Q

Toyota Sienta ดีไหม

Toyota Sienta เป็นรถ MPV ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมในตลาดไทย ด้วยดีไซน์ภายในที่ยืดหยุ่นและฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน เหมาะสมกับสภาพถนนในเมืองและไลฟ์สไตล์ครอบครัวไทยเป็นอย่างดี Sienta มีการจัดวางห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง พร้อมระบบพับเบาะหลังที่ปรับได้ตามความต้องการ ช่วยให้ทั้งขนคนและของสะดวกขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวที่ต้องรับส่งลูกหรือมีของเยอะระหว่างเดินทาง ส่วนด้านสมรรถนะ Sienta ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบธรรมชาติคู่กับเกียร์ CVT ที่ให้การทำงานลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในไทย นอกจากนี้ ขนาดตัวถังที่กะทัดรัดทำให้จอดง่าย และความสูงของช่วงล่างก็เหมาะสมกับสภาพถนนไทย สำหรับฟีเจอร์ภายใน Sienta มีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน จอทัชสกรีนระบบมัลติมีเดีย ที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะขับขี่ ด้านความปลอดภัยก็มีระบบ ABS EBD และถุงลมนิรภัยหลายจุด ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารได้ระดับหนึ่ง ที่สำคัญ Sienta ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูงและด้วยเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าที่ครอบคลุมทั่วไทย ทำให้สะดวกเมื่อต้องเข้าศูนย์บริการ หากคุณกำลังมองหา MPV ขนาดเล็กที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งประหยัด คุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง Sienta ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการรถสารพัดประโยชน์แบบครบจบในคันเดียว
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
"รถ Sienna รุ่นปี 2022 ทั้งหมดเป็นไฮบริดหรือไม่?"
ไม่ใช่หรอกครับ รุ่น Sienta ปี 2022 นั้นไม่ได้เป็นรถไฮบริดทั้งหมด รุ่นที่ 3 ของ Sienta ที่ออกมาปีนั้นพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-B มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์สองแบบ คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบธรรมดากับระบบไฮบริด 1.5 ลิตร รุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดามีเกียร์ Direct Shift-CVT ส่วนระบบไฮบริด 1.5 ลิตรใช้เทคโนโลยี Atkinson cycle คู่กับแบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัลไฮไดรด์และเกียร์ E-CVT ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ตามความต้องการรุ่นเบนซินสามารถตอบสนองผู้ใช้ที่มีความต้องการสำหรับรถยนต์เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมรุ่นไฮบริดเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่แสวงหาการประหยัดพลังงานและมีประสิทธิภาพสูงทางเลือกที่หลากหลายนี้เสริมสร้างสายผลิตภัณฑ์ของ Sienta และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน
Q
Toyota Sienna ปี 2022 เป็นรถรุ่นที่เท่าไร?
รถ Toyota Sienna รุ่นปี 2022 นั้นเป็นรุ่นที่ 4 ของซีรีส์ โดยรุ่นนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-K ของโตโยต้า ซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีไฮบริดและความใช้งานได้จริงสำหรับครอบครัวมากกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างชัดเจน สำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงดีไซน์โดยรวมเหมือนรุ่นที่ 4 ทุกประการ พร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด 2.5 ลิตร 4 สูบมาตรฐานที่ให้ประหยัดน้ำมันได้ดีมาก เหมาะสมทั้งการเดินทางไกลหรือใช้ชีวิตประจำวันในเมือง นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย TSS 2.0 มาตรฐานทุกรุ่น ซึ่งรวมฟังก์ชั่นเด็ดๆ เช่น การเตือนการชนและช่วยควบคุมเลน สำหรับตลาดไทยแล้ว รถคันนี้โดดเด่นด้วยการจัดวางห้องโดยสารแบบ 7 หรือ 8 ที่นั่งที่ปรับได้ตามความต้องการ พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองข้างและพื้นที่เก็บของท้ายรถที่กว้างขวาง ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัว โดยเฉพาะระบบไฮบริดที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดได้ชัดเจน ส่วนเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ รุ่นที่ 4 นี้ได้รับการปรับแต่งช่วงล่างให้มีความมั่นคงมากขึ้น พร้อมลดเสียงรบกวนได้ดีกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสบายเป็นพิเศษ ข้อควรระวังคือ แบตเตอรี่ของระบบไฮบริดจะติดตั้งอยู่ใต้เบาะแถวสอง ซึ่งไม่กินพื้นที่ภายในรถ แต่แนะนำให้ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นระยะที่ศูนย์บริการเพื่อความมั่นใจในระยะยาว
Q
รถ Sienna 2022 เป็นไฮบริดทั้งหมดใช่หรือไม่?
ไม่ใช่หรอก รถ Toyota Sienta ปี 2022 ไม่ได้เป็นรุ่น Hybrid ทั้งหมด จากข้อมูลรุ่นที่ให้มา พบว่า Toyota Sienta 1.5 G CVT 2022 และ Toyota Sienta 1.5 V CVT 2022 เป็นรุ่นที่ใช้เชื้อเพลิงแบบเบนซิน ไม่ใช่ระบบ Hybrid ประเภทของเครื่องยนต์นอกจากแบบเบนซินและ Hybrid แล้ว ยังมีแบบดีเซล, แบบไฟฟ้า 100% และแบบไฮโดรเจนอีกด้วย รถดีเซลจะมีแรงบิดสูง มักใช้กับรถบรรทุก ส่วนรถไฟฟ้าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเงียบกว่า แถมระยะทางวิ่งก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามการพัฒนาของเทคโนโลยี ส่วนรถไฮโดรเจนนั้นปล่อยแค่น้ำออกมา เป็นพลังงานที่สะอาดมาก แต่ตอนนี้โครงสร้างพื้นฐานยังไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่ละประเภทก็มีจุดเด่นต่างกันไป ผู้บริโภคก็เลือกใช้ตามความต้องการของตัวเองได้เลย
Q
ควรหลีกเลี่ยง Sienna ปีไหน?
จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญและความคิดเห็นของผู้ใช้ รุ่น Toyota Sienna ปี 2011 และ 2017 มีปัญหาค่อนข้างมาก แนะนำให้คิดดีก่อนซื้อ สำหรับรุ่นปี 2011 ปัญหาที่พบบ่อยคือเกียร์กระตุกและระบบอิเล็กทรอนิกส์ขัดข้อง ส่วนรุ่นปี 2017 มักได้รับคำร้องเรียนเกี่ยวกับประตูสไลด์เสียบ่อยและเครื่องยนต์รั่วน้ำมัน ถ้าคิดจะซื้อ Sienna มือสอง แนะนำให้เลือกรุ่นที่ปรับโฉมหลังปี 2018 เป็นต้นไป เพราะความน่าเชื่อถือและอุปกรณ์เทคโนโลยีดีขึ้นอย่างชัดเจน Sienna เป็นรถครอบครัวที่ขายดีในไทย อะไหล่ซ่อมบำรุงหาไม่ยาก แต่เวลาซื้อควรตรวจสอบประวัติการบริการให้ดี โดยเฉพาะรถที่ใช้งานเดินทางไกลบ่อยๆ ต้องเช็คสภาพช่วงล่างและระบบส่งกำลังให้ละเอียด รุ่น Hybrid ของ Sienna ประหยัดน้ำมันมาก เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยว แต่ต้องตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ดีด้วย ไม่ว่าจะเลือกรุ่นปีไหน แนะนำให้ซื้อผ่านช่องทางทางการหรือตัวแทนจำหน่ายรถมือสองรับประกัน พร้อมเก็บประวัติการซ่อมบำรุงให้ครบถ้วน เพื่อการใช้งานที่ราบรื่นในระยะยาว
Q
วิธีสตาร์ทรถ Toyota Sienna ปี 2022 เมื่อกุญแจรีโมทแบตเตอรี่หมด
ถ้าสมาร์ทคีย์ของ Toyota Sienna รุ่นปี 2022 หมดแบตเตอรี่ คุณยังสามารถใช้กุญแจกลและวิธีสตาร์ทรถฉุกเฉินได้ โดยขั้นแรกให้หาปุ่มกุญแจกลที่ซ่อนอยู่ด้านข้างของกุญแจ กดแล้วดึงกุญแจสำรองออกมา ใช้กุญแจนี้เปิดฝาครอบช่องกุญแจที่ด้ามเปิดประตูด้านคนขับ เสียบแล้วหมุนเพื่อปลดล็อคประตู เมื่อเข้าไปในรถแล้ว ให้วางกุญแจชิดกับปุ่มสตาร์ท (ปกติหน้าปัดจะแสดงข้อความว่า "ตรวจพบกุญแจ") จากนั้นเหยียบเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทเพื่อติดเครื่องยนต์ วิธีนี้ใช้เทคโนโลยีการรับสัญญาณจากเสาอากาศความถี่ต่ำของระบบในรถ แม้แบตเตอรี่กุญแจจะหมดแต่ระบบยังสามารถระบุชิปเข้ารหัสได้ ควรระวังว่าในชีวิตประจำวันต้องตรวจสอบระดับแบตเตอรี่กุญแจ (รุ่น CR2032) เป็นประจำ หากระยะการทำงานของรีโมตสั้นลงหรือมีข้อความเตือนว่า "แบตเตอรี่กุญแจอ่อน" ควรเปลี่ยนทันที บางศูนย์บริการอาจตรวจสอบสถานะกุญแจให้ฟรีเมื่อนำรถไปทำตามระยะ นอกจากนี้แนะนำให้เก็บกุญแจกลไว้ในที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการวางใกล้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นโทรศัพท์มือถือเพราะอาจก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน ถ้าหากพบปัญหากุญแจใช้งานไม่ได้บ่อยๆ อาจเกิดจากแหล่งกำเนิดคลื่นแม่เหล็กแรงสูงในบริเวณใกล้เคียง เช่น สถานีฐานโทรคมนาคมหรือสายไฟแรงดันสูง ในกรณีนี้ลองเปลี่ยนตำแหน่งในการสตาร์ทรถดู หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อตรวจสอบระบบป้องกันการขโมยของกุญแจว่าทำงานปกติหรือไม่
Q
รถ Toyota Sienna ปี 2022 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
รถ Toyota Sienta รุ่นปี 2022 เป็นรถ MPV ที่ตอบโจทย์การใช้งานครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ระบบไฮบริดของมันประหยัดน้ำมันสุดๆ โดยเฉพาะเวลาขับในเมืองที่รถติดบ่อย เผาผลาญแค่ 5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำหรับคนที่ต้องเจอรถติดประจำ มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบแบบไฮบริดคู่กับเกียร์ E-CVT ที่ให้กำลังส่งเนียนเงียบ ส่วนบรรยากาศในรถก็กว้างขวาง นั่งสบาย โดยเฉพาะเบาะแถวสองที่ปรับได้หลากหลายตามความต้องการ ด้านความปลอดภัยก็ครบครันด้วยระบบ Toyota Safety Sense 2.0 ที่มีทั้งระบบเตือนก่อนชน ช่วยควบคุมเลน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทำให้การเดินทางกับครอบครัวอุ่นใจกว่าเดิม ในตลาดบ้านเรายังมีศูนย์บริการครบวงจร อะไหล่ก็หาง่าย ค่าดูแลรักษาไม่สูงมาก แถมยังใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K ที่ช่วยให้การควบคุมทรงตัวดีกว่ารุ่นก่อน แม้ตัวรถจะใหญ่แต่เข้าโค้งก็ไม่โคลงเคลงมาก สำหรับใครที่ต้องรับส่งลูกหรือพาครอบครัวท่องเที่ยวบ่อย พื้นที่เก็บของของมันยังได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้จริง ส่วนท้ายรถยังคงสามารถวางเบาะนั่งแถวที่สามได้หลายแบบเมื่อยืนขึ้น
Q
รถ Toyota Sienna ปี 2022 เป็นไฮบริดหรือไม่?
แน่นอนว่า Toyota Sienna รุ่นปี 2022 ทุกรุ่นมาพร้อมระบบไฮบริดมาตรฐาน ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 245 แรงม้า คู่กับเกียร์ E-CVT ซึ่งช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมากโดยเฉพาะในเมืองที่การจราจรหนาแน่นแบบบ้านเรา ตัวรถใช้เทคโนโลยีไฮบริดรุ่นที่ 4 ของ Toyota โดยติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้ที่นั่งแถวหลังอย่างชาญฉลาด ไม่กินพื้นที่ภายในรถ แถมยังมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและ 4 ล้อให้เลือก สำหรับรุ่น 4 ล้อจะมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหลังช่วยเพิ่มความมั่นคงบนถนนลื่นๆ ที่เด็ดกว่านั้นคือระบบไฮบริดของ Sienna ไม่ต้องเสียบชาร์จ แค่ใช้ระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรกและระบบ Start-Stop อัตโนมัติก็เติมพลังงานให้แบตเตอรี่ได้แล้ว ใช้ง่ายมาก ในตลาดรถ MPV ไฮบริดนี่มีให้เลือกไม่มาก Sienna จึงกลายเป็นตัวท็อปสำหรับครอบครัวด้วยเทคโนโลยีไฮบริดอันเชี่ยวชาญของ Toyota และพื้นที่กว้างขวางสำหรับ 7 ที่นั่ง ถ้าคิดถึงราคาน้ำมันและเทรนด์รักษ์แวดล้อมในตอนนี้ รถไฮบริดยิ่งใช้ยิ่งคุ้ม เพราะประหยัดค่าดูแลรักษาในระยะยาว แบตเตอรี่ยังรับประกันยาวๆ 8 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร หมดห่วงได้เลย
Q
2022 Toyota Sienna LE มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกลหรือไม่?
รุ่น Toyota Sienna LE ปี 2022 บางคันมีระบบ Remote Start นะ แต่ต้องเช็คให้ชัวร์ว่าคันนั้นติดตั้ง Option นี้มาหรือเปล่า เพราะรุ่นพื้นฐานอาจจะไม่มีฟีเจอร์นี้ ถ้าอยากใช้ลองกดปุ่ม Remote Start ที่กุญแจรถหรือผ่านแอป Toyota ก็ได้ ระบบนี้ช่วยได้มากเวลาอากาศร้อนๆ อยากให้แอร์ทำงานก่อนขึ้นรถ เรื่องระบบ Remote Start ตอนนี้รถส่วนใหญ่จะใช้สองแบบคือ รับสัญญาณจากกุญแจหรือควบคุมผ่านแอปมือถือ บางรุ่นแพงๆอาจใช้สมาร์ทวอทช์หรือสั่งงานด้วยเสียงก็มี แต่ต้องระวังเรื่องสัญญาณให้ดี และไม่ควรให้เครื่องยนต์เดินเบาต่อเนื่องเกิน 10-15 นาที เดี๋ยวเปลืองน้ำมันแถมมีปัญหาเรื่องไอเสียด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหา Sienna มือสอง แนะนำให้เช็คระบบ Remote Start ให้ดีว่าใช้งานได้ปกติไหม เพราะระบบนี้เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าและ ECU ถ้าคนก่อนหน้าไปดัดแปลงอะไรมา อาจทำให้ระบบไม่เสถียรได้ ส่วนรถ MPV คลาสเดียวกันอย่าง Honda Odyssey ก็มีฟีเจอร์นี้เหมือนกัน แต่รายละเอียดอาจต่างกันนิดหน่อย บางรุ่นต้องซื้อ Option เพิ่ม
Q
Toyota Sienna มีค่าบำรุงรักษาแพงไหม?
รถ Toyota Sienta ในฐานะรถเอ็มพีวีนำเข้าที่ประเทศไทย ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจะสูงกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศเล็กน้อย แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล ค่าบำรุงรักษาพื้นฐานอย่างการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับรถนำเข้าขนาดเดียวกัน ส่วนราคาอะไหล่หลักจะสูงกว่าหน่อยเพราะต้องนำเข้า แต่ระบบซัพพลายเชนของ Toyota สามารถรับประกันความมั่นคงได้ รถรุ่นนี้ใช้ระบบไฮบริด 2.5 ลิตรที่เทคโนโลยีที่ครบถ้วน มีอัตราเสียหายต่ำ การใช้งานระยะยาวจะช่วยลดความถี่ในการซ่อมแซม แถมศูนย์บริการในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังมีประกันให้ถึง 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตรอีกด้วย ที่น่าสนใจคือแบตเตอรี่ของรถไฮบริดมักมีอายุการใช้งานถึง 8-10 ปี แค่ต้องระวังไม่จอดตากแดดนานๆ ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนเป็นประจำ ถ้าเลือกใช้บริการอู่ซ่อมเอกชนค่าใช้จ่ายอาจลดลง 20%-30% แต่ต้องมั่นใจว่าช่างมีคุณสมบัติในการทำงานกับระบบไฮบริด เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน ซีเอนนายังมีอัตราคงมูลค่าสูงซึ่งช่วยชดเชยค่าดูแลรักษาไปบางส่วน สำหรับผู้ใช้ครอบครัว จุดเด่นที่ยังคงเหนือกว่าคือความสะดวกในการใช้งานและความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม
Q
ปัญหาทั่วไปของ Toyota Sienna LE 2022 คืออะไร?
สำหรับ Sienna LE รุ่นปี 2022 ที่เป็นรถ MPV ไฮบริด ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบจะอยู่ที่ระบบมัลติมีเดียที่อาจมีอาการตอบสนองช้าเป็นบางครั้ง โดยเฉพาะเวลาเชื่อมต่อ CarPlay อาจมีกระตุกบ้าง แต่พออัปเดตระบบที่ศูนย์บริการแล้วก็มักจะหายขาด มีเจ้าของรถบางรายแจ้งว่าช่วงอากาศร้อนชื้นๆ แผงคอนโซลหน้าบางทีอาจมีเสียงลั่นนิดหน่อยจากชิ้นส่วนพลาสติก แนะนำให้ใช้น้ำยาบำรุงภายในรถเป็นประจำจะช่วยลดปัญหาการขยายตัวจากความร้อนได้ ส่วนเรื่องระบบเบรกที่เป็นไฮบริดนั้น เวลาเปลี่ยนจากการชาร์จแบตกลับมาใช้เบรกปกติอาจรู้สึกถึงความแตกต่างนิดๆ แต่เป็นเรื่องปกติ พอขับไปสักพักก็ชินเอง ไม่มีผลต่อความปลอดภัย ต้องบอกเลยว่าระบบไฮบริด 2.5L ของคันนี้ประหยัดน้ำมันมากๆ โดยเฉพาะเวลาติดถนนในเมือง แต่ต้องอย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัล ไฮไดรด์ตามกำหนด ซึ่งศูนย์บริการทั่วไปจะแนะนำให้ตรวจทุก 30,000 กิโลเมตร เนื่องจากตัวรถค่อนข้างยาว เวลาถอยในซอยแคบๆ ควรใช้กล้องถอยหลังที่มากันเป็นมาตรฐานทุกคัน แต่ถ้าติดตั้งระบบกล้องรอบคันเพิ่มเติมก็จะสะดวกขึ้นอีก ในช่วงฤดูฝนแนะนำให้ตรวจสอบรูระบายน้ำในช่องเก็บยางสำรองด้วยว่าไม่มีอะไรอุดตัน เพื่อป้องกันน้ำขัง ส่วนรางประตูสไลด์ไฟฟ้าควรทำความสะอาดเป็นประจำ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ ควรเป่าด้วยลมแรงทุกเดือนจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ดี
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

ห้องนั่งกว้างขวางเพื่อรถโดยสารที่สบาย
ประหยัดน้ำมันช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมัน
คุณภาพของยุคโตโยต้าที่เชื่อถือได้เพื่อสุขสันติสุขใจ
การตั้งค่าการนั่งแบบยืดหยุ่นเพื่อความหลากหลาย
ดีไซน์ที่สวยงามที่ชอบใจหลายคน

ข้อเสีย

กำลังการผลิตที่จำกัดสำหรับความต้องการบางอย่าง
แถวที่สามอาจขาดความสบายเพียงพอ
ห้องเก็บของขนาดเล็กสำหรับบรรทุกสิ่งมวลขนาดใหญ่
ระบบไฮบริดอาจต้องการการปรับปรุง

Q&A ล่าสุด

Q
วิธีตรวจสอบอายุการใช้งานน้ำมันเครื่อง Honda CR-V 2022
หากต้องการตรวจสอบอายุการใช้งานน้ำมันเครื่องของ Honda CR-V รุ่นปี 2022 สามารถทำได้ผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลของรถ โดยเริ่มจากการสตาร์ทรถ จากนั้นใช้ปุ่มควบคุมด้านขวาของพวงมาลัยเพื่อเลือกเมนู "การตั้งค่ารถ" หรือ "การบำรุงรักษา" เมื่อเข้าไปแล้วให้เลือก "อายุการใช้งานน้ำมันเครื่อง" เพื่อดูเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่ ระบบจะคำนวณอายุการใช้งานน้ำมันเครื่องอัตโนมัติจากระยะทางที่ขับขี่ พฤติกรรมการขับขี่ และสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ แนะนำให้จัดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อเหลือประมาณ 15% นอกจากนี้ การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำก็สำคัญมาก ต้องมั่นใจว่าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีดบนและขีดล่างของก้านวัด หากพบว่าน้ำมันเครื่องมีสีดำหรือมีสิ่งเจือปน ควรเปลี่ยนก่อนกำหนดแม้ว่ายังไม่ถึงรอบการเปลี่ยนก็ตาม ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนบ่อย แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มรูปแบบเพื่อประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนที่ดีกว่า พร้อมทั้งปฏิบัติตามรอบการเปลี่ยนที่แนะนำในคู่มือการบำรุงรักษา ซึ่งปกติจะเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือ 12 เดือน แต่อย่างไรก็ตามควรยึดตามการแจ้งเตือนของรถเป็นหลัก ระหว่างขับขี่ควรหลีกเลี่ยงการขับระยะสั้นบ่อยๆ หรือการเดินเบานานๆ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและส่งผลต่ออายุการใช้งานของเครื่องยนต์
Q
วิธีตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์สำหรับ Honda CR-V ปี 2022
การตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ของ Honda CR-V รุ่นปี 2022 นะครับ ขั้นแรกให้จอดรถบนพื้นระดับแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่ออุ่นเครื่องจนถึงอุณหภูมิทำงานปกติ ปล่อยให้เครื่องเดินเบา จากนั้นเปิดฝากระโปรงหน้ามองหาไม้วัดระดับน้ำมันเกียร์ ดึงออกมาเช็ดให้สะอาดแล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ก่อนจะดึงออกมาอีกครั้ง ตรวจดูว่าระดับน้ำมันอยู่ระหว่างขีด "HOT" บนไม้วัดหรือเปล่า แถมต้องสังเกตสีของน้ำมันเกียร์ด้วยว่าควรเป็นสีแดงสดและไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้ ถ้าเห็นน้ำมันสีดำหรือได้กลิ่นไหม้เมื่อไหร่ ต้องเปลี่ยนทันทีเลย สำหรับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรานี่ แนะนำให้ตรวจสอบน้ำมันเกียร์ทุก 40,000 กิโลเมตรหรือทุก 2 ปีครับ เพราะความร้อนสูงนานๆ จะทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็วเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ดี ซีอาร์-วีรุ่นใหม่บางรุ่นอาจใช้ระบบเกียร์แบบปิดที่ต้องให้ช่างผู้ชำนาญใช้เครื่องมือเฉพาะทางตรวจสอบระดับน้ำมัน ไม่แนะนำให้ลองตรวจเองเด็ดขาดนะครับ เดี๋ยวจะเสียหายได้ น้ำมันเกียร์นี่ไม่ใช่แค่ช่วยหล่อลื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยระบายความร้อนและทำความสะอาดชิ้นส่วนภายในอีกด้วย การดูแลรักษาสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานเกียร์ได้มากเลยนะ โดยเฉพาะใครที่ขับติดรถบ่อยหรือชอบขึ้นเขาลงเขาเนี่ย ต้องระวังเป็นพิเศษ สุดท้ายนี้ ถ้าเจอว่าระดับน้ำมันเกียร์ลดลงผิดปกติละก็ อาจมีปัญหาเรื่องรอยรั่ว ควรไปที่อู่ศูนย์บริการผู้แทนจำหน่ายให้ตรวจสอบให้เร็วที่สุดนะครับ
Q
ความจุน้ำมันเครื่องของ Honda CRV ปี 2022 คือเท่าไหร่?
สำหรับรถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 ในตลาดไทย ความจุน้ำมันเครื่องจะแตกต่างกันตามประเภทเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร (รหัส L15B) ที่นิยมในไทย จะใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 3.7 ลิตรเมื่อเปลี่ยนพร้อมไส้กรอง แต่ถ้าไม่เปลี่ยนไส้กรองจะใช้ประมาณ 3.5 ลิตร แนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรเกรด 0W-20 ตามที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือน แล้วแต่ระยะไหนมาถึงก่อน แต่ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยอาจต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้นหน่อย เวลาเลือกน้ำมันเครื่องให้ดูสัญลักษณ์มาตรฐาน API ระดับ SN หรือ SP จะเหมาะกับเครื่องยนต์สมัยใหม่ บางคนอาจเลือกใช้เกรดสูงขึ้นถ้าต้องใช้งานหนักหรือขับทางไกลบ่อยๆ นอกจากนี้เวลาบำรุงรักษาควรตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์และน้ำมันเบรคไปด้วย เพราะของเหลวเหล่านี้สำคัญต่อความปลอดภัย ถ้าเห็นว่าน้ำมันเครื่องลดลงเร็วกว่าปกติอาจเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ก็ควรเช็คให้ชัวร์ว่าไม่มีรอยรั่ว
Q
ฉันควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใน Honda CRV ปี 2022 บ่อยแค่ไหน?
สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง Honda CR-V รุ่นปี 2022 แนะนำให้ปฏิบัติตามที่บริษัทฮอนด้ากำหนดไว้ คือเปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 12 เดือน (แล้วแต่อย่างไหนถึงก่อน) ซึ่งมาตรฐานนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดและอากาศร้อนในเมืองไทยโดยเฉพาะ แต่ถ้าใช้รถในสภาพแวดล้อมที่โหดขึ้น เช่น บริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก หรือขับแค่ระยะสั้นแล้วจอดบ่อยๆ อาจต้องเปลี่ยนถี่ขึ้นเป็นทุก 8,000 กิโลเมตรเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีที่สุด ข้อควรระวังคืออากาศร้อนชื้นของไทยทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็ว ดังนั้นควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เต็มสูตรที่ได้มาตรฐาน API SP หรือ ACEEA C2/C3 โดยเฉพาะรถเทอร์โบ นอกจากนี้ทุกครั้งที่เข้าศูนย์ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องและความสะอาดด้วย ระบบเตือนการเปลี่ยนน้ำมันอัจฉริยะในรถรุ่นใหม่อาจช่วยได้บ้าง แต่การตรวจสอบด้วยมือยังจำเป็น เพราะระบบคำนวณจากระยะทางและภาระเครื่องยนต์เท่านั้น ไม่สามารถบอกสภาพน้ำมันจริงได้ และหากจอดรถไว้นานๆ ควรตรวจสอบน้ำมันเครื่องทุก 6 เดือน แม้ว่ายังไม่ถึงระยะทางที่กำหนดก็ตาม เพราะความชื้นอาจทำให้คุณสมบัติน้ำมันเปลี่ยนไป
Q
2022 Honda CR-V ใช้น้ำมันเครื่องเท่าไหร่?
รถ Honda CR-V รุ่นปี 2022 ความจุน้ำมันเครื่องจะแตกต่างกันตามประเภทเครื่องยนต์นะครับ สำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร (รหัส L15B) เวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องจะใช้ประมาณ 3.7 ลิตร รวมตลับกรองน้ำมันเครื่องแล้ว ถ้าใช้น้ำมันเครื่องเกรดบางอย่างเช่น 0W-20 ที่ตรงตามมาตรฐาน Honda Genuine จะเหมาะกับสภาพอากาศร้อนแบบบ้านเรามากกว่า แนะนำให้เปลี่ยนทุก 10,000 กิโลเมตรหรือ 12 เดือน ดูอย่างไหนถึงก่อนก็ให้เปลี่ยนตามนั้นได้เลย เวลาไปบริการที่ศูนย์ฯ เขาจะใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แบบ OEM แถมตลับกรองกับค่าแรงรวมๆ แล้วประมาณ 2,500-3,000 บาท แต่ต้องระวังหน่อยนะถ้าต้องขับรถระยะสั้นบ่อยๆ ในอากาศร้อนแบบนี้ น้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น อาจต้องเปลี่ยนถี่หน่อยเป็นทุก 8,000 กิโลเมตร แล้วก็ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องด้วยตัวเองบ่อยๆ ว่าอยู่ระหว่างขีด MIN กับ MAX สำหรับรถที่ใช้ระบบ i-MMD Hybrid สเปคน้ำมันเครื่องจะเหมือนกันแต่ช่วงเวลาบำรุงรักษาอาจต่างนิดหน่อย ต้องดูคู่มือรถประกอบด้วย เวลาเลือกน้ำมันเครื่องนอกจากจะดูมาตรฐาน API SN/SP แล้ว ควรหาสัญลักษณ์รับรอง ILSAC GF-6 ด้วย เพราะน้ำมันเครื่องเกรดนี้จะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ดีพิเศษในตอนเย็นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
ดูเพิ่มเติม