นที่ทำให้เสื่อมสภาพง่าย ในสภาพการขับขี่ที่ต้องสตาร์ทและหยุดบ่อยในเมืองไทย ระบบโซ่ช่วยรักษาประสิทธิภาพให้คงที่มากขึ้น และยังลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสายพานตามระยะให้เจ้าของรถอีกด้วย ที่สำคัญต้องระวังว่าแม้โซ่จะมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่เจ้าของรถก็ยังต้องตรวจสอบความตึงของโซ่และสภาพรอกตามคำแนะนำของผู้ผลิต โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนตลอดปีของไทย คุณภาพน้ำมันหล่อลื่นจะมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งานของโซ่ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหาซื้อรถมาสด้า 2 มือสอง แนะนำให้ตรวจสอบระบบไทม์มิ่งของเครื่องยนต์เป็นพิเศษว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ จะช่วยหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายซ่อมแซมสูงในภายหลังได้ โดยทั่วไปศูนย์บริการมาสด้าในไทยจะมีบริการตรวจเช็คระบบไทม์มิ่งแบบเฉพาะทาง ลองขอให้ช่างตรวจสอบอย่างละเอียดเวลานำรถเข้าบำรุงรักษาตามระยะจะดีกว่า เพราะการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันย่อมประหยัดกว่าการซ่อมแซมหลังจากเกิดปัญหาแล้ว
Q
วิธีเปิดเครื่อง Mazda 2 ด้วยกุญแจ
ก่อนจะสตาร์ทรถ Mazda 2 ที่ใช้กุญแจแบบธรรมดา ต้องเช็คให้แน่ใจว่าเกียร์อยู่ที่ตำแหน่ง P (สำหรับเกียร์ออโต้) หรือเกียร์ว่าง (สำหรับเกียร์มือ) เสียก่อน จากนั้นสอดกุญแจเข้าไปในตัวสตาร์ทที่ด้านขวาของพวงมาลัย แล้วหมุนตามเข็มนาฬิกาไปที่ตำแหน่ง "ON" เพื่อให้ระบบไฟฟ้าของรถทำงาน พอไฟหน้าปัดหยุดกระพริบแล้ว ให้หมุนกุญแจต่อไปถึงตำแหน่ง "START" เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ พอเครื่องติดแล้วกุญแจจะเด้งกลับไปที่ตำแหน่ง "ON" อัตโนมัติ ในสภาพอากาศร้อนๆ แบบเมืองไทย แนะนำว่าให้รอสัก 30 วินาทีหลังสตาร์ท เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนเต็มที่ก่อนออกรถ จะช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้ดีนะ ถ้าเกิดอาการกุญแจหมุนยาก อาจเป็นเพราะความชื้นหรือฝุ่นเกาะในตัวสตาร์ท ลองขยับพวงมาลัยซ้ายขวาเบาๆ เพื่อปลดล็อกพวงมาลัยดู ถ้าไม่ดีขึ้นก็ไปที่ศูนย์ Mazda ที่ไทยได้เลย เขามีบริการจารบีตัวสตาร์ทให้ฟรีๆ ส่วนเวลาปกติ ควรใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดกุญแจให้แห้งอยู่เสมอ ระวังอย่าให้ความชื้นหรือทรายเข้าไปในตัวสตาร์ท จะได้ใช้งานได้นานๆ
Q
ช่วงระยะทางของรถ Mazda 2 เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังคือเท่าไหร่
รถมาสด้า 2 ที่ขายในตลาดไทยมีความจุถังน้ำมันประมาณ 44 ลิตร ถ้าขับในสภาพจริงจะวิ่งได้ประมาณ 500-700 กิโลเมตรต่อหนึ่งถังเต็ม ขึ้นอยู่กับสภาพถนน นิสัยการขับขี่ และรุ่นย่อยของรถ เช่น ถ้าติดไฟแดงบ่อยๆในกรุงเทพฯ จะกินน้ำมันมากหน่อย แต่ถ้าขับทางไกลบนทางด่วนจะประหยัดกว่า สำหรับคนไทยที่สนใจ รุ่นที่ขายในประเทศอาจติดตั้งเครื่องยนต์ 1.3 ลิตรหรือ 1.5 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี Skyactiv ของมาสด้าที่ช่วยเรื่องประหยัดน้ำมัน แนะนำให้บริการรักษารถตามกำหนดเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และอย่าลืมว่าอากาศเมืองไทยร้อน แอร์ทำงานหนักก็ทำให้น้ำมันหมดไวเหมือนกัน แค่วางแผนเส้นทางดีๆ ขับขี่อย่างมีสติ ก็ช่วยเพิ่มระยะวิ่งได้เยอะนะ
Q
รถ Mazda 2 มีระบบตรวจจับจุดบอดหรือไม่
