Q

Toyota Crown ประหยัดน้ำมันแค่ไหน?

รถ Toyota Crown เป็นรถซีดานขนาดกลาง-ใหญ่ที่ขายดีในตลาดไทย โดยเฉพาะเรื่องประหยัดน้ำมันนี่ถือเป็นจุดเด่นที่หลายคนสนใจ ถ้าพูดถึงรุ่นที่ใช้ระบบไฮบริด 2.5L ข้อมูลจากผู้ผลิตบอกว่าในเมืองจะวิ่งได้ประมาณ 20-22 กม./ลิตร ส่วนถนนทางหลวงจะประหยัดยิ่งขึ้น ประมาณ 23-25 กม./ลิตร จริงๆ แล้วอาจขึ้นอยู่กับสภาพถนนและนิสัยการขับของแต่ละคน แต่โดยรวมยังถือว่าดีกว่ารถเบนซินทั่วไปในระดับเดียวกัน เวลาเลือกซื้อคนไทยควรคำนึงถึงราคาน้ำมันในประเทศและระยะทางที่ใช้ประจำวันด้วย จะได้คำนวณค่าใช้จ่ายได้แม่นยำ ระบบไฮบริดนี่ช่วยได้มากในกรุงเทพฯ ที่ต้องเจอรถติดบ่อย เพราะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเวลาติดไฟแดงหรือรถเคลื่อนตัวช้า แถมถ้าดูแลรักษารถเป็นประจำ เช่น เปลี่ยนไส้กรองอากาศ บำรุงลมยางให้เหมาะสม ก็ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อีก ส่วนอากาศร้อนๆแบบไทยๆ แนะนำให้ปรับแอร์ไม่ต้องเย็นเกินไป และไม่ควรให้เครื่องยนต์เดินเบานานๆ ถ้าทำได้แบบนี้รับรองว่าค่าน้ำมันแต่ละเดือนลดลงแน่นอน
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
รถยนต์ Toyota Crown ทุกรุ่นเป็นไฮบริดหรือไม่?
ไม่ใช่ทุกรุ่นของ Toyota Crown จะเป็นแบบไฮบริด เพราะว่า Toyota Crown มีหลายรุ่น หลายรุ่นย่อยในแต่ละตลาด แต่ละรุ่นก็จะมีระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกันไป ทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซินทั่วไปและระบบไฮบริด ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นและสเปคของรถด้วย สำหรับตลาดไทยแล้ว Toyota Crown ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นไฮบริดเป็นหลัก เช่น รุ่นที่ 15 (Crown S220) และรุ่นล่าสุดอย่างรุ่นที่ 16 (Crown Crossover) ที่มาพร้อมกับระบบไฮบริดประสิทธิภาพสูง ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่อยากประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แถมยังได้ประโยชน์จากภาษีที่ถูกกว่าอีกด้วย เพราะรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถไฮบริดและรถไฟฟ้า Toyota จึงเน้นเปิดตัวรุ่นไฮบริดในไทยมากเป็นพิเศษ ระบบไฮบริดของคราวน์นั้นผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ปกติ ทำให้ไม่เพียงประหยัดน้ำมัน แต่ยังคงสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม เหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองและทางไกลในไทย ถ้าสนใจรายละเอียดของแต่ละรุ่น แนะนำให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โชว์รูม Toyota ใกล้บ้านได้เลย
Q
"Toyota Crown ขายได้ทั้งหมดกี่คันในปี 2024"
ณ สิ้นปี 2024 ทาง Toyota ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายอย่างเป็นทางการของ Toyota Crown ในตลาดไทย แต่ต้องยอมรับว่ารุ่นนี้สร้างความสนใจไม่น้อยในตลาดรถซีดานระดับกลางถึงสูงของไทย ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและเทคโนโลยีไฮบริดที่มาพร้อมประสิทธิภาพ สำหรับ Toyota Crown รุ่นปี 2024 ที่วางขายในไทย ได้ปรับสเปคให้ตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น ทั้งระบบปรับอากาศที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อน และรุ่นไฮบริดที่เหมาะกับการขับขี่ในเมือง ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแต่ยังคงความแรงไว้อยู่ ในตลาดไทย Crown มีคู่แข่งหลักอย่าง Honda Accord และ Nissan Teana แต่จุดแข็งที่ทำให้ Crown ได้รับความนิยมในกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัวรายได้สูงคือการตกแต่งภายในที่หรูหราพร้อมความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Toyota ถ้าสนใจรถรุ่นนี้ แนะนำให้ติดตามช่องทางทางการของ Toyota ไทยหรือไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริง โดยเฉพาะระบบ T-Connect ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาติดรถติดในกรุงเทพฯ
Q
Toyota Crown 2024 ราคาเท่าไหร่?
