Q

ราคามือสองของ BYD M6 คืออะไร ตรวจสอบราคามือสองได้ที่นี่

ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลราคามือสองของ BYD M6 ในประเทศไทยอย่างชัดเจน ราคามือสองโดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุการใช้งาน ระยะทางที่วิ่ง สภาพรถ เป็นต้น ในปี 2024 BYD M6 ได้วางจำหน่ายในไทยแล้ว มีรุ่น Dynamic และ Extended โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ 829,900 บาท และ 929,900 บาทตามลำดับ หากรถเพิ่งออกจากตลาดไม่นานและเข้าสู่ตลาดมือสอง รถจะมีอายุใช้งานสั้น ระยะทางวิ่งน้อย และสภาพดี ราคาจะยังคงสูงใกล้เคียงกับราคาป้าย แต่ถ้าใช้รถหลายปี มีระยะทางวิ่งและการสึกหรอ ราคาจะลดลงอย่างมาก เช่น หากใช้ประมาณ 3 ปี ราคามือสองอาจอยู่ที่ประมาณ 50%-70% ของราคาป้าย สำหรับข้อมูลราคามือสองที่ชัดเจน แนะนำติดตามแพลตฟอร์มซื้อขายรถมือสองในไทย ตัวแทนจำหน่ายมือสอง หรือติดต่อศูนย์บริการ BYD ที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ขนาดของ BYD M6 คือเท่าไร
BYD M6 เป็นรถ MPV ขนาดกลางที่มีขนาดตัวถังยาว 4,820 มิลลิเมตร กว้าง 1,810 มิลลิเมตร สูง 1,765 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,960 มิลลิเมตร ขนาดนี้เหมาะมากสำหรับใช้ในเมืองไทยทั้งการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว เพราะให้พื้นที่ภายในกว้างขวางแต่ก็ยังคล่องตัวไม่เกะกะ บรรจุคนได้ 7 ที่นั่ง ดีทั้งสำหรับครอบครัวและรับรองลูกค้า โดยเฉพาะในอากาศร้อนๆ ของไทย ระบบแอร์ที่เย็นฉ่ำและเบาะนั่งที่ออกแบบมาให้สบายช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินในการเดินทาง นอกจากนี้ยังประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดไทยที่กำลังมองหารถประหยัดพลังงาน สำหรับคนไทยแล้ว BYD M6 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะขนาดกำลังดีและใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรคับคั่ง ความคล่องตัวและการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพของรุ่นนี้ช่วยตอบสนองความต้องการในการเดินทางได้อย่างดีเยี่ยม
Q
BYD M6 มีที่นั่งกี่ที่
BYD M6 เป็นรุ่นรถ MPV 7 ที่นั่ง ที่มีการจัดเรียงแบบ 2+2+3 แถวที่นั่งสองเป็นแบบอิสระ ออกแบบมาเพื่อความสบายของผู้โดยสาร เหมาะมากสำหรับครอบครัวใหญ่ในไทยหรือการใช้งานเพื่อรับรองทางธุรกิจ รุ่นนี้ได้รับความสนใจในตลาดไทยเพราะตอบโจทย์ทั้งความกว้างขวางและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ซึ่งตรงกับความต้องการของคนไทยที่มองหาทั้งประโยชน์ใช้สัดและความรักษ์โลก ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญรถไฟฟ้าอย่าง BYD นี้ยังทำงานได้ดีในสภาพอากาศร้อนของไทย ระบบแอร์เย็นเร็ว และชุดแบตเตอรี่ผ่านการทดสอบสภาพแวดล้อมอุณหภูมิสูงเพื่อความปลอดภัย เวลาเลือกรถ MPV 7 ที่นั่งในไทย นอกจากจำนวนที่นั่งแล้ว ยังต้องดูเรื่องความสูงของตัวรถเพราะบางพื้นที่ชนบทถนนอาจไม่ดี แต่ BYD M6 ออกแบบระยะชักดินให้เหมาะสมทั้งในเมืองและเส้นทางลูกรังเล็กน้อย ในตลาดไทย MPV รุ่นเดียวกันมักให้ความสำคัญกับระบบความบันเทิงแถวหลังและพื้นที่เก็บของที่ปรับได้ ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ครอบครัวไทยให้ความสนใจเวลาเลือกซื้อรถ
