Q
Lamborghini Countach ราคาเท่าไหร่
รถซูเปอร์คาร์ Lamborghini Countach รุ่นคลาสสิกที่ถูกนำกลับมาออกแบบใหม่นี้ ในตลาดประเทศไทยราคาจะขึ้นอยู่กับสเปก อัตราแลกเปลี่ยน และภาษีนำเข้า โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 150-200 ล้านบาท แต่เพื่อความแม่นยำควรสอบถามราคาล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ หรือพัทยา รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร V12 แบบสูบธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุดถึง 759 แรงม้า ยังคงรักษาเอกลักษณ์การออกแบบทรงลิ่มเหมือนต้นฉบับยุค 1970 แต่เพิ่มเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไป เช่น ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์และหน้าจอแสดงผลดิจิทัล
ในไทย รถซูเปอร์คาร์ระดับนี้มักต้องสั่งนำเข้าเป็นกรณีพิเศษ และต้องคำนึงถึงภาษีนำเข้าที่อาจสูงถึง 300% รวมถึงภาษีสรรพสามิตอีก 7% ที่น่าสนใจคือ นักเล็งรถหรูไทยมักมีโอกาสเห็นรถแบบนี้ในโซนปลอดอากรหรืองานแข่งรถ ส่วน Countach ที่ผลิตจำกัดเพียง 112 คันทั่วโลก อาจมีราคาสูงขึ้นในตลาดมือสอง
หากสนใจรถคลาสสิก Super Run สามารถติดตามงานมอเตอร์โชว์ท้องถิ่นของไทย เช่น งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ หรือพิจารณารถรุ่นต่างๆ เช่น Ferrari Daytona SP3 ที่มีมูลค่าการสะสมไม่แพ้กัน แต่ด้วยความเข้าใจในกฎระเบียบการดัดแปลงหางเสือขวาและค่าบำรุงรักษาระยะยาวของประเทศไทยล่วงหน้า
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
ถุงน้ำหนักของ Lamborghini Countach เท่าไหร่
น้ำหนักของถุงลมนิรภัยในรถ Lamborghini Countach จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและการกำหนดสเปค โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2-4 กิโลกรัม ระบบถุงลมนิรภัยของซูเปอร์คาร์คลาสสิกรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้สมดุลระหว่างน้ำหนักเบาและประสิทธิภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย เจ้าของรถควรตรวจสอบระบบถุงลมนิรภัยเป็นประจำ โดยเฉพาะความแน่นหนาของระบบและสภาพของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนและความชื้นส่งผลต่อความเชื่อถือได้ของระบบ ต้องบอกว่า Countach ในฐานะรุ่นหลักชัยของ Lamborghini ที่มีแนวคิดการออกแบบส่งอิทธิพลต่อซูเปอร์คาร์รุ่นหลังๆ อย่างมาก ทั้งรูปทรงลิ่มคมๆ และประตูแบบกรรไกรที่เวลาแล่นบนถนนไทยทีไร เป็นต้องสะดุดตาคนดูทุกครั้ง สำหรับคอซูเปอร์คาร์ไทย นอกจากจะสนใจสเปคเครื่องยนต์แล้ว ยังต้องระวังกฎหมายเกี่ยวกับชิ้นส่วนแต่งรถด้วย โดยเฉพาะการดัดแปลงระบบความปลอดภัยอย่างถุงลมนิรภัย ต้องทำอย่างระมัดระวังและผ่านมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกด้วย
Q
Lamborghini Countach มีเครื่องยนต์ประเภทใด
