Q

รถฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่

รถฮอนด้า แจ๊ส เป็นรถขนาดเล็กที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ประหยัดน้ำมันเหมาะกับราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย แถมยังใช้แนวคิด MM (ย่อมากสุด ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ทำให้มีพื้นที่เก็บของเยอะกว่าเพื่อนร่วมรุ่น โดยเฉพาะระบบเก้าอี้แบบ Magic Seat ที่ปรับได้ตามต้องการสำหรับของชิ้นใหญ่ ข้อเสียคือเวลาขับเร็วเสียงรบกวนค่อนข้างได้ยินชัด และเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรุ่นอาจขาดฟีเจอร์เทคโนโลยีไปบ้าง สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น และเนื่องจากถนนไทยค่อนข้างหลากหลายควรระวังเรื่องการป้องกันช่วงล่าง ส่วนเรื่องค่าขายต่อรถฮอนด้าแจ๊สถือว่าคงตัวดี มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณประมาณ 6-8 แสนบาทนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนซื้อแนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันและลองทดลองขับดูให้เหมาะกับความต้องการจริงๆ ของคุณ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยนั้น จุดด้อยหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ภายในและสมรรถนะของเครื่องยนต์ แม้ว่า Jazz จะมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Magic Seat แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย พื้นที่ขาเบาะหลังอาจรู้สึกคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่สูงโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เมื่อใช้งานในเส้นทางภูเขาหรือเมื่อต้องบรรทุกเต็มที่ การเร่งความเร็วอาจรู้สึกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่เปิดแอร์เต็มกำลังจะเห็นการลดทอนของพละกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการเก็บเสียงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงลมและเสียงยางจะค่อนข้างเด่น ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่เน้นความเงียบสงบรู้สึกไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิจารณาในบริบทของการจัดวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นนี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสภาพการจราจรที่หนาแน่นในไทย Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในเมือง ผู้บริโภคในไทยสามารถชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียตามความต้องการส่วนตัว หากต้องการรถที่เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือสมรรถนะที่แรงขึ้น อาจพิจารณารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้
Q
Honda Jazz อยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
Honda Jazz ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment หรือที่เรียกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก (Subcompact Car) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นการใช้งานในเมืองและครอบครัวในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดเด่นที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด ประหยัดน้ำมัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว Honda Jazz มีฟังก์ชัน Magic Seat ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดเก็บสัมภาระ เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับสภาพถนนของไทย กลุ่ม B-Segment ในไทยยังมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Toyota Yaris และ Mazda2 ซึ่งเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ผู้บริโภคจึงมักเลือกตามความชอบในแบรนด์ ฟีเจอร์ และบริการหลังการขาย ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคงสูงเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเหมาะกับถนนที่ค่อนข้างแคบ Honda Jazz จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนี้ด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการเก็บมูลค่าที่ดี
Q
มูลค่าการขายต่อของ Honda Jazz คืออะไร
