Q

มูลค่าการขายต่อของ Honda Jazz คืออะไร

ในตลาดประเทศไทย Honda Jazz ถือเป็นรถมือสองที่มีอัตราการคงมูลค่อนข้างดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือคุณภาพที่เชื่อถือได้ ความประหยัดน้ำมัน และภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ Honda ในประเทศไทย จากข้อมูลในอุตสาหกรรมพบว่า Jazz ที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีมักมีอัตราการคงมูลอยู่ที่ประมาณ 60% - 70% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา สำหรับประเทศไทยซึ่งมีถนนในเมืองที่แออัดและราคาน้ำมันสูง รถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงานอย่าง Jazz จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่ Honda มีฐานการผลิตในประเทศ ทำให้ชิ้นส่วนอะไหล่หาได้ง่ายและค่าบำรุงรักษาไม่สูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าของรถมือสองได้อีกทาง หนึ่งในแนวโน้มสำคัญคือ Jazz รุ่นไฮบริดเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมักมีมูลค่าขายต่อสูงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบธรรมดา แนะนำให้เจ้าของรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอและเก็บเอกสารประวัติการบำรุงรักษาไว้ให้ครบถ้วน เพราะสามารถช่วยเพิ่มราคาขายต่อได้ นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมักนิยมรถสีโทนกลางอย่างสีขาวหรือสีเงิน ซึ่งขายต่อได้ง่ายกว่า หากต้องการทราบราคาประเมินที่แม่นยำมากขึ้น ควรอ้างอิงจากคู่มือราคารถมือสองของสมาคมรถยนต์ในประเทศไทย หรือปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายรถมือสองที่เชื่อถือได้ในพื้นที่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในฐานะรถยนต์แฮทช์แบ็กขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยนั้น จุดด้อยหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ภายในและสมรรถนะของเครื่องยนต์ แม้ว่า Jazz จะมีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Magic Seat แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทย พื้นที่ขาเบาะหลังอาจรู้สึกคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่สูงโดยเฉพาะเมื่อเดินทางไกล นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดอากาศธรรมชาติ เมื่อใช้งานในเส้นทางภูเขาหรือเมื่อต้องบรรทุกเต็มที่ การเร่งความเร็วอาจรู้สึกไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเวลาที่เปิดแอร์เต็มกำลังจะเห็นการลดทอนของพละกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการเก็บเสียงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เสียงลมและเสียงยางจะค่อนข้างเด่น ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคที่เน้นความเงียบสงบรู้สึกไม่เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเหล่านี้เป็นเรื่องที่พิจารณาในบริบทของการจัดวางตำแหน่งรถยนต์รุ่นนี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและความประหยัดน้ำมัน รวมถึงสภาพการจราจรที่หนาแน่นในไทย Jazz ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในเมือง ผู้บริโภคในไทยสามารถชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียตามความต้องการส่วนตัว หากต้องการรถที่เหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวหรือสมรรถนะที่แรงขึ้น อาจพิจารณารถรุ่นอื่นในระดับเดียวกันเป็นทางเลือกเพิ่มเติมได้
Q
Honda Jazz อยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก
Honda Jazz ในตลาดรถยนต์ของประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment หรือที่เรียกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก (Subcompact Car) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เน้นการใช้งานในเมืองและครอบครัวในชีวิตประจำวัน โดยมีจุดเด่นที่ขนาดตัวถังกะทัดรัด ประหยัดน้ำมัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว Honda Jazz มีฟังก์ชัน Magic Seat ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการจัดเก็บสัมภาระ เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่การจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังขับเคลื่อนที่นุ่มนวลและเหมาะสมกับสภาพถนนของไทย กลุ่ม B-Segment ในไทยยังมีคู่แข่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Toyota Yaris และ Mazda2 ซึ่งเน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ผู้บริโภคจึงมักเลือกตามความชอบในแบรนด์ ฟีเจอร์ และบริการหลังการขาย ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคงสูงเนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ต้นทุนการบำรุงรักษาต่ำ และเหมาะกับถนนที่ค่อนข้างแคบ Honda Jazz จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในกลุ่มนี้ด้วยความน่าเชื่อถือและอัตราการเก็บมูลค่าที่ดี
Q
ฮอนด้า แจ๊ส มีกี่ซีซี
Honda Jazz ที่วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบดูดอากาศธรรมดาขนาด 1.5 ลิตร มีปริมาตรกระบอกสูบ 1497 ซีซี โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพสูงและความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรในเมืองที่มีการหยุด-เคลื่อนบ่อยครั้งในประเทศไทย อีกทั้งยังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลยิ่งขึ้น Jazz ถือเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่คุ้มค่าและได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการรถสำหรับใช้งานในครอบครัวหรือเดินทางในเมือง จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดตัวรถที่คล่องตัวแต่ภายในกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังควรพิจารณาเทคโนโลยีเครื่องยนต์เพิ่มเติม เช่น ระบบ i-VTEC ของ Honda ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ทั้งนี้มาตรฐานมลพิษในไทย เช่น Euro 5 ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบ รวมถึงต้นทุนการใช้งานในระยะยาว ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์การขับขี่และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
Q
เครื่องยนต์ใน Honda Jazz คืออะไร
Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบดูดอากาศธรรมดา มาพร้อมเทคโนโลยี VTEC อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ให้กำลังสูงสุดประมาณ 120 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งกับการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ รุ่น RS ที่วางจำหน่ายในไทยยังได้รับการจูนให้ตอบสนองเร็วขึ้นแต่ยังคงประหยัดน้ำมันที่ประมาณ 5.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับสภาพอากาศร้อนในไทย เครื่องยนต์รุ่นนี้มาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงโดยเฉพาะ และระบบปรับอากาศที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเขตร้อน ช่วยให้การขับขี่ในระยะทางไกลมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จุดเด่นอีกอย่างคือห้องเครื่องของ Jazz ออกแบบให้กะทัดรัดเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยที่ให้ความสำคัญกับความกว้างขวางภายในรถ ซึ่งสะท้อนแนวคิด MM หรือ “Man-Maximum, Machine-Minimum” ของ Honda ได้อย่างชัดเจน แม้ว่าในอนาคตอาจมีการแนะนำรุ่น e:HEV ไฮบริดตามนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทย แต่ในปัจจุบัน รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ยังคงเป็นทางเลือกหลักที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางในเมือง
Q