Lamborghini Countach เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ V12 แบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นรุ่นคลาสสิกที่ผลิตระหว่างปี 1974 ถึง 1990 เครื่องยนต์ของมันเริ่มจากความจุ 4.0 ลิตร แล้วค่อยๆ อัพเกรดไปเป็น 5.2 ลิตรในรุ่นหลังๆ แรงม้าจาก 375 แรงม้าเพิ่มขึ้นไปถึง 455 แรงม้า การออกแบบเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลังและวางเครื่องยนต์กลางตามแนวยาว พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ทำให้มันเป็นสุดยอดรถซุปเปอร์คาร์ในยุคนั้น สำหรับแฟนรถไทยแล้ว Countach เป็นรถที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าเป็นรุ่นไหน ด้วยประตูแบบกรรไกรและเส้นสายตัวรถที่คมชัด แม้แต่บนถนนไทยในทุกวันนี้ก็ยังเป็นที่สะดุดตา อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงคืออากาศร้อนของไทยที่ท้าทายการดูแลรถคลาสสิกอย่าง Countach โดยเฉพาะเรื่องการระบายความร้อนของเครื่องยนต์และปัญหายางเสื่อมสภาพ แม้ว่าตอนนี้รถไฟฟ้าจะเริ่มเป็นที่นิยม แต่ความรู้สึกและเสียงเครื่อง V12 แบบธรรมชาติของ Countach ก็ยังเป็นความฝันของคอรถไทยหลายคนอยู่ดี
Q
Lamborghini Countach มีแรงม้าเท่าไหร่
รถซูเปอร์คาร์คลาสสิกอย่าง Lamborghini Countach นั้นมีสเปคเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ถ้าเอาแบบที่โด่งดังที่สุดอย่าง Countach LP500 S มาพูดกัน เครื่องยนต์ V12 5.2 ลิตร แบบธรรมดาทำให้ผลิตกำลังได้ถึง 375 แรงม้า (ประมาณ 382 PS) ส่วนรุ่นพิเศษอย่าง LP5000 QV ที่ออกมาในโอกาสครบรอบ 25 ปีนั้นแรงขึ้นไปอีกถึง 455 แรงม้า (ประมาณ 461 PS) สมัยยุค 80s รถคันนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ในโรงรถของเศรษฐีไทยด้วยดีไซน์ล้ำยุครูปทรงลิ่มและประตูปีกนก แม้ทุกวันนี้ก็ยังเห็นโชว์อยู่ในงานคลาสสิกคาร์โชว์ที่กรุงเทพฯ อีกเรื่องที่ต้องเน้นคืออากาศร้อนๆ ของไทยนี่แหละที่ทำให้การดูแลรถเก่าๆ แบบนี้ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Countach ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยลม ควรตรวจเช็คประสิทธิภาพการระบายความร้อนบ่อยๆ ถึงแม้ว่ารถซูเปอร์คาร์ยุคใหม่อย่าง Huracán จะใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ทันสมัยกว่า แต่เสน่ห์ของ Countach ยังคงเป็นที่พูดถึงในหมู่คอรถด้วยความบริสุทธิ์ทางวิศวกรรมแบบดั้งเดิม ตลาดรถมือสองระดับไฮเอนด์ของไทยยังให้มูลค่ากับรถรุ่นนี้สูงมาก บางคันที่สภาพสมบูรณ์อาจมีราคาสูงกว่าราคาตอนใหม่อยู่หลายเท่า
Q
เมื่อ Lamborghini Countach ใหม่จะเปิดตัว
ตอนนี้ทางลัมโบร์กินียังไม่ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยสำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Countach แต่เราสามารถคาดการณ์คร่าวๆ จากช่วงเวลาที่เปิดตัวในตลาดโลกได้ รุ่น Limited Edition นี้เป็นรถซูเปอร์คาร์ไฮบริดที่ออกแบบมาเพื่อแสดงความเคารพต่อรุ่นคลาสสิกอย่าง Countach โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร และระบบไฮบริด 48V ที่ให้กำลังรวมสูงถึง 814 แรงม้า