ราคาของ Toyota Crown รุ่นปี 2024 ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยรุ่นเริ่มต้นราคาเริ่มที่ประมาณ 1.59 ล้านบาท ส่วนรุ่นไฮบริดสุดหรูราคาอาจสูงกว่า 2 ล้านบาท แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อขอราคาล่าสุดเพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลง รถรุ่นนี้ในตลาดไทยมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งแบบเบนซินทั่วไปและไฮบริด ที่โดดเด่นคือระบบไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสมกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองและมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ Toyota Crown ในฐานะรถยนต์เรือธงของ Toyota ดีไซน์หรู มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ จึงได้รับความนิยมในกลุ่มคนไทยโดยเฉพาะนักธุรกิจและครอบครัวรายได้สูง จุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือมาตรการสนับสนุนรถยนต์พลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถไฮบริด ทำให้รุ่น Crown ไฮบริดมีความคุ้มค่ามากขึ้น แถม Toyota ยังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับความสะดวกสบายและความมั่นใจในการใช้งานอย่างเต็มที่
Q
Crown เปรียบเทียบกับ Camry อย่างไร?
รถ Toyota Crown และ Camry เป็นรถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ที่ขายดีมากในตลาดไทย แต่ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันในเรื่องของกลุ่มเป้าหมายและจุดขาย Crown ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมของโตโยต้าจะเน้นความหรูหราและเทคโนโลยีมากกว่า ใช้วัสดุภายในห้องโดยสารคุณภาพสูง พร้อมระบบช่วยขับขี่อันทันสมัย เหมาะกับคนที่มองหาความสบายและคุณภาพชีวิต ส่วน Camry จะตอบโจทย์การใช้งานครอบครัวหรือธุรกิจมากกว่า ด้วยพื้นที่กว้างขวาง ประหยัดน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาไม่สูง และมีจำนวนรถวิ่งบนถนนมากกว่าในไทย ทำให้คุ้มค่ากว่าในแง่ราคา ในส่วนของเครื่องยนต์ Crown ตัวเลือกไฮบริดสำหรับคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ส่วน Camry รุ่นเบนซินนั้นผ่านการทดสอบมาแล้วว่าทนทานต่อสภาพอากาศร้อนของไทย ทั้งสองรุ่นได้รับการปรับเซตติ้งช่วงล่างให้เหมาะกับถนนไทย แต่ Crown จะเน้นระบบช่วงล่างที่เน้นความนุ่มสบายเป็นหลัก ส่วน Camry นั้นได้สมดุลระหว่างการควบคุมและความสบายได้ดีกว่า สำหรับคนไทยถ้ามีงบประมาณพอและต้องการประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมียม Crown คือคำตอบที่ดีกว่า แต่ถ้าคิดถึงความประหยัดและประโยชน์ใช้สอยจริงจัง Camry ก็จะเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่า ต้องบอกว่าสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและชื้นนั้นต้องการระบบแอร์ที่แรงและสีรถที่ทนทาน ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
Q
2024 Crown เป็นรถหรูหรือไม่?
รถ Toyota Crown รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยถูกวางตำแหน่งเป็นรถระดับพรีเมียม แต่การจะบอกว่าเป็นรถหรูหรือไม่ต้องดูจากมาตรฐานของไทยเป็นหลัก รุ่นนี้มาพร้อมระบบไฮบริด จอสัมผัส 12.3 นิ้ว ระบบเสียง JBL หลังคาพาโนรามิก และใช้วัสดุชั้นดีเช่นหนังนุ่มและเส้นโครเมี่ยม โดยออกแบบมาเฉพาะสำหรับสภาพอากาศร้อนของไทย ทั้งระบบแอร์และเบาะระบายอากาศ เมื่อเทียบกับรถหรูยอดนิยมในไทยอย่าง Mercedes E-Class หรือ BMW 5 ซีรี่ย์ Crown ราคาจับต้องได้กว่าแต่มีเทคโนโลยีและความสะดวกสบายใกล้เคียงรถหรู สำหรับคนไทยต้องเข้าใจว่ารถหรูมักมาพร้อมบริการหลังการขายระดับพิเศษและราคาที่สูงจากแบรนด์ ในขณะที่ Crown เน้นความคุ้มค่าและประโยชน์ใช้สอยจริง ที่สำคัญระบบไฮบริดของ Crown ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้เปรียบเทียบกับรถอย่าง Lexus ES ฯลฯ เพราะในตลาดไทยคำว่า "รถหรู" มักเน้นที่ภาพลักษณ์แบรนด์มากกว่าข้อกำหนดทางเทคนิค
Q
รถ Toyota Crown ปี 2024 เป็นรถไฟฟ้าหรือไม่?
