Q
พื้นที่เก็บของ MG Maxus 9 เป็นอย่างไร นี่คือความจุของพื้นที่เก็บสัมภาระ
MG Maxus 9 เป็นรถ MPV อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ในครอบครัวและงานธุรกิจ โดยเฉพาะพื้นที่เก็บของด้านหลังที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงในตลาดไทย พื้นที่มาตรฐานอยู่ที่ประมาณ 280 ลิตร เพียงพอสำหรับใส่ของใช้ประจำวันหรือกระเป๋าเดินทางทริปสั้นๆ แต่ถ้าต้องการพื้นที่เพิ่ม ก็สามารถพับเบาะแถวที่สามได้ ทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้นเหมาะสำหรับใส่สิ่งของชิ้นใหญ่หรือแม้แต่การย้ายบ้านเล็กๆ สำหรับคนไทยแล้ว การออกแบบพื้นที่แบบนี้ถือว่าสะดวกมาก ทั้งการเดินทางกับครอบครัวหรือรับส่งลูกค้า โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวหรือทริปไกลที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดเก็บของ นอกจากนี้ รถรุ่น MPV ในไทยยังได้รับความนิยมสูงเพราะภายในที่กว้างขวางและนั่งสบาย ส่วน MG Maxus 9 ยังประหยัดน้ำมันและขับขี่มั่นคง เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบของไทย จะขับในเมืองหรือเดินทางข้ามจังหวัดก็ทำได้หมด แนะนำให้ลองไปทดสอบพื้นที่เก็บของด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะกับความต้องการของคุณจริงๆ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
ประเภทรถยอดนิยม
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
เศรษฐกิจเชื้อเพลิงของ Triton 2024 เป็นอย่างไร
รถกระบะ Mitsubishi Triton รุ่นปี 2024 ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีมาก ตามข้อมูลทางการ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 7.6 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรในสภาพการขับขี่แบบผสม ซึ่งตัวเลขอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสไตล์การขับ ถนน และน้ำหนักบรรทุก รถรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี MIVEC Diesel ล่าสุดจากมิตซูบิชิที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ พร้อมกับเกียร์ออโต้ 8 สปีดที่ทันสมัย ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ในไทยน้ำมันดีเซลราคาค่อนข้างถูก ทำให้ Triton เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่เน้นความประหยัดและประโยชน์ใช้สอย นอกจากนี้ Triton ยังมีความสามารถในการขับออฟโรดและการบรรทุกสินค้าที่ดีเยี่ยม เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายแบบในไทย จะขับในเมืองหรือเดินทางไกลก็ทำได้สบายๆ ถ้าอยากประหยัดน้ำมันมากกว่านี้ อาจมองหารถไฮบริดหรือรถไฟฟ้า แต่รุ่นดีเซลของ Triton ยังคงมีความคุ้มค่าและวิ่งได้ไกลกว่า โดยเฉพาะในไทยที่โครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถไฟฟ้ายังไม่พร้อมเต็มที่
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Fortuner 2024 คืออะไร
รถโฟร์จูนเนอร์รุ่นปี 2024 ของโตโยต้ามาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 เทอร์โบคู่กับเกียร์ออโต้ 6 สปีด เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 เทอร์โบตัวนี้ให้กำลังที่เหลือเฟือ ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นในทุกสภาพถนน โดยเฉพาะเวลาขับทางไกลหรือเจอเส้นทางหลากหลายแบบ จุดเด่นของเครื่องดีเซลจะแสดงออกมาได้ชัดเจน แถมยังมาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบแบ็คโบนที่ช่วยเพิ่มทั้งความมั่นคงและความคล่องตัว ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือออกไปลุยป่าลุยเขาก็ทำได้สบายๆ ด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ครบเครื่องแบบนี้ ทำให้โฟร์จูนเนอร์รุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนไทยไม่น้อยเลยล่ะ
Q
เศรษฐกิจน้ำมันของ Fortuner 2024 เป็นอย่างไร
