Q

ราคาโตโยต้าคอรอลล่าครอสเท่าไหร่

ราคาของ Toyota Corolla Cross ในประเทศไทยอาจแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าและความผันผวนของตลาด โดยทั่วไปราคา 1.8 Sport Plus อยู่ที่ 999,000 บาท ราคา HEV Premium อยู่ที่ 1,094,000 บาท และราคา HEV Premium Luxury อยู่ที่ 1,204,000 บาท
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Corolla Cross คืออะไร
รถโตโยต้า คอร์โรลลา ครอส ถือเป็น SUV คอมแพคต์ที่ขายดีในตลาดไทย แม้จะมีความสมดุลในหลายด้าน แต่ก็มีจุดอ่อนที่ควรรู้ เช่น ในสภาพอากาศร้อนของไทย บางเจ้าของรถสะท้อนว่าแอร์เย็นช้าโดยเฉพาะเมื่อติดรถนานๆ ในจราจรคับคั่ง โดยเฉพาะบริเวณหลังรถที่เย็นลงช้ากว่าหน้า ส่วนเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร แบบธรรมดาให้กำลังเรียบๆ อาจไม่ตอบโจทย์คนที่ชอบขับสปอร์ต ส่วนรุ่นไฮบริดประหยัดน้ำมันแต่ราคาสูง ทำให้ความคุ้มค่าในตลาดไทยสู้รุ่นเบนซินไม่ได้เลย ในเรื่องพื้นที่เก็บของ แม้จะเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่กระโปรงหลังเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วค่อนข้างเล็ก โดยเฉพาะเวลาต้องขนของชิ้นใหญ่ๆ อาจลำบากหน่อย ที่สำคัญคือช่วงฤดูฝนของไทย ยางมาตรฐานที่มากับรถอาจเกาะถนนไม่ค่อยดีเวลาถนนลื่น แนะนำว่าให้อัพเกรดยางที่เหมาะกับสภาพฝนร้อนจะดีกว่า ข้อเสียเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ความนิยมของมันลดลงในฐานะรถครอบครัวประหยัดน้ำมัน แต่ก่อนซื้อก็ควรคิดให้ดีว่าตรงกับความต้องการเราหรือเปล่า
Q
Toyota Corolla Cross มีความจุกระบอกสูบกี่ซีซี?
Toyota Corolla Cross มีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการ โดยทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์ขนาด 1,798 ซีซี หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า 1.8 ลิตร สำหรับรุ่นที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเดียว ใช้ระบบดูดอากาศแบบธรรมชาติ ให้กำลังสูงสุด 103 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่นไฮบริดนั้น เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 72 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวม 53 กิโลวัตต์ แรงบิดรวม 163 นิวตัน-เมตร ทำให้ระบบรวมแล้วให้กำลังสูงสุดถึง 90 กิโลวัตต์ ด้วยความจุ 1.8 ลิตรนี้ ถือว่าเหมาะสมสำหรับ SUV ขนาดกะทัดรัดอย่างคอร์โรลลา ครอส เพราะให้กำลังเพียงพอต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ทั้งการขับเคลื่อนในเมืองหรือการเดินทางบนทางหลวงก็ทำได้อย่างคล่องตัว
Q
ระบบเกียร์ของ Toyota Corolla Cross เป็นแบบไหน?
ระบบส่งกำลังของ Toyota Corolla Cross จะแตกต่างกันไปตามประเภทของระบบขับเคลื่อนในแต่ละรุ่น สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินจะใช้เกียร์ CVT ที่ให้ความรู้สึกเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหล ช่วยลดการกระชากของรอบเครื่องยนต์ระหว่างเปลี่ยนเกียร์ได้ดี ทำให้การส่งกำลังเป็นเส้นตรงมากขึ้น เพิ่มความสบายในการขับขี่ และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ในระดับหนึ่ง ส่วนรุ่นไฮบริดจะใช้เกียร์ E-CVT แบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ สามารถสลับการทำงานระหว่างโหมดไฟฟ้าล้วน โหมดเครื่องยนต์ หรือโหมดผสมได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลัง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่เหมาะสมตลอดเวลา ทั้งช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นและยังให้กำลังส่งที่ราบรื่นเต็มประสิทธิภาพ
Q
Toyota Corolla Cross มีขนาด PCD (ระยะห่างรูน็อตล้อ) เท่าไหร่?
