Q

วิธีการเปิดท้ายรถโตโยต้าคอโรลลาครอสจากภายใน

วิธีเปิดฝากระโปรงหลังในโตโยต้า คอรอลล่า ครอส โดยทั่วไปจะมีปุ่มที่อยู่ด้านซ้ายล่างของเบาะคนขับ เพียงกดปุ่มดังกล่าวก็สามารถเปิดฝากระโปรงหลังได้ บางรุ่นอาจจะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นเปิดฝากระโปรงหลังด้วยเซ็นเซอร์ เมื่อคุณถือกุญแจและเข้าใกล้ท้ายรถในระยะที่กำหนด ฝากระโปรงหลังจะเปิดอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามวิธีการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของรุ่นรถ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Corolla Cross คืออะไร
รถโตโยต้า คอร์โรลลา ครอส ถือเป็น SUV คอมแพคต์ที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีจุดอ่อนที่ควรรู้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางเจ้าของรถสะท้อนว่าแอร์เย็นช้าโดยเฉพาะเมื่อติดรถนานๆ ในจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะบริเวณหลังรถที่เย็นลงช้ากว่าหน้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบธรรมดาให้กำลังเรียบๆ อาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบขับสปอร์ต ส่วนรุ่นไฮบริดประหยัดน้ำมันแต่ราคาสูง ทำให้ความคุ้มค่าในตลาดไทยสู้รุ่นเบนซินไม่ได้เลย ในเรื่องพื้นที่เก็บของ แม้จะเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่กระโปรงหลังเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วค่อนข้างเล็ก โดยเฉพาะเวลาต้องขนของชิ้นใหญ่ๆ อาจลำบากหน่อย ที่สำคัญคือช่วงฤดูฝนของไทย ยางมาตรฐานที่มากับรถอาจเกาะถนนไม่ค่อยดีเวลาถนนลื่น แนะนำว่าให้อัพเกรดยางที่เหมาะกับสภาพฝนร้อนจะดีกว่า ข้อเสียเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ความนิยมของมันลดลงในฐานะรถครอบครัวประหยัดน้ำมัน แต่ก่อนซื้อก็ควรคิดให้ดีว่าตรงกับความต้องการเราหรือเปล่า
Q
Toyota Corolla Cross มีความจุกระบอกสูบกี่ซีซี?
Toyota Corolla Cross มีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการ โดยทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,798 ซีซี หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า 1.8 ลิตร สำหรับรุ่นที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเดียว ใช้ระบบดูดอากาศแบบธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุด 103 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่นไฮบริดนั้น เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวม 53 กิโลวัตต์ แรงบิดรวม 163 นิวตัน-เมตร ทำให้ระบบรวมแล้วให้กำลังสูงสุดถึง 90 กิโลวัตต์ ด้วยความจุ 1.8 ลิตรนี้ ถือว่าเหมาะสมสำหรับ SUV ขนาดกะทัดรัดอย่างคอร์โรลลา ครอส เพราะให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ทั้งการขับเคลื่อนในเมืองหรือการเดินทางบนทางหลวงก็ทำได้อย่างคล่องตัว
Q
ระบบเกียร์ของ Toyota Corolla Cross เป็นแบบไหน?
ระบบส่งกำลังของ Toyota Corolla Cross จะแตกต่างกันไปตามประเภทของระบบขับเคลื่อนในแต่ละรุ่น สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะใช้เกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหล ช่วยลดการกระชากของรอบเครื่องยนต์ระหว่างเปลี่ยนเกียร์ได้ดี ทำให้การส่งกำลังเป็นเส้นตรงมากขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้เกียร์ E-CVT แบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ สามารถสลับการทำงานระหว่างโหมดไฟฟ้าล้วน โหมดเครื่องยนต์ หรือโหมดผสมได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลัง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่เหมาะสมตลอดเวลา ทั้งช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นและยังให้กำลังส่งที่ราบรื่นเต็มประสิทธิภาพ
Q
Toyota Corolla Cross มีขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) เท่าไหร่?
รถโตโยต้า โคโรลลา ครอส ในตลาดไทยมีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) เป็น 5x114.3 หมายความว่าล้อมีรูสลัก 5 รู เรียงตัวเป็นวงกลมระยะห่าง 114.3 มม. ซึ่งสเปคนี้ตรงกับรถ SUV ยอดนิยมในตลาดไทยอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี และนิสสัน เอ็กซ์เทรล ทำให้เจ้าของรถสามารถเลือกเปลี่ยนล้อได้สะดวกขึ้น สำหรับสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น แนะนำให้เลือกล้ออัลลอยแบบน้ำหนักเบาช่วยระบายความร้อนได้ดี แต่ต้องเช็คค่า ET (ออฟเซ็ต) และขนาดรูกลางล้อให้ตรงกับสเปคเดิมเพื่อความปลอดภัย ในไทยมีร้านแต่งรถหลายเจ้าให้บริการแปลง PCD แต่การแต่งแบบนี้อาจส่งผลต่อระบบช่วงล่าง ทางที่ดีควรเลือกล้อที่ตรงกับสเปคโรงงานจะเหมาะกว่า นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดว่าการเปลี่ยนล้อต้องไม่กว้างเกินขนาดเดิม 10% และขอบล้อต้องไม่ยื่นออกมานอกตัวรถ เจ้าของรถควรปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้เมื่ออัพเกรดล้อ
Q
ภาษีรถยนต์ของ Toyota Corolla Cross ต้องจ่ายเท่าไหร่? แล้วเขาคิดยังไง?
