Q

ขนาดล้อของ Toyota Yaris คือเท่าไหร่?

Toyota Yaris แต่ละรุ่นส่วนใหญ่ใช้ยางขนาด 185/60 R15 ทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางอะไหล่ ตัวเลขและตัวอักษรในขนาดยางแต่ละตัวมีความหมายเฉพาะ โดย 185 หมายถึงความกว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ยิ่งตัวเลขมาก ยางก็ยิ่งมีพื้นที่สัมผัสพื้นมากขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มแรงยึดเกาะแต่ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ส่วน 60 คืออัตราส่วนความสูงของยางต่อความกว้าง ยิ่งตัวเลขน้อย ยางก็ยิ่งแบนมากขึ้น อาจช่วยในการควบคุมรถแต่ความนุ่มสบายอาจลดลง ตัว R หมายถึงยางเรเดียลซึ่งเป็นยางที่นิยมใช้กันทั่วไปและมีความทนทานดี ส่วน 15 คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ขนาดล้อจะมีผลต่อทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะของรถ การเลือกขนาดยางที่เหมาะสมมีความสำคัญมากต่อความมั่นคงในการขับขี่ การควบคุม ความสบาย และความปลอดภัยของรถ ดังนั้นเมื่อต้องเปลี่ยนยาง ต้องมั่นใจว่ายางใหม่มีขนาดที่เหมาะสมกับรถของคุณ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris มีอะไรบ้าง?
Tแม้ว่า Toyota Yaris จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีจุดที่ควรพิจารณาเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ กำลังสูงสุด 92 แรงม้า ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบการขับขี่ที่เร้าใจหรือเร่งแซงบ่อยในความเร็วสูง ด้านพื้นที่ภายใน ด้วยขนาดตัวรถแบบ B-Segment (ยาว 4,171 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475–1,500 มม. ฐานล้อ 2,550 มม.) อาจทำให้พื้นที่วางขาและศีรษะด้านหลังรู้สึกคับแคบ โดยเฉพาะกับผู้โดยสารที่รูปร่างสูงใหญ่ นอกจากนี้ ในขณะที่รถรุ่นอื่น ๆ ในระดับเดียวกันมีการอัปเดตดีไซน์และฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง Toyota Yaris บางรุ่นกลับดูขาดความทันสมัย ทั้งในด้านการออกแบบภายในและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบมัลติมีเดียที่ยังมีฟังก์ชันจำกัด วัสดุภายในที่ให้สัมผัสไม่หรูหรามากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่เน้นความล้ำสมัยหรือความหรูหรา Yaris จึงอาจดูเป็นรองในแง่ของความโดดเด่นและความน่าสนใจค่ะ
Q
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับไหน?
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ B-Segment หรือที่เรียกว่าตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก โดยมีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัด ได้แก่ ความยาวประมาณ 4,140 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,550 มม. ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองและหาที่จอดรถได้ง่าย ราคาจำหน่ายอยู่ในช่วงประมาณ 559,000 – 694,000 บาท ถือว่าเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับผู้บริโภคทั่วไป เครื่องยนต์มีขนาดความจุ 1.2 ลิตร (1197 ซีซี) เป็นแบบ ดูดอากาศธรรมดา (ไม่มีเทอร์โบ) ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า (PS) โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ดีอยู่ที่ 4.3 ลิตร / 100 กม. จึงเหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน เช่น ขับไปทำงานหรือเดินทางระยะสั้น ภายในรถยังมาพร้อมกับ อุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารค่ะ
Q
มูลค่าขายต่อ (Resale Value) ของ Toyota Yaris คือเท่าไร?
ราคาขายต่อของ Toyota Yaris มือสอง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน (ปีของรถ), ระยะทางที่วิ่งมา, สภาพตัวรถ, และ ระดับของอุปกรณ์หรือรุ่นย่อย รถที่อายุยังน้อย, วิ่งมาน้อย, ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ และได้รับการดูแลรักษาอย่างดี จะมีราคาสูงกว่ารถรุ่นเดียวกันที่มีอายุการใช้งานนานกว่า วิ่งมาเยอะ หรือเคยเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ รุ่นที่เป็น ตัวท็อปหรือมีออปชันครบ มักจะมีราคาขายต่อที่ดีกว่ารุ่นพื้นฐาน แม้จะไม่สามารถระบุราคาที่แน่นอนได้แบบชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับสภาพรถแต่ละคัน แต่โดยรวมแล้ว ถ้ารถอยู่ในสภาพดี ก็จะขายได้ราคาที่น่าพอใจในตลาดมือสอง ในทางกลับกัน หากรถมีสภาพไม่ดี ราคาก็จะลดลงอย่างมาก ผู้บริโภคควรพิจารณาปัจจัยหลายด้านร่วมกันในการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของรถก่อนซื้อหรือขายค่ะ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris มีกี่ CC?