รถโตโยต้า โคโรลลา ครอส ในตลาดไทยมีขนาด PCD (ระยะวงกลมรูสลัก) เป็น 5x114.3 หมายความว่าล้อมีรูสลัก 5 รู เรียงตัวเป็นวงกลมระยะห่าง 114.3 มม. ซึ่งสเปคนี้ตรงกับรถ SUV ยอดนิยมในตลาดไทยอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี และนิสสัน เอ็กซ์เทรล ทำให้เจ้าของรถสามารถเลือกเปลี่ยนล้อได้สะดวกขึ้น สำหรับสภาพอากาศไทยที่ร้อนชื้น แนะนำให้เลือกล้ออัลลอยแบบน้ำหนักเบาช่วยระบายความร้อนได้ดี แต่ต้องเช็คค่า ET (ออฟเซ็ต) และขนาดรูกลางล้อให้ตรงกับสเปคเดิมเพื่อความปลอดภัย ในไทยมีร้านแต่งรถหลายเจ้าให้บริการแปลง PCD แต่การแต่งแบบนี้อาจส่งผลต่อระบบช่วงล่าง ทางที่ดีควรเลือกล้อที่ตรงกับสเปคโรงงานจะเหมาะกว่า นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดว่าการเปลี่ยนล้อต้องไม่กว้างเกินขนาดเดิม 10% และขอบล้อต้องไม่ยื่นออกมานอกตัวรถ เจ้าของรถควรปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้เมื่ออัพเกรดล้อ
Q
ภาษีรถยนต์ของ Toyota Corolla Cross ต้องจ่ายเท่าไหร่? แล้วเขาคิดยังไง?
ในประเทศไทย ค่าภาษีรถยนต์ (Road Tax) ของ Toyota Corolla Cross จะคำนวณหลักๆ จากขนาดเครื่องยนต์และอายุการใช้งาน โดยอ้างอิงตามอัตราภาษีมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกไทย สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ภาษีปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาท ส่วนรุ่นไฮบริดเช่น 1.8 ลิตร HEV อาจได้รับส่วนลดภาษีบ้าง แต่ต้องตรวจสอบจำนวนเงินที่แน่นอนกับหน่วยงานจัดเก็บภาษีในพื้นที่ เวลาคำนวณต้องเตรียมเอกสารทะเบียนรถ (เล่มสีน้ำเงิน) และหลักฐานการชำระภาษีปีก่อนหน้า สามารถตรวจสอบอัตราภาษีละเอียดได้ผ่านเว็บไซต์ DLT หรือที่สำนักงานขนส่งสาขา นอกจากนี้ระบบภาษีรถยนต์ไทยใช้วิธีคิดแบบขั้นบันได ยิ่งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่หรือรถเก่ามากเท่าไหร่ ภาษีก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนรถพลังงานสะอาดอาจได้รับสิทธิประโยชน์บ้าง แนะนำให้เจ้าของรถติดตามข่าวสารนโยบายภาษีอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนรถไฟฟ้าและรถไฮบริด ซึ่งข้อมูลอัพเดทสามารถตรวจสอบได้ผ่านช่องทางราชการ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณปฏิบัติตามกฎหมายและสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม
Q
ราคารถมือสอง Toyota Corolla Cross เท่าไหร่?
ในตลาดรถมือสองประเทศไทย โตโยต้า คอร์โรลลา ครอส ถือเป็น SUV ยอดนิยมที่ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน ระยะทาง อุปกรณ์ และสภาพรถ โดยทั่วไปรถอายุ 1-2 ปี จะมีราคาประมาณ 70%-80% ของรถใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องประเมินจากสภาพรถจริง แนะนำให้ตรวจสอบราคาปัจจุบันผ่านช่องทางรถมือสองรับรองโดยโตโยต้า (Toyota Sure) หรือแพลตฟอร์มขายรถมือสองชื่อดังในท้องตลาด นอกจากนี้เมื่อซื้อรถมือสองในไทย ควรให้ความสำคัญกับประวัติการบำรุงรักษา ประวัติอุบัติเหตุ และระยะเวลารับประกันที่เหลืออยู่ เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อมูลค่าารถอย่างมาก ต้องบอกว่า คอร์โรลลา ครอส ได้รับความนิยมในตลาดรถมือสองเนื่องจากภาพลักษณ์แบรนด์โตโยต้าที่แข็งแกร่งในไทยและอัตราการรักษามูลค่าสูง โดยเฉพาะรุ่น Hybrid ที่ประหยัดน้ำมันยิ่งเป็นที่ต้องการมาก ส่วนนโยบายส่งเสริมรถพลังงานสะอาดของรัฐบาลไทยก็อาจส่งผลต่อราคารถมือสองรุ่น Hybrid ด้วย ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายช่องทางและให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดเพื่อความมั่นใจ
Q
ค่าเช็กระยะหรือค่าบริการของ Toyota Corolla Cross อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?