ในประเทศไทย ค่าภาษีรถยนต์ (Road Tax) ของ Toyota Corolla Cross จะคำนวณหลักๆ จากขนาดเครื่องยนต์และอายุการใช้งาน โดยอ้างอิงตามอัตราภาษีมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกไทย สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ภาษีปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาท ส่วนรุ่นไฮบริดเช่น 1.8 ลิตร HEV อาจได้รับส่วนลดภาษีบ้าง แต่ต้องตรวจสอบจำนวนเงินที่แน่นอนกับหน่วยงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่ เวลาคำนวณต้องเตรียมเอกสารทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) และหลักฐานการชำระภาษีปีก่อนหน้า สามารถตรวจสอบอัตราภาษีละเอียดได้ผ่านเว็บไซต์ DLT หรือที่สำนักงานขนส่งสาขา นอกจากนี้ระบบภาษีรถยนต์ไทยใช้วิธีคิดแบบขั้นบันได ยิ่งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่หรือรถเก่ามากเท่าไหร่ ภาษีก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนรถพลังงานสะอาดอาจได้รับสิทธิประโยชน์บ้าง แนะนำให้เจ้าของรถติดตามข่าวสารนโยบายภาษีอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้าและรถไฮบริด ซึ่งข้อมูลอัพเดทสามารถตรวจสอบได้ผ่านช่องทางราชการ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณปฏิบัติตามกฎหมายและสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม
Q
ราคารถมือสอง Toyota Corolla Cross เท่าไหร่?
ในตลาดรถมือสองประเทศไทย โตโยต้า คอร์โรลลา ครอส ถือเป็น SUV ยอดนิยมที่ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง อุปกรณ์ และสภาพรถ โดยทั่วไปรถอายุ 1-2 ปี จะมีราคาประมาณ 70%-80% ของรถใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องประเมินจากสภาพรถจริง แนะนำให้ตรวจสอบราคาปัจจุบันผ่านช่องทางรถมือสองรับรองโดยโตโยต้า (Toyota Sure) หรือแพลตฟอร์มขายรถมือสองชื่อดังในท้องตลาด นอกจากนี้เมื่อซื้อรถมือสองในไทย ควรให้ความสำคัญกับประวัติการบำรุงรักษา ประวัติอุบัติเหตุ และระยะเวลารับประกันที่เหลืออยู่ เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อมูลค่าารถอย่างมาก ต้องบอกว่า คอร์โรลลา ครอส ได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองเนื่องจากภาพลักษณ์แบรนด์โตโยต้าที่แข็งแกร่งในไทยและอัตราการรักษามูลค่าสูง โดยเฉพาะรุ่น Hybrid ที่ประหยัดน้ำมันยิ่งเป็นที่ต้องการมาก ส่วนนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยก็อาจส่งผลต่อราคารถมือสองรุ่น Hybrid ด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายช่องทางและให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดเพื่อความมั่นใจ
Q
ค่าเช็กระยะหรือค่าบริการของ Toyota Corolla Cross อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคาของ Toyota Corolla Cross ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยราคาเริ่มต้นในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 999,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจสูงถึง 1,249,000 บาท อย่างไรก็ตามแนะนำให้สอบถามราคาที่อัปเดตและโปรโมชันต่างๆ จากผู้จำหน่ายในพื้นที่โดยตรง Corolla Cross ถือเป็น SUV ตัวท็อปของโตโยต้าในไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน โดยมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งแบบเบนซิน 1.8L และไฮบริด 1.8L ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ ในตลาดไทยคู่แข่งหลักของ Corolla Cross ก็อย่างเช่น Honda HR-V และ Mazda CX-30 แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเครือข่ายบริการหลังการขายและภาพลักษณ์ที่ดีของโตโยต้าในไทย ทำให้ Corolla Cross ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างมั่นคง นอกจากราคาแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้ออาจพิจารณาโปรแกรมจัดไฟแนนซ์และแพ็คเกจบริการจากผู้จำหน่าย ซึ่งช่วยลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาวได้อีกด้วย
Q
Toyota Corolla Cross มีระยะห่างจากพื้นเท่าไหร่
Toyota Corolla Cross มีระยะต่ำสุดจากพื้นโดยทั่วไปประมาณ 161 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับสภาพถนนทั่วไปในประเทศไทย เช่น ลูกระนาดบนถนนในเมืองหรือถนนในชนบทที่ไม่ขรุขระมากนัก อย่างไรก็ตาม ระยะห่างจากพื้นอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งเพิ่มเติม
Q
วิธีการเปิดท้ายทรงครอสโคโรลล่าจากภายใน
วิธีเปิดฝากระโปรงท้ายของ Crosstour โดยทั่วไปสามารถทำได้โดยกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ฝากระโปรงท้ายซึ่งอยู่ใกล้กับที่นั่งคนขับ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งและวิธีการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยของ Crosstour บางรุ่นอาจต้องปลดล็อกรถก่อนจึงจะสามารถเปิดฝากระโปรงท้ายได้
Q
วิธีการเริ่มต้นรถยนต์โตโยต้าคอโรลล่าครอส 2023 จากระยะไกล
Toyota Corolla Cross 2023 ในประเทศไทยโดยทั่วไปไม่มีฟังก์ชันสตาร์ทรถระยะไกล รูปแบบการสตาร์ทรถขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย หากเป็นรุ่นมาตรฐานจะใช้กุญแจเสียบและบิดเพื่อสตาร์ท ส่วนรุ่นที่มีระบบกุญแจอัจฉริยะสามารถกดปุ่มสตาร์ทได้โดยพกกุญแจติดตัว อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบรายละเอียดจากคู่มือรถและอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับรุ่นที่ท่านเลือก