Q
คือ BYD M6 แมวหรือเปล่า
ในมาตรฐานการแบ่งประเภทรถยนต์ของไทย CAT A จะหมายถึงรถคอมแพคต์ที่มีความจุเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี ส่วน BYD M6 ที่เป็นรถเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ทั้งขนาดเครื่องยนต์และตัวถังนั้นเกินเกณฑ์นี้แน่นอน จึงไม่สามารถจัดอยู่ใน CAT A ได้ แต่ควรอยู่ใน CAT B หรือสูงกว่า สำหรับตลาดไทย BYD M6 ได้รับความสนใจจากครอบครัวไทยเพราะมีพื้นที่กว้างขวางและอุปกรณ์ใช้งานได้จริง เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตรที่ให้ทั้งแรงขับและประหยัดน้ำมันก็เหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองและเดินทางไกล เวลาเลือกซื้อรถเอ็มพีวีในไทย นอกจากประเภทรถแล้ว ควรดูปัจจัยอื่นๆ เช่น จำนวนผู้โดยสาร ความจุท้ายรถ และเครือข่ายบริการหลังการขายด้วย BYD ที่กำลังขยายตัวในไทยก็มีการพัฒนาระดับผู้จำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้สะดวกขึ้น ซึ่งก็นับเป็นจุดเด่นที่ควรพิจารณาเวลาเลือกซื้อรถเช่นกัน
Q
ความดันลมยางสำหรับ BYD M6 คือเท่าไร
ตามคำแนะนำอย่างเป็นทางการของ BYD M6 แรงดันลมยางมาตรฐานอยู่ระหว่าง 2.2 ถึง 2.5 บาร์ หรือประมาณ 32 ถึง 36 psi ค่าที่แน่นอนอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปีรุ่น ขนาดยาง หรือภาระบรรทุก แนะนำให้ตรวจสอบจากคู่มือรถหรือสติกเกอร์ที่กรอบประตู ในสภาพอากาศร้อนของไทย แรงดันลมยางอาจสูงขึ้นเล็กน้อยจากความร้อน จึงควรตรวจสอบทุกเดือน โดยวัดตอนเช้าหรือหลังจอดรถนานเพื่อความแม่นยำ การรักษาแรงดันลมยางที่เหมาะสมช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ยืดอายุการใช้งานของยาง และเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนในไทย แรงดันที่ถูกต้องช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนเปียก หากขับทางไกลบ่อยหรือบรรทุกหนัก สามารถปรับแรงดันล้อหลังให้สูงสุดตามช่วงแนะนำแต่ไม่เกินแรงดันสูงสุดที่ระบุบนยาง การตรวจสอบแรงดันยางยังเป็นโอกาสตรวจสภาพยางเพื่อให้แน่ใจว่ายางอยู่ในสภาพดี
Q
BYD M6 มีถุงลมนิรภัยกี่ใบ
BYD M6 เป็นรถยนต์รุ่น MPV ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ในครอบครัวและงานธุรกิจ โดยในเรื่องความปลอดภัยนั้นถือว่าทำได้ดี รุ่นต่างๆ มักมาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 6 ถุง ประกอบด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย ซึ่งช่วยปกป้องผู้โดยสารในรถได้อย่างรอบด้านในกรณีเกิดการชน สำหรับสภาพอากาศแบบประเทศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ความปลอดภัยของรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญมาก ระบบถุงลมนิรภัยของ BYD M6 ที่ทำงานร่วมกับโครงสร้างตัวรถที่แข็งแรง จะช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้บริโภคไทยนอกจากจะสนใจจำนวนถุงลมนิรภัยแล้ว ยังควรศึกษาระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันของรถด้วย เช่น ระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบ EBD การกระจายแรงเบรก ซึ่งระบบเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ประจำวัน