Q

Mazda 2 ราคาเท่าไหร่

Mazda 2 Hatchback มีราคาขายอยู่ที่ 599,000-830,000 บาท ส่วน Sedan มีราคาขายอยู่ที่ 599,000-830,000 บาท
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
อัตราแรงดันลมยางสำหรับ mazda 2 คืออะไร
สำหรับ Mazda 2 แรงดันลมยางที่แนะนำโดยปกติอยู่ที่ล้อหน้า 2.2 - 2.3 บาร์ และล้อหลัง 2.2 - 2.5 บาร์ อย่างไรก็ตาม ค่าแรงดันที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ น้ำหนักบรรทุก และสภาพการขับขี่
Q
วิธีรีเซ็ตไฟบริการบน Mazda 2
วิธีการรีเซ็ตไฟเตือนการบำรุงรักษาของ Mazda 2 โดยทั่วไปมักมีขั้นตอนดังนี้: ปิดสวิตช์กุญแจ กดปุ่มรีเซ็ตระยะทางค้างไว้ เปิดสวิตช์กุญแจและรอจนไฟเตือนการบำรุงรักษากระพริบ ปล่อยปุ่มรีเซ็ต และกระบวนการรีเซ็ตจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ ขั้นตอนดังกล่าวอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยในแต่ละรุ่นปีและการติดตั้งอุปกรณ์ของ Mazda 2
Q
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ mazda 2 skyactiv ที่เวลาไหน
Mazda 2 Skyactiv โดยปกติควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ระยะทางประมาณ 40,000-60,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ ระยะเวลาดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และสภาพถนน หากคุณใช้งานในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน เช่น การจราจรที่ติดขัดหรือการหยุด-ออกตัวบ่อยครั้ง อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก่อนถึงระยะที่กำหนด
Q
Mazda 2 ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์อะไร
Mazda 2 ในประเทศไทยโดยทั่วไปมักใช้น้ำมันเครื่องรุ่น 5W-30 หรือ 0W-20 อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้น้ำมันเครื่องยังขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน ระยะทางที่ใช้งาน และสภาพของตัวรถโดยรวม โดยปกติแล้ว รถใหม่มักจะเหมาะกับการใช้น้ำมันเครื่องรุ่น 0W-20 มากกว่า
Q
วิธีการเปิดฝากระโปรงมาสด้า 2
วิธีเปิดฝากระโปรงหน้าของ Mazda 2 โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้: ขั้นแรก ให้ค้นหาคันโยกเปิดฝากระโปรงภายในห้องโดยสาร ซึ่งปกติจะอยู่บริเวณใกล้เท้าด้านคนขับ ดึงคันโยกเพื่อให้ฝากระโปรงดีดตัวขึ้นเล็กน้อย จากนั้น เดินไปที่ด้านหน้าของรถและหาตำแหน่งล็อกตรงกลางบริเวณขอบฝากระโปรง ใช้นิ้วมือปลดล็อกด้านในแล้วดันฝากระโปรงขึ้นจนเปิดได้
Q
แมสด้า 2 น้ำหนักเท่าไหร่
น้ำหนักของ Mazda 2 จะขึ้นอยู่กับรุ่นและการติดตั้งอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปน้ำหนักรถทั้งคันของรุ่นที่พบเห็นได้บ่อยจะอยู่ที่ประมาณ 1,300 กิโลกรัม
Q
mazda 2 มีกี่กระบอกสูบ
Mazda 2 ที่พบทั่วไปในตลาดประเทศไทยมักติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ ซึ่งให้สมดุลที่ดีระหว่างสมรรถนะและประหยัดน้ำมัน สามารถตอบสนองความต้องการในการขับขี่ในชีวิตประจำวันได้อย่างเพียงพอ
Q
กล่อง DCDC Mazda 2 ทำหน้าที่อะไร
กล่อง DCDC ของ Mazda 2 ในประเทศไทย มีหน้าที่ในการควบคุมและแปลงกระแสไฟฟ้าให้เป็นแบบที่ระบบไฟฟ้าของรถต้องการ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสถียร บนถนนของประเทศไทย รายละเอียดและคุณสมบัติเฉพาะอาจแตกต่างเล็กน้อยตามรุ่นและปีที่ผลิตของรถ
Q
Mazda 2 เป็นเกียร์ชนิดใด
Mazda 2 ที่พบได้ทั่วไปในตลาดประเทศไทยมักมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและการตอบสนองที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ
Q
วิธีรีเซ็ตหน้าจอ Mazda 2
วิธีรีเซ็ตหน้าจอของ Mazda 2 อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปคุณสามารถลองค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องในเมนูการตั้งค่าของรถยนต์ วิธีการทั่วไปคือการใช้ปุ่มควบคุมภายในรถเพื่อเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าระบบ แล้วค้นหาตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับการรีเซ็ตหน้าจอ หากรถของคุณมีหน้าจอสัมผัส คุณสามารถค้นหาไอคอนการตั้งค่าบนหน้าจอได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าขั้นตอนเฉพาะอาจแตกต่างกันไปตามปีที่ผลิตและรุ่นย่อยของ Mazda 2

