Q

Toyota Corolla Cross ผลิตที่ประเทศไหน

รถโตโยต้า คอร์ลลา ครอส เป็นรุ่นที่วางขายทั่วโลก ปัจจุบันมีการผลิตในหลายประเทศ ทั้งไทย ญี่ปุ่น อเมริกา และจีน โดยที่ไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของโตโยต้าในอาเซียน ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ก็มีการผลิตรถรุ่นนี้ที่โรงงานโตโยต้า เกตเวย์ จังหวัดชลบุรี เพื่อส่งขายในไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน รุ่นที่ผลิตในไทยนอกจากจะรักษามาตรฐานคุณภาพสูงแบบโตโยต้าแล้ว ยังมีการปรับแต่งให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและถนนในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะ เช่น ระบบแอร์ที่แรงขึ้นและช่วงล่างที่ทนทานขึ้น ที่น่าสนใจคือรถคอร์ลลา ครอสที่ผลิตในไทยยังส่งออกไปขายที่ออสเตรเลียด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกใช้รถที่ผลิตในประเทศนอกจากจะได้บริการหลังการขายและอะไหล่ที่สะดวกรวดเร็วกว่า ยังเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยอีกด้วย ไลน์การผลิตของโตโยต้าในไทยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและระบบควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด เพื่อให้ทุกคันที่ออกจากโรงงานมีมาตรฐานเดียวกันกับที่ขายทั่วโลก
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
Corolla Cross กับ RAV4 ต่างกันยังไง?
รถ Toyota Corolla Cross และ RAV4 เป็น SUV ระดับกลางที่ขายดีในตลาดไทย แต่ทั้งสองรุ่นมีจุดขายต่างกันนิดหน่อย Corolla Cross จะเหมาะกับการใช้งานในเมืองมากกว่าเพราะตัวรถกะทัดรัด ขับง่ายในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ ระบบเครื่องยนต์ 1.8L แบบธรรมดาและแบบไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันได้ดี ส่วน RAV4 นั้นเป็น SUV ระดับสูงกว่า มีพื้นที่ภายในกว้างขวางกว่า พร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ 2.0L และ 2.5L ไฮบริดที่แรงกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบเดินทางไกล ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense แต่ RAV4 จะมีฟีเจอร์เพียบกว่าหน่อย เช่น บางรุ่นมีหลังคากระจกพาโนรามาและประตูท้ายไฟฟ้า เรื่องราคา Corolla Cross จะจับต้องได้ง่ายกว่า ในขณะที่ RAV4 ตำแหน่งอยู่ในระดับพรีเมียม คนไทยสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและลักษณะการใช้งาน ที่สำคัญคือสภาพอากาศเมืองร้อนและฝนชุกของไทยต้องการระบบแอร์ที่แรงและกันสนิมได้ดี ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับการปรับแต่งพิเศษสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เพิ่มประสิทธิภาพระบบทำความเย็นและป้องกันการกัดกร่อน
Q
Toyota Corolla Cross ปี 2022 จะมีเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จหรือไม่?