รถโฟร์จูนเนอร์รุ่นปี 2024 ในไทยให้ประสิทธิภาพเรื่องประหยัดน้ำมันได้ดีเลยครับ ตัวเลขที่บอกมาจะต่างกันนิดหน่อยตามระบบขับเคลื่อนและเกียร์ที่เลือก สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร จะวิ่งได้ประมาณ 10-11 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตรจะประหยัดกว่านะ วิ่งได้ประมาณ 12-14 กิโลเมตรต่อลิตร แต่จริงๆแล้วตัวเลขอาจจะเปลี่ยนไปบ้างตามสไตล์การขับ ถนนที่วิ่ง หรือน้ำหนักที่บรรทุกนะครับ ในสภาพอากาศร้อนๆและการจราจรติดขัดแบบบ้านเรา แนะนำให้ดูแลรถเป็นประจำนะครับ ทั้งเปลี่ยนฟิลเตอร์อากาศและน้ำมันเครื่อง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มที่ แถมการปรับลมยางให้เหมาะสมก็ช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย จริงๆแล้วโฟร์จูนเนอร์เป็น SUV ที่คนไทยชอบอยู่แล้วแหละ เพราะเรื่องประหยัดน้ำมันถือว่าแข่งกับรุ่นอื่นๆในระดับเดียวกันได้ดี เหมาะทั้งขับในเมืองและเดินทางไกล โดยเฉพาะสภาพถนนแบบไทยๆที่มีทั้งทางขึ้นเขาและถนนลื่นช่วงหน้าฝน โฟร์จูนเนอร์ทำได้โอเคเลยครับ ถ้าอยากประหยัดน้ำมันมากขึ้น ลองขับแบบเนียนๆ ไม่เร่งกระชาก แล้วก็ใช้แอร์อย่างเหมาะสมก็ช่วยได้นะครับ
Q
สีของ Fortuner 2024 มีอะไรบ้าง
รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นปี 2024 ในตลาดไทยมีตัวเลือกสีสันที่ทั้งทันสมัยและใช้งานได้จริง เริ่มจากสีคลาสสิกอย่างขาว ดำ และเงิน ซึ่งไม่เพียงแต่ดูแลง่ายและมีมูลค่าคงเหลือสูง เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีโทนสีเข้มอย่างน้ำเงินกรมท่าและแดงเข้มสำหรับลูกค้าที่ต้องการความแตกต่าง ส่วนในไทยที่แดดค่อนข้างแรง เราขอแนะนำให้เลือกโทนสีอ่อนเพราะช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดี ลดความร้อนภายในรถ แถมสีอ่อนยังดูแลรักษาได้ง่ายกว่าสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน ฟอร์จูนเนอร์ในฐานะ SUV ยอดนิยมของคนไทย ได้ออกแบบสีรถโดยคำนึงถึงทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์สภาพอากาศท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางผจญภัยก็สามารถแสดงเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว ก่อนตัดสินใจเลือกสี ลองไปดูตัวรถจริงที่โชว์รูมเพื่อเห็นภาพชัดเจนว่าแต่ละสีจะให้ความรู้สึกอย่างไรภายใต้แสงธรรมชาติแบบไทยๆ
Q
2024 Toyota HiAce เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 หรือไม่?
รุ่น Toyota HiAce ปี 2024 ยังไม่มีเวอร์ชันขับเคลื่อนสี่ล้อ (4x4) อย่างเป็นทางการในตลาดไทย โดยรุ่นที่ขายในประเทศไทยยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นหลัก เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองทั้งขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร แต่ถ้าลูกค้าคนไทยที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ออฟโรด อาจจะมองหาตัวเลือกอื่นอย่าง Toyota Hilux หรือ Fortuner ที่มาพร้อมระบบ 4x4 ซึ่งรถเหล่านี้จะตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่ภูเขาและเส้นทางชนบทของไทยได้ดีกว่า ต้องยอมรับว่าตลาดไทยให้ความสำคัญกับความทนทานและประหยัดน้ำมันสำหรับรถ商用 ซึ่ง HiAce ก็ตอบโจทย์ด้วยระบบขับเคลื่อนที่เชื่อถือได้และพื้นที่ภายในกว้างขวาง ทำให้เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน ถ้าในอนาคต丰田จะ推出รุ่น HiAce 4x4 คาดว่าน่าจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ part-time เหมือนใน Hilux แต่ตอนนี้สำหรับใครที่ต้องการรถออฟโรดอาจจะต้องมองรุ่นอื่นไปก่อน ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีฤดูฝนและ地形หลากหลายที่ต้องการรถที่มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดี ดังนั้นก่อนซื้อควรพิจารณารูปแบบการขับเคลื่อนให้เหมาะกับการใช้งานจริงของเรา
Q
BMW X1 ราคาเท่าไหร่?