ข้อดี

Skyactive-G 1.3 ลิตรน้ำมันเบนซินสามารถใช้เบนซินน้ำตาลหรือ 95 E10 และ E20 แอลกอฮอล์เบนซิน Skyactive-D 1.5 ลิตรเครื่องยนต์ดีเซลเลือก
ติดตั้งระบบ GVC-Plus เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมยานพาหนะ เพิ่มความเสถียร ทำให้เลี้ยวง่าย มีความยึดเกาะดี ทำให้ขับขี่มั่นใจมากขึ้น
วัสดุตกแต่งภายในคุณภาพดี การยัดนุ่มทุกที่ ประทับหนังดีมีความรู้สึกทางประสบการณ์ รอยเย็บสวยงาม การออกแบบอุปกรณ์ใช้งานง่าย มีความรู้สึกแบบพรีเมี่ยม
ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ CVT 6 ความเร็วแบบมือ สามารถสลับได้ด้วยเหยียบคันเร่งหรือคันควบคุมเพลาสลับเกียร์ ระยะสลับเกียร์ที้ดี ขับขี่น่าสนใจ
รถยนต์เบนซินพื้นฐานมีการใช้น้ำมันต่ำ สามารถได้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ดีเซลสามารถได้ถึง 26.3 กิโลเมตร/ลิตรการขับขี่ที่ความเร็วคงที่ระหว่าง 80 - 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 30 กิโลเมตร/ลิตร

ข้อเสีย

ที่นั่งด้านหลังมีพื้นที่เ narrowคสมากความสะดวกในการขนส่งไม่ค่อยดีเลยด้วยเฉพาะเมื่อมน 4 - 5 คน
คุณภาพการเร่งความเร็วของเครื่องยนต์ patrol นั้นเฉยๆ การตอบสนองไม่ผล เเละความรูปแบบไม่ดีเท่ากับรุ่นดีเซล
ทรงรถที่กุณาบกับที่แล้วไม่ค่อยคุณหน่อยเฉพาะเจาะจงกว่าคู่แข่ง
ส่วนของอะไหล่แพงบางครั้งต้องรออะไหล่ครนเวลานาน
รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง patrol 1.3 ลิตร Skyactiv-G รุ่นเริ่มต้นที่ 546,000 บาท ดีเซล 1.5 ลิตร Skyactiv-D รุ่นเริ่มต้นที่ 782,000 บาท