รถ Corolla Cross รุ่นปี 2022 ที่วางขายในตลาดไทย มีทั้งแบบเบนซินและไฮบริด โดยรุ่นเบนซินใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบดูดธรรมดา (รหัส 2ZR-FBE) ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ไม่มีเทอร์โบ ส่วนรุ่นไฮบริดใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบอะตคินสันไซเคิล ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งก็ไม่ใช้เทอร์โบเช่นกัน Toyota ออกแบบมาให้เน้นความประหยัดและความทนทานเป็นหลัก เครื่องยนต์ดูดธรรมดามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน บำรุงรักษาไม่ยาก เหมาะกับสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดในเมืองของไทย แม้ว่าเทอร์โบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวได้ดีกว่า แต่ก็ทำให้ราคาแพงขึ้นและดูแลรักษายากกว่า Toyota จึงเลือกใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ผ่านการทดสอบมาแล้วใน Corolla Cross เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เน้นเรื่องความทนทานเป็นหลัก ในตลาดไทยจะมีคู่แข่งอย่าง Honda HR-V ที่มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ แต่ Toyota เลือกใช้ระบบไฮบริดเพื่อสร้างจุดเด่นในเรื่องความประหยัดน้ำมันควบคู่ไปกับประสิทธิภาพที่เพียงพอ กลยุทธ์นี้ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกตามความต้องการ ถ้าชอบรถประหยัดน้ำมัน แนะนำรุ่นไฮบริดที่กินน้ำมันแค่ 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร แต่ถ้าชอบรถเบนซินทั่วไป รุ่น 1.8 ลิตร ก็ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีเหมือนกัน
Q
Toyota Corolla Cross ปี 2022 มีสมรรถนะในการขับขี่บนหิมะเป็นอย่างไร?
Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2022 แสดงผลงานกลางๆ บนถนนหิมะ โฉบขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมระบบควบคุมแรงฉุดและระบบควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์มาตรฐาน สามารถรับมือกับถนนหิมะบางๆ ที่เป็นครั้งคราวพบในภูเขาภาคเหนือของไทยได้ แต่ถ้าเจอหิมะหนาขึ้นแนะนำให้เลือกรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อการยึดเกาะที่ดีกว่า รถคันนี้มีความสูงช่วงล่าง 161 มม. เหมาะสมกับถนนหิมะเล็กๆ มากกว่ารถเก๋งทั่วไป ถ้าใช้ในพื้นที่อากาศเย็น เช่น เชียงใหม่หรือเพชรบูรณ์ แนะนำให้เปลี่ยนยางฤดูหนาวเพื่อความปลอดภัย แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วผู้ขับขี่รถยนต์ชาวไทยที่วางแผนจะเดินทางไปญี่ปุ่นหรือยุโรปในช่วงฤดูหนาวจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขับขี่บนหิมะ แต่การทำความเข้าใจความรู้นี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ชาวไทยที่วางแผนจะเดินทางไปญี่ปุ่นหรือยุโรปด้วยรถยนต์ในช่วงฤดูหนาว ถึงแม้ว่ารถยนต์จะมีสมรรถนะการขับขี่บนหิมะในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังคงจำเป็นต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังในสภาพอากาศที่รุนแรง การลดความเร็วอย่างเหมาะสมและการรักษาระยะห่างระหว่างรถให้มากขึ้นถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความปลอดภัย โหมดการขับขี่บนหิมะของ Toyota Corolla Cross สามารถลดการลื่นไถลได้โดยการปรับการตอบสนองของคันเร่งและตรรกะของระบบส่งกำลัง นี่เป็นฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริงสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ชาวไทยที่ไม่คุ้นเคยกับการขับขี่บนหิมะ
Q
เวลาเร่งความเร็วของ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2022 คือเท่าไร
Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2022 ในไทยนั้น การเร่งจะแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ แบบเบนซินใช้เครื่อง 1.8 ลิตร 2ZR-FBE คู่กับเกียร์ CVT เร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 11-12 วินาที ส่วนรุ่นไฮบริดที่ใช้เครื่อง 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะเร่งได้เร็วขึ้นอยู่ที่ประมาณ 10 วินาที เพราะแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองทันที ทำให้เหมาะกับการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่ต้องหยุด-เดินบ่อยๆ อีกอย่างอากาศร้อนๆ ของไทยนี่อาจทำให้สมรรถนะเครื่องยนต์ลดลงนิดหน่อย แนะนำให้บริการรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ สำหรับคู่แข่งอย่าง Honda HR-V และ Mazda CX-30 อาจเร่งใกล้เคียงกัน แต่ Corolla Cross ได้เปรียบเรื่องประหยัดน้ำมันด้วยเทคโนโลยีไฮบริดของ Toyota โดยเฉพาะในไทยที่ราคาน้ำมันค่อนข้างสูง เวลาขับจริงๆ เกียร์ CVT ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ช่วยให้ขับในเมืองสบายๆ สำหรับทางลาดชันอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย แนะนำให้ใช้โหมดสปอร์ตหรือการเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดาเพื่อเพิ่มการตอบสนองกำลัง
Q
รถ Toyota Corolla Cross ปี 2022 มีระบบการชาร์จแบบไร้สายหรือไม่?