โดยปกติแล้วตลาดไทยจะได้เห็นรถรุ่นใหม่หลังจากวางจำหน่ายในยุโรปประมาณ 6-12 เดือน แนะนำให้ติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านเว็บไซต์ทางการของลัมโบร์กินีประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ที่น่าสนใจคือประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญสำหรับซูเปอร์คาร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะรุ่น Limited Edition ที่ได้รับความนิยมสูง จะเห็นได้ว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้บนถนนในกรุงเทพเริ่มมีรถซูเปอร์คาร์ไฮบริดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของคนไทยที่มีต่อรถสมรรถนะรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สำหรับคนที่สนใจเจ้าตัว Countach รุ่นนี้ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและเทคโนโลยีล้ำสมัย แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายล่วงหน้าเพื่อสอบถามเรื่องโควต้า เพราะรถรุ่นนี้ผลิตจำกัดเพียง 112 คันทั่วโลก อาจมีการแข่งขันสูงหน่อย ส่วนเรื่องงบประมาณต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะประเทศไทยมีอากรขาเข้าสำหรับรถซูเปอร์คาร์ค่อนข้างสูง แต่ข้อดีคือลัมโบร์กินีประเทศไทยมีบริการด้านการเงินและหลังการขายที่ครบวงจร ช่วยให้การเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้สะดวกสบายขึ้นมาก
Q
Lamborghini Countach ปรากฏตัวเมื่อไหร่
สำหรับแฟนรถชาวไทยแล้ว Lamborghini Countach ถือเป็นซูเปอร์คาร์คลาสสิกที่ทรงอิทธิพลมากๆ คันแรกปรากฏตัวในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ปี 1974 (เวอร์ชันผลิตจริงวางขายช่วงปี 1974-1990) ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง Countach LPI 800-4 ที่ออกมาในปี 2021 นี่คือรถที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแสดงความเคารพต่อต้นแบบ มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตรแบบไฮบริด ผลิตจำกัดเพียง 112 คันทั่วโลก แม้ในไทยจะพบเห็นยากแต่สามารถสอบถามข้อมูลผ่านช่องทางทางการของแลมโบร์กินีกรุงเทพฯ ได้ครับ
ดีไซน์ล้ำยุครูปทรงลิ่มของ Countach ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบซูเปอร์คาร์ยุคใหม่เสมอ ตลาดรถซูเปอร์คาร์ในไทยโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องระวังเรื่องการดูแลรักษาตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ในสภาพอากาศร้อนชื้น แนะนำให้ใช้บริการศูนย์บริการอย่างเป็นทางการเพื่อรักษาประสิทธิภาพให้เต็มที่ครับ
การกลับมาของ Countach สะท้อนกระแสความนิยมรถคลาสสิกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไทยเองก็มีชุมชนคนรักรถคลาสสิกแบบนี้เหมือนกัน ถ้าอยากสัมผัสวัฒนธรรมรถแบบเต็มอิ่ม ลองไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคนเหล่านี้ดูนะครับ จะได้เห็นถึงความพิเศษของรถยุคทองอย่างแท้จริง
Q&A ล่าสุด
Q
รุ่นใหม่ของ BMW 2 Series ปี 2025 คืออะไร?
รถยนต์ BMW 2 ซีรี่ย์รุ่นปี 2025 เป็นรุ่นล่าสุดจาก BMW ที่ออกแบบมาในคอนเซปต์รถหรูขนาดกะทัดรัด แนวสปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีครบครัน สำหรับตลาดไทยคาดว่าจะมีให้เลือก 2 รุ่นเครื่องยนต์ คือ 220i และ 220d ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นมาตรฐาน (บางรุ่นมีตัวเลือกขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive) การออกแบบกระจังหน้าไตคู่แบบคลาสสิก BMW แต่เพิ่มความลึกและมิติให้ดูโมเดิร์นขึ้น ระบบระบายความร้อนได้รับการออกแบบพิเศษให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทย ส่วนภายในตกแต่งด้วยหน้าจอคู่วงโค้งสุดล้ำพร้อมระบบ iDrive 8.5 ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย พิเศษสำหรับรุ่นไทยยังเพิ่มประสิทธิภาพระบบแอร์สำหรับสภาพอากาศร้อนและติดตั้งระบบระบายอากาศบนเบาะนั่งเป็นมาตรฐาน ส่วนรุ่นที่ประกอบในไทยอาจได้รับสิทธิ์ลดภาษีนำเข้า
รถรุ่นนี้จะมาแข่งตัวฉกาจกับ Mercedes CLA และ Audi A3 ในตลาดรถหรูขนาดเล็ก โดยขนาดตัวที่กะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานในกรุงเทพฯ แต่ยังต้องรอประกาศราคาอย่างเป็นทางการจาก BMW ประเทศไทย แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากผู้จัดจำหน่ายเพื่อทดลองขับ
Q
"M2 coupe ราคาเท่าไหร่?"
ราคารถ BMW M2 Coupe ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 4.5 - 5.5 ล้านบาท โดยราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสเปก ออปชั่นเสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย ดังนั้นแนะนำให้ติดต่อตัวแทน BMW โดยตรงเพื่อขอราคาที่อัปเดตที่สุด รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุดถึง 453 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ทวินคลัตช์ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่โดดเด่นในเรื่องการควบคุม ทำให้เหมาะกับการขับขี่ทั้งในเมืองและเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขา ของไทย แต่ผู้ซื้อต้องคำนึงถึงค่าภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และค่าจดทะเบียนซึ่งจะส่งผลต่อราคาสุดท้ายอย่างมาก ส่วนนโยบายลดภาษีสำหรับรถยนต์อีโคคาร์ของรัฐบาลไทยนั้น M2 ในฐานะรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอาจไม่ได้รับสิทธิ์นี้ ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้เลือกออปชั่นระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงและกระจกกันความร้อนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นในระดับเดียวกัน M2 Coupe ได้รับความนิยมในหมู่คนรักรถไทยด้วยขนาดกระทัดรัดและการควบคุมที่แม่นยำ แต่ค่าดูแลรักษาค่อนข้างสูง ต้องใช้น้ำมันเครื่องและอะไหล่คุณภาพดีเป็นประจำ
Q
ราคา BMW M2 Coupe เท่าไหร่?
ราคา BMW M2 Coupe ในตลาดไทยจะอยู่ที่ประมาณ 4.5 - 5.5 ล้านบาท โดยราคาสุดท้ายอาจขึ้นอยู่กับสเปค ออปชั่นเสริม และโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่าย แนะนำให้ติดต่อศูนย์ BMW ใกล้บ้านเพื่อขอราคาอัปเดตแบบเจาะจงได้เลย สำหรับ M2 Coupe เป็นคูเป้สปอร์ตคอมแพคที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 410 แรงม้า แถมยังเลือกได้ว่าจะใช้เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดหรือเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.2 วินาที ถือว่าเหมาะกับทั้งขับในเมืองและลัดเลาะเส้นทางภูเขาในไทย แต่ต้องระวังเรื่องภาษีนำเข้า (ทั้งภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต) ที่อาจทำให้ราคาสูงขึ้นอีก ซึ่ง BMW ประเทศไทยมักมีโปรโมชั่นผ่อนซื้อหรือบริการรับประกันระยะยาวเพื่อช่วยลดภาระ ส่วนถ้าใครกำลังมองหารุ่นแข่งก็อาจดู Mercedes-AMG A45 S หรือ Audi RS3 แต่จุดเด่นของ M2 Coupe คือระบบขับเคลื่อนล้อหลังและการกระจายน้ำหนัก 50:50 ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตเฉพาะตัว แถมระบบระบายความร้อนยังทำงานได้ดีในอากาศร้อนของไทย มั่นใจได้เรื่องความทนทานในระยะยาว
Q
รถ BYD Shark 6 มีราคาเท่าไหร่?