รุ่นปี 2024 ของ Toyota Crown ในตลาดไทยมีเฉพาะรุ่นไฮบริดเท่านั้น โดยยังไม่เปิดตัวรุ่นไฟฟ้า 100% ระบบไฮบริด THS II ที่ใช้คู่กับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้านั้นช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมากในสภาพการจราจรติดขัดของเมืองไทย โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่มีการสตาร์ต-ดับเครื่องบ่อยครั้ง ส่วนรถไฟฟ้าล้วนที่โตโยต้าเน้นขายในไทยตอนนี้จะเป็นซีรีส์ bZ ส่วน Crown ในฐานะรถเรือธงยังคงใช้เทคโนโลยีไฮบริดเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับรถไฮบริดบ้าง สำหรับคนไทยที่สนใจรถไฟฟ้าล้วน สามารถรอติดตาม Toyota bZ4X ที่กำลังจะเข้ามา ซึ่งวิ่งได้ไกลถึง 500 กม. เหมาะกับการขับทางไกลในไทยมากกว่า แต่ต้องบอกว่าสถานีชาร์จในไทยยังคงอยู่ในช่วงพัฒนาการ ดังนั้นรถไฮบริดยังเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยทั้งในแง่สิ่งแวดล้อมและความสะดวกใช้งาน ส่วนเรื่องอะไหล่และการบริการหลังการขายนั้นไม่ต้องห่วง เพราะ Toyota มีระบบการผลิตภายในประเทศที่พร้อมสนับสนุน Crown รุ่นไฮบริดอย่างเต็มที่
Q
ความแตกต่างระหว่าง Toyota Crown ปี 2025 และปี 2024 คืออะไร?
รุ่น Toyota Crown ปี 2025 นี้มีการอัปเกรดทั้งด้านดีไซน์ สเปค และระบบขับเคลื่อนเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2024 ที่ตอบโจทย์ตลาดไทยมากขึ้นครับ ด้านหน้าตาแบบใหม่จะดูเฉียบคมขึ้นด้วยกริลล์หน้าและชุดไฟ LED ที่ออกแบบมาให้สปอร์ตกว่าเดิม ส่วนภายในก็อัปเกรดหน้าจอกลางให้ใหญ่ขึ้น พร้อมระบบมัลติมีเดียที่รองรับคำสั่งเสียงภาษาไทยและแอปพลิเคชันท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบส่งกำลัง รุ่น 2025 ในตลาดไทยมีแนวโน้มยังคงนำเสนอตัวเลือกไฮบริด 2.5 ลิตร ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับต้นทุนรถยนต์ที่ผู้บริโภคไทยกังวล ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ TSS 3.0 รุ่นปี 2025 มาพร้อมระบบแจ้งเตือนการชนก่อนชนและระบบรักษาเลนที่แม่นยำยิ่งขึ้นซึ่งสามารถใช้งานได้จริงในสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีการจราจรสลับซับซ้อนอย่างกรุงเทพฯ สำหรับลูกค้าชาวไทยที่สนใจ อย่าลืมสอบถามข้อมูลเรื่องสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับรถไฮบริด และตรวจสอบเครือข่ายบริการหลังการขายในพื้นที่ของคุณด้วย อย่างไรก็ตาม สเปคและรายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทางที่ดีควรติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจากโฟล์คไทยหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายโดยตรงจะได้ข้อมูลที่อัปเดตที่สุด
Q
Crown ใหญ่กว่า Camry ไหม?