เนื่องจากสภาพถนนในประเทศไทยมีความซับซ้อน ทั้งการจราจรติดขัดในเมืองและการเดินทางไกลบนทางหลวง จึงแนะนำให้พิจารณาทั้งระบบความปลอดภัยเชิงรับและเชิงป้องกันของรถยนต์เมื่อซื้อ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของครอบครัวและผู้โดยสาร นอกจากนี้การตรวจสอบสภาพการทำงานของระบบถุงลมนิรภัยเป็นประจำก็สำคัญมาก โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้นเช่นประเทศไทย ซึ่งความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
Q
คือ BYD M6 MPV
ใช่ BYD M6 เป็น MPV ที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวางและการโดยสารสะดวกสบาย เหมาะกับครอบครัวและการรับรองแขกทางธุรกิจ ในสภาพอากาศร้อนชื้นของไทย ระบบปรับอากาศและความสบายของเบาะนั่งช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกเย็นสบาย BYD M6 ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าหรือไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงและช่วยลดการใช้น้ำมัน ตอบโจทย์ความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานในตลาดไทย อีกทั้ง MPV ได้รับความนิยมเพราะเหมาะกับการเดินทางหลายคนทั้งในเมืองและการเดินทางไกล หากสนใจสามารถไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสสมรรถนะและความสะดวกสบายของรถ BYD ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าชื่อดังระดับโลก มีเทคโนโลยีและคุณภาพที่เชื่อถือได้ และมีผู้บริโภคในไทยเลือกใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Q
ความเร็วสูงสุดของ BYD M6 km h คือเท่าไหร่
รถยนต์ BYD M6 มีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 180 กม./ชม. แม้ว่ารุ่น MPV นี้จะออกแบบมาสำหรับครอบครัวและการใช้งานเชิงธุรกิจเป็นหลัก แต่ในสภาพอากาศร้อนและเส้นทางที่หลากหลายของประเทศไทย ก็ยังคงแสดงสมรรถนะด้านกำลังขับที่มั่นคงได้ดี เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร แบบดูดธรรมดาหรือรุ่นเทอร์โบ 1.5 ลิตร ล้วนถูกปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ในตลาดไทย รถ MPV ขนาดใกล้เคียงอย่าง Toyota Innova หรือ Honda Odyssey ก็มักตั้งค่าความเร็วสูงสุดอยู่ในช่วงเดียวกัน เนื่องจากผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมันและความสบายในการนั่งมากกว่าความเร็วสูงสุด ที่น่าสนใจคือกฎหมายไทยกำหนดให้ความเร็วสูงสุดบนถนนอยู่ที่ 120 กม./ชม. ดังนั้นแม้รถจะมีความสามารถสูงกว่านี้ก็ควรปฏิบัติตามกฎจราจร สำหรับผู้ใช้รถในประเทศไทยที่มักต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ประสิทธิภาพระบบแอร์ ความสามารถในการรับมือกับสภาพถนน และความสบายของเบาะนั่งเมื่อขับขี่นานๆ อาจสำคัญกว่าตัวเลขความเร็วสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้คือจุดที่ BYD M6 ให้ความสำคัญในการปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานในท้องถิ่น
Q
สีของ BYD M6 มีอะไรบ้าง