ราคารถ BMW X1 ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 - 2.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์ที่เลือก ยิ่งเลือกรุ่นสูงหรือเพิ่มออปชั่นมากเท่าไหร่ ราคาก็จะสูงขึ้นตาม บางครั้งราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากโปรโมชั่นหรือส่วนลดของตัวแทนจำหน่ายด้วยนะ BMW X1 เป็น SUV คอมแพคหรูที่ขายดีในไทย เพราะดีไซน์สปอร์ตทันสมัย โครงสร้างภายในปรับแต่งได้หลากหลาย และยังมาพร้อมระบบเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงทั้งแบบ 1.5T และ 2.0T ที่ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ให้เลือกเพิ่มสำหรับคนที่ต้องเจอทั้งถนนลื่นช่วงฝนตกหรือทางต่างจังหวัด แต่ต้องบอกก่อนว่าราคารถนำเข้าในไทยจะสูงกว่าประเทศอื่นหน่อยเพราะเรื่องภาษี โชคดีที่ BMW ประเทศไทยมีบริการหลังการขายและแพ็กเกจประกันคุณภาพ รวมถึงบริการเช็คระยะฟรีๆ ด้วย ถ้าสนใจรถพลังงานสะอาด ลองรอดูรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่จะเข้ามาในไทย เพราะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีบางส่วน แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในกรุงเทพหรือพัทยาเพื่อขอราคาล่าสุดและนัดทดลองขับ หรืออาจจะมองหารุ่นสต็อกหรือรถมือสองผ่านการรับรองจาก BMW ก็อาจจะได้ราคาดีๆ นะ
Q
ความเร็วสูงสุดของ BMW M2 2023 คือกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง?
รุ่น BMW M2 ปี 2023 ส่วนใหญ่จะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 250 กม./ชม. แต่ถ้าเลือกติดตั้งเซ็ตอุปกรณ์ M Performance ก็จะเพิ่มความเร็วสูงสุดไปได้ถึง 285 กม./ชม. ตัวอย่างเช่นรุ่น BMW M2 ที่ติดตั้งเซ็ตอุปกรณ์ M Performance จะมีความเร็วสูงสุดที่ 284 กม./ชม. โดยรถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบแบบ Twin Turbo ที่ให้กำลังแรงมากอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริง ความเร็วสูงสุดที่รถจะทำได้นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพถนนว่ากว้างเรียบหรือไม่ สภาพอากาศขณะขับขี่ การดูแลรักษารถ รวมถึงทักษะการขับขี่ของคนขับด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ารถของคุณจะเร็วได้ขนาดไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามกฎจราจรและขับขี่อย่างปลอดภัยเสมอ
Q
เครื่องยนต์อะไรอยู่ใน BMW M2 ปี 2023?
รถ BMW M2 ปี 2023 มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส S58 ขนาด 3.0 ลิตร แบบแถวเรียง 6 สูบ เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 460 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้ช่วยให้รถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 280 กม./ชม. ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ออกแบบมาให้ทั้งสมรรถนะแรงและประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ BMW ยังมีรุ่น M240i ที่ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร แถวเรียง 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 245 กิโลวัตต์ (333 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่วนรุ่น M2 คูเป้則ติดตั้งเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ แถวเรียง 6 สูบ กำลังสูงสุด 353 กิโลวัตต์ (480 แรงม้า) แรงบิด 600 นิวตันเมตร ตัวเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายนี้ตอบโจทย์ความต้องการและสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
Q
“อัตราการประหยัดน้ำมันของ BMW M2 รุ่นปี 2023 คืออะไร?”