ใช่แล้วToyota Crown ถือว่าใหญ่และสูงกว่าระดับกว่า Camry ทั้งในเรื่องขนาดตัวถังและการวางตำแหน่งรถ โดย Crown ที่เป็นหนึ่งในรถยนต์เรือธงของ Toyota นั้น โดยทั่วไปจะมีความยาวตัวถังเกิน 4,900 มม. และระยะฐานล้อมากกว่า 2,850 มม. ส่วน Camry ในฐานะรถยนต์ซีดานขนาดกลาง จะมีความยาวตัวถังอยู่ที่ประมาณ 4,885 มม. และระยะฐานล้อประมาณ 2,825 มม. ทั้งสองรุ่นในตลาดไทยมีให้เลือกทั้งแบบเบนซินและไฮบริด แต่ Crown จะเน้นไปที่ความหรูหราและความสะดวกสบายเป็นหลัก เช่น บางรุ่นจะมีระบบกันสะเทือนแบบอากาศและระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารเบาะหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาระดับความสบายระดับธุรกิจ ในขณะที่ Camry จะเน้นความสมดุลในฐานะรถครอบครัวที่มีความคุ้มค่ามากกว่า ที่น่าสนใจคือตลาดไทยให้การยอมรับรถ Toyota ทั้งสองรุ่นนี้ค่อนข้างสูง และเครือข่ายบริการหลังการขายก็ครอบคลุมทั่วถึง ถือเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือทั้งคู่ ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกได้ตามงบประมาณและความต้องการ เช่น ถ้าต้องการพื้นที่กว้างขวางและความหรูหราก็ควรเลือก Crown แต่ถ้าชอบความประหยัดและความใช้งานได้จริง คัมรี่ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
Q
ราคา 2024 Toyota Crown เท่าไหร่?
รถ Toyota Crown รุ่นปี 2024 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยมีราคาแตกต่างกันตามระดับเครื่องยนต์และอุปกรณ์เสริม โดยรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ประมาณ 1.59 ล้านบาท ส่วนรุ่นไฮบริดสุดหรูอาจสูงถึง 2.39 ล้านบาท แต่แนะนำให้สอบถามราคาโปรโมชั่นล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นเพื่อความชัดเจน รุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องความหรูหราและเทคโนโลยีครบครัน พร้อมระบบขับเคลื่อนทั้งแบบเครื่องยนต์ 2.5L ไฮบริดและ 2.4L เทอร์โบชาร์จ อุปกรณ์ภายในรถรวมถึงจอแสดงผล 12.3 นิ้ว และระบบความปลอดภัย TSS 3.0 ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและบนทางไกล ต้องบอกว่า Crown ในฐานะรถยนต์เรือธงของ Toyota มีจุดแข็งด้านความน่าเชื่อถือในตลาดไทย โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีในสภาพการจราจรติดขัดอย่างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ผู้ซื้อยังควรศึกษาข้อมูลเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานสะอาดซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
Q
รถโตโยต้า คราวน์ 2024 มีกล้อง 360 องศาหรือไม่
ใช่แล้ว รุ่น Toyota Crown 2024 ในบางรุ่นระดับสูงได้ติดตั้งระบบกล้องรอบคัน 360 องศา ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถถ่ายภาพรอบตัวรถแบบเรียลไทม์ผ่านกล้องหลายตัว และแสดงผลภาพพาโนราม่าที่ประมวลแล้วบนหน้าจอกลางของรถ ระบบนี้เหมาะมากสำหรับการใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะในซอยแคบๆ หรือลานจอดรถที่คับคั่ง ช่วยให้ผู้ขับขี่ประเมินสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยขีดข่วน กล้อง 360 องศามีประโยชน์อย่างมากในสภาพการจราจรของเมืองไทย เช่น ในซอยแคบของกรุงเทพฯ หรือลานจอดรถใต้ดินของห้างสรรพสินค้า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน นอกจากระบบกล้องรอบคันแล้ว Toyota Crown 2024 ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อื่นๆ ที่ทันสมัย เช่น ระบบเตือนจุดบอด ระบบจอดรถอัตโนมัติ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมในสภาพถนนที่ซับซ้อนของประเทศไทย หากคุณกำลังพิจารณาซื้อรถรุ่นนี้ในประเทศไทย แนะนำให้ไปสอบถามรายละเอียดการจัดสรรอุปกรณ์ที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น เพราะรุ่นรถในแต่ละพื้นที่อาจมีความแตกต่างกัน นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในประเทศไทยค่อนข้างครอบคลุม และสามารถให้การสนับสนุนทางเทคนิคและบริการบำรุงรักษาที่น่าเชื่อถือให้กับเจ้าของรถได้

ข้อดี

คุณภาพที่เชื่อถือได้ ให้ความมั่นใจ
ห้องยืดหยุ่น ทำให้การเดินทางสบาย
การใช้เชื้อเพลิงประหยัด เส้นทางการเดินทางยาวขึ้น
การออกแบบด้านนอกที่สไตล์ สามารถดึงดูดความสนใจ
โครงสร้างที่นั่งยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆ

ข้อเสีย

ที่นั่งแถวที่สามอาจไม่สบายเพียงพอ
พื้นที่กันน้ำมันอาจค่อนข้างเล็ก
กำลังขับเคลื่อนอาจขาดประสิทธิภาพ
การออกแบบภายในอาจดูธรรมดาเล็กน้อย

Q&A ล่าสุด

Q
ถังน้ำมันของรถ D-MAX ปี 2022 มีขนาดเท่าไหร่?