รุ่น Toyota Corolla Cross 2022 ในตลาดไทยบางรุ่นระดับสูงมีการติดตั้งระบบการชาร์จแบบไร้สายจริงๆ โดยเฉพาะในรุ่น HEV แบบไฮบริดหรือรุ่นเบนซินระดับสูงสุด ขึ้นอยู่กับระดับรุ่นและแพ็คเกจที่คุณเลือก ในสภาพอากาศร้อนของไทย แผ่นชาร์จไร้สายอาจทำงานช้าลงชั่วคราวเพราะความร้อน นี่เป็นเรื่องปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แนะนำให้ถอดเคสโทรศัพท์ออกและรักษาช่องระบายอากาศให้โล่งเพื่อประสิทธิภาพการชาร์จที่ดีที่สุด ปัจจุบันเทคโนโลยีชาร์จไร้สายกลายเป็นฟังก์ชันมาตรฐานในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในไทย แต่ต้องระวังว่าเฉพาะโทรศัพท์ที่รองรับมาตรฐาน Qi เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ ถ้าคุณขับรถทางไกลบ่อยๆ สามารถเลือกติดตั้งตู้เย็นในรถของทางโรงงานเพื่อใช้คู่กับระบบชาร์จไร้สาย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน สำหรับผู้บริโภคไทยเวลาสั่งซื้อสามารถตรวจสอบรายการอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่ายโดยตรงได้ เพราะบางครั้งรายละเอียดอุปกรณ์อาจมีการปรับเปลี่ยนในรุ่นที่ผลิตต่างปีกัน
Q
Toyota Corolla Cross ปี 2022 มาพร้อมกับล้ออะไหล่หรือไม่?
รถ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2022 ในตลาดไทยมีการติดตั้งยางอะไหล่จริง แต่รายละเอียดการติดตั้งจะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย รุ่นที่ใช้น้ำมันเบนซินมักจะติดตั้งยางอะไหล่แบบไม่เต็มขนาด ส่วนรุ่นไฮบริดเนื่องจากมีการจัดวางแบตเตอรี่อาจใช้ชุดซ่อมยางแทน แนะนำให้ผู้บริโภคในไทยตรวจสอบรายละเอียดการติดตั้งกับตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นก่อนซื้อรถ ในสภาพแวดล้อมของไทยที่มีทั้งเส้นทางภูเขาและชนบท ยางอะไหล่มีความจำเป็นมาก โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกลสามารถรับมือกับสถานการณ์ยางแตกได้ทันที อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารถบางยี่ห้อเลือกใช้สารซ่อมยางแทนยางอะไหล่เพื่อลดน้ำหนักและประหยัดน้ำมัน แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้หากยางมีรอยขาดที่ด้านข้าง Toyota ในฐานะแบรนด์ผู้นำด้านส่วนแบ่งการตลาดในไทย กลยุทธ์การติดตั้งยางอะไหล่ของ Corolla Cross ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกใช้งานและประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ นอกจากนี้ช่องยางอะไหล่ยังช่วยป้องกันกลิ่นและเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี หากรถของคุณไม่มียางอะไหล่ แนะนำให้ซื้อเครื่องปั๊มลมแบบพกพาเพิ่มเติม และตรวจสอบอายุการใช้งานของชุดซ่อมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่รายละเอียดเหล่านี้สำคัญมาก
Q
Toyota Corolla Cross ปี 2022 มีสีอะไรบ้าง?