รถยนต์มาสด้า 2 ในรุ่นท็อปหรือรุ่นกลางสูงบางรุ่นนั้น มีระบบ Blind Spot Monitoring (BSM) ซึ่งเป็นระบบตรวจสอบจุดบอด โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ตรงกันชนหลัง ทำหน้าที่ตรวจจับรถที่อยู่ในจุดบอดด้านข้างและด้านหลังของรถ เมื่อมีรถเข้าไปอยู่ในจุดบอด ไฟเตือนที่กระจกข้างจะสว่างขึ้นเพื่อแจ้งเตือนผู้ขับขี่ ในตลาดไทย ระบบนี้มักจะพบได้ในรุ่นท็อปหรือรุ่นกลางสูงเท่านั้น แต่แนะนำให้ตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งเพื่อความแน่ชัด เพราะอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น สำหรับคนไทยที่ต้องขับรถในสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือบนทางด่วน ระบบ BSM ถือว่ามีประโยชน์มาก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเวลาจะเปลี่ยนเลน โดยเฉพาะในสภาพถนนที่มีรถมอเตอร์ไซค์เยอะๆ นอกจากระบบ BSM แล้ว มาสด้า 2 ยังอาจมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อื่นๆ เช่น กล้องถอยหลัง หรือระบบเตือนรถตัดหลังเวลาถอย ซึ่งระบบพวกนี้ช่วยให้ขับรถในสภาพอากาศร้อนและฝนตกของไทยได้ง่ายขึ้น ถ้าสนใจระบบนี้จริงๆ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายให้ดีๆ ก่อนซื้อ หรือจะเปรียบเทียบกับระบบความปลอดภัยในรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันก็ได้ เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
Q
ถังน้ำมันของ Mazda 2 มีขนาดใหญ่แค่ไหน?
รถมาสด้า 2 ในตลาดไทยมีความจุถังน้ำมันประมาณ 44 ลิตร ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถขนาดเล็กรุ่นอื่นๆ ในตลาดเดียวกัน เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางใกล้ๆ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดแบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคย ถังน้ำมันขนาดนี้จะช่วยให้วิ่งได้ประมาณ 500-600 กิโลเมตรต่อการเติมหนึ่งครั้ง ลดความยุ่งยากในการต้องแวะเติมน้ำมันบ่อยๆ แต่ด้วยอากาศร้อนของประเทศไทย ควรตรวจสอบความแน่นของฝาถังน้ำมันเป็นประจำเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิง และควรเติมน้ำมันคุณภาพดีจากปั๊มมาตรฐานเพื่อรักษาสภาพเครื่องยนต์และระบบเชื้อเพลิง ข้อควรรู้คือ รุ่นมาสด้า 2 ที่ขายในไทยอาจมีการปรับเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิงเล็กน้อยตามกฎหมายหรือความต้องการของตลาดท้องถิ่น ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลที่แน่นอนจากคู่มือรถจะดีที่สุด ส่วนเรื่องการขับขี่ ถ้าขับอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เร่งเครื่องเบาๆ และหลีกเลี่ยงการเบรกกระทันหัน จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่รถติดเป็นเรื่องปกติ
Q
รถ Mazda 2 มีล้ออะไหล่หรือไม่?
จากข้อมูลที่ปรากฏ รุ่น Mazda 2 ในตลาดไทยบางรุ่นมีการติดตั้งยางอะไหล่สำรองไว้ด้วย แต่ขึ้นอยู่กับว่ารุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น รุ่นท็อปอาจจะไม่มียางอะไหล่แบบเต็มขนาด แต่จะให้ชุดซ่อมยางแทน แนะนำให้สอบถามรายละเอียดกับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ ในไทยเนี่ยะ ถนนบางเส้นสภาพไม่ค่อยดี บวกกับต้องขับทางไกลบ่อยๆ การมียางอะไหล่ติดรถไว้จะช่วยแก้ไขสถานการณ์ยางแตกได้ดีเลย โดยเฉพาะถ้าคุณต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหรือพื้นที่ห่างไกลบ่อยๆ แต่อย่าลืมว่ายางอะไหล่มักจะมีข้อจำกัดเรื่องความเร็วและระยะทาง ควรใช้แค่ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แล้วรีบเปลี่ยนเป็นยางปกติให้เร็วที่สุด นอกจากนี้สภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและชื้น แนะนำให้ตรวจสอบลมยางและสภาพยางอะไหล่เป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่ายังใช้การได้ดี ถ้าคุณกำลังคิดจะซื้อ Mazda 2 ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี Skyactiv ที่ช่วยเรื่องประหยัดน้ำมันและการควบคุมรถได้ดี เหมาะมากกับการขับขี่ในเมืองไทยทั้งในเมืองและสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-บ่อยๆ
Q&A ล่าสุด
Q
เครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร่ที่อยู่ใน Ford Ranger รุ่นปี 2021?