รถปิคอัพ D-MAX รุ่นปี 2022 มีความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับรถปิคอัพอื่นๆ ในตลาดไทย ความจุระดับนี้ช่วยให้ตอบโจทย์การเดินทางระยะไกลหรือการขนส่งสินค้าได้ดี ตัวอย่างเช่น การเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ที่ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร สามารถทำได้ด้วยการเติมน้ำมันเต็มถังเพียงครั้งเดียว จึงเหมาะมากสำหรับการขนส่งข้ามจังหวัดหรือการท่องเที่ยวกับครอบครัวซึ่งเป็นที่นิยมในไทย อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงที่วิ่งได้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยเช่น น้ำหนักบรรทุก สภาพถนน และสไตล์การขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับในพื้นที่ภูเขาหรือเปิดแอร์จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น สำหรับเจ้าของรถในไทย แนะนำให้ตรวจสอบความสะอาดของระบบน้ำมันและความแน่นหนาของถังน้ำมันเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาจากความชื้นสูงในสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทย และควรเลือกใช้น้ำมันดีเซลชีวภาพ B7 หรือ B20 ที่ได้มาตรฐานตามที่รัฐบาลไทยกำหนด ซึ่งทั้งเหมาะกับเครื่องยนต์ของ D-MAX และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของประเทศ หากต้องใช้งานออฟโรดหรือขนส่งหนักเป็นประจำ อาจพิจารณาติดตั้งถังน้ำมันเสริมเพื่อเพิ่มระยะทาง แต่ต้องมั่นใจว่าการดัดแปลงนั้นเป็นไปตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกไทย
Q
GVM D-MAX 2022 คืออะไร?
น้ำหนักรวมสูงสุด (GVM) ของรถยนต์ Isuzu D-MAX รุ่นปี 2022 หมายถึงน้ำหนักสูงสุดที่อนุญาตให้บรรทุกได้เมื่อเติมเต็มความจุ ซึ่งรวมถึงน้ำหนักตัวรถ ผู้โดยสาร สินค้า และอุปกรณ์เสริมทั้งหมด โดยค่าที่แน่นอนควรตรวจสอบจากข้อมูลทางเทคนิคของทางบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 3 ตัน แต่ก็อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก ในประเทศไทย D-MAX เป็นที่นิยมมากเพราะความทนทานและการออกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะสำหรับงานเกษตรกรรมและการขนส่ง GVM เป็นปัจจัยสำคัญเวลาซื้อรถ เพราะส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการบรรทุกและความปลอดภัยในการขับขี่ ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงการบรรทุกเกิน ในไทยที่มีทั้งทางเขาขึ้นลงและสภาพแวดล้อมชื้นแฉะ D-MAX ด้วยช่วงล่างสูงและเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพดีจึงตอบโจทย์ได้สบายๆ แต่ต้องอย่าลืมบำรุงรักษาเป็นประจำ โดยเฉพาะระบบเบรกและช่วงล่าง เพื่อให้รถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว การเข้าใจค่า GVM ยังช่วยให้เจ้าของรถวางแผนการบรรทุกได้เหมาะสม ช่วยเลี่ยงค่าปรับหรือความเสียหายต่อรถอีกด้วย
Q
DMAX 2022 มีความยาวเท่าไหร่?