BYD M6 ในตลาดไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ Crystal White สีขาวคลาสสิก, Quantum Black สีดำหรู, Quartz Blue สีน้ำเงินเท่ๆ และ Harbour Grey สีเท่าอันเท่ๆ ในสภาพอากาศร้อนๆ ของไทย สีอ่อนอย่าง Crystal White นี่นิยมมากเลยครับ เพราะมันสะท้อนแสงได้ดี แถมยังช่วยลดความร้อนภายในรถได้ ส่วนสีเข้มอย่าง Quantum Black ก็ดูหรูหราเหมาะกับงานธุรกิจสุดๆ BYD ที่เป็นเจ้าใหญ่ในวงการรถพลังงานสะอาดเนี่ย ไม่ได้มีดีแค่การออกแบบสวยๆ เท่านั้น แต่ยังใส่เทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับขี่อัจฉริยะลงไปด้วย ทำให้เริ่มเป็นที่ยอมรับในตลาดไทยมากขึ้น สำหรับคนไทยเวลาจะเลือกซื้อ M6 นี่ นอกจากเรื่องสีสันแล้ว ยังควรดูเรื่องระยะทางต่อการชาร์จและความสะดวกในการชาร์จด้วยนะครับ เพราะปัจจัยเหล่านี้สำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาดของไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Q
ความสูงจากพื้นถึงตัวถังของ BYD M6 คือเท่าไร
รถยนต์ BYD M6 ทุกรุ่นมีระยะความสูงจากพื้นรถต่ำสุดที่ 170 มม. เท่ากันหมด ระยะความสูงจากพื้นรถต่ำสุดหมายถึงระยะทางจากด้านล่างตัวรถถึงพื้นผิวถนนเมื่อรถบรรทุกน้ำหนักสูงสุด ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการขับขี่ผ่านพื้นที่ขรุขระหรือสภาพถนนที่หลากหลาย โดยทั่วไปแล้ว ถ้าค่านี้ยิ่งมาก รถก็จะยิ่งขับผ่านถนนสภาพยากๆ ได้ดีขึ้น เช่น เวลาเจอหลุมบ่อหรือทางขรุขระ ก็จะไม่ขูดท้องรถง่าย แต่ถ้าค่านี้น้อยกว่ารถก็จะมีความมั่นคงสูงกว่าเมื่อขับด้วยความเร็วสูง การเข้าใจค่าพารามิเตอร์นี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้ว่ารถคันนี้เหมาะกับความต้องการในการใช้งานประจำวันของตัวเองหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับสภาพถนนที่แตกต่างกันออกไป
Q
BYD M6 หนักเท่าไหร่
BYD M6 มีน้ำหนักประมาณ 1,850 ถึง 1,950 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับสเปกรถและความจุแบตเตอรี่ ในฐานะ MPV ไฟฟ้า น้ำหนักส่วนใหญ่เกิดจากชุดแบตเตอรี่และโครงสร้างตัวรถ แต่ BYD ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเพื่อลดภาระโดยยังคงความปลอดภัย การใช้งานในไทยมีประโยชน์สูงเนื่องจากพื้นที่ภายในกว้าง เหมาะกับครอบครัวและเชิงพาณิชย์ อีกทั้งรถไฟฟ้ามีเสียงรบกวนน้อยและปล่อยมลพิษเป็นศูนย์เหมาะกับเมืองคับคั่งอย่างกรุงเทพฯ ผู้บริโภคไทยอาจสนใจเรื่องระยะทางวิ่งและการชาร์จ BYD M6 วิ่งได้มากกว่า 400 กิโลเมตร และระบบชาร์จเร็วสามารถเติมพลังงานได้ในเวลาสั้น ปัจจุบันไทยกำลังขยายโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ ทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ค่าบำรุงรักษารถไฟฟ้าต่ำกว่ารถน้ำมัน ใช้งานระยะยาวช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะกับผู้ใช้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและความคุ้มค่า

ข้อดี

ห้องยึดหุ้นกว้างขวางเพื่อการขับขี่ที่สบาย
เทคโนโลยีไฟฟ้าขั้นสูงเพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ
คุณภาพการสร้างที่น่าเชื่อถือสำหรับการใช้งานระยะยาว
ประสิทธิภาพดีในการเร่งความเร็วและการควบคุมรถ

ข้อเสีย

ราคาสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์บางรุ่นในประเทศ
สาธารณูปกรณ์การชาร์จจำกัดในประเทศไทย
ค่าไฟสูงในบริบทท้องถิ่น

Q&A ล่าสุด

Q
Jaecoo J7 เติมน้ำมันเต็มถังวิ่งได้กี่กิโลเมตร?