ในตลาดประเทศไทย Honda Jazz ถือเป็นรถมือสองที่มีอัตราการคงมูลค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความประหยัดน้ำมัน และภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ Honda ในประเทศไทย จากข้อมูลในอุตสาหกรรมพบว่า Jazz ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีมักมีอัตราการคงมูลอยู่ที่ประมาณ 60% - 70% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา สำหรับประเทศไทยซึ่งมีถนนในเมืองที่แออัดและราคาน้ำมันสูง รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ Honda มีฐานการผลิตในประเทศ ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่หาได้ง่ายและค่าบำรุงรักษาไม่สูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าของรถมือสองได้อีกทาง หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ Jazz รุ่นไฮบริดเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมักมีมูลค่าขายต่อสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบธรรมดา แนะนำให้เจ้าของรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารประวัติการบำรุงรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพราะสามารถช่วยเพิ่มราคาขายต่อได้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมักนิยมรถสีโทนกลางอย่างสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งขายต่อได้ง่ายกว่า หากต้องการทราบราคาประเมินที่แม่นยำมากขึ้น ควรอ้างอิงจากคู่มือราคารถมือสองของสมาคมรถยนต์ในประเทศไทย หรือปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในพื้นที่
Q
ฮอนด้า แจ๊ส มีกี่ซีซี
Honda Jazz ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบดูดอากาศธรรมดาขนาด 1.5 ลิตร มีปริมาตรกระบอกสูบ 1497 ซีซี โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพสูงและความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองที่มีการหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้งในประเทศไทย อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลยิ่งขึ้น Jazz ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในครอบครัวหรือเดินทางในเมือง จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวรถที่คล่องตัวแต่ภายในกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังควรพิจารณาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เพิ่มเติม เช่น ระบบ i-VTEC ของ Honda ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งนี้มาตรฐานมลพิษในไทย เช่น Euro 5 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ รวมถึงต้นทุนการใช้งานในระยะยาว ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์การขับขี่และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
Q
เครื่องยนต์ใน Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมดา มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่วางจำหน่ายในไทยยังได้รับการจูนให้ตอบสนองเร็วขึ้นแต่ยังคงประหยัดน้ำมันที่ประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะ และระบบปรับอากาศที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเขตร้อน ช่วยให้การขับขี่ในระยะทางไกลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างคือห้องเครื่องของ Jazz ออกแบบให้กะทัดรัดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความกว้างขวางภายในรถ ซึ่งสะท้อนแนวคิด MM หรือ “Man-Maximum, Machine-Minimum” ของ Honda ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าในอนาคตอาจมีการแนะนำรุ่น e:HEV ไฮบริดตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย แต่ในปัจจุบัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ยังคงเป็นทางเลือกหลักที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเมือง
Q
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz คืออะไร
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต โดยทั่วไปแล้วรุ่นที่พบได้บ่อยที่สุดคือระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งมีจุดเด่นด้านความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์และความประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรที่แออัดในเมืองของไทย นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นเก่าที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ ระบบเกียร์ CVT ทำงานด้วยหลักการส่งกำลังแบบไร้ขั้นตอน ช่วยลดอาการกระตุกของเกียร์แบบเดิม และเมื่อรวมกับเทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยและการขับขี่แบบหยุด–ไปบ่อย ๆ อีกทั้งยังได้รับการปรับจูนให้ส่งแรงบิดได้ดีที่รอบต่ำ รองรับการใช้งานบนถนนแคบหรือทางลาดชันได้ดี การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ CVT อย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการขับขี่ที่ใช้โหลดหนักต่อเนื่องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้นของประเทศไทย