รถ Corolla Cross 2022 ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายเฉด ทั้งสีขาวไข่มุก สีเงินเมทัลลิก สีเทาแกรไฟต์ สีแดงทับทิม และสีน้ำเงินเข้ม ซึ่ง สีสันเหล่านี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยทั้งในด้านแฟชั่นและการใช้งานจริงเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับสภาพอากาศร้อนและฝนตกในท้องถิ่นอีกด้วย เช่น สีขาวไข่มุกและสีเงินเมทัลลิกช่วยสะท้อนแสงแดด ลดความร้อนภายในรถได้ดี นอกจากนี้ สีรถโครสส์ คอร์อลลายังใช้เทคโนโลยีสีน้ำแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ Toyota ที่ไม่เพียงให้สีสันคงทนสดใส แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ในประเทศไทย การเลือกสีรถนอกจากจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวแล้ว ยังควรคำนึงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย เช่น สีทองและสีแดงในวัฒนธรรมไทยถือเป็นสีมงคล ที่นิยมเลือกใช้ในช่วงเทศกาลสำคัญ Toyota Corolla Cross ในฐานะรถ SUV คอมแพคต์ยอดนิยม ได้ออกแบบเฉดสีที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยสำหรับครอบครัวยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมืองหรือการท่องเที่ยวในวันหยุด ก็สามารถแสดงเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว
Q
Toyota Corolla Cross ปี 2022 เปรียบเทียบกับ Honda HR-V ได้อย่างไร?
รถ Corolla Cross 2022 กับ Honda HR-V เป็น SUV คอมแพคต์ที่ขายดีมากในตลาดไทย แต่ละคันมีจุดเด่นต่างกัน Corolla Cross จะเหนือกว่าในเรื่องพื้นที่โดยสาร โดยเฉพาะช่วงขาหลังและกระโปรงท้ายที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบธรรมดาและระบบไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันสุดๆ เข้ากับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองไทย ส่วน HR-V นั้นโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตและการขับขี่คล่องตัว เครื่อง 1.5 ลิตร เทอร์โบตอบสนองเร็ว ให้ความรู้สึกสปอร์ตกว่า แถมยังมีระบบ Magic Seat ที่เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ในตลาดไทย ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย อาทิ กุญแจอัจฉริยะ กล้องมองหลัง และระบบความปลอดภัยขั้นสูง แต่ชุดระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ของ Corolla Cross อาจมอบชุดฟีเจอร์ความปลอดภัยเชิงป้องกันที่ครอบคลุมมากกว่า สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือสภาพอากาศร้อนและฝนตกของประเทศไทยทำให้ระบบปรับอากาศและการป้องกันสนิมของรถยนต์มีความต้องการสูง แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะมีประสิทธิภาพที่ดีในด้านเหล่านี้ แต่ขอแนะนำให้ผู้บริโภคทดลองขับตามความต้องการก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ Corolla Cross มีข้อได้เปรียบในด้านนี้
Q
“ความสามารถในการลากจูงของ Toyota Corolla Cross ปี 2022 คือเท่าใด”
สำหรับ Toyota Corolla Cross รุ่นปี 2022 ในประเทศไทย ความสามารถในการลากจูงจะแตกต่างกันไปตามระบบขับเคลื่อน รุ่นเครื่องยนต์เบนซินสามารถลากได้สูงสุดประมาณ 500 กิโลกรัม ส่วนรุ่นไฮบริดไม่แนะนำให้ใช้สำหรับการลากจูงเนื่องจากข้อจำกัดของแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ในบริบทการใช้รถในไทย ความสามารถระดับนี้เหมาะสำหรับการลากรถพ่วงคาราวานขนาดเล็กหรือที่ขนจักรยาน แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายขนส่งไทยที่กำหนดให้น้ำหนักรวมสิ่งที่ลากต้องไม่เกิน 85% ของน้ำหนักรถเปล่า และต้องติดตั้งระบบเกี่ยวพ่วงและวงจรไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบระบบระบายความร้อนเกียร์ก่อนใช้งานลากจูง เพราะการลากต่อเนื่องอาจเพิ่มภาระให้เกียร์ CVT โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนแบบไทยที่ต้องระวังเรื่องความร้อนเป็นพิเศษ สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือถนนในประเทศไทยมักเป็นภูเขา ดังนั้นเมื่อลากจูงรถ ควรคำนึงถึงผลกระทบของจุดศูนย์ถ่วงของรถต่อการควบคุมรถ ในช่วงฤดูฝน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับระยะเบรกที่ยาวขึ้นบนถนนลื่น ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าสามารถติดตั้งชุดลากจูงของแท้เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐาน TIS ของประเทศไทย โดยไม่ทำให้การรับประกันรถยนต์คันใหม่เป็นโมฆะ
Q
รถ Toyota Corolla Cross ปี 2022 มีรุ่นไฮบริดหรือไม่?