รถ BMW M2 รุ่นปี 2023 เป็นคูปองสมรรถนะสูงที่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันขึ้นอยู่กับสไตล์การขับและสภาพถนนอย่างมาก ตามข้อมูลทางการ อัตราน้ำมันรวมอยู่ที่ประมาณ 9.6-10.3 ลิตร/100 กม. แต่ในสภาพอากาศร้อนของไทยและเมื่อติดถนนในเมืองอย่างกรุงเทพฯ อาจพุ่งไปถึง 12-14 ลิตร/100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลด้วยความเร็วคงที่อาจลดลงเหลือ 8-9 ลิตรเท่านั้น
รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบบวกกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แม้จะเน้นความแรงแต่ก็มาพร้อมเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics อย่างระบบสตาร์ท-สตอปอัตโนมัติและระบบกักเก็บพลังงาน ทำให้ควบคุมการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ดีเมื่อเทียบกับรถสปอร์ตในระดับเดียวกัน
สำหรับคนไทยที่สนใจ ต้องระวังเรื่องน้ำมันเบนซิน octane 95 ขึ้นไป และควรเข้าศูนย์บริการตามกำหนดเพื่อประหยัดน้ำมันได้เต็มที่ นอกจากนี้อากาศร้อนของไทยอาจส่งผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องเทอร์โบ แนะนำให้ใช้น้ำยาระบายความร้อนและน้ำมันเครื่องที่ BMW แนะนำ
ถ้าอยากประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ลองใช้โหมด Comfort ขับในเมืองแทนโหมด Sport Plus แต่อย่าลืมว่า BMW M2 ถูกออกมาเพื่อความสนุกในการขับขี่ ไม่ได้เน้นประหยัดน้ำมันสุดๆ นะครับ
Q
M2 มีระบบกล้อง 360 องศาหรือไม่?
รุ่นล่าสุดของ BMW M2 ในไทยนั้นมาพร้อมกับระบบช่วยจอดเป็นมาตรฐาน แต่ระบบกล้องรอบทิศทาง 360 องศายังไม่ใช่อุปกรณ์พื้นฐานในทุกรุ่น สำหรับตลาดไทยแล้ว ต้องเลือกเพิ่มเป็นออปชั่นหรือเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจเฉพาะเท่านั้น ระบบกล้อง 360 องศาของ BMW ใช้เทคโนโลยีต่อภาพจากกล้อง 4 ตัวรอบคัน ทำให้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบรถแบบไม่มีมุมอับ ช่วยได้เยอะเวลาเข้าจอดในที่แคบๆ แถวเมืองไทยเนี่ย ถนนหนทางมันคับคั่ง ระบบแบบนี้ช่วยชีวิตได้เลยนะครับ แนะนำว่าก่อนซื้อควรตรวจสอบรายการอุปกรณ์กับตัวแทนจำหน่าย BMW ในไทยให้ชัดเจน แล้วดูว่าคุ้มไหมที่จะเพิ่มฟังก์ชันนี้ โดยเฉพาะคนที่ต้องขับในที่จอดห้างแออัดหรือตามซอยซับซ้อนบ่อยๆ ระบบช่วยจอดแบบนี้จะช่วยให้ขับสบายขึ้นเยอะเลย
Q&A ล่าสุด
Q
รุ่น Y ปี 2025 มีก้านควบคุมหรือไม่
ตามข้อมูลปัจจุบัน Tesla Model Y รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยอาจยังคงแนวโน้มการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ โดยตัดการใช้งานคันโยกเปลี่ยนเกียร์แบบกายภาพ (stalk) ออก และปรับมาใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสกลางหรือปุ่มบนพวงมาลัยแทน การออกแบบนี้ได้ถูกนำไปใช้ในรุ่นท็อปบางรุ่นในตลาดต่างประเทศเพื่อให้ห้องโดยสารเรียบง่ายขึ้นและเพิ่มความทันสมัย สำหรับผู้ใช้ในไทย การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย แต่ระบบสัมผัสของ Tesla มีตรรกะการใช้งานค่อนข้างตรงไปตรงมา และศูนย์บริการในไทยมักให้คำแนะนำเรื่องการใช้งาน ควรสังเกตว่าอากาศร้อนและฝนชุกของไทยทำให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีความเสถียรสูง แต่การออกแบบฮาร์ดแวร์ของ Tesla ผ่านการทดสอบในสภาพร้อนชื้นเพื่อรับประกันความน่าเชื่อถือ หากผู้บริโภคชอบปุ่มกายภาพ สามารถรอดูว่ามีอุปกรณ์เสริมจากผู้ผลิตรายอื่นหรือไม่ หรือเลือกแบรนด์รถไฟฟ้ารุ่นอื่นที่ยังคงมีดีไซน์ดั้งเดิม เช่น รถญี่ปุ่นบางรุ่นที่ในไทยยังมีทางเลือกแบบไฮบริดผสม แนะนำให้จองทดลองขับก่อนซื้อเพื่อทำความคุ้นเคยกับวิธีการใช้งาน ขณะเดียวกันโชว์รูม Tesla บางแห่งในไทยมีรถรุ่น 2024 ให้ทดลองใช้งานล่วงหน้าเพื่อเข้าใจตรรกะการควบคุมที่คล้ายกัน
