Q
Honda City Hatchback มือสองราคาเท่าไหร่?
ราคารถ Honda City Hatchback มือสองในตลาดไทยจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุรถ ระยะทาง สภาพตัวรถ และระดับอุปกรณ์ โดยทั่วไปแล้วรุ่นปี 2021-2022 จะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 7 แสนบาท แต่ต้องตรวจสอบรายงานสภาพรถและประวัติการเซอร์วิสจริงๆ ด้วย รุ่นนี้ขายดีมากในไทยเพราะประหยัดน้ำมัน โครงสร้างภายในใช้งานได้ดี แถมศูนย์บริการฮอนด้าในไทยก็ครอบคลุม ทำให้รถมือสองขายต่อง่าย ถ้าจะซื้อแนะนำให้ตรวจสอบประวัติรถผ่านช่องทางรถมือสองรับประกันโดยฮอนด้า หรือเว็บไซต์มืออาชีพ ต้องเช็คเกียร์และเครื่องยนต์ให้ละเอียด โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนไทยที่อาจมีปัญหาน้ำท่วม ควรตรวจสอบรอยน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ อาจมองรถญี่ปุ่นรุ่นอื่นอย่างโตโยต้ายาริสหรือมาสด้า 2 แต่ต้องยอมรับว่า Honda City Hatchback แบ็ครุ่นไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันกว่า เหมาะกับการขับขี่ในเมืองสุดๆ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto
Q&A เกี่ยวข้อง
Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ Honda City Hatchback 2021 คือเท่าไหร่?
รถ Honda City Hatchback รุ่นปี 2021 ในตลาดไทยโดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมาก ด้วยเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ คู่กับเกียร์ CVT ที่ทางการประกาศอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ ECE R101) เหมาะสมทั้งการขับขี่ในกรุงเทพฯ ที่รถติดและการเดินทางไกล รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูง โดยมีระบบฉีดน้ำมันตรงเข้าเครื่องยนต์และการออกแบบน้ำหนักเบาช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น จากประสบการณ์จริงของเจ้าของรถในไทยบอกว่าในเมืองจะสิ้นเปลืองประมาณ 5-6 ลิตร/100 กม. แต่ถ้าขับทางไกลจะลดลงเหลือไม่ถึง 4 ลิตรเลย ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้ได้ประโยชน์จากนโยบาย ECO Car Phase II ของรัฐบาลไทยที่ลดภาษีให้รถประหยัดพลังงาน ส่วนการใช้งานประจำวันแนะนำให้ล้างหัวเร่งและเปลี่ยนไส้กรองอากาศของแท้อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris Ativ จะประหยัดพอๆ กันแต่การขับขี่ของซิตี้แฮทช์แบ็กจะสมรรถนะกึ่งสปอร์ตมากกว่า สำหรับคนที่ขับทางไกลบ่อยๆ ลองใช้น้ำมัน 95 จะช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Q
ข้อเสียของรถ Honda City Hatchback
รถยนต์ City Hatchback เป็นที่นิยมสำหรับการเดินทางในเมืองไทย ด้วยความคล่องตัวและประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่กระโปรงหลังที่ค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งทั่วไปแต่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลกับครอบครัว นอกจากนี้ขนาดตัวรถที่เล็กอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเวลาขับบนทางด่วน โดยเฉพาะบนถนนสภาพไม่ดีบางสายในไทย แม้ระบบช่วงล่างจะปรับให้แข็งเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น แต่ก็อาจลดความสบายในการนั่งลง ส่วนเรื่องการกันเสียงก็ถือว่าปานกลาง อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายในเมืองที่การจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามค่าบำรุงรักษารถรุ่นนี้ค่อนข้างถูก แต่ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ชิ้นส่วนพลาสติกบางส่วนอาจเสื่อมสภาพเร็วหลังใช้งานมานาน แนะนำให้ผู้สนใจพิจารณาจุดประสงค์การใช้งานจริง หากต้องบรรทุกผู้โดยสารหรือสัมภาระบ่อยๆ อาจมองหารถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อความเหมาะสมมากกว่า
Q
Honda City Hatchback มีรุ่น Hybrid หรือไม่?