รถกระบะ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีตัวเลือกเครื่องยนต์หลายแบบให้เลือกตามความต้องการ โดยเครื่องยนต์ที่นิยมที่สุดคือเครื่องดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่มีทั้งแบบเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ รุ่นเทอร์โบเดี่ยวให้กำลังสูงสุดประมาณ 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเทอร์โบคู่จะแรงกว่ามาก ให้กำลังถึง 213 แรงม้าและแรงบิด 500 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการบรรทุกหนักหรือลากจูงของเยอะ นอกจากนี้บางประเทศยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรอีกด้วย เครื่องดีเซลของ Ranger นี่ประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะแรงบิดต่ำๆ ที่ตอบโจทย์การขับทั้งในเมืองและทางไกล แถมยังออกแบบมาให้ทนทานและซ่อมบำรุงง่ายเป็นพิเศษ สำหรับเมืองร้อนแบบบ้านเรา ระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ Ranger เครื่องแรงแบบนี้ทั้งประหยัดและอุ้มงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะใช้งานก่อสร้างหรือขนส่งการเกษตรก็เอาอยู่ ถือเป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องแรงและการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดตอนนี้
Q
ฉันควรจ่ายเงินเท่าไรสำหรับ Ford Ranger ปี 2021?
ราคาขายมือสองของ Ford Ranger รุ่นปี 2021 จะแตกต่างกันไปตามสภาพรถ ระยะทาง อุปกรณ์ และพื้นที่ โดยทั่วไปแล้วในตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 600,000 ถึง 900,000 บาท ถ้าเป็นรถที่ระยะทางน้อย (เช่น ไม่เกิน 30,000 กิโลเมตร) สภาพดี และเป็นเวอร์ชั่นอุปกรณ์สูง ราคาอาจจะพุ่งไปถึง 9 แสนบาท ส่วนรถที่ระยะทางสูงหรือเป็นแบบพื้นฐานก็จะถูกลง แนะนำให้ตรวจสอบราคาปัจจุบันผ่านแพลตฟอร์มขายมือสองหรือตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ก่อนซื้อ และควรให้ช่างตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด Ranger เป็นปิคอัพที่ทนทานและใช้งานได้หลากหลาย ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันหรือขับออฟโรดเล็กน้อย ระบบเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตรคู่กับเกียร์ออโต้ 10 สปีด ให้ทั้งพลังและประหยัดน้ำมัน แถมค่าบำรุงรักษาก็ไม่แรงและหาอะไหล่ได้ง่าย นับเป็นจุดเด่นที่น่าจับตา ก่อนตัดสินใจก็ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Hilux หรือ Isuzu D-MAX ได้ แต่สุดท้ายแล้วควรเลือกให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณของตัวเองเป็นหลัก
Q
รถ Ford Ranger ปี 2021 ดีไหม?