ราคาของ Toyota Corolla Cross ในประเทศไทยจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ โดยราคาเริ่มต้นในตลาดไทยอยู่ที่ประมาณ 999,000 บาท ส่วนรุ่นท็อปสุดอาจสูงถึง 1,249,000 บาท อย่างไรก็ตามแนะนำให้สอบถามราคาที่อัปเดตและโปรโมชันต่างๆ จากผู้จำหน่ายในพื้นที่โดยตรง Corolla Cross ถือเป็น SUV ตัวท็อปของโตโยต้าในไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความน่าเชื่อถือของแบรนด์และการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน โดยมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ทั้งแบบเบนซิน 1.8L และไฮบริด 1.8L ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ ในตลาดไทยคู่แข่งหลักของ Corolla Cross ก็อย่างเช่น Honda HR-V และ Mazda CX-30 แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเครือข่ายบริการหลังการขายและภาพลักษณ์ที่ดีของโตโยต้าในไทย ทำให้ Corolla Cross ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างมั่นคง นอกจากราคาแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้ออาจพิจารณาโปรแกรมจัดไฟแนนซ์และแพ็คเกจบริการจากผู้จำหน่าย ซึ่งช่วยลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาวได้อีกด้วย
Q
Toyota Corolla Cross มีระยะห่างจากพื้นเท่าไหร่
Toyota Corolla Cross มีระยะต่ำสุดจากพื้นโดยทั่วไปประมาณ 161 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับรองรับสภาพถนนทั่วไปในประเทศไทย เช่น ลูกระนาดบนถนนในเมืองหรือถนนในชนบทที่ไม่ขรุขระมากนัก อย่างไรก็ตาม ระยะห่างจากพื้นอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งเพิ่มเติม
Q
วิธีการเปิดท้ายทรงครอสโคโรลล่าจากภายใน
วิธีเปิดฝากระโปรงท้ายของ Crosstour โดยทั่วไปสามารถทำได้โดยกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ฝากระโปรงท้ายซึ่งอยู่ใกล้กับที่นั่งคนขับ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งและวิธีการใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยของ Crosstour บางรุ่นอาจต้องปลดล็อกรถก่อนจึงจะสามารถเปิดฝากระโปรงท้ายได้
Q
วิธีการเริ่มต้นรถยนต์โตโยต้าคอโรลล่าครอส 2023 จากระยะไกล
Toyota Corolla Cross 2023 ในประเทศไทยโดยทั่วไปไม่มีฟังก์ชันสตาร์ทรถระยะไกล รูปแบบการสตาร์ทรถขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย หากเป็นรุ่นมาตรฐานจะใช้กุญแจเสียบและบิดเพื่อสตาร์ท ส่วนรุ่นที่มีระบบกุญแจอัจฉริยะสามารถกดปุ่มสตาร์ทได้โดยพกกุญแจติดตัว อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบรายละเอียดจากคู่มือรถและอุปกรณ์ที่มาพร้อมกับรุ่นที่ท่านเลือก

ข้อดี

ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ทำให้ตกใจ
พื้นที่จัดเก็บบนหลังคาที่มีเพียงพอ
ระบบความบันเทิงและข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุง
มีระบบความปลอดภัยทั่วถึง
ใช้โครงสร้างรถยนต์ TNGA
เครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นที่ 4 ประหยัดน้ำมันและสนุกที่จะขับขี่
สิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงอายุ

ข้อเสีย

พื้นที่จัดเก็บของหน้าไม่เพียงพอ
พื้นที่แถวที่สองแคบ
ตัวเลือกเครื่องยนต์น้อย
รูปทรงไม่ได้สมัย
ที่นั่งแถวหลังไม่สบาย

Q&A ล่าสุด

Q
รถ E-Class ปลอดภัยหรือไม่?