ปัจจุบัน Honda City Hatchback ในตลาดไทยยังไม่มีรุ่น Hybrid ตัวนี้เน้นเครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก พ่วงมาด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ตอบโจทย์ทั้งประหยัดน้ำมันและแรงขับ ตลาดไทยเริ่มมีความต้องการรถ Hybrid เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอนด้าเองก็มีรุ่น Hybrid อื่นๆ ในไทยแล้ว เช่น Honda Civic และ Honda HR-V รุ่น Hybrid ในอนาคตอาจมีการนำเทคโนโลยีนี้มาต่อยอดในโมเดลอื่นๆ อีก เทคโนโลยี Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ช่วยลดทั้งการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษได้ดี เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ถ้าสนใจรถรักษ์สิ่งแวดล้อมประหยัดน้ำมัน ลองดูรุ่น Hybrid ที่มีในตลาดหรือรออัปเดตจากฮอนด้าก็ได้ ส่วนเรื่องภาษี รัฐบาลไทยมีสนับสนุนรถพลังงานสะอาด ทั้ง Hybrid และ EV ก็เป็นตัวเลือกน่าสนใจ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดทางเว็บไซต์ฮอนด้าไทยหรือติดต่อโชว์รูมก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
Honda City Hatchback มีโปรโมชั่นอะไรบ้าง?
ตอนนี้ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีโปรโมชั่นหลากหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งส่วนลดเงินสด แผนดาวน์ต่ำ ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยพิเศษ หรือบริการฟรีเช็คระยะ ซึ่งรายละเอียดโปรโมชั่นอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลาและพื้นที่ แนะนำให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่โดยตรงเพื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด รุ่นนี้เป็นที่นิยมมากในไทยเพราะขนาดคันที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จให้ทั้งแรงและประหยัด แถมยังมาพร้อม Honda Sensing ชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในระดับเดียวกัน ส่วนในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์และกระจกกัน UV ก็ช่วยให้ความรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง นอกจากโปรโมชั่นแล้ว ควรสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับบริการเสริมเช่น ฟรีฟิล์มกรองแสง หรือการรับประกันที่ขยายระยะเวลา เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
Q
Honda City Hatchback รองรับผู้โดยสารกี่คน?
Honda City Hatchback คือรถคันเล็กแบบแฮทช์แบ็กที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยมากๆ โครงสร้างมาตรฐานเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ให้พื้นที่สบายๆ สำหรับผู้โดยสาร 5 คน พอดีสำหรับครอบครัวใช้ชีวิตประจำวันหรือออกทริปกับเพื่อน โครงสร้างภายในถูกออกแบบมาอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่ขาที่นั่งหลังที่กว้างขวาง แม้เดินทางไกลก็ยังรู้สึกสบาย ส่วนกระโปรงหลังจุได้ประมาณ 289 ลิตร เพียงพอสำหรับของใช้เวลาช้อปปิ้งหรือทริปสั้นๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบแอร์เย็นฉ่ำและช่องลมหลังที่นั่ง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกเย็นสบาย แถมยังมาพร้อมระบบ Honda SENSING ช่วยเพิ่มความปลอดภัย เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอวัตถุข้างหน้าและระบบช่วยควบคุมเลน เหมาะมากสำหรับการขับในเมืองอย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรค่อนข้างติดขัด รถยนต์รุ่นนี้ยังมีตัวเลือกการประหยัดน้ำมันที่ยืดหยุ่น ซึ่งรวมถึงรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.0 ลิตร และรุ่นไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคชาวไทย ทั้งด้านการประหยัดพลังงานและสมรรถนะ นับเป็นรุ่นที่ลงตัวที่ผสานการใช้งานจริงและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน
Q
Honda City Hatchback มีระบบความปลอดภัยอะไรบ้าง?