ใช่แล้ว รุ่น Toyota Corolla Cross 2022 ในตลาดไทยมีเวอร์ชั่น Hybrid ให้เลือกด้วย ระบบไฮบริด THS II ของ Toyota ที่พัฒนามาอย่างดีแล้ว มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบธรรมชาติร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมถึง 122 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสุดๆ เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อย ส่วนเรื่องการรับประกันแบตเตอรี่ก็ให้ยาวเหมือนรุ่นน้ำมัน คือ 7 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร แถมยังได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีรถประหยัดพลังงานของรัฐบาลไทย ทำให้ราคาจับต้องได้มากขึ้น อีกจุดเด่นคือ Corolla Cross Hybrid มาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่มีฟังก์ชั่นเตือนการชนและช่วยควบคุมเลน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนถนนไทยที่ค่อนข้างวุ่นวาย จริงๆ แล้ว Toyota เริ่มนำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้ในไทยมานานแล้ว เช่นรุ่น Camry Hybrid ที่ติดตลาดดีมาก ส่วน Corolla Cross Hybrid ที่เพิ่มเข้ามาก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยได้เป็นอย่างดี ถ้าสนใจรถไฮบริด ลองเปรียบเทียบกับ Honda HR-V Hybrid ที่เป็นคู่แข่งดูก็ได้ ทั้งสองคันมีจุดเด่นด้านประสิทธิภาพและการใช้งานต่างกัน แนะนำให้ลองทดลองขับทั้งคู่ก่อนตัดสินใจจะดีที่สุด

ข้อดี

ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ทำให้ตกใจ
พื้นที่จัดเก็บบนหลังคาที่มีเพียงพอ
ระบบความบันเทิงและข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุง
มีระบบความปลอดภัยทั่วถึง
ใช้โครงสร้างรถยนต์ TNGA
เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 4 ประหยัดน้ำมันและสนุกที่จะขับขี่
สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงอายุ

ข้อเสีย

พื้นที่จัดเก็บของหน้าไม่เพียงพอ
พื้นที่แถวที่สองแคบ
ตัวเลือกเครื่องยนต์น้อย
รูปทรงไม่ได้สมัย
ที่นั่งแถวหลังไม่สบาย

Q&A ล่าสุด

Q
แรงม้าของรถ Ferrari 812 Superfast มีเท่าใด
Ferrari 812 Superfast คือซูเปอร์คาร์สุดแรงที่มาพร้อมสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ขุมพลังใต้กระโปรงเป็นเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร แบบแอทโมสเฟียร์ ให้กำลังสูงสุดถึง 800 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 718 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุดเกิน 340 กม./ชม. รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดรถซูเปอร์คาร์ของไทย โดยเฉพาะสำหรับการขับขี่บนทางด่วนรอบกรุงเทพฯ หรือสนามแข่ง สำหรับแฟนๆรถไทยแล้ว 812 Superfast ไม่เพียงเป็นตัวแทนของความปรารถนาในพลังอันสุดขั้วของเฟอร์รารี่เท่านั้น แต่ยังแสดงถึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของซูเปอร์คาร์อิตาลีผ่านการออกแบบเลย์เอาต์เครื่องยนต์ V12 หน้าและรูปทรงตัวรถที่ลื่นไหล แม้ในสภาพอากาศร้อนจัดของไทย ระบบระบายความร้อนและระบบช่วงล่างของรถคันนี้ก็ยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม มั่นใจได้ถึงความมั่นคงแม้ขับแบบสุดเหวี่ยง นอกจากนี้ Ferrari ยังมีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย พร้อมบริการหลังการขายที่ครบวงจร ทั้งการบริการประจำปีและการสนับสนุนทางเทคนิคโดยผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เจ้าของรถสามารถสนุกไปกับการขับขี่ได้แบบไม่ต้องกังวล ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในรถซูเปอร์คาร์ 812 Superfast ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ไม่เพียงเพราะพลังที่เหนือชั้น แต่ยังรวมถึงการควบคุมที่แม่นยำและความหรูหราที่มาพร้อมกันในระดับสุดยอด
Q
Ferrari 812 Superfast มีความเร็วเท่าไหร่
Ferrari 812 Superfast คือซูเปอร์คาร์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร แบบแอสไพรัลธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุดถึง 800 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 718 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 340 กม./ชม. รุ่นนี้เป็นที่จับตามองในตลาดรถหรูของไทย โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบความมันส์แบบสุดๆ แม้ว่าบนถนนทั่วไปในไทยอาจไม่สามารถดึงความเร็วสุดขีดของมันออกมาได้เต็มที่ แต่ถ้าได้ลงสนามแข่งอย่างบูรีรัมย์อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต 812 Superfast จะโชว์ฟอร์มได้อย่างเต็มสูบ แถมยังมาพร้อมดีไซน์แอโรไดนามิกและเทคโนโลยีพวงมาลัยหลังที่ช่วยให้การขับขี่ที่ความเร็วสูงมีความมั่นคงและแม่นยำ ทำให้มันเป็นหนึ่งในรถระดับตำนานที่ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ สำหรับคนไทยการได้เป็นเจ้าของรถคันนี้ไม่ใช่แค่ได้ใช้พลังของซูเปอร์คาร์ระดับเทพ แต่ยังได้สัมผัสความหรูและความเร่าร้อนแบบฉบับเฟอร์รารี่ เพียงแต่เวลาขับบนถนนจริงต้องระวังกฎจราจรและสภาพถนนในไทยให้ดี จะได้ขับได้อย่างปลอดภัยและสนุกสุดเหวี่ยง
Q
เครื่องยนต์ Ferrari 812 Superfast มีอะไร
Ferrari 812 Superfast ติดตั้งเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร แบบแอสพีเรต ที่ออกแบบด้วยมุมระนาบ 65 องศา ให้กำลังสูงสุดถึง 800 แรงม้า แรงบิดพีค 718 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ 7 ความเร็วแบบ DUAL-CLUTCH เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 340 กม./ชม. แสดงถึงสุดยอดเทคโนโลยีเครื่องยนต์แอสพีเรตของ Ferrari เครื่องยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบปรับเปลี่ยนรูปทรงท่อไอดีและระบบจัดการแรงบิดแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยให้การขับขี่สมบูรณ์แบบในทุกสภาพการขับขี่ สำหรับแฟนๆรถไทย แม้ 812 Superfast อาจจะยากที่จะดึงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่บนถนนเมืองไทย แต่เสียงเครื่องที่ดุดันและประสบการณ์การขับที่สมบูรณ์แบบก็ยังเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน เครื่องยนต์แอสพีเรตให้ความรู้สึกการเร่งแบบลื่นไหลและเสียงเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ในรอบสูง ซึ่งแตกต่างจากเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ Ferrari ยังคงยึดมั่นกับเครื่องยนต์แอสพีเรตขนาดใหญ่ นอกจากนี้ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ของ 812 Superfast ยังแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ Ferrari ที่มีต่อระบบขับเคลื่อนแบบดั้งเดิม แม้ในยุคที่รถไฟฟ้ากำลังมาแรง แต่เครื่องยนต์แบบนี้ก็ยังคงเป็นสุดยอดแห่งเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายใน
Q
Ferrari 812 Superfast เปิดตัวเมื่อไหร่
Ferrari 812 ซูเปอร์ฟาสต์ เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ปี 2017 และวางจำหน่ายในปีเดียวกัน รุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ที่มาทดแทน F12berlinetta โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร แบบสูบธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุดถึง 800 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 718 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 340 กม./ชม. ซึ่งแสดงถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของ Ferrari ในด้านเครื่องยนต์แบบสูบธรรมชาติดั้งเดิม สำหรับตลาดไทย 812 Superfast ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักขับระดับสูงด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นและการออกแบบสไตล์อิตาเลียนที่โดดเด่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งมาตรฐานสูงรอบๆ กรุงเทพฯ หรือการสะสมเป็นรถส่วนตัว สำหรับคนไทยแล้ว รุ่นนี้ไม่เพียงเป็นตัวแทนของประสบการณ์การขับที่สมบูรณ์แบบ แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Ferrari ที่ยังคงพัฒนารถซูเปอร์คาร์ด้วยเครื่องยนต์ V12 แบบคลาสสิก แม้ว่าปัจจุบันเทรนด์รถไฟฟ้าจะมาแรง แต่ 812 Superfast ยังคงเป็นสุดยอดรถสปอร์ตเครื่องยนต์สันดาปที่ควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ
Q
ความแตกต่างระหว่าง Ferrari 812 Superfast และ GTS คืออะไร
ความแตกต่างหลักระหว่าง Ferrari 812 Superfast กับรุ่น GTS อยู่ที่การออกแบบหลังคา โดย 812 Superfast เป็นคูเป้หลังคาคงที่ ส่วนรุ่น GTS เป็นเวอร์ชันเปิดประทุนที่มีระบบหลังคาแบบพับได้ที่สามารถเปิด-ปิดได้ภายใน 14 วินาทีที่ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. ทำให้ผู้ขับขี่ในสภาพอากาศร้อนของไทยสามารถเลือกที่จะรับแสงแดดหรือหาที่ร่มได้ตามใจชอบ ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน V12 6.5 ลิตรเท่ากัน ให้กำลังสูงถึง 800 แรงม้า แต่รุ่น GTS มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 75 กิโลกรัมจากโครงสร้างเสริมสำหรับระบบเปิดประทุน ทำให้ความเร็วสูงสุดลดลงเล็กน้อยเหลือ 340 กม./ชม. ซึ่งไม่ส่งผลมากนักกับการขับขี่ปกติในชีวิตประจำวัน สำหรับประเทศไทยแล้ว รุ่น GTS น่าจะได้รับความนิยมมากกว่าเพราะเหมาะทั้งกับการขับในเมืองที่การจราจรหนาแน่นและการขับเลียบชายทะเลเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาหรือหัวหิน ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ได้มากกว่า ส่วนการตกแต่งภายในและเทคโนโลยีต่างๆในทั้งสองรุ่นแทบไม่ต่างกัน ล้วนใช้ระบบช่วยขับขี่สมัยใหม่และวัสดุหรูหราเหมือนกัน เพียงแต่รุ่น GTS มีการปรับปรุงระบบกันเสียงเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะกับการเป็นรถเปิดประทุน สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและสถานการณ์ใช้งานเป็นหลัก เพราะต้องยอมรับว่าการขับรถเปิดประทุนรับลมร้อนชื้นแบบไทยๆนั้นเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน
ดูเพิ่มเติม