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz คืออะไร
ประเภทระบบเกียร์ของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและปีที่ผลิต โดยทั่วไปแล้วรุ่นที่พบได้บ่อยที่สุดคือระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งมีจุดเด่นด้านความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์และความประหยัดน้ำมัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพการจราจรที่แออัดในเมืองของไทย นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นเก่าที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบความรู้สึกในการควบคุมรถ ระบบเกียร์ CVT ทำงานด้วยหลักการส่งกำลังแบบไร้ขั้นตอน ช่วยลดอาการกระตุกของเกียร์แบบเดิม และเมื่อรวมกับเทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงมากยิ่งขึ้น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยและการขับขี่แบบหยุด–ไปบ่อย ๆ อีกทั้งยังได้รับการปรับจูนให้ส่งแรงบิดได้ดีที่รอบต่ำ รองรับการใช้งานบนถนนแคบหรือทางลาดชันได้ดี การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ CVT อย่างสม่ำเสมอและหลีกเลี่ยงการขับขี่ที่ใช้โหลดหนักต่อเนื่องจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบเกียร์ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้นของประเทศไทย
Q
PCD ขนาดเท่าไรของ Honda Jazz
สำหรับรถฮอนด้า แจ๊ส ในตลาดไทยจะมีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลักล้อ) แบบ 4x100 หมายความว่าจากรูสลักล้อ 4 รู โดยจุดศูนย์กลางของรูแต่ละรูจะอยู่บนเส้นรอบวงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งสเปคนี้ใช้ร่วมกับรถยนต์ประเภทเอкономี่คาร์และคอมแพคต์คาร์หลายรุ่นในไทย ทำให้เวลาจะเปลี่ยนหรืออัพเกรดล้อ เจ้าของรถมีตัวเลือกที่เข้ากันได้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในไทยเราจะพบผู้ผลิตล้อท้องถิ่นและร้านแต่งรถหลายแห่งที่รองรับล้อแบบ 4x100 PCD โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพหรือเชียงใหม่ หาล้อที่เหมาะกับแจ๊สได้ไม่ยาก นอกจาก PCD แล้ว เวลาเลือกล้อต้องดูเรื่องขนาดรูกลางล้อ (CB) และระยะออฟเซ็ต (ET) ด้วย เพื่อให้ล้อที่ติดตั้งแล้วทำงานได้สมบูรณ์กับระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวรถ ป้องกันปัญหาเวลาขับอย่างการสั่นหรือสึกหรอเร็ว ส่วนสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก แนะนำให้เลือกวัสดุล้อที่ทั้งเบาและระบายความร้อนดี เช่น อลูมิเนียม จะช่วยประหยัดน้ำมันและช่วยระบายความร้อนให้เบรกได้ดีขึ้น
Q
รถฮอนด้า แจ๊ส มี Apple CarPlay หรือไม่
สำหรับรถฮอนด้า Jazz รุ่นล่าสุดที่วางขายในตลาดไทย (บางตลาดอาจเรียกว่า Fit) แบบรุ่นท็อปนั้นมีการติดตั้งระบบ Apple CarPlay มาให้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้ได้รับความนิยมมากในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เพราะช่วยให้เชื่อมต่อกับ iPhone ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งระบบนำทาง ฟังเพลง หรือโทรศัพท์ แต่ต้องระวังว่ารุ่นและปีการผลิตที่ต่างกันอาจมีสเปกไม่เหมือนกัน แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกับโชว์รูมฮอนด้าในไทยก่อนซื้อจริง สำหรับคนไทยแล้ว Apple CarPlay ถือเป็นตัวช่วยชั้นดี โดยเฉพาะในเมืองติดรถติดอย่างกรุงเทพฯ ที่สามารถใช้เสียงสั่งงานผ่าน Siri ลดการเสียสมาธิขณะขับรถได้ ถ้าหากรุ่นของคุณไม่มี CarPlay ติดตั้งมาแต่แรก ในไทยก็มีอู่ติดตั้งรถยนต์มาตรฐานที่สามารถเพิ่มเติมระบบนี้ได้ แต่ควรเลือกอุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานกฎหมายการขนส่งไทยเพื่อความปลอดภัย นอกจาก CarPlay แล้ว รถใหม่ๆ ในตลาดไทยตอนนี้หลายรุ่นยังรองรับ Android Auto ด้วย ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ iPhone และ Android โดยฟังก์เจอร์เชื่อมต่อสมาร์ทเหล่านี้กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนรุ่นใหม่ในไทยใช้ตัดสินใจเลือกซื้อรถเลยทีเดียว
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Honda Jazz คืออะไร
ยางติดรถจากโรงงานของ Honda Jazz ในตลาดประเทศไทยจะแตกต่างกันตามปีรุ่นและระดับการตกแต่ง โดยทั่วไปจะใช้ยี่ห้อญี่ปุ่นที่พบได้บ่อย เช่น Bridgestone Dunlop หรือ Yokohama ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความนิยมสูงในไทยและเหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศ เช่น ยางซีรีส์ ECOPIA ของ Bridgestone ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและทนทาน เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ผู้ใช้รถในไทยควรพิจารณาสภาพอากาศที่มีฝนตกบ่อย โดยแนะนำให้ตรวจสอบค่าการยึดเกาะบนถนนเปียก เช่น ระดับ Traction จากมาตรฐาน UTQG และเนื่องจากสภาพถนนในไทยมีความหลากหลาย จึงควรเลือกยางที่มีความแข็งแรงของแก้มยางที่เหมาะสม หากต้องการเปลี่ยนยางที่ไม่ใช่ของเดิมจากโรงงาน แนะนำให้ตรวจสอบสัญลักษณ์รับรองมาตรฐาน TISI จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้มั่นใจว่ายางนั้นปลอดภัยต่อการใช้งานในประเทศไทย ยางแบรนด์ระดับสากล เช่น Michelin ที่มีการผลิตในไทยก็เป็นทางเลือกที่ดี ทั้งในด้านความคุ้มค่าและการบริการหลังการขาย
Q
รถฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ดีหรือไม่ เรียนรู้ข้อดีและข้อเสียที่นี่
รถฮอนด้า แจ๊ส เป็นรถขนาดเล็กที่ขายดีในตลาดไทย ด้วยขนาดตัวรถที่คล่องตัวเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ประหยัดน้ำมันเหมาะกับราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูงในไทย แถมยังใช้แนวคิด MM (ย่อมากสุด ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ทำให้มีพื้นที่เก็บของเยอะกว่าเพื่อนร่วมรุ่น โดยเฉพาะระบบเก้าอี้แบบ Magic Seat ที่ปรับได้ตามต้องการสำหรับของชิ้นใหญ่ ข้อเสียคือเวลาขับเร็วเสียงรบกวนค่อนข้างได้ยินชัด และเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรุ่นอาจขาดฟีเจอร์เทคโนโลยีไปบ้าง สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบแอร์เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพการทำความเย็น และเนื่องจากถนนไทยค่อนข้างหลากหลายควรระวังเรื่องการป้องกันช่วงล่าง ส่วนเรื่องค่าขายต่อรถฮอนด้าแจ๊สถือว่าคงตัวดี มีศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับครอบครัวที่มีงบประมาณประมาณ 6-8 แสนบาทนับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนซื้อแนะนำให้ลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันและลองทดลองขับดูให้เหมาะกับความต้องการจริงๆ ของคุณ
Q
ความกว้างของฮอนด้า แจ๊ซคือเท่าไหร่
ความกว้างของรถ Honda Jazz แต่ละรุ่นจะแตกต่างกันไป บางรุ่นมีความกว้าง 1695 มม. เช่น Honda Jazz 1.5 S MT, 1.5 S CVT, 1.5 V, 1.5 V+ รุ่นปี 2020 ส่วนรุ่น Honda Jazz 1.5 RS CVT และ 1.5 RS+CVT ปี 2020 ก็มีความกว้างเท่ากันที่ 1695 มม. เช่นกัน ความกว้างของรถหมายถึงระยะห่างระหว่างจุดที่ยื่นออกมาทั้งสองด้านของตัวรถ (ไม่รวมกระจกมองหลัง ไฟสัญญาณข้าง ไฟเลี้ยว ตะกั่วยางยืด หรือส่วนที่ยางสัมผัสกับพื้น) โดยวัดในแนวขนานกับระนาบสมมาตรตามยาวของตัวรถ ความกว้างของรถมีผลต่อพื้นที่โดยสารและความคล่องตัว สำหรับรถยนต์โดยสารทั่วไป หากต้องการให้มีพื้นที่กว้างพอสำหรับการจัดวางเบาะนั่งสามตำแหน่งในแนวขวาง รถควรมีความกว้างประมาณ 1.8 เมตรขึ้นไป

ข้อดี

มีลักษณะทางการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมสำหรับคนรุ่นใหม่
ราคาขายมีความทนทาน, ค่าซ่อมบำรุงไม่สูง
ประหยัดน้ำมัน

ข้อเสีย

กำลังการขับขี่ค่อนข้างอ่อนและไม่เสถียร โดยเฉพาะในการขับขี่ความเร็วสูง