Mercedes-Benz E-Class ในตลาดประเทศไทยเป็นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงมากติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยหลายรายการเช่นระบบ PRE-SAFE ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่โดยเฉพาะในสภาพจราจรที่ซับซ้อนอย่างกรุงเทพมหานคร ระบบความปลอดภัยเชิงรุกช่วยลดความเสี่ยงจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ E-Class ได้รับคะแนนระดับห้าดาวจากการทดสอบการชน Euro NCAP โครงสร้างตัวถังแข็งแรงและติดตั้งถุงลมนิรภัยครบถ้วนเพื่อปกป้องผู้โดยสารอย่างรอบด้าน นอกจากนี้ระบบเบรกและโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพอิเล็กทรอนิกส์ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพถนนเปียกชื้นของประเทศไทย เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ สำหรับผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย E-Class เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีสมรรถนะความปลอดภัยเป็นผู้นำในกลุ่มรถระดับเดียวกันทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล
Q
Is E-Class เป็นรถที่เชื่อถือได้หรือไม่?
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ในฐานะรถยนต์หรูขนาดกลางใหญ่ที่วางขายในตลาดไทย มีความน่าเชื่อถือในภาพรวมค่อนข้างดี เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะที่ใช้ในรุ่นนี้เป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการพัฒนามาอย่างดีแล้ว โดยเฉพาะระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในไทยได้เป็นอย่างดี ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของอี-คลาสในรุ่นปีหลังๆ นั้นมีความเสถียรมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดสในไทยก็ครอบคลุม พร้อมนโยบายประกันจากโรงงานที่ให้ความคุ้มครอง 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องการบำรุงรักษาในระยะยาวได้ดี อย่างไรก็ตาม สภาพความชื้นสูงของไทยอาจเป็นปัจจัยที่กระทบต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรถหรู แนะนำให้ตรวจสอบวงจรไฟฟ้าเป็นประจำ ส่วนสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมืองไทยอาจทำให้รุ่นไฮบริดอย่าง E 300e มีความเหมาะสมมากขึ้น ในกลุ่มรถระดับเดียวกัน อี-คลาสมีอัตราการถือครองที่มั่นคงในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ แต่ควรระวังเรื่องระยะเวลารออะไหล่สำหรับบางรุ่นที่นำเข้า โดยรวมแล้ว หากดูแลรักษาตามคู่มืออย่างเคร่งครัด อี-คลาสจะให้ประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่าตามมาตรฐานรถหรู แนะนำให้ผู้ใช้ในไทยเลือกรุ่นดีเซลหรือปลั๊ก-อินไฮบริดที่ประกอบในประเทศ เพราะให้ความประหยัดและเหมาะกับสภาพการใช้งานในไทยมากกว่า
Q
เมอร์เซเดส อี-คลาส ทนทานไหม?
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสอี ในตลาดไทยแสดงความทนทานในระยะยาวได้ดีเยี่ยม ซึ่งเป็นผลมาจากงานฝีมือมาตรฐานเยอรมันและการออกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ระบบระบายความร้อนที่เสริมความแข็งแกร่งและการป้องกันสนิม สภาพอากาศที่ร้อนและฝนชุกของไทยถือเป็นการทดสอบที่หนักหนาสำหรับชิ้นส่วนโลหะและระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรุ่นอี แต่รถที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอมักจะวิ่งได้เกิน 300,000 กิโลเมตร สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามช่วงเวลาบำรุงรักษาที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไทยแนะนำ โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบแอร์ แบตเตอรี่ และชิ้นส่วนยาง ถนนไทยมีความซับซ้อน แนะนำให้เลือกแบบที่มีระบบกันสะเทือนลมเพื่อเพิ่มความทนทานของช่วงล่าง อะไหล่แท้จากตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทยและน้ำมันเครื่องที่ปรับสูตรสำหรับอากาศร้อนสามารถยืดอายุเครื่องยนต์ได้อย่างเห็นได้ชัด อัตราการรักษามูลค่ารถมือสองของคลาสอีในตลาดรถหรูไทยยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ สำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้งานระยะยาว แนะนำให้ซื้อรถมือสองที่ผ่านการรับรองจากทางบริษัทและเพิ่มบริการรับประกันระยะยาว พร้อมทั้งระวังการสึกหรอของเกียร์จากการขับ停สลับกันบ่อยในเมืองอย่างกรุงเทพฯ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยขึ้นจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
Q
E-Class บำรุงรักษาสูงหรือไม่?
