neta v วิ่งได้กี่กิโล" ในภาษาไทยได้ "neta v วิ่งได้กี่กิโลเมตร

Ora Good Cat แต่ละรุ่นมีความยาวตัวถังแตกต่างกัน เช่น รุ่นปี 2021 และ 2022 บางรุ่นมีความยาว 4,235 มม. ส่วนรุ่นปี 2022 GT และรุ่นปี 2024 มีความยาวเพิ่มเป็น 4,254 มม. สำหรับรุ่นใหม่ปี 2025 จะมีให้เลือก 2 ขนาดตัวถัง คือ 4,242 มม. และ 4,254 มม. ความยาวของรถถือเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะมีผลต่อการจัดวางพื้นที่ภายในห้องโดยสารและการควบคุมรถ เช่น ถ้ารถยาวขึ้น อาจได้พื้นที่เบาะหลังหรือที่เก็บสัมภาระมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้การเลี้ยวหรือจอดในพื้นที่แคบทำได้ยากขึ้นด้วย

ORA Good Cat แต่ละรุ่นจะมีขนาดแบตเตอรี่แตกต่างกัน เช่น รุ่นปี 2022 อย่าง ORA Good Cat 400 TECH มีความจุแบตเตอรี่ 47.8 kWh ส่วนรุ่น ORA Good Cat 500 ULTRA และ ORA Good Cat GT ปี 2022 ใช้แบตเตอรี่ขนาด 63.139 kWh สำหรับรุ่นปี 2024 อย่าง ORA Good Cat PRO, ULTRA และ GT จะใช้แบตเตอรี่ความจุ 57.7 kWh ซึ่งความจุของแบตเตอรี่มีผลต่อระยะทางที่รถวิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยทั่วไป ยิ่งแบตเตอรี่มีความจุมาก รถก็จะวิ่งได้ไกลขึ้น นอกจากนี้ ขนาดของแบตเตอรี่ยังมีผลต่อเวลาในการชาร์จอีกด้วย ดังนั้นในการเลือกรถ ควรพิจารณาความจุแบตเตอรี่ให้เหมาะกับการใช้งานและเงื่อนไขการชาร์จของแต่ละคน.

ORA Good Cat เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน ที่มีต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำกว่ารถยนต์เครื่องยนต์น้ำมันแบบดั้งเดิม โดยรายการดูแลหลักจะอยู่ที่การตรวจสอบระบบแบตเตอรี่ การเปลี่ยนน้ำมันเบรก และไส้กรองแอร์ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาขั้นพื้นฐานอยู่ที่ประมาณ 1,000–1,500 บาทต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับราคาที่ศูนย์บริการ GWM แจ้งไว้) ซึ่งถูกกว่ารถเครื่องยนต์ทั่วไปที่อยู่ราว 3,000–5,000 บาทต่อครั้งอย่างมาก เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมัน หรือหัวเทียน จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้มาก แนะนำให้ตรวจเช็กตามระยะทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือปีละครั้ง แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน ศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต เช่น GWM Thailand ให้บริการอย่างมืออาชีพ และแนะนำให้เข้ารับบริการเฉพาะช่องทางที่เป็นทางการเพื่อคงสิทธิ์การรับประกันของรถไว้ โดยเฉพาะในช่วงก่อนและหลังฤดูฝน ควรให้ความสำคัญกับการตรวจระบบเบรกและยางรถ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ท่ามกลางสภาพอากาศชื้นของประเทศไทย

ORA Good Cat เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีต้นทุนการดูแลรักษาถูกกว่ารถใช้น้ำมันแบบเดิม โดยการดูแลทั่วไปจะเน้นที่การตรวจสอบระบบแบตเตอรี่ การเปลี่ยนน้ำมันเบรก และแผ่นกรองแอร์ ค่าใช้จ่ายในการเข้าศูนย์แต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 1,000–1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับราคาจากศูนย์บริการ GWM โดยตรง) ซึ่งถือว่าต่ำกว่ารถน้ำมันในระดับเดียวกันที่ต้องจ่ายประมาณ 3,000–5,000 บาทต่อครั้ง เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมัน หรือหัวเทียน จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว แนะนำให้ตรวจเช็กรถทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 12 เดือน แล้วแต่ระยะไหนถึงก่อน ในไทยมีศูนย์บริการของ ORA เช่น GWM Thailand ที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ และควรเข้าศูนย์ที่ได้รับการรับรองเพื่อไม่ให้กระทบสิทธิ์การรับประกัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบระบบเบรกและยางรถเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่.

ORA Good Cat ทุกรุ่นใช้ยางขนาดเดียวกันทั้งล้อหน้าและล้อหลัง คือขนาด 215/50 R18 ซึ่งเป็นการเลือกขนาดยางที่คำนึงถึงสมรรถนะ การควบคุม และความสบายในการขับขี่อย่างลงตัว ตัวเลข 215 หมายถึงความกว้างของหน้ายาง ซึ่งยางที่กว้างขึ้นจะช่วยให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนได้มากขึ้น เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ ทั้งตอนเร่ง เบรก และเข้าโค้ง ตัวเลข 50 คืออัตราส่วนแก้มยาง ช่วยซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ทำให้ขับขี่นุ่มนวลขึ้น ตัวอักษร R18 หมายถึงขอบล้อมีขนาด 18 นิ้ว ซึ่งเข้ากันได้ดีกับดีไซน์ตัวรถ ระบบช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว ทำให้รถขับได้อย่างมั่นคงและสวยงามตามสไตล์.