Q
รถ Tesla Model Y ปี 2025 มีหน้าจอด้านหลังหรือไม่
ตามข้อมูลที่มีการเปิดเผยในปัจจุบัน Tesla Model Y รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเพิ่มหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังหรือไม่ แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการอัปเกรดของ Tesla ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น Model S และ Model X ที่ติดตั้งหน้าจอความบันเทิงด้านหลังแล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ Model Y รุ่นใหม่จะตามรอยการออกแบบนี้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารตอนหลัง โดยเฉพาะในบริบทของครอบครัวชาวไทยที่ใช้รถกันจำนวนมาก หน้าจอหลังจะมีประโยชน์อย่างมากทั้งในการเดินทางระยะไกลหรือเพื่อความบันเทิงของเด็กๆ ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย เจ้าของรถควรใส่ใจเรื่องการป้องกันแสงสะท้อนและการระบายความร้อนของหน้าจอ นอกจากนี้ฟังก์ชันการอัปเดตซอฟต์แวร์ OTA ของ Tesla ยังช่วยให้ระบบได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในห้องโดยสาร ควรศึกษารุ่นคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน เช่น BYD Atto 3 หรือ MG ZS EV ซึ่งแม้ว่าฟังก์ชันและการปรับจูนของแต่ละแบรนด์จะแตกต่างกัน แต่ก็เป็นประโยชน์ในการทดลองขับและเปรียบเทียบตามความต้องการจริง
Q
ราคา Tesla Model Y ปี 2025 จะอยู่ที่เท่าไหร่
ขณะนี้ราคาอย่างเป็นทางการของ Tesla Model Y รุ่นปี 2025 ยังไม่มีการประกาศจากทางบริษัท แต่เราสามารถคาดการณ์ราคาโดยอ้างอิงจากแนวโน้มราคาในตลาดไทยและนโยบายการตั้งราคาระดับโลกของ Tesla ปัจจุบัน Model Y รุ่นพื้นฐาน (Rear-Wheel Drive Standard Range) ในไทยเริ่มต้นที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากปัจจัยเช่นต้นทุนแบตเตอรี่ อัตราแลกเปลี่ยน และนโยบายภาษีของไทย คาดว่ารุ่นปี 2025 อาจมีการปรับขึ้นเล็กน้อยจากราคาปัจจุบัน แต่ไม่น่าจะสูงมากนัก โดยเฉพาะในเมื่อรัฐบาลไทยยังคงมีมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้าอยู่ ผู้บริโภคไทยควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากราคารถ เช่น ภาษีนำเข้า (ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำสำหรับรถ EV) ค่าจดทะเบียน และประกันภัย ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อราคาสุดท้ายที่ต้องจ่าย
ทั้งนี้ Tesla เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดไทยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เนื่องจากมีการขยายเครือข่าย Supercharger ในพื้นที่หลักอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และบริการที่ปรับให้เหมาะกับคนไทยมากขึ้น เช่น ในปี 2024 Tesla เริ่มให้บริการวินิจฉัยปัญหารถผ่านระบบออนไลน์ (OTA) ซึ่งสร้างความสะดวกให้กับเจ้าของรถอย่างมาก สำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อ แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์ Tesla ประเทศไทยหรือโชว์รูมในท้องถิ่น เนื่องจากทางบริษัทอาจมีการปรับราคาตามโปรโมชันรายไตรมาสหรือสถานการณ์สต็อก และควรเปรียบเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ ในตลาดไทยเช่น BYD ATTO 3 หรือ MG ZS EV ที่มีจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าและเครือข่ายบริการหลังการขายเช่นกัน
