Q
หุ่นยนต์ Ferrari 812 มีแรงม้าเท่าไหร่
เฟอร์รารี 812 ซูเปอร์ฟาสต์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่มีพลังสูงสุด 800 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 718 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้ถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ธรรมดาที่ทรงพลังที่สุดในรถยนต์รุ่นผลิตจำนวนมากของเฟอร์รารี ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลัง คู่กับเกียร์ดูอัลคลัช 7 สปีด เวลาเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ที่ 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุดมากกว่า 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ราคา Ferrari 812 Superfast คือเท่าไหร่?
ราคาอย่างเป็นทางการของเฟอร์รารี 812 ซูเปอร์ฟาสต์ในประเทศไทยเริ่มต้นที่ประมาณ 35 ล้านบาท (ราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์และออปชันเสริม) ในฐานะรถสปอร์ต GT แฟล็กชิพของแบรนด์เฟอร์รารี รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 800 แรงม้า และความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้ถึง 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในตลาดประเทศไทย รถสปอร์ตนำเข้าประเภทนี้มักต้องจ่ายภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 300% ดังนั้นราคาที่แท้จริงที่จ่ายจะสูงกว่าราคาขายพื้นฐานอย่างมาก สำหรับแฟนๆ รถยนต์สมรรถนะสูงในประเทศไทย 812 ซูเปอร์ฟาสต์เป็นตัวแทนของงานฝีมือสูงสุดจากอิตาลี การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางและการใช้เกียร์ดูอัลคลัช 7 สปีด ทำให้ยังคงความสนุกในการขับขี่แบบรถสปอร์ตดั้งเดิมไว้ได้ พร้อมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่สะดวกสบาย ควรสังเกตว่าเมื่อซื้อรถสปอร์ตระดับท็อปเช่นนี้ แนะนำให้ติดต่อผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของเฟอร์รารีในประเทศไทย เช่น Cavallino Motors เพื่อรับการรับประกันของแท้และบริการหลังการขายครบถ้วน รวมถึงการบำรุงรักษาตามระยะและการรับประกันจากโรงงาน ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยยังต้องให้ความสำคัญกับการดูแลยางและระบบระบายความร้อน โดยตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีบริการการตั้งค่าระบบที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเขตร้อน
Q
Ferrari 812 Superfast วิ่งเร็วหรือไม่?
เฟอร์รารี 812 ซูเปอร์ฟาสต์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุด 800 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 718 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ดูอัลคลัช 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง ข้อมูลจากทางการระบุว่าอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ที่ 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุดเกิน 340 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือเป็นรถซูเปอร์สปอร์ตที่โดดเด่นทั้งในด้านการเร่งและความเร็วสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ธรรมดาของเฟอร์รารี
Q&A ล่าสุด
Q
ราคามือสองของ Denza D9 คืออะไร ตรวจสอบราคามือสองได้ที่นี่
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลราคามือสองของ DENZA D9 โดยตรง แต่รุ่นใหม่ของ DENZA D9 ในตลาดไทยมีหลายเวอร์ชัน ได้แก่ DENZA D9 Premium 2024 ราคาขาย 1,999,900 บาท และ DENZA D9 Performance AWD 2024 ราคาขาย 2,699,900 บาท ราคามือสองโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน กิโลเมตรที่วิ่ง สภาพรถ และอุปสงค์อุปทานในตลาด โดยรถที่อายุใช้งานสั้น วิ่งน้อย และสภาพดี มักมีราคาสูงกว่า ส่วนรถที่มีประวัติอุบัติเหตุหรือสภาพไม่ดี ราคาจะลดลงอย่างมาก หากต้องการทราบราคามือสองที่แม่นยำ แนะนำให้ติดตามแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในท้องถิ่น หรือติดต่อผู้จำหน่ายรถมือสองที่มีใบอนุญาตอย่างเป็นทางการค่ะ
Q
ความดันลมยางของ Denza D9 คือเท่าไร
Denza D9 เป็น MPV พลังงานใหม่ระดับพรีเมียม มีค่าความดันลมยางมาตรฐานแนะนำอยู่ที่ประมาณ 2.3 ถึง 2.5 บาร์ (33-36 psi) ซึ่งค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันตามรุ่นรถหรือขนาดยาง ควรอ้างอิงข้อมูลจากป้ายที่เสากลางประตูหรือคู่มือฉบับภาษาไทย เนื่องจากสภาพอากาศร้อนชื้นในไทย ควรปรับความดันลมยางตามฤดูกาล โดยในฤดูร้อนสามารถลดความดันลง 0.1-0.2 บาร์ เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไปและการระเบิดของยาง ส่วนในฤดูฝนหรือก่อนเดินทางไกลควรตรวจสอบความดันให้คงที่ สภาพถนนในไทยมีทั้งการจราจรติดขัดในเมืองและถนนชนบทที่ซับซ้อน การรักษาความดันลมยางให้เหมาะสมช่วยเพิ่มความนุ่มนวล ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน และยืดอายุการใช้งานยาง หากบรรทุกน้ำหนักมากหรือใช้ความเร็วสูง สามารถเพิ่มความดันขึ้นประมาณ 0.1 บาร์ กฎหมายไทยกำหนดให้ใช้ยางที่ผ่านมาตรฐาน TIS และระบบตรวจจับความดันลมยาง (TPMS) มีความสำคัญอย่างยิ่งในสภาพอากาศร้อนชื้น ควรตรวจวัดความดันอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยเฉพาะก่อนและหลังฤดูฝน เพื่อป้องกันปัญหายางสึกหรอเกินไปหรือแตกร้าวบริเวณแก้มยาง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยและการดูแลรักษารถยนต์อย่างมาก
Q
ขนาดยางของ Denza D9 คืออะไร
Denza D9 มีขนาดยางล้อหน้าเป็น 235/60 R18 และยางล้อหลังก็มีขนาดเดียวกันคือ 235/60 R18 ขนาดยางนี้มีคุณสมบัติและข้อดีหลายประการ โดยอัตราส่วนแก้มยาง 60 ทำให้แก้มยางค่อนข้างหนา ซึ่งช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ทำให้ประสบการณ์การขับขี่และโดยสารนุ่มนวลขึ้น ขอบล้อขนาด 18 นิ้วมีขนาดที่เหมาะสม ทั้งด้านความสวยงามและการใช้งานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ขนาดยางนี้ยังเป็นขนาดที่พบได้ทั่วไปในตลาด ทำให้การเปลี่ยนยางในอนาคตมีตัวเลือกมากมายและราคามีความหลากหลาย อีกทั้งยางขนาดนี้ยังทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างของรถได้ดี ช่วยให้รถมีความมั่นคงและการควบคุมที่ดีขณะขับขี่อีกด้วย
Q
Denza D9 คุ้มค่าหรือไม่ มาดูจุดเด่นและฟังก์ชันกัน
Denza D9 เป็นรถ MPV พลังงานไฟฟ้าหรูที่น่าสนใจ ราคาของรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าอยู่ที่ 1,999,900 บาท ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อราคา 2,699,900 บาท รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้ามีกำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ และระยะทางขับขี่ได้ 600 กิโลเมตร รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีกำลังรวม 275 กิโลวัตต์ ระยะทางขับขี่ 580 กิโลเมตร ตัวรถมีขนาดยาว 5,250 มิลลิเมตร กว้าง 1,960 มิลลิเมตร สูง 1,920 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 3,110 มิลลิเมตร ใช้การจัดวางที่นั่งแบบ 2+2+3 รวม 7 ที่นั่ง ภายในกว้างขวาง ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพง Dynaudio 14 ตัว ระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 8 จุด ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ (ESC) อย่างไรก็ตาม รถยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 ซึ่งลดสเปกลงเมื่อเทียบกับรุ่นสูงในจีน และมีเสียงรบกวนบางส่วนจากการใช้งาน เช่น เสียงเบรกหรือเสียงปัดน้ำฝน โดยรวม Denza D9 มีข้อดีในด้านพลังงานไฟฟ้าและดีไซน์ที่ดึงดูดใจ สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละคนว่าคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่
Q
เมื่อไรคือวันเปิดตัว Denza D9
Denza D9 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2024 โดยรุ่นที่เปิดตัวในตลาดไทยครั้งแรกคือรุ่น Premium-AWD ซึ่งเป็นรถ MPV พลังงานไฟฟ้าระดับหรูที่มีความยาวตัวถังมากกว่า 5.25 เมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีกำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์ (ประมาณ 368 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.9 วินาที นอกจากนี้ยังมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า คือ DENZA D9 Premium 2024 ที่มาพร้อมมอเตอร์เดี่ยวแบบขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 9.5 วินาที และระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าตามที่ระบุอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 600 กิโลเมตร ทั้งสองรุ่นติดตั้งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery และระบบช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ที่สามารถรองรับทั้งการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Ferrariเปิดตัว 296 Speciale ซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 2.8 วิ
พงศธรApr 30, 2025

Ferrari รุ่นแข่งชั้นสูง 296 VS ซูเปอร์คาร์จะเดบิวต์ในวันที่ 29 เมษายน
LienApr 3, 2025

ภาพลับของผู้สืบทอด Ferrari Roma ถูกเปิดเผย! อาจจะปล่อยในปลายปี 2025 ระบบสลับโฮมที่เป็นจุดเด่น
สุรเดชNov 19, 2024

Ferrari F80 สะเทือนใจเปิดตัว : วางแผนที่จะสู้กับ McLaren W1
LienOct 18, 2024
ข้อดี
ข้อเสีย