การควบคุมทั่วไปเท่านั้น ความรู้สึกทั้งหมดของชั้นล่างไม่ค่อยแข็งแรง

Q&A ล่าสุด

Q
รุ่น Y ปี 2025 มีก้านควบคุมหรือไม่
ตามข้อมูลปัจจุบัน Tesla Model Y รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยอาจยังคงแนวโน้มการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ โดยตัดการใช้งานคันโยกเปลี่ยนเกียร์แบบกายภาพ (stalk) ออก และปรับมาใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสกลางหรือปุ่มบนพวงมาลัยแทน การออกแบบนี้ได้ถูกนำไปใช้ในรุ่นท็อปบางรุ่นในตลาดต่างประเทศเพื่อให้ห้องโดยสารเรียบง่ายขึ้นและเพิ่มความทันสมัย สำหรับผู้ใช้ในไทย การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย แต่ระบบสัมผัสของ Tesla มีตรรกะการใช้งานค่อนข้างตรงไปตรงมา และศูนย์บริการในไทยมักให้คำแนะนำเรื่องการใช้งาน ควรสังเกตว่าอากาศร้อนและฝนชุกของไทยทำให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีความเสถียรสูง แต่การออกแบบฮาร์ดแวร์ของ Tesla ผ่านการทดสอบในสภาพร้อนชื้นเพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือ หากผู้บริโภคชอบปุ่มกายภาพ สามารถรอดูว่ามีอุปกรณ์เสริมจากผู้ผลิตรายอื่นหรือไม่ หรือเลือกแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นอื่นที่ยังคงมีดีไซน์ดั้งเดิม เช่น รถญี่ปุ่นบางรุ่นที่ในไทยยังมีทางเลือกแบบไฮบริดผสม แนะนำให้จองทดลองขับก่อนซื้อเพื่อทำความคุ้นเคยกับวิธีการใช้งาน ขณะเดียวกันโชว์รูม Tesla บางแห่งในไทยมีรถรุ่น 2024 ให้ทดลองใช้งานล่วงหน้าเพื่อเข้าใจตรรกะการควบคุมที่คล้ายกัน
Q
รถ Tesla Model Y ปี 2025 มีหน้าจอด้านหลังหรือไม่
ตามข้อมูลที่มีการเปิดเผยในปัจจุบัน Tesla Model Y รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเพิ่มหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังหรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการอัปเกรดของ Tesla ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น Model S และ Model X ที่ติดตั้งหน้าจอความบันเทิงด้านหลังแล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ Model Y รุ่นใหม่จะตามรอยการออกแบบนี้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารตอนหลัง โดยเฉพาะในบริบทของครอบครัวชาวไทยที่ใช้รถกันจำนวนมาก หน้าจอหลังจะมีประโยชน์อย่างมากทั้งในการเดินทางระยะไกลหรือเพื่อความบันเทิงของเด็กๆ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย เจ้าของรถควรใส่ใจเรื่องการป้องกันแสงสะท้อนและการระบายความร้อนของหน้าจอ นอกจากนี้ฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA ของ Tesla ยังช่วยให้ระบบได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในห้องโดยสาร ควรศึกษารุ่นคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน เช่น BYD Atto 3 หรือ MG ZS EV ซึ่งแม้ว่าฟังก์ชันและการปรับจูนของแต่ละแบรนด์จะแตกต่างกัน แต่ก็เป็นประโยชน์ในการทดลองขับและเปรียบเทียบตามความต้องการจริง
Q
ราคา Tesla Model Y ปี 2025 จะอยู่ที่เท่าไหร่
ขณะนี้ราคาอย่างเป็นทางการของ Tesla Model Y รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศจากทางบริษัท แต่เราสามารถคาดการณ์ราคาโดยอ้างอิงจากแนวโน้มราคาในตลาดไทยและนโยบายการตั้งราคาระดับโลกของ Tesla ปัจจุบัน Model Y รุ่นพื้นฐาน (Rear-Wheel Drive Standard Range) ในไทยเริ่มต้นที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากปัจจัยเช่นต้นทุนแบตเตอรี่ อัตราแลกเปลี่ยน และนโยบายภาษีของไทย คาดว่ารุ่นปี 2025 อาจมีการปรับขึ้นเล็กน้อยจากราคาปัจจุบัน แต่ไม่น่าจะสูงมากนัก โดยเฉพาะในเมื่อรัฐบาลไทยยังคงมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้าอยู่ ผู้บริโภคไทยควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคารถ เช่น ภาษีนำเข้า (ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำสำหรับรถ EV) ค่าจดทะเบียน และประกันภัย ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อราคาสุดท้ายที่ต้องจ่าย ทั้งนี้ Tesla เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดไทยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากมีการขยายเครือข่าย Supercharger ในพื้นที่หลักอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และบริการที่ปรับให้เหมาะกับคนไทยมากขึ้น เช่น ในปี 2024 Tesla เริ่มให้บริการวินิจฉัยปัญหารถผ่านระบบออนไลน์ (OTA) ซึ่งสร้างความสะดวกให้กับเจ้าของรถอย่างมาก สำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อ แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือโชว์รูมในท้องถิ่น เนื่องจากทางบริษัทอาจมีการปรับราคาตามโปรโมชันรายไตรมาสหรือสถานการณ์สต็อก และควรเปรียบเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ ในตลาดไทยเช่น BYD ATTO 3 หรือ MG ZS EV ที่มีจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าและเครือข่ายบริการหลังการขายเช่นกัน
Q
เครื่องยนต์ 2.0 ใน Honda Accord 2020 คืออะไร
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรของฮอนด้าแอคคอร์รุ่นปี 2020 เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ประสิทธิภาพสูงจากซีรีส์ i-VTEC ของฮอนด้า ออกแบบมา 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดประมาณ 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งในเมืองและบนทางหลวงของไทย พร้อมประหยัดน้ำมันได้ดี แถมเทคโนโลยีเครื่องยนต์นี้พัฒนามาอย่างดี มีค่าใช้จ่ายดูแลรักษาต่ำ เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม มีอะไหล่พร้อมให้บริการสะดวกสบาย จุดเด่นคือเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยจะได้รับผลกระทบจากความร้อนน้อยกว่าเครื่องยนต์เทอร์โบ แถมยังเสถียรกว่าและไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง เหมาะกับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปที่ปั๊มทั่วไทย สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯเป็นประจำ เครื่องยนต์นี้ยังให้การควบคุมที่ดีในความเร็วต่ำอีกด้วย ในกลุ่มรถยนต์ระดับเดียวกัน แอคคอร์รุ่น 2.0L ได้รับความนิยมในตลาดไทยจากความทนทานและปัญหาเรื่องซ่อมบำรุงน้อย ถือเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือทั้งสำหรับครอบครัวและงานธุรกิจ
Q
2020 Accord เป็น V-6 หรือไม่
รถฮอนด้าแอคคอร์ดรุ่นปี 2020 ในตลาดไทยไม่ได้มีตัวเลือกเครื่องยนต์ V6 ให้เลือกใช้ แต่ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ขนาด 1.5T และ 2.0T รวมถึงระบบไฮบริด 2.0L ซึ่งการจัดวางกำลังเครื่องแบบนี้ตอบโจทย์ตลาดไทยทั้งในเรื่องความประหยัดน้ำมันและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันก็ยังให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอสำหรับการใช้งานจริง ส่วนเหตุผลที่คนไทยนิยมรถรุ่นนี้ก็เพราะความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ชัดเจนในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจคือเทรนด์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกตอนนี้กำลังลดการใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ หันมาใช้เทคโนโลยีเทอร์โบหรือระบบไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงแทน ซึ่งไม่เพียงช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า สำหรับผู้ใช้รถไทย แอคคอร์ดในรุ่นปัจจุบันถือว่าตอบโจทย์การขับขี่ทุกรูปแบบ ทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปทางไกล แถมยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นเวลาต้องใช้งานจริง
ดูเพิ่มเติม