สำหรับรถ SUV อย่าง Jaecoo J7 ที่ออกแบบมาสำหรับการเดินทางในเมือง ระยะทางเต็มถังจะขึ้นอยู่กับสภาพถนนในไทย นิสัยการขับขี่ และคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง โดยทั่วไปในสภาพการขับขี่แบบผสมผสานในเมือง ด้วยความจุถังเชื้อเพลิงประมาณ 50-55 ลิตร และประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5T คาดว่าระยะทางเต็มถังจะอยู่ที่ประมาณ 500-600 กิโลเมตร แต่แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นทางการจากผลทดสอบมาตรฐาน TCOS ที่ประกาศในประเทศไทย สำหรับผู้ใช้ในไทย สภาพการจราจรที่ติดขัดบ่อยในกรุงเทพฯ อาจทำให้ระยะทางจริงน้อยกว่าที่ระบุไว้ ส่วนการขับขี่ทางไกลบนทางหลวงอาจประหยัดน้ำมันมากกว่า ข้อควรระวังคือในสภาพอากาศร้อนของไทย ควรตรวจสอบความแน่นหนาของระบบเชื้อเพลิงเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาอากาศในท่อน้ำมันที่อาจส่งผลต่อระยะทาง และควรใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเกรด 95 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์ หากต้องการเพิ่มระยะทางให้มากขึ้น สามารถทำได้โดยรักษาความดันลมยางที่เหมาะสม (ในสภาพอากาศร้อนของไทยแนะนำให้ต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 0.1-0.2 บาร์) และหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องอย่างรุนแรง ซึ่งเทคนิคเหล่านี้สำคัญเป็นพิเศษเมื่อขับขี่ในพื้นที่ที่มีทางลาดชันเช่นเชียงใหม่หรือภูเขาที่ภูเก็ต
Q
ความเร็วสูงสุดของ JAECOO J7 คือเท่าไร?
JAECOO J7 เป็น SUV ที่เน้นสมรรถนะสปอร์ต ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 กม./ชม. ซึ่งถือว่าโดดเด่นในรุ่นเดียวกัน ช่วยตอบโจทย์คนไทยที่ชอบการขับขี่ความเร็วสูง ไม่ว่าจะเป็นบนทางด่วนรอบกรุงเทพฯ หรือเส้นทางคดเคี้ยวในเชียงใหม่ ก็ให้กำลังส่งที่มั่นคงได้อย่างดี เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.6T คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ไม่เพียงให้กำลังแรงเท่านั้น แต่ยังประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพถนนและการจราจรที่หลากหลายของไทย แถมยังมีโหมดขับขี่ให้เลือกหลากหลาย ทั้งโหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดมาตรฐาน ช่วยให้ปรับการขับขี่ตามสภาพถนนได้อย่างคล่องตัว เพิ่มความสนุกในการขับขี่ อีกทั้งระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาอย่างมีประสิทธิภาพของ JAECOO J7 ยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ต้องขับเร็วเป็นเวลานานในสภาพอากาศร้อนของไทย สำหรับคนไทยที่มองหารถสมรรถนะดีแต่ยังคงความใช้งานได้จริง JAECOO J7 นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากความเร็วสูงแล้ว ยังมาพร้อมความปลอดภัยและความสบายที่ครบครัน
Q
Jaecoo 7 มีเบาะที่นั่งแบบปรับอุณหภูมิได้หรือไม่?
สำหรับรถ Jaecoo 7 นั้น ในข้อมูลสเปคอย่างเป็นทางการระบุว่ามีระบบทำความร้อนเบาะหน้าให้ในรุ่นท็อป ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่โดยเฉพาะเมื่อต้องไปในเขตพื้นที่ภูเขาที่อากาศเย็นหรือช่วงฤดูฝนของไทย แต่แนะนำให้ผู้ซื้อตรวจสอบสเปครุ่นที่เลือกซื้อกับตัวแทนจำหน่ายอีกครั้งเพราะแต่ละรุ่นอาจมีฟีเจอร์แตกต่างกัน ปัจจุบันระบบทำความร้อนเบาะถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถ SUV หลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นระดับพรีเมี่ยม หลักการทำงานคือใช้ลวดความร้อนที่ฝังในเบาะซึ่งสามารถทำให้ร้อนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมภายในไม่กี่นาที นอกจากนี้สำหรับคนไทยอาจจะสนใจฟีเจอร์เบาะระบายอากาศที่ช่วยเพิ่มความสบายในสภาพอากาศร้อนด้วย แนะนำให้ลองทดสอบการใช้งานจริงระหว่างทดลองขับรถ และพิจารณาตามความต้องการใช้งานรวมถึงงบประมาณที่มี เพราะฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างมาก
Q
"ระยะทางไฟฟ้าบริสุทธิ์ของ Jaecoo 7 คือเท่าไหร่?