2021 Ford Ranger เป็นรถกระบะขนาดกลางที่ความน่าเชื่อถือสูง เหมาะกับหลายสถานการณ์ทั้งขับขี่ในเมืองและลุยเส้นทางออฟโรดเล็กน้อย ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร หรือเครื่องเบนซินเทอร์โบ 2.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะสมดุลและประหยัดน้ำมัน โดยรุ่นดีเซลจะประหยัดกว่าสำหรับการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งสบายตัว พร้อมระบบความบันเทิง SYNC 3 ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ใช้งานได้สะดวก ระบบช่วงล่างถูกตั้งค่าให้เน้นความนุ่มสบาย แต่ยังคงความมั่นคงเมื่อบรรทุกของหรือขับออฟโรด ข้อควรรู้คือวัสดุภายในห้องโดยสารเป็นพลาสติกแข็งที่ดูไม่หรูเท่ารุ่นคู่แข่ง แต่ทนทานแน่นอน ส่วนเรื่องค่าตัวในตลาดมือสองอยู่ระดับกลาง ค่าบำรุงรักษาไม่แพง และหาอะไหล่ได้ง่าย ถ้าคิดจะซื้อมือสองแนะนำให้ตรวจสอบสภาพช่วงล่างและประวัติการดูแลเครื่องยนต์กับเกียร์ให้ดี เพราะรถกระบะมักถูกใช้งานหนัก พูดถึงความสามารถด้านออฟโรด รุ่นนี้ทำได้ดีกว่ารถ SUV เมืองทั่วไปแต่สู้รุ่นออฟโรดเฉพาะทางไม่ได้ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้ทั้งงานบ้านและขนของเป็นครั้งคราว
Q
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 มีคะแนนความปลอดภัยที่ดีหรือไม่?
2021 Ford Ranger ถือว่าทำได้ดีในเรื่องความปลอดภัย ได้รับการยอมรับจากหลายสถาบันทดสอบระดับโลก อย่างเช่นผลทดสอบจาก ANCAP ที่ได้คะแนน 5 ดาว ส่วนใหญ่ต้องขอบคุณโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงและระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งถุงลมนิรภัยหลายจุด ระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้ดีเวลาขับขี่ประจำวัน โดยเฉพาะในเมืองที่รถเยอะหรือเวลาขับทางไกลบนไฮเวย์ นอกจากนี้ เรนเจอร์ยังมีกล้องถอยหลังและระบบเตือนจุดบอด ช่วยคนขับที่ต้องเจอรถติดบ่อยหรือจอดในที่แคบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น Option Adaptive Cruise และภาพพาโนรามา 360 องศา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุได้อีก โครงสร้างรถปิคอัพอย่างเรนเจอร์มักจะเน้นความแข็งแรงของตัวถังเป็นพิเศษ ทำให้ผลทดสอบการชนออกมาได้ดี เหมาะกับคนที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของรถเป็นพิเศษ
Q
ระบบเกียร์ที่อยู่ใน Ford Ranger ปี 2021 คืออะไร?
รถ Ford Ranger รุ่นปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นมีตัวเลือกเกียร์หลักๆ 2 แบบคือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยรุ่นเกียร์อัตโนมัติเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะใช้งานในเมืองที่รถติดหรือขับทางไกลได้สะดวกกว่า เกียร์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีส่งกำลังที่พัฒนามาอย่างดี เปลี่ยนเกียร์ได้ลื่นๆ ประหยัดน้ำมันอยู่ในระดับดีเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน โดยเฉพาะเหมาะสำหรับคนที่ต้องขนของหรือลากจูงบ่อยๆ ส่วนคนที่ชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ รุ่นเกียร์ธรรมดาจะให้สัมผัสการขับที่ตรงไปตรงมาและค่าบำรุงรักษาก็ถูกกว่า ด้วย ข้อสังเกตสำคัญคือเกียร์รุ่นนี้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ ระบบระบายความร้อนได้รับการปรับแต่งให้ทำงานได้เสถียรแม้ขับนานในอากาศร้อนจัด ถ้าอยากได้เกียร์ที่ทันสมัยขึ้นอาจเลือกรุ่นพิเศษที่อาจติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตาม สำหรับการใช้งานประจำวัน แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนด โดยเฉพาะถ้าต้องขับออฟโรดหรือบรรทุกหนักบ่อยๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานเกียร์ได้ดี
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตารางผ่อนล่าสุด Mazda 2 แต่ละงวดเริ่มต้นเพียง 6,xxx บาท
พงศธรNov 12, 2025

Mazda 2 โปรโมชั่นจํากัดเวลา เริ่มต้นเพียง 491,000 บาทเท่านั้น!
AshleyAug 8, 2024

2024 Mazda 2 มีราคาเริ่มต้นที่ THB 599,000 และมีตัวเลือกการออกแบบถึง 83 แบบ
LienApr 19, 2024

Mazda เดินเกมใหม่! พัฒนา “รถยนต์ที่สามารถดูดควันของตัวเองได้”
สุรเดชNov 13, 2025

ตารางผ่อนล่าสุด Mazda 2 Hatchback เพียง 5,xxx บาทต่องวดตอนนี้
LienNov 11, 2025
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย