Q

ระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าล้วนของ Toyota ในปี 2025

Toyota รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ที่วางแผนจะเปิดตัวในปี 2025 คาดว่าจะมีระยะทางขับขี่อยู่ที่ 500-600 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) โดยตัวเลขอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและความจุแบตเตอรี่ เช่น รุ่นที่ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตทรุ่นใหม่อาจทำระยะทางได้ไกลกว่า เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในประเทศไทยอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะเพื่อรักษาอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับเหมาะสม ส่วนการชาร์จด้วยสถานีเร็ว DC สามารถเติมไฟได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ปัจจุบันรถ EV ทั่วไปสามารถวิ่งจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ (ประมาณ 700 กม.) โดยแวะชาร์จเร็วแค่ครั้งเดียว ส่วนการใช้งานในเมืองอาจชาร์จเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ระยะทางจริงอาจขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ การใช้แอร์ และสภาพการจราจร แนะนำให้ใช้ระบบตรวจสอบพลังงานในรถเพื่อปรับการขับขี่ให้เหมาะสม นอกจากนี้ รุ่น EV ของ Toyota อาจติดตั้งเทคโนโลยีหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อช่วยชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานพลังงานในพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงพออย่างประเทศไทย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

Q&A ล่าสุด

Q
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าลดลงในปี 2025 หรือไม่?
การที่ยอดขายรถไฟฟ้าในปี 2025 จะลดลงหรือไม่นั้น ต้องดูจากแนวโน้มโลกและสถานการณ์ในประเทศควบคู่กันไป ขณะนี้ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศชี้ให้เห็นว่าตลาดรถไฟฟ้าโลกยังคงเติบโตอยู่ แต่ความเร่งอาจชะลอตัวลงจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การลดหย่อนสวัสดิการรัฐ สาธารณูปโภคที่ยังไม่เพียงพอ เป็นต้น สำหรับตลาดในประเทศ นโยบายสนับสนุนการซื้อรถและการยกเว้นภาษีที่รัฐบาลเปิดตัวในปี 2024 ยังคงมีผลอยู่ นอกจากนี้จำนวนสถานีชาร์จในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ยังเพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้ความต้องการในระยะสั้นยังค่อนข้างมั่นคง สิ่งที่น่าสนใจคือยอดขายรถไฮบริดเมื่อเร็ว ๆ นี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคบางส่วนต้องการสมดุลระหว่างความสะดวกในการชาร์จและความกังวลเรื่องระยะทาง ส่วนในแง่การพัฒนาเทคโนโลยี ปี 2025 จะมีรถต้นแบบที่ใช้แบตเตอรี่โซลิดสเตทออกแสดงหลายรุ่น หากการผลิตจำนวนมากเป็นไปด้วยดี อาจกระตุ้นความสนใจในตลาดอีกครั้ง แนะนำให้ผู้บริโภคเลือกรุ่นรถตามระยะทางเดินทางประจำวันและสภาพการชาร์จที่บ้าน โดยรุ่นระยะทางไกลเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดบ่อย ๆ ส่วนการใช้งานในเมืองอาจเลือกรุ่นพื้นฐานที่มีความคุ้มค่าสูงกว่า ทั้งนี้แผนขยายเครือข่ายสถานีชาร์จจะครอบคลุมพื้นที่บริการบนทางหลวงหลัก ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในการเดินทางไกลได้อีกด้วย
Q
รถยนต์ไฮบริดไฟฟ้า (Hybrid EV) ที่ดีที่สุดในปี 2025 คืออะไร?
คาดว่าในปี 2025 รถยนต์ไฮบริดที่ควรจับตามองจะเน้นไปที่รุ่นที่มีเทคโนโลยีที่ครบถ้วน ประสิทธิภาพการขับขี่สูง และเหมาะกับการใช้งานในท้องถิ่น อย่างเช่น Toyota Prius หรือ Honda Accord Hybrid แบรนด์ญี่ปุ่นเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยระบบไฮบริดที่เชื่อถือได้และค่าบำรุงรักษาต่ำ ในขณะที่แบรนด์จีนอย่าง BYD ก็อาจเปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่มีราคาดึงดูดกว่า เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองหรือทริปสั้นๆ เทคโนโลยีไฮบริดรวมจุดแข็งของรถน้ำมันและรถไฟฟ้าเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่ง ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยมลพิษ ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริดยังสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนสำหรับการเดินทางใกล้ๆ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เมื่อโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จและนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลพัฒนามากขึ้น ความสะดวกและความคุ้มค่าของรถกลุ่มนี้จะเด่นชัดขึ้น ผู้บริโภคควรสนใจไม่เพียงแค่ระยะทางต่อการชาร์จและอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน แต่ยังควรตรวจสอบเครือข่ายบริการหลังการขายในพื้นที่และนโยบายรับประกันแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