Q
PCD ขนาดเท่าไรของ Honda Jazz
สำหรับรถฮอนด้า แจ๊ส ในตลาดไทยจะมีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) แบบ 4x100 หมายความว่าจากรูสลักล้อ 4 รู โดยจุดศูนย์กลางของรูแต่ละรูจะอยู่บนเส้นรอบวงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งสเปคนี้ใช้ร่วมกับรถยนต์ประเภทเอкономี่คาร์และคอมแพคต์คาร์หลายรุ่นในไทย ทำให้เวลาจะเปลี่ยนหรืออัพเกรดล้อ เจ้าของรถมีตัวเลือกที่เข้ากันได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในไทยเราจะพบผู้ผลิตล้อท้องถิ่นและร้านแต่งรถหลายแห่งที่รองรับล้อแบบ 4x100 PCD โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพหรือเชียงใหม่ หาล้อที่เหมาะกับแจ๊สได้ไม่ยาก นอกจาก PCD แล้ว เวลาเลือกล้อต้องดูเรื่องขนาดรูกลางล้อ (CB) และระยะออฟเซ็ต (ET) ด้วย เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งแล้วทำงานได้สมบูรณ์กับระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวรถ ป้องกันปัญหาเวลาขับอย่างการสั่นหรือสึกหรอเร็ว ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกวัสดุล้อที่ทั้งเบาและระบายความร้อนดี เช่น อลูมิเนียม จะช่วยประหยัดน้ำมันและช่วยระบายความร้อนให้เบรกได้ดีขึ้น
Q
รถฮอนด้า แจ๊ส มี Apple CarPlay หรือไม่
สำหรับรถฮอนด้า Jazz รุ่นล่าสุดที่วางขายในตลาดไทย (บางตลาดอาจเรียกว่า Fit) แบบรุ่นท็อปนั้นมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay มาให้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เพราะช่วยให้เชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งระบบนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ แต่ต้องระวังว่ารุ่นและปีการผลิตที่ต่างกันอาจมีสเปกไม่เหมือนกัน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับโชว์รูมฮอนด้าในไทยก่อนซื้อจริง สำหรับคนไทยแล้ว Apple CarPlay ถือเป็นตัวช่วยชั้นดี โดยเฉพาะในเมืองติดรถติดอย่างกรุงเทพฯ ที่สามารถใช้เสียงสั่งงานผ่าน Siri ลดการเสียสมาธิขณะขับรถได้ ถ้าหากรุ่นของคุณไม่มี CarPlay ติดตั้งมาแต่แรก ในไทยก็มีอู่ติดตั้งรถยนต์มาตรฐานที่สามารถเพิ่มเติมระบบนี้ได้ แต่ควรเลือกอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานกฎหมายการขนส่งไทยเพื่อความปลอดภัย นอกจาก CarPlay แล้ว รถใหม่ๆ ในตลาดไทยตอนนี้หลายรุ่นยังรองรับ Android Auto ด้วย ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ iPhone และ Android โดยฟังก์เจอร์เชื่อมต่อสมาร์ทเหล่านี้กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนรุ่นใหม่ในไทยใช้ตัดสินใจเลือกซื้อรถเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Honda Jazz คืออะไร
ยางติดรถจากโรงงานของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยทั่วไปจะใช้ยี่ห้อญี่ปุ่นที่พบได้บ่อย เช่น Bridgestone Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความนิยมสูงในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศ เช่น ยางซีรีส์ ECOPIA ของ Bridgestone ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและทนทาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ผู้ใช้รถในไทยควรพิจารณาสภาพอากาศที่มีฝนตกบ่อย โดยแนะนำให้ตรวจสอบค่าการยึดเกาะบนถนนเปียก เช่น ระดับ Traction จากมาตรฐาน UTQG และเนื่องจากสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรเลือกยางที่มีความแข็งแรงของแก้มยางที่เหมาะสม หากต้องการเปลี่ยนยางที่ไม่ใช่ของเดิมจากโรงงาน แนะนำให้ตรวจสอบสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน TISI จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นปลอดภัยต่อการใช้งานในประเทศไทย ยางแบรนด์ระดับสากล เช่น Michelin ที่มีการผลิตในไทยก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งในด้านความคุ้มค่าและการบริการหลังการขาย
Q
ความกว้างของฮอนด้า แจ๊ซคือเท่าไหร่
ความกว้างของรถ Honda Jazz แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป บางรุ่นมีความกว้าง 1695 มม. เช่น Honda Jazz 1.5 S MT, 1.5 S CVT, 1.5 V, 1.5 V+ รุ่นปี 2020 ส่วนรุ่น Honda Jazz 1.5 RS CVT และ 1.5 RS+CVT ปี 2020 ก็มีความกว้างเท่ากันที่ 1695 มม. เช่นกัน ความกว้างของรถหมายถึงระยะห่างระหว่างจุดที่ยื่นออกมาทั้งสองด้านของตัวรถ (ไม่รวมกระจกมองหลัง ไฟสัญญาณข้าง ไฟเลี้ยว ตะกั่วยางยืด หรือส่วนที่ยางสัมผัสกับพื้น) โดยวัดในแนวขนานกับระนาบสมมาตรตามยาวของตัวรถ ความกว้างของรถมีผลต่อพื้นที่โดยสารและความคล่องตัว สำหรับรถยนต์โดยสารทั่วไป หากต้องการให้มีพื้นที่กว้างพอสำหรับการจัดวางเบาะนั่งสามตำแหน่งในแนวขวาง รถควรมีความกว้างประมาณ 1.8 เมตรขึ้นไป

ข้อดี

มีลักษณะทางการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นใหม่
ราคาขายมีความทนทาน, ค่าซ่อมบำรุงไม่สูง
ประหยัดน้ำมัน

ข้อเสีย

กำลังการขับขี่ค่อนข้างอ่อนและไม่เสถียร โดยเฉพาะในการขับขี่ความเร็วสูง
การควบคุมทั่วไปเท่านั้น ความรู้สึกทั้งหมดของชั้นล่างไม่ค่อยแข็งแรง

Q&A ล่าสุด

Q
ฟังก์ชั่นลดฝ้ากระจกหน้า Tesla Model Y วิธีการเปิด
เวลาขับรถ Tesla Model Y ในประเทศไทย ถ้าอยากเปิดระบบไล่ฝ้าที่กระจกหน้ารถ (หรือที่เรียกว่า "ไฟประจุครึ่งหน้าแก้ว") ทำได้ง่ายๆผ่านหน้าจอควบคุมกลางครับ แค่กดไอคอน "สภาพอากาศ" ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ แล้วเลือกโหมด "ไล่ฝ้า" (จะมีสัญลักษณ์รูปพัดลม) ระบบจะปรับช่องแอร์ไปที่กระจกหน้ารวมถึงเปิดระบบทำความร้อนอัตโนมัติ ช่วยแก้ปัญหากระจกเป็นฝ้าได้ดีเวลาอากาศร้อนชื้นหรือเปิดแอร์เย็นจัด สิ่งที่น่าสนใจคือ Tesla มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะที่สามารถปรับระดับการไล่ฝ้าเองโดยอัตโนมัติตามความชื้นและอุณหภูมิทั้งนอกและในรถ ทำให้ไม่ต้องมาคอยปรับเองบ่อยๆ สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบสภาพฟิลเตอร์แอร์เป็นประจำ และใช้ฟังก์ชั่น "เตรียมรถล่วงหน้า" เพื่อทำความร้อนหรือความเย็นก่อนเริ่มขับขี่ นอกจากจะช่วยให้สบายขึ้นยังป้องกันการเกิดฝ้าอย่างกะทันหันเวลาขับรถด้วย ส่วนเทคโนโลยีเคลือบกระจกของ Tesla ก็ช่วยลดการเกิดหยดน้ำได้ระดับนึง แต่ถ้าวันไหนอากาศชื้นมากเป็นพิเศษ อาจเพิ่มความเร็วลมแอร์ชั่วคราวเพื่อให้กระจกใสเร็วขึ้น
Q
วิธีการปรับไฟหน้า Tesla Model Y
การปรับความสูงไฟหน้ารถ Tesla Model Y ในประเทศไทยสามารถทำได้ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถ โดยเข้าไปที่เมนู "ควบคุม" เลือก "ไฟรถ" แล้วหาตัวเลือก "ปรับความสูงไฟหน้า" จากนั้นก็เลื่อนแถบปรับตามความต้องการในการขับขี่ได้เลย ระบบไฟอัตโนมัติของ Model Y นี่ใช้งานได้ดีในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยของไทย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่ทัศนวิสัยไม่ดี ไฟจะสลับไปมาระหว่างไฟสูง-ไฟต่ำอัตโนมัติ แต่ต้องระวังเรื่องกฎหมายจราจรของไทยนะครับ เพราะมีกำหนดความสว่างของไฟหน้ารถไว้ชัดเจน อย่าปรับไฟให้สูงเกินไปเดี๋ยวจะรบกวนรถสวนทางมา นอกจากนี้ Model Y ยังมีระบบ Adaptive Headlights ที่จะปรับทิศทางแสงไฟเมื่อเข้าโค้ง ซึ่งช่วยได้มากเวลาขับบนถนนคดเคี้ยวแถบภูเขาหรือทางต่างจังหวัดของไทย ถ้ารู้สึกว่าโหมดอัตโนมัติยังไม่ค่อยเหมาะ ก็ควรทำความสะอาดครอบไฟหน้าระยะๆ เพราะอากาศร้อนและฝุ่นเยอะในไทยทำให้ครอบไฟสกปรกได้ง่าย อีกอย่างแนะนำให้ใช้หลอด LED ที่ทาง Tesla แนะนำนะครับ เพราะสภาพอากาศแบบร้อนชื้นของไทยต้องการการระบายความร้อนที่ดี หลอดที่ไม่ใช่ของแท้อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้
Q
เท่าไหร่เปลี่ยนกระจกหน้า Tesla Y
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนกระจกหน้ารถ Tesla Model Y ที่ประเทศไทยมักจะอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 25,000 บาท ราคาที่แน่นอนขึ้นอยู่กับศูนย์บริการที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กระจกจากโรงงานเดิม และการให้บริการสนับสนุนสำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) เช่น กล้องและเซ็นเซอร์ที่ปรับเทียบเพิ่มเติม เนื่องจากรถ Tesla ออกแบบมาแบบโครงสร้างรวมและใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก แนะนำให้เจ้าของรถเลือกใช้บริการจากศูนย์บริการที่ได้รับการรับรองจากทางบริษัทเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการซ่อมแซมและรักษาสิทธิการรับประกัน