ข้อดี

ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ทำให้ตกใจ
พื้นที่จัดเก็บบนหลังคาที่มีเพียงพอ
ระบบความบันเทิงและข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุง
มีระบบความปลอดภัยทั่วถึง
ใช้โครงสร้างรถยนต์ TNGA
เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 4 ประหยัดน้ำมันและสนุกที่จะขับขี่
สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงอายุ

ข้อเสีย

พื้นที่จัดเก็บของหน้าไม่เพียงพอ
พื้นที่แถวที่สองแคบ
ตัวเลือกเครื่องยนต์น้อย
รูปทรงไม่ได้สมัย
ที่นั่งแถวหลังไม่สบาย

Q&A ล่าสุด

Q
哪一个更快, M5 หรือ M8
ในตลาดไทย รุ่นบีเอ็มดับเบิลยู M5 (F90) และ M8 (G15/G16) ที่พบบ่อย M8 มีสมรรถนะเร่งและความเร็วสูงกว่าบ้าง โดย M8 Competition ใช้เครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลัง 625 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.2 วินาที ส่วน M5 Competition มีกำลัง 617 แรงม้า เร่ง 0-100 ใน 3.3 วินาที ข้อดีนี้มาจากน้ำหนักตัวรถ M8 ที่เบากว่าและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น แต่ M5 ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและดีไซน์สี่ประตูที่ใช้งานได้จริงกว่า จึงได้รับความนิยมมากกว่าในสภาพอากาศฝนตกบ่อยและความต้องการของครอบครัว รถทั้งสองรุ่นมีราคาขายในไทยเกิน 10 ล้านบาท แต่การเซ็ตสมรรถนะเน้นคนละแบบ M8 มุ่งเน้นการขับขี่บนสนามแข่งและความเร็วสูง ส่วน M5 เหมาะกับการขับขี่ประจำวัน ควรระวังว่าอากาศร้อนในไทยมีผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์เทอร์โบ ควรเลือกอุปกรณ์ระบายความร้อนเพิ่มและดูแลบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ รถสมรรถนะสูงเหล่านี้จะปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ในสนามแข่งรอบกรุงเทพฯ เช่น Bira Circuit แต่ในการขับขี่บนถนนทั่วไปต้องระวังเรื่องกฎหมายจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัดในไทย
Q
M8 เป็นรถซุปเปอร์คาร์หรือไม่
บีเอ็มดับเบิลยู M8 เป็นรถคูเป้หรูสมรรถนะสูง แม้จะมีพละกำลังแรงและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่จัดว่าเป็นซูเปอร์คาร์ ซูเปอร์คาร์มักเน้นสมรรถนะสูงสุด น้ำหนักเบา และผลิตจำนวนจำกัด เช่น บางรุ่นของเฟอร์รารี่หรือแลมโบร์กินี ส่วน M8 ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถ GT หรู เหมาะกับการขับทางไกลและใช้งานประจำวัน ในประเทศเขตร้อนอย่างไทย M8 มีความสะดวกสบายและปรับตัวได้ดี ด้วยระบบช่วงล่างและแอร์ที่รองรับสภาพอากาศร้อนและถนนหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและโหมดขับขี่หลายรูปแบบของ M8 ช่วยให้ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมืองที่รถติดและเส้นทางภูเขา หากสนใจซูเปอร์คาร์จริงๆ สามารถพิจารณา Porsche 911 Turbo S หรือ McLaren GT ที่มีสมรรถนะและดีไซน์ใกล้เคียงกับคำนิยามซูเปอร์คาร์แบบดั้งเดิมมากกว่า
Q
M8 เป็น BMW ที่เร็วที่สุดหรือไม่
ในบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น M8 เป็นรถสมรรถนะสูงที่โดดเด่นแต่ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดในสายการผลิต รุ่นที่เร็วที่สุดคือบีเอ็มดับเบิลยู M5 CS ที่เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3 วินาที และความเร็วสูงสุด 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหลังปลดล็อกความเร็ว ส่วน M8 Competition เร่ง 0-100 ได้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่ากันที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในการขับขี่บนสนามแข่ง M5 CS มีสมรรถนะดีกว่า ในไทยด้วยข้อจำกัดทางถนนและกฎหมายจราจร ความเร็วสูงสุดจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถ แต่ M8 ยังคงเป็นรถหรูสมรรถนะสูงที่เหมาะกับผู้บริโภคระดับพรีเมียม มีทั้งพลังแรงและความสะดวกสบายเหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ และทางด่วนของไทย หากสนใจรถสมรรถนะสูง สามารถศึกษารุ่น M อื่นๆ เช่น M3 M4 ที่มีความนิยมสูงในไทยและง่ายต่อการดูแลรักษา พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่
Q
ราคารถ BMW M8 อยู่ที่เท่าไหร่
ราคารถ BMW M8 ในตลาดไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านบาท แต่ราคาอาจมีการปรับขึ้นลงบ้างจากอุปกรณ์เสริมที่เลือก ส่วนลดจากตัวแทนจำหน่าย หรือโปรโมชั่นต่างๆ รถรุ่น M8 เป็นเรือธงสมรรถนะสูงจาก BMW ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้การขับขี่เต็มไปด้วยความแรงและความมันส์ สำหรับในไทย รถหรั่งระดับนี้มักจะมีอุปกรณ์เสริมที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ ของเรา เช่น ระบบแอร์ประสิทธิภาพสูงและกระจกกันรังสียูวี ต้องบอกเลยว่าเมืองไทยมีภาษีนำเข้ารถค่อนข้างสูง นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้รถหรั่งอย่าง M8 มีราคาแพง นอกจาก M8 แล้ว ตลาดไทยยังมีรถสมรรถนะสูงหรูๆ ให้เลือกอีกเพียบ เช่น Mercedes-AMG GT หรือ Porsche 911 ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบตามความชอบและงบประมาณได้เลย ถ้าสนใจซื้อ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพื่อขอราคาล่าสุดและรายละเอียดบริการหลังการขาย รวมถึงควรคำนึงถึงการดูแลรักษารถในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยด้วยนะ
Q
ยาริสดีสำหรับการเดินทางไกลหรือไม่
รถยนต์โตโยต้า ยาริส เป็นรุ่นที่เหมาะกับการขับขี่ระยะไกล โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย เครื่องยนต์ 1.2L หรือ 1.5L อาจจะไม่แรงมากแต่ประหยัดน้ำมันดี เหมาะกับทั้งการขับในเมืองและบนทางหลวง เกียร์ CVT ทำงานลื่นๆ ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับทางไกล ภายในรถสำหรับรุ่นเล็กแล้วถือว่ากว้างขวางพอสมควร เบาะนั่งก็รองรับร่างกายได้ดี แต่ถ้าเป็นสภาพอากาศร้อนๆของไทย แนะนำให้เลือกรุ่นสูงหน่อย เพราะรุ่นพื้นฐานบางแบบอาจไม่มีช่องแอร์ด้านหลัง เรื่องบริการหลังการขายในตลาดไทยก็ครบครัน ซ่อมบำรุงง่ายและค่าใช้จ่ายไม่สูง ที่น่าสนใจคือระยะความสูงจากพื้นรถที่มากกว่ารถเก๋งทั่วไป ทำให้เหมาะกับสภาพถนนบางเส้นในชนบทที่อาจไม่ค่อยดีนัก สำหรับคนไทยที่ต้องการรถประหยัดแต่ต้องขับทางไกลบ่อยๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริง แต่ถ้าต้องการพาครอบครัวหรือมีสัมภาระมากๆ อาจต้องมองหารถที่ใหญ่กว่านี้หน่อย
ดูเพิ่มเติม