รถ Honda City Hatchback ในตลาดไทยมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Honda SENSING ที่รวมฟังก์ชันสำคัญอย่าง ระบบเบรกป้องกันการปะทะ (CMBS) ระบบช่วยรักษาเลน (LKAS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDW) นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบช่วยทรงตัว (VSA) และกล้องถอยหลัง ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและพาสซีฟที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในสภาพการจราจรที่คับคั่งของเมืองไทย ระบบเหล่านี้ใช้งานได้จริงมากๆ เช่น CMBS จะช่วยลดความเสี่ยงการชนท้ายในเส้นทางรถติด ส่วน LKAS จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่กลางเลนได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบนทางด่วน แถมยังมาพร้อมกับโครงสร้างตัวรถ ACE ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับคนไทยแล้ว การเลือกรถที่มีระบบความปลอดภัยครบวงจรเป็นเรื่องสำคัญ เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและสภาพการจราจรที่ซับซ้อน ระบบความปลอดภัยที่ดีไม่เพียงแต่ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารได้มากที่สุดหากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
Q
Honda City Hatchback มีสีอะไรให้เลือกบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีสีให้เลือกหลายแบบ ทั้งโทนสีเมทัลลิกที่ดูทันสมัยและโทนสีคลาสสิก โดยสีที่เลือกได้จะมีคริสตัลแบล็ค แพลตินัมไวท์ เมทัลลิกซิลเวอร์ เรดเพิร์ล และสีน้ำเงิน เป็นต้น สีเหล่านี้ไม่เพียงตอบโจทย์รสนิยมของกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังเหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้ใช้แต่ละคน ในสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก สีรถทุกสีผ่านการเคลือบพิเศษเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันรังสียูวีได้ดี แถมฮอนด้ายังมักออกรุ่นสีลิมิเต็ดเอดิชันตามเทรนด์ตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มอีกด้วย เวลาเลือกสีนอกจากจะดูที่ความชอบส่วนตัวแล้ว ก็ควรคำนึงถึงสภาพการใช้จริงในไทยด้วย เช่น สีอ่อนจะทนความร้อนและดูแลง่ายในแดดแรงๆ ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรากว่า นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ตัวรถของ Honda City Hatchback ที่ออกแนวสปอร์ต ถ้าเลือกสีสดๆ จะยิ่งช่วยเน้นภาพลักษณ์ความYoungได้ดี ไม่ว่าจะเลือกสีไหน รถคันนี้ก็เข้ากับบรรยากาศถนนไทยและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแนบเนียน
Q
Honda City Hatchback ภายในกว้างขวางไหม?
Honda City Hatchback เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วยขนาดคอมแพค แต่โดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่สนใจในตลาดไทย ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4,345 มม. × 1,748 มม. × 1,488 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. แม้จะจัดอยู่ในกลุ่มรถขนาดเล็ก แต่ด้วยแนวคิด MM ของฮอนด้า (ลดพื้นที่เครื่องยนต์ให้น้อยสุด ขยายพื้นที่ผู้โดยสารให้มากสุด) ทำให้การจัดวางภายในถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม พื้นที่ส่วนหัวและขาหน้าด้านหน้าเพียงพอ ส่วนพื้นที่ขาหลังก็กว้างขวางเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน เหมาะกับการเดินทางระยะสั้นของครอบครัวหรือการขับขี่ในเมืองแบบที่นิยมในไทย ความจุท้ายรถอยู่ที่ประมาณ 289 ลิตร (เมื่อไม่พับเบาะหลัง) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่หากพับเบาะหลังก็จะเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีก ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบแอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในรุ่นท็อปยังมีช่องลมแอร์ด้านหลังเพื่อเพิ่มความสบายให้ผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับบางซอยแคบหรือที่จอดรถแน่นในไทย ความกว้างระดับ 1.7 เมตรของ City Hatchback อาจได้เปรียบเรื่องความคล่องตัวเมื่อเทียบกับ SUV ขนาดใหญ่ แต่หากต้องใช้งานแบบเต็มความจุ 5 คนเป็นประจำสำหรับการเดินทางไกล แนะนำให้ทดลองนั่งจริงโดยเฉพาะพื้นที่ด้านกว้างของเบาะหลัง ในตลาดรถระดับเดียวกันยังมีรุ่นที่คล้ายกันอย่าง Toyota Yaris Ativ ที่ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบตามความชอบในการออกแบบและความต้องการฟังก์ชั่นต่างๆ ได้
Q
Honda City Hatchback ประหยัดน้ำมันเท่าไร?
Honda City Hatchback ในไทยนั้นประหยัดน้ำมันสุดๆ รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบทำสถิติเฉลี่ยประมาณ 23.8 กม./ลิตร จากการทดสอบมาตรฐานของไทย ส่วนรุ่นไฮบริดนั้นยิ่งคุ้มค่ากว่า ทำได้ถึง 27.8 กม./ลิตร เลยทีเดียวเหมาะมากสำหรับสภาพการจราจรที่ต้องออกตัว-หยุดบ่อยครั้งในเมืองใหญ่ของไทยและผู้บริโภคที่เน้นการประหยัดน้ำมัน และคนที่เน้นเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ตัวรถมาพร้อมเทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์และลดน้ำหนักตัวรถ ทำให้ทั้งประหยัดและยังเร่งแซงได้ดี แม้อยู่ในอากาศร้อนๆ แบบไทยๆ แอร์ก็ถูกปรับแต่งพิเศษให้เย็นสบายแต่ไม่ทำให้น้ำมันพุ่งจนน่าตกใจ สำหรับคนที่ต้องเจอรถติดในกรุงเทพฯ บ่อยๆ ระบบสตาร์ท-สต็อปรอบเดินเบาของ City Hatchback ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญนอกจากจะประหยัดแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของที่จัดเต็มและขนาดตัวรถกะทัดรัดเหมาะกับซอยแคบๆ ในไทย ถือเป็นตัวเลือกชั้นดีสำหรับคนเมือง ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์การขับ สภาพถนน และน้ำหนักบรรทุก ควรเข้าศูนย์ตามกำหนดและเช็คลมยางสม่ำเสมอเพื่อประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุด
Q
"Honda City Hatchback มีรุ่นย่อยอะไรบ้าง?