Mercedes-Benz E-Class ในประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอยู่ในระดับกลางถึงสูง แม้ว่าชิ้นส่วนและค่าบำรุงรักษาจะสูงกว่ารถทั่วไปแต่ความน่าเชื่อถือโดยรวมดีและค่าใช้จ่ายระยะยาวยังคงควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในประเทศไทยตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดสเบนซ์อย่างเป็นทางการมีแพ็กเกจบำรุงรักษารายระยะที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายแนะนำให้เจ้าของรถปฏิบัติตามคู่มือบำรุงรักษาอย่างเคร่งครัด เช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองทุก 10000 กิโลเมตรหรือทุก 12 เดือน เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายซ่อมแซมที่สูงจากการละเลย สภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทยส่งผลต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยางจึงควรตรวจสอบระบบปรับอากาศ ผ้าเบรกและสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้เครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดสเบนซ์ในไทยมีความครบครันโดยเฉพาะในเมืองหลักเช่นกรุงเทพ เชียงใหม่และภูเก็ต ทำให้เจ้าของรถเข้าถึงอะไหล่แท้และบริการมืออาชีพได้สะดวก หากงบประมาณจำกัดสามารถเลือกใช้บริการขยายประกันอย่างเป็นทางการหรือศูนย์ซ่อมที่เชื่อถือได้โดยใช้ชิ้นส่วนทดแทนที่มีมาตรฐานแต่ควรระวังว่าการเลือกใช้วิธีนี้อาจส่งผลต่อมูลค่าขายต่อ เมื่อเทียบกับแบรนด์หรูในระดับเดียวกัน E-Class มีช่วงเวลาบำรุงรักษาที่ยาวนานและมีจำนวนรถในตลาดไทยมากช่วยลดความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่อเนื่อง
Q
รถ Mercedes E-Class คงมูลค่าได้ดีหรือไม่
เมอร์เซเดส-เบนซ์ คลาสอี ในตลาดประเทศไทยมีอัตราการรักษามูลค่ารถที่ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มั่นคง และความต้องการในตลาดที่สูง โดยเฉพาะในตลาดรถหรูของไทย คลาสอีได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเนื่องจากสามารถตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเชิงธุรกิจและครอบครัวได้เป็นอย่างดี อัตราการรักษามูลค่ารถหลังจาก 3 ปีมักจะอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของรถในระดับเดียวกัน ในตลาดไทยยังมีการยอมรับรุ่นดีเซลของคลาสอีค่อนข้างสูง เนื่องจากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ทำให้รถดีเซลมีสภาพคล่องในตลาดมือสองมากกว่า ส่วนรุ่นไฮบริดก็ได้รับความนิยมจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาลที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับรถเช่นกัน อย่างไรก็ตาม อัตราการรักษามูลค่ารถจะขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง การใช้งาน ระดับอุปกรณ์ และประวัติการบำรุงรักษา ดังนั้นควรซื้อขายผ่านช่องทางรถมือสองรับรองโดยทางการเพื่อให้ได้มูลค่าคงเหลือที่สูงกว่า หากมองในภาพกว้าง ผู้บริโภคไทยเมื่อซื้อรถหรูมือสองมักให้ความสำคัญกับการรับประกันจากศูนย์และประวัติการบริการตามระยะ ดังนั้นรถที่มีเอกสารบริการจากศูนย์ครบถ้วนจะรักษามูลค่าได้ดีกว่า นอกจากนี้เทคโนโลยีช่วยขับขี่ของคลาสอีอย่าง Distronic ก็ช่วยเพิ่มมูลค่าในตลาดมือสองได้ แต่ต้องระวังเรื่องผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนชื้นต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถ ควรตรวจสอบระบบแอร์และป้องกันสนิมเป็นประจำเพื่อรักษาสภาพรถให้ดีที่สุด
ดูเพิ่มเติม