ภูมิอากาศของประเทศไทยที่ร้อนชื้นยังต้องการกระจกหน้ารถที่ทนทานต่อความร้อนและป้องกันการรั่วซึมได้ดี กระจกแบบเดิมจากโรงงานจะมีความเหนือกว่าในเรื่องการป้องกันรังสียูวีและการติดตั้งที่พอดีตัวรถอย่างสมบูรณ์ หากต้องการเคลมประกัน บริษัทประกันบางแห่งในประเทศไทยมีกรมธรรม์ที่ครอบคลุมการแตกหักของกระจกรถ แต่ควรตรวจสอบเงื่อนไขและจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเองก่อน นอกจากนี้ระหว่างขับขี่ควรหลีกเลี่ยงการขับตามรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ใกล้เกินไปเพื่อป้องกันหินกระเด็น และควรตรวจสอบขอบกระจกเป็นประจำเพื่อหารอยร้าวที่อาจลุกลามได้ หากต้องการแก้ไขรอยร้าวเล็กน้อยชั่วคราว ในประเทศไทยก็มีบริการซ่อมแซมกระจกมืออาชีพให้เลือกใช้เช่นกัน
Q
Tesla Model Y มีที่นั่งกี่ที่
Tesla Model Y เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นมาตรฐาน 5 ที่นั่งสำหรับตลาดในประเทศไทย ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว (2+3) ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางในชีวิตประจำวันของครอบครัวส่วนใหญ่ เบาะหลังรองรับสัดส่วน 60/40 และสามารถขยายพื้นที่เก็บของได้ถึง 1,158 ลิตร (ปริมาตรของกระโปรงหลัง) เหมาะสำหรับผู้ใช้ชาวไทยที่ต้องการเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ Tesla Model Y เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นมาตรฐาน 5 ที่นั่งสำหรับตลาดในประเทศไทย ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว (2+3) ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางในชีวิตประจำวันของครอบครัวส่วนใหญ่ เบาะหลังรองรับสัดส่วน 60/40 และสามารถขยายพื้นที่เก็บของได้ถึง 1,158 ลิตร (ปริมาตรของกระโปรงหลัง) เหมาะสำหรับผู้ใช้ชาวไทยที่ต้องการเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับผู้บริโภคชาวไทย Model Y มีความทนทานในการใช้งาน (ระยะทางประมาณ 350 กม. ในรุ่นขับเคลื่อนหลัง และ 480 กม. ในรุ่นยาว) สามารถตอบสนองต่อเส้นทางยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ-พัทยาได้อย่างง่ายดาย และระบบปรับอากาศแบบ Heat Pump ยังช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อใช้งานในเขตร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง BYD Atto 3 หรือ MG ZS EV ในไทยก็มี 5 ที่นั่ง แต่ Model Y มีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีมากกว่าด้วยเครือข่าย Tesla Supercharge (ไทยสร้างเสร็จแล้ว 20+ สถานี) และฟังก์ชั่นการอัพเกรด OTA โปรดทราบว่ารุ่น 7 ที่นั่งยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดประเทศไทยซึ่งเกี่ยวข้องกับความชอบของผู้บริโภคในท้องถิ่นและนโยบายภาษีบนท้องถนน
Q
น้ำหนักของรถยนต์ Tesla Model Y คือเท่าไหร่
น้ำหนักของ Tesla Model Y จะแตกต่างกันไปตามรุ่น โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังจะหนักประมาณ 1,971 กิโลกรัม ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (Long Range และ Performance) จะหนักใกล้เคียง 2,003 กิโลกรัม ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางหนักสำหรับ SUV ไฟฟ้า สาเหตุหลักมาจากแบตเตอรี่ความจุสูงและโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง ในตลาดไทย น้ำหนักของ Model Y ไม่ได้ส่งผลต่อการขับขี่ประจำวันมากนัก เพราะถนนในเมืองไทยส่วนใหญ่เรียบและแรงบิดเริ่มต้นที่สูงของรถไฟฟ้าช่วยให้ขับเคลื่อนในสภาพการจราจรติดขัดได้อย่างสบายๆ แต่อาจต้องระวังหน่อยเวลาเลี้ยวหรือจอดในซอยแคบๆ หรือลานจอดรถเก่าๆ ที่พื้นที่จำกัด จุดเด่นของรถไฟฟ้าคือการกระจายน้ำหนักที่สมดุลกว่าเครื่องยนต์สันดาป (เพราะแบตเตอรี่ถูกวางราบใต้พื้นรถ) ทำให้ Model Y ทรงตัวได้ดีกว่าในถนนลื่นหรือเมื่อต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ขับแล้วมั่นใจขึ้น สำหรับคนไทยควรรู้ไว้ว่าน้ำหนักรถจะส่งผลต่อการคำนวณภาษีประจำปี แต่ตอนนี้รถไฟฟ้าในไทยยังได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอยู่ ดังนั้นค่าใช้จ่ายจริงยังถูกกว่ารถน้ำหนักเท่ากันที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป ถ้าชอบขับทางไกลบ่อยๆ น้ำหนักที่มากกว่าอาจเพิ่มการกินไฟหน่อยนึง แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางมากเพราะไทยมีสถานีชาร์จครอบคลุมแล้ว โดยเฉพาะ Supercharger ของ Tesla ที่มีให้บริการในเมืองใหญ่และจุดท่องเที่ยวหลัก
ดูเพิ่มเติม