Honda City Hatchback ในตลาดไทยมีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ โดยแบ่งเป็น 4 รุ่นหลักคือ S V SV และ RS แต่ละรุ่นมีความแตกต่างทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และราคา รุ่น S เป็นรุ่นเริ่มต้นที่เน้นความประหยัดและใช้งานพื้นฐาน พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยและความบันเทิงมาตรฐาน ส่วนรุ่น V และ SV จะเพิ่มความสบายและเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น จอสัมผัสและระบบช่วยขับขี่ ในขณะที่รุ่น RS เป็นรุ่นสปอร์ตที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เฉพาะ พร้อมชุดแต่งภายนอกและวัสดุภายในระดับพรีเมียม ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรร่วมกับเกียร์ CVT ที่ให้ทั้งความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะที่ตอบโจทย์ สำหรับคนไทยแล้ว ขนาดกะทัดรัดของ City Hatchback เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง แถมยังได้ความน่าเชื่อถือจากฮอนด้าและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมอีกด้วย เวลาเลือกรุ่นควรดูความต้องการและงบประมาณเป็นหลัก เช่น ถ้าต้องขับทางไกลบ่อยอาจเลือกรุ่น SV หรือ RS ที่มีระบบความปลอดภัยครบครัน แต่ถ้าใช้แค่ในเมืองก็เลือกรุ่น S ที่ประหยัดกว่าได้ นอกจากนี้ การที่ฮอนด้ามีอัตราค่าเสื่อมราคาต่ำในไทยก็เป็นอีกจุดที่ควรคำนึงเวลาซื้อด้วย
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
Q&A ล่าสุด
Q
Chery Omoda 5 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือไม่?
รุ่น Chery Omoda 5 ที่วางจำหน่ายในตลาดไทยส่วนใหญ่จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ไม่ใช่ระบบสี่ล้อขับเคลื่อน โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์รุ่นทั่วไปมักจะเน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหน้าเป็นหลัก ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและสภาพถนนทั่วไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ดี แถมยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดต้นทุนได้อีกด้วย แต่ในบางตลาด เช่น อินโดนีเซีย อาจจะมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบสี่ล้อขับเคลื่อน ระบบขับเคลื่อนแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน ระบบสี่ล้อขับเคลื่อนมักจะแสดงประสิทธิภาพโดดเด่นในสภาพถนนที่ซับซ้อน อากาศเลวร้าย หรือเมื่อต้องการกำลังส่งและความมั่นคงสูงกว่า เช่น ในถนนหิมะ ถนนโคลน หรือสภาพถนนออฟโรด ส่วนระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีโครงสร้างไม่ซับซ้อน ต้นทุนต่ำกว่า และให้ความสะดวกสบายรวมถึงประหยัดน้ำมันได้ดีกว่าในการขับขี่ในเมือง
Q
Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์น้ำมันเบนซินใช่หรือไม่?
ใช่แล้ว Chery Omoda 5 เป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน แม้ว่าชื่อของมันอาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นรถพลังงานใหม่ แต่จริงๆ แล้วมันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน Omoda 5 ถูกออกแบบมาในตำแหน่ง SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น หน้าตาหน้ารถมาพร้อมกับคอนเซปต์แบบไร้กรอบโครเมี่ยม เน้นลวดลายกริลโล่ขนาดใหญ่เล็กสลับกัน พร้อมไฟหน้าแบบแยกส่วนที่ดูเฉียบคมและจัดเรียงในรูปแบบเมทริกซ์ ด้านข้างเป็นสไตล์เรียวลู่หลังคาแบบลอยตัว เส้นสายตัวรถที่ตัดเป็นช่วงๆ เพิ่มความรู้สึกด้านเทคโนโลยี มาพร้อมล้อสปอร์ตสีดำ ขนาดตัวรถคือ 4400/1830/1585 มม. ระยะฐานล้อ 2630 มม. รถน้ำมันรุ่นนี้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานประจำวันและความสนุกในการขับขี่ แถมยังให้ประสบการณ์ด้านสมรรถนะที่คุ้มค่า
Q
รถยนต์ Chery Omoda 5 SUV กำลังถูกเรียกคืนทันทีหรือไม่?