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลราคาอย่างเป็นทางการของ BYD Shark 6 ในประเทศไทย แต่เราสามารถประมาณการคร่าวๆ จากราคาของรถกระบะรุ่นอื่นๆ ของ BYD และรถในตลาดไทยที่คล้ายกัน คาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เสริม ความจุแบตเตอรี่ และนโยบายภาษีของไทย ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญสำหรับรถพลังงานสะอาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รัฐบาลให้การสนับสนุนรถไฟฟ้าอย่างมาก เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสุดท้ายโดยตรง BYD Shark 6 เป็นรถกระบะแบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ผสมผสานระหว่างความประหยัดน้ำมันและประสบการณ์การขับขี่แบบไฟฟ้า จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ทั้งต้องเดินทางไกลและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตลาดรถกระบะไทยมีการแข่งขันสูง คู่แข่งหลักคือ Toyota Hilux Revo และ Isuzu D-MAX ที่ยังใช้เครื่องยนต์สันดาป ส่วนจุดเด่นของ Shark 6 คือค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่าและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัยกว่า สำหรับใครที่สนใจ แนะนำให้ติดตามข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ BYD ประเทศไทยหรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อสอบถามราคาที่แน่นอนและทดลองขับ
Q
BYD Shark 6 เป็นรถที่ดีหรือไม่?
BYD Shark 6 เป็นรถปิกอัพที่ออกแบบมาสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ โดยมีความสมดุลในด้านสมรรถนะ การประหยัดน้ำมัน และความใช้งานได้จริง เหมาะกับสภาพถนนและความต้องการที่หลากหลายของไทย รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง ให้แรงบิดต่ำที่เยี่ยมยอด เหมาะมากสำหรับการขับขี่ทั้งในเส้นทางชนบทและในเมือง ส่วนความสามารถในการขนส่งก็ตอบโจทย์ทั้งร้านค้าเล็กๆ และครอบครัวได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของอุปกรณ์ BYD Shark 6 มีระบบความปลอดภัยพื้นฐานเช่น ABS และ EBD รวมถึงห้องโดยสารที่ออกแบบมาเพื่อความสบาย แม้ว่าวัสดุภายในจะเน้นความใช้งานเป็นหลัก แต่การประกอบโดยรวมก็อยู่ในระดับที่คาดหวังได้จากรถในระดับนี้ สำหรับคนไทยแล้ว รถปิกอัพไม่ใช่แค่รถทำงาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ และ BYD Shark 6 ก็ตอบโจทย์ในเรื่องของพื้นที่และความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ที่สำคัญคือความทนทานและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาก็อยู่ในระดับสมเหตุสมผล แน่นอนว่าในตลาดไทยมีแบรนด์ปิกอัพชื่อดังหลายเจ้าให้เลือก แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่า BYD Shark 6 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

Lamborghiniหุ่นยนต์สูงสุดในงานมอเตอร์โชว์กรุงเทพฯ 2024 : Countach LPI 800-4 ภาพที่ตามาก
AshleyMar 21, 2024

เจ้าของรถ Lamborghini Huracan EVO ในสหรัฐอเมริกาตามหาและพบกับรถที่หายไปนานสองปีผ่านทาง ChatGPT
วิรุฬห์Aug 28, 2025

เปิดตัว Leapmotor B01 ซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ในจีน เคาะราคาเริ่ม 406,000 บาท!
วิรุฬห์Jul 28, 2025

Lamborghini Huracan รุ่นใหม่ “Temerario” เปิดตัวแล้ว ราคา 23.76 ล้านบาท
Kevin WongJun 26, 2025

รถสุดหรูราคาเริ่มต้น 12,577,000 บาท! ยอดขายทั่วโลกของ Lamborghini พุ่งสูงขึ้นในปีนี้
AshleyJul 30, 2024
ดูเพิ่มเติม


ข้อดี
ข้อเสีย