รถกระบะ Isuzu D-MAX รุ่นปี 2022 ที่ขายในประเทศไทยมีความยาวตัวรถ 5,265 มิลลิเมตร ถือเป็นหนึ่งในรถกระบะขนาดกลางยอดนิยมของตลาดไทย ด้วยความทนทานและสมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่น ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี ดี-แม็กซ์ถูกออกแบบขนาดตัวรถให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในประเทศไทย ทั้งการขับขี่ในเมืองหรือเส้นทางลุยๆ ในชนบทก็ทำได้อย่างคล่องตัว รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทคโนโลยีล่าสุด ที่ให้ทั้งประหยัดน้ำมันและพลังแรง เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยเป็นพิเศษ ที่น่าสนใจคือ D-MAX ในตลาดไทยมีหลายรุ่นย่อยให้เลือก ทั้งแบบห้องโดยสารและความยาวกระบะที่ต่างกัน ผู้ซื้อสามารถเลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการได้ นอกจากนี้ในฐานะรถกระบะชั้นนำของไทย D-MAX ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายครบครัน เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้สำคัญมากสำหรับการขับขี่ในสภาพการจราจรที่ค่อนข้างซับซ้อนของประเทศไทย
Q
รถ Isuzu D-Max 2022 ราคาเท่าไหร่?
รถยนต์ปิกอัพ Isuzu D-Max รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีราคาอยู่ระหว่าง 579,000 บาท ถึง 1,199,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก เช่น ระบบขับเคลื่อน ประเภทเกียร์ และระดับความหรูหรา โดยรุ่นพื้นฐานอย่าง Cab 4x2 กับรุ่นท็อปอย่าง Prestige 4x4 จะมีราคาต่างกันค่อนข้างมาก ตัวรถมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2 แบบคือ 1.9L และ 3.0L ให้เลือก ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์ออโต้ 6 สปีด พ่วงได้หนักสุดถึง 3.5 ตัน เหมาะกับทุกการใช้งานในไทย ทั้งขับในเมืองหรือขนส่งการเกษตร จุดเด่นคือ D-Max เป็นรถที่ค่าตัวคงทนมาก แถมศูนย์บริการอิซูซุก็มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ แม้ในต่างจังหวัดก็เข้าถึงง่าย ส่วนคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux และ Ford Ranger ก็มีจุดเด่น แต่ D-Max ยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ในตลาดปิกอัพไทย เพราะค่าบำรุงรักษาถูกและความทนทานเป็นเลิศ ก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำให้ไปทดลองขับและเปรียบเทียบที่ตัวแทนจำหน่ายตามงบประมาณและความต้องการจริงๆของแต่ละคน
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน Isuzu D-MAX 2022?
สำหรับรุ่นปี 2022 ทาง Isuzu D-MAX ในตลาดไทยได้เตรียมเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงและความน่าเชื่อถือไว้ให้เลือก 2 รุ่น คือ 1.9 ลิตร RZ4E-TC และ 3.0 ลิตร 4JJ3-TCX เทอร์โบชาร์จ ซึ่งทั้งคู่ใช้เทคโนโลยีคลีนดีเซลอันล้ำสมัยจากอีซูซุ ที่ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อมล่าสุดของไทย เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดน้ำมัน ส่วนเครื่อง 3.0 ลิตร ให้กำลังแรงถึง 190 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร เลยเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องลากของหนักหรือขับบนทางเขาบ่อยๆ ด้วยสภาพอากาศร้อนและภูมิประเทศเป็นภูเขาในไทย D-MAX ออกแบบระบบระบายความร้อนพิเศษมาเพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องยนต์จะทำงานได้อย่างเสถียรแม้อยู่ในอุณหภูมิสูงหรือทางชัน แถมทั้งสองรุ่นยังติดตั้ง DPF (ตัวกรองอนุภาคดีเซล) ที่ช่วยให้ได้ทั้งกำลังเครื่องยนต์แรงๆ และยังผ่านกฎหมายควบคุมมลพิษอันเข้มงวดของไทย สำหรับคนไทยที่ต้องขับทั้งในซอยแคบๆ หรือขึ้นเขาลงห้วยบ่อยๆ D-MAX ถือว่าเหมาะมากเพราะเครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้มีแรงบิดสูงแม้รอบต่ำ ช่วยให้ขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวทั้งให้กำลังดีและประหยัดน้ำมันไปพร้อมๆ กัน นี่แหละที่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ D-MAX ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถกระบะไทยมาอย่างยาวนาน
ดูเพิ่มเติม