ณ เวลานี้ยังไม่มีข่าวสารอย่างเป็นทางการจาก Chery ที่ระบุว่า SUV รุ่น Omoda 5 จะมีการเรียกกลับในทันที โดยปกติแล้วการเรียกกลับรถยนต์จะเกิดขึ้นเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการทำงานของรถ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดและแจ้งให้ผู้บริโภครับทราบผ่านช่องทางทางการ เช่น การประกาศจากเว็บไซต์ทางการ การแจ้งเตือนจากตัวแทนจำหน่าย เป็นต้น หากผู้ใช้งานต้องการติดตามข้อมูลการเรียกกลับของรถรุ่นนี้ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Chery บัญชีโซเชียลมีเดียทางการ หรือสอบถามโดยตรงที่ตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่นที่ได้รับอนุญาต พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับสถานะของรถรุ่นนี้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถรับทราบและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่มีการเรียกกลับ
Q
รถ Chery Omoda 5 ประหยัดน้ำมันไหม?
Chery Omoda 5 รุ่นต่างๆ จะมีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่น 1.5T ที่ระบุในรายการนั้นมีการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นพื้นฐานที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบเทอร์โบ จะสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 7.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและการเดินทางระยะสั้นในช่วงวันหยุด ประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน หรือน้ำหนักบรรทุก ดังนั้นตัวเลขการใช้น้ำมันจริงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ถ้าอยากให้รถประหยัดน้ำมันที่สุด ควรขับขี่อย่างนุ่มนวล ใช้แอร์อย่างเหมาะสม และไม่ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบานานเกินไป นอกจากนี้ Chery ยังแนะนำให้ใช้เชื้อเพลิง 95 RON สำหรับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรใช้เบนซิน 91 RON ก็เพียงพอ การเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามที่กำหนดจะช่วยรักษาประสิทธิภาพของรถและช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น
Q
Chery Omoda 5 มีคะแนนความปลอดภัยเท่าไหร่?
รถ Chery Omoda 5 ในปี 2022 ได้รับการประเมินความปลอดภัย 5 ดาวจาก ANCAP ครับ ในส่วนการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ได้คะแนน 87% ส่วนเด็กได้ 88% ส่วนผู้ใช้ถนนที่เปราะบางได้ 68% และระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัยได้ 83% รุ่นนี้ติดตั้งถุงลมนิรภัยถึง 7 ตัว รวมถึงถุงลมนิรภัยกลางสำหรับผู้โดยสารแถวหน้า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ทั้งระบบเบรกอัตโนมัติความเร็วต่ำ (AEB) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยรักษาเลนในกรณีฉุกเฉิน ระบบตรวจสอบจุดบอด ระบบเตือนเมื่อถอยหลังพร้อมเบรกอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบการละสายตาของคนขับ ระบบช่วยควบคุมในจราจรติดขัด ระบบแสดงข้อมูลความเร็วตามป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และกล้องมองรอบคัน 360 องศา ด้วยฟีเจอร์และคะแนนแบบนี้บอกได้เลยว่าเรื่องความปลอดภัยนั้นค่อนข้างดีทีเดียว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ระดับนึงเลยล่ะ
ดูเพิ่มเติมข่าวที่เกี่ยวข้อง

สงครามระหว่าง B-segment: Honda City Hatchback VS Suzuki Swift VS Mazda 2 Hatchback
LienApr 22, 2024

ตารางผ่อน Honda Accord ดาวน์ 15% ขั้นต่ำ 15,xxx บาทต่องวด
Kevin WongDec 1, 2025

เมื่อเปรียบเทียบ Honda City Hatchback กับ BYD Dolphin ควรเลือกอะไรสำหรับการเดินทางระยะสั้น?
ณัฐวุฒิNov 24, 2025

Honda Prelude ราคาสูงถึง 42,000 ดอลลาร์ ทำให้เราคิดถึง Prelude รุ่นก่อน
สุรเดชNov 20, 2025

Honda คาดว่า S2000 จะคัมแบ็ก แต่เนื่องจากความเป็นเอกลักษณ์ที่มากเกินไปจนยากที่จะฟื้นคืนชีพ
LienNov 19, 2025
ดูเพิ่มเติม


รุ่นรถ
ข้อดี
ข้อเสีย