Q
โบนัสสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 คืออะไร
นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 คาดว่าจะยังเดินหน้าตามแนวทางเดิม โดยเน้นส่งเสริมการผลิตภายในประเทศและการซื้อรถโดยผู้บริโภค รายละเอียดอาจรวมถึงเงินสนับสนุนการซื้อรถแบบตรงๆ การลดภาษีนำเข้า และสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า แต่จำนวนเงินที่แน่นอนต้องรอประกาศจากทางราชการอย่างเป็นทางการ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะนโยบายเหล่านี้กระตุ้นให้คนหันมาใช้รถรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากเงินช่วยเหลือซื้อรถแล้ว ยังอาจมีมาตรการเสริมเช่นค่าอัดประจุไฟราคาถูกหรือบริการชาร์จฟรีในที่สาธารณะ สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อรถไฟฟ้า ลองติดตามโปรโมชั่นจากแบรนด์ต่างๆ บ้าง เพราะบางค่ายจะรวมสิทธิ์จากรัฐกับส่วนลดของทางร้านเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่าขึ้น พร้อมกันนี้ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นและการผลิตรถในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น จะช่วยให้รถไฟฟ้ามีระยะทางต่อการชาร์จที่ยาวขึ้นและราคาที่แข่งขันได้ดีขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการซื้อรถไฟฟ้า แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติรถแต่ละรุ่นที่ได้รับสิทธิ์สนับสนุนและขั้นตอนการสมัครล่วงหน้า เพื่อจะได้ใช้สิทธิ์ได้ทันทีเมื่อนโยบายมีผลบังคับใช้
Q
เป้าหมาย EV สำหรับปี 2025 คืออะไร?
ตามแผนของรัฐบาลไทย ภายในปี 2568 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คาดว่าจะคิดเป็น 30% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป้าหมายนี้ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย รัฐบาลได้เปิดตัวมาตรการส่งเสริมหลายอย่าง ทั้งการลดภาษีนำเข้า ให้ส่วนลดการซื้อรถ และการขยายสถานีชาร์จให้มากขึ้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะช่วยให้รถ EV เป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างชัดเจน ตอนนี้หลายแบรนด์รถยนต์ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ต่างก็เพิ่มการลงทุนในตลาด EV เปิดตัวรุ่นที่ตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น เช่น SUV ขนาดเล็กและรถเก๋งประหยัดพลังงาน เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย นอกจากนี้ เมื่อเทคโนโลยีแบตเตอรี่พัฒนาขึ้นและมีสถานีชาร์จเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการใช้รถ EV จะถูกลงเรื่อยๆ ปัญหาเรื่องระยะทางก็จะคลี่คลายไปด้วย ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตลาดรถ EV จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคจะได้เห็นรถรุ่นใหม่ๆ ที่ทั้งประสิทธิภาพสูงและราคาจับต้องได้ แถมยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอีกด้วย
Q
ในปี 2025 รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงสุดคือรุ่นไหน
ภายในปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีการแข่งขันที่เข้มข้น โดยคาดว่ารุ่นที่ขายดีที่สุดในตลาดไทยน่าจะเป็น BYD Atto 3 ด้วยจุดเด่นเรื่องราคาที่คุ้มค่า ประสิทธิภาพการวิ่งที่เกิน 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ และระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนแบบเมืองไทย ส่วน MG 4 Electric และ Tesla Model Y ก็มีแนวโน้มจะครองส่วนแบ่งการตลาดสำคัญเช่นกัน เนื่องจากเป็นรุ่นที่ขายดีในตลาดโลก และ Tesla เองก็กำลังขยายเครือข่ายบริการหลังการขายในไทยอย่างต่อเนื่อง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จพัฒนามากขึ้น และนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลยังคงมีต่อไป อัตราการใช้รถไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้บริโภคที่กำลังมองหารถไฟฟ้า นอกจากจะต้องสนใจเรื่องระยะทางและราคาแล้ว ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ความสะดวกในการบริการหลังการขาย และค่าเบี้ยประกันภัยด้วย เพราะทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้รถในระยะยาว
ดูเพิ่มเติม