Jaecoo 7 เป็น SUV แบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ที่มาแรง ในโหมดไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ประมาณ 80-100 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในไทยโดยเฉพาะ ช่วยแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพฯ เพราะการเดินทางระยะสั้นๆ ในเมืองใช้โหมดไฟฟ้าล้วนก็เพียงพอ ทั้งประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ต้องระวังเรื่องอากาศร้อนของไทยที่อาจส่งผลต่อแบตเตอรี่ แนะนำให้จอดรถในที่ร่มหรือใต้ตึกเพื่อรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ดีที่สุด ตอนนี้รถไฮบริดกำลังเป็นที่นิยมในไทย เพราะให้ความรู้สึกสงบเรียบเหมือนรถไฟฟ้า แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องสถานีชาร์จเวลาทำทางไกล โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเมืองอย่างจากกรุงเทพไปพัทยา โหมดไฮบริดจะช่วยลดการใช้น้ำมันได้มาก ที่สำคัญ รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนรถพลังงานสะอาดอย่างเต็มที่ ถ้าซื้อ PHEV แบบ Jaecoo 7 ก็จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ส่วนสถานีชาร์จก็มีเพียบ ทั้งในห้างสรรพสินค้าและปั๊มน้ำมัน ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนที่กำลังมองหารุ่นนี้อยู่
Q
Jaecoo 7 มีเบาะนั่งที่ปรับความจำได้หรือไม่?
สำหรับข้อมูลเรื่อง Jaecoo 7 ที่มีฟังก์ชันความจำตำแหน่งเบาะหรือไม่ ตอนนี้ข้อมูลทางการระบุว่ารุ่นท็อปมาพร้อมกับที่นั่งหน่วยความจำที่เบาะคนขับ สามารถบันทึกการตั้งค่าตำแหน่งได้หลายแบบ ช่วยให้ปรับท่านั่งได้รวดเร็วเมื่อเปลี่ยนคนขับ ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้รถร่วมกันในครอบครัวใหญ่แบบบ้านเรา ส่วนมากแล้วฟังก์ชันนี้จะทำงานร่วมกับการปรับเบาะไฟฟ้าและปรับกระจกมองหลังอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายเวลาใช้รถ โดยเฉพาะคนที่ต้องสลับขับกันบ่อยๆ แถมในเมืองร้อนแบบไทย บางรุ่นแพ็คเกจสูงอาจมีระบบเชื่อมโยงกับแอร์ในรถ ให้ปรับทุกอย่างอัตโนมัติตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก เวลาขึ้นรถมาก็เจอสภาพแวดล้อมที่สบายๆ แนะนำให้คนไทยที่สนใจเช็คข้อมูลสเปกแบบละเอียดในเว็บ Jaecoo ประเทศไทย หรือไม่ก็ไปทดลองขับที่ตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน ฟังก์ชันนี้ช่วยเพิ่มความสบายเวลาเดินทางไกลได้ชัดเจน แต่ต้องดูให้ดีว่ารุ่นที่ซื้อมีระบบนี้หรือเปล่า เพราะแต่ละเวอร์ชันอาจต่างกัน อีกเรื่องที่ควรสนใจคือความทนทานของมอเตอร์ที่นั่งหน่วยความจำ และการใช้งานจริงในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบไทย ควรทดสอบให้แน่ใจว่าใช้ไปนานๆ แล้วยังทำงานลื่นไหลเหมือนเดิม
ดูเพิ่มเติม