Q
เครื่องยนต์ 2.0 ใน Honda Accord 2020 คืออะไร
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรของฮอนด้าแอคคอร์รุ่นปี 2020 เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ประสิทธิภาพสูงจากซีรีส์ i-VTEC ของฮอนด้า ออกแบบมา 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดประมาณ 155 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกการขับขี่ที่ลื่นไหลทั้งในเมืองและบนทางหลวงของไทย พร้อมประหยัดน้ำมันได้ดี แถมเทคโนโลยีเครื่องยนต์นี้พัฒนามาอย่างดี มีค่าใช้จ่ายดูแลรักษาต่ำ เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม มีอะไหล่พร้อมให้บริการสะดวกสบาย จุดเด่นคือเครื่องยนต์แบบแอทโมสเฟียร์ในสภาพอากาศร้อนแบบไทยจะได้รับผลกระทบจากความร้อนน้อยกว่าเครื่องยนต์เทอร์โบ แถมยังเสถียรกว่าและไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูง เหมาะกับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปที่ปั๊มทั่วไทย สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯเป็นประจำ เครื่องยนต์นี้ยังให้การควบคุมที่ดีในความเร็วต่ำอีกด้วย ในกลุ่มรถยนต์ระดับเดียวกัน แอคคอร์รุ่น 2.0L ได้รับความนิยมในตลาดไทยจากความทนทานและปัญหาเรื่องซ่อมบำรุงน้อย ถือเป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือทั้งสำหรับครอบครัวและงานธุรกิจ
Q
2020 Accord เป็น V-6 หรือไม่
รถฮอนด้าแอคคอร์ดรุ่นปี 2020 ในตลาดไทยไม่ได้มีตัวเลือกเครื่องยนต์ V6 ให้เลือกใช้ แต่ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ขนาด 1.5T และ 2.0T รวมถึงระบบไฮบริด 2.0L ซึ่งการจัดวางกำลังเครื่องแบบนี้ตอบโจทย์ตลาดไทยทั้งในเรื่องความประหยัดน้ำมันและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันก็ยังให้กำลังขับเคลื่อนที่เพียงพอสำหรับการใช้งานจริง ส่วนเหตุผลที่คนไทยนิยมรถรุ่นนี้ก็เพราะความน่าเชื่อถือและค่าบำรุงรักษาที่ไม่สูง โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ชัดเจนในเมืองติดขัดอย่างกรุงเทพฯ
ที่น่าสนใจคือเทรนด์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกตอนนี้กำลังลดการใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ หันมาใช้เทคโนโลยีเทอร์โบหรือระบบไฮบริดที่มีประสิทธิภาพสูงแทน ซึ่งไม่เพียงช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า สำหรับผู้ใช้รถไทย แอคคอร์ดในรุ่นปัจจุบันถือว่าตอบโจทย์การขับขี่ทุกรูปแบบ ทั้งการเดินทางในเมืองหรือทริปทางไกล แถมยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายบริการหลังการขายของฮอนด้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นเวลาต้องใช้งานจริง
ดูเพิ่มเติมข้อมูลล่าสุด

Toyota เปิดตัว 2026 Corolla Hatchback ในสหรัฐอเมริกา และวางจำหน่ายรุ่นพิเศษ FX Edition แบบจำนวนจำกัด
สุรเดชSep 2, 2025

Toyota ปัญหาเสียงสะท้อน Bluetooth ฟ้องร้องแบบกลุ่มและการไกล่เกลี่ย: ตัวแทนโจทก์แต่ละรายได้รับค่าชดเชย 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สุรเดชSep 2, 2025

ทีมชาติจีนเข้าสู่สนาม จะช่วยให้องค์กรจีนเติบโตและหยั่งรากในระดับโลกได้อย่างไร
Kevin WongSep 2, 2025

BMW รุ่นใหม่ iX3 ยืนยันเปิดตัววันที่ 5 กันยายน สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Neue Klasse
ณัฐวุฒิSep 1, 2025

Nissanยืนยันว่าZ NISMOจะมีเวอร์ชั่นเกียร์ธรรมดา
สุรเดชSep 1, 2025
ดูเพิ่มเติม