Q&A ล่าสุด

Q
MG Maxus 9 มีสีอะไรบ้าง คุณชอบสีไหน
MG Maxus 9 ในตลาดไทยมีให้เลือก 3 สีที่各有เอกลักษณ์ แสดงถึงความหรูหราสมัยใหม่ของรถ MPV รุ่นพรีเมียม สี GRANITE GREY BLACK TOP ใช้โทนสีเทาเข้มคู่กับหลังคาสีดำแบบ Two-Tone พร้อมสีเมทัลลิกที่ให้เอฟเฟกต์สะท้อนแสงเป็นชั้นๆ ดูคลาสสิกแต่ก็มีความทันสมัย เหมาะกับนักธุรกิจที่ชอบความหรูหราแบบเรียบหรู ส่วนสี PEARL WHITE ใช้เทคนิคสีไข่มุกพิเศษ โดยมีการผสมผงมุกที่ให้แสงแวววาวอ่อนๆ ใต้แสงแดด ดูสดชื่นและมีระดับ ช่วยขับความเป็นเจ้าของที่มีรสนิยมดี และเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทยเป็นพิเศษ สำหรับสี BLACK KNIGHT เป็นสีดำลึกเฉพาะตัว พร้อมฟินิชชิ่งที่ให้ความเงางามสูงสุด แสดงถึงความหรูหราอลังการของรถ MPV รุ่นเรือธง แต่ต้องดูแลรักษาบ่อยหน่อยในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมากของไทย ทุกสีถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในเขตร้อน มีความทนทานต่อสภาพอากาศและรังสียูวีเป็นอย่างดี โดยสีขาวไข่มุกถือว่าปฏิบัติการได้ดีที่สุด เพราะดูแลง่ายและไม่ร้อน车内 ส่วนสีเทาแกรนิตกับดำไนท์เหมาะกับคนที่ชอบความโดดเด่นเป็นพิเศษ
Q
MG Maxus 9 ราคาเท่าไหร่
MG Maxus 9 เปิดตัว 2 รุ่นในไทยแล้ว ทั้งรุ่น X และรุ่น V ราคาเริ่ม 2.499 ล้านบาท และ 2.699 ล้านบาทตามลำดับ รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการเป็น MPV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ขนาดตัวถัง 5,270×2,000×1,840 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม. ให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง แม้จะใช้เป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ก็สะดวกสบาย แบตเตอรี่ขนาด 90kWh ให้ระยะทางสูงสุดถึง 540 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมฟีเจอร์หรูหราอีกมากมาย เช่น เก้าอี้ Ottoman พร้อมฟังก์ชันนวดและปรับความร้อน/เย็น ระบบเปิด-ปิดประตูหลังและประตูสไลด์อัตโนมัติ ไปจนถึงซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านในติดตั้งหน้าจอมัลติมีเดีย 12.3 นิ้ว คู่กับหน้าปัดดิจิตอล 7 นิ้วหรือ 9 นิ้ว ยอดจองในไทยพุ่งแรง ภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์มียอดจองทะลุ 1,100 คัน และถูกมองว่าเป็นคู่แข่งตัวท้าทาย Toyota Alphard ในตลาดอาเซียน
Q
MG Maxus 9 มีสเปคอะไรบ้าง
MG Maxus 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ MPV ระดับไฮเอนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและกลุ่มธุรกิจในตลาดไทย ด้วยความกว้างขวางของพื้นที่ภายในและคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถคันนี้มีขนาดตัวถัง 5270x2000x1840 มม. ระยะฐานล้อ 3200 มม. จุผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง พร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองด้าน ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ไกลถึง 540 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC และรองรับการชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพื่อชาร์จจาก 30% ถึง 80% ด้านในติดตั้งหน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วและหน้าจอกลางแบบลอยตัว พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติและระบบรักษาเลน เหมาะสำหรับการเดินทางในเมืองและท่องเที่ยวระยะไกลในไทย สำหรับผู้สนใจในไทยควรทราบว่าแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion Ternary ทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อน MG ยังมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและสถานีชาร์จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษี ทำให้มีราคาคุ้มค่า แนะนำให้ทดลองนั่งแถวที่สามและตรวจสอบพื้นที่เก็บของเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ขนาดตัวถัง Toyota Crown เท่าไหร่?
รถโตโยต้า คราวน์ เป็นรุ่นคลาสสิกที่ขนาดตัวถังจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและรุ่นย่อย ถ้าเอารุ่นล่าสุดเป็นตัวอย่าง ความยาวจะอยู่ที่ประมาณ 4,910-5,030 มม. ความกว้างประมาณ 1,800-1,840 มม. ส่วนความสูงประมาณ 1,450-1,470 มม. ระยะฐานล้อประมาณ 2,920 มม. จัดอยู่ในกลุ่มรถซีดานขนาดกลางใหญ่ ขนาดแบบนี้สำหรับในเมืองไทยถือว่าโอเคเลย ทั้งให้พื้นที่โดยสารที่เพียงพอ แต่ก็ไม่ใหญ่จนขับยากหรือจอดลำบากในลานจอดรถ สำหรับตลาดไทย คราวน์ถือว่าเหมาะกับครอบครัว โดยเฉพาะช่วงขาหลังที่กว้างขวาง ช่วยให้สบายเวลาเดินทางไกล ส่วนกระโปรงหลังก็จุของได้เยอะพอใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากขนาดตัวรถแล้ว คนไทยที่กำลังมองหารถอาจจะสนใจระบบไฮบริดของคราวน์ที่ช่วยประหยัดน้ำมันในสภาพการจราจรติดขัดแบบกรุงเทพฯ อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของโตโยต้าในไทยก็ครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ควรคิดถึงเวลาเลือกซื้อรถเหมือนกัน
Q
Toyota Crown ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่?
จำนวนผ่อนรายเดือนของ Toyota Crown ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น รุ่นที่เลือก ระยะเวลาผ่อน เงินดาวน์ และอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร ยกตัวอย่างรุ่นไฮบริด 2.5L ที่มีราคารถประมาณ 2 ล้านบาท หากวางเงินดาวน์ 30% และผ่อนนาน 5 ปี ภายใต้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของธนาคารชั้นนำที่ประมาณ 2.5%-3.5% จะมีค่างวดประมาณ 25,000-28,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ในการซื้อรถยนต์ในไทยนอกจากราคารถและดอกเบี้ยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประกันภัยชั้นหนึ่งประมาณ 3% ของราคารถ, ค่าจดทะเบียนราว 1,000-2,000 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อีกด้วย หากเลือกไฟแนนซ์ บางดีลเลอร์อาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% สำหรับปีแรก ในระยะยาว รถยนต์ไฮบริดอย่าง Toyota Crown ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีบางส่วน และมีความประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาซื้อรถ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขกับรถระดับเดียวกัน เช่น Lexus ES หรือ Honda Accord Hybrid พร้อมทั้งตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยล่าสุดผ่านเว็บไซต์ของสมาคมธนาคารไทยก่อนตัดสินใจซื้อ
ดูเพิ่มเติม