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris มีความจุ 1197 มิลลิลิตร (mL) ซึ่งเมื่อแปลงเป็นหน่วยลูกบาศก์เซนติเมตร (CC) จะเท่ากับ 1197 CC (เนื่องจาก 1 mL = 1 CC) เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นแบบ ดูดอากาศธรรมดา (Naturally Aspirated) มี 4 สูบ ให้กำลังขับเคลื่อนที่เสถียรและเชื่อถือได้ ด้านความประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 ลิตร / 100 กิโลเมตร (ตามข้อมูลจากผู้ผลิต) เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุดที่ 68 กิโลวัตต์ (kW) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 109 นิวตันเมตร (N·m) ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง) ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองหรือถนนทั่วไปในชีวิตประจำวันค่ะ
Q
Toyota Yaris ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Toyota Yaris มาพร้อมกับเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1.2 ลิตร (1,197 ซีซี) แบบดูดอากาศธรรมดา (ไม่มีเทอร์โบ) เครื่องยนต์นี้ใช้ระบบ DOHC 16 วาล์ว และมีลักษณะเป็นเครื่องยนต์ “สมดุล” เพราะขนาดกระบอกสูบและช่วงชักเท่ากัน (72.5 มม.) นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ (EFI) และเทคโนโลยี Dual VVT-iE (ระบบวาล์วแปรผันคู่แบบควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ด้านระบบเกียร์ ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ พร้อมระบบ Shift-Lock ที่ช่วยปลดเกียร์ว่างเมื่อรถจอด เครื่องยนต์และชุดส่งกำลังนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่น และยังช่วยในเรื่อง ความประหยัดน้ำมัน ในบางประเทศ (รวมถึงไทย) หากมีการเปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มเติม อาจมีการใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบ Dual VVT-i ที่ให้กำลัง 107 แรงม้า และแรงบิด 140 นิวตันเมตร พร้อมจับคู่กับเกียร์ Super CVT-i ที่สามารถจำลองการเปลี่ยนเกียร์ได้ถึง 7 จังหวะ เพื่อให้การขับขี่เร้าใจมากขึ้นค่ะ
Q
Toyota Yaris ใช้เกียร์แบบไหน?
Toyota Yaris มีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ • เกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i (ใช้ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FBE) • เกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด (ใช้หลักในรุ่นเชิงพาณิชย์ เช่น รุ่นที่ใช้เพื่อการขนส่ง) ส่วนรุ่น Yaris ATIV จะใช้เกียร์ CVT เป็นมาตรฐานทุกรุ่น โดยเกียร์ CVT ของ Yaris ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดในประเทศไทย เช่นในกรุงเทพฯ โดยใช้ น้ำมันเกียร์ความหนืดต่ำ และเพิ่มระบบ ระบายความร้อน เพื่อให้ทนต่อการใช้งานในเมืองที่ต้องหยุด–ออกตัวบ่อย คำแนะนำจาก Toyota ประเทศไทย คือควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ CVT ทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร แต่ถ้าขับรถในพื้นที่อุณหภูมิสูงตลอดปี เช่น ภาคใต้ ควรเปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตร และควรใช้น้ำมันเกียร์มาตรฐาน Toyota CVTF FE ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในประเทศไทย สำหรับผู้ที่ชอบขับรถแนวสปอร์ต แม้ Yaris จะไม่มีเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิม แต่เกียร์ CVT รุ่นนี้สามารถปรับเป็นโหมดแมนนวลจำลอง 7 จังหวะ ช่วยควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้แม่นยำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภูเขาเยอะอย่างเชียงใหม่ นอกจากนี้ ตัวแทนจำหน่าย Toyota ยังแนะนำว่า หากใช้รถในพื้นที่ชายทะเล เช่น ชลบุรี ควรล้างคราบเกลือที่เกาะบริเวณตัวเกียร์ด้านนอกเป็นประจำ เพื่อป้องกันสนิม รุ่นปรับโฉมล่าสุดของ Yaris ยังได้ปรับปรุงชุดเฟืองเริ่มต้นในเกียร์ CVT เพื่อให้ตอบสนองการออกตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องขนของหนักออกจากเขตนิคมอุตสาหกรรม เช่น ที่ระยองค่ะ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris คือเท่าไร?
รถ Toyota Yaris ที่วางจำหน่ายในตลาด (รวมถึงรุ่น Yaris ATIV) ใช้ขนาด PCD มาตรฐานที่ 4×100 มม. หมายความว่าล้อแม็กมี รูน็อต 4 รู และแต่ละรูจะเรียงอยู่บนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่นิยมใช้ในรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาด รูดุมกลาง (Hub Bore) ของ Yaris อยู่ที่ 54.1 มม. ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับเจ้าของรถในไทยที่ต้องการ เปลี่ยนล้อแม็กหรือแต่งล้อ เนื่องจากล้อทดแทนหรือแต่งจากแบรนด์ดังในไทย เช่น RAYs, SSR หรือแบรนด์ล้อแม็กผลิตในประเทศ ต้องใช้ขนาดนี้จึงจะใส่ได้พอดี เกลียวน็อตล้อ ที่ใช้คือ M12×1.5 และควรขันด้วยแรงบิดประมาณ 103 นิวตันเมตร (Nm) ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อทุก ๆ 10,000 กม. ชาวไทยที่นิยมแต่งล้อมักเลือกออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 เพื่อให้ล้อดูเต็มซุ้มและมีมิติยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังอย่าให้ล้อชนกับบังโคลนหรือชิ้นส่วนอื่น หากต้องเปลี่ยนเป็นล้อสำหรับยางฤดูหนาว (เช่น ในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทย) ก็ควรเลือกใช้ล้อที่มี PCD เท่ากัน (4×100 มม.) ราคาแม็กซ์แท้จากศูนย์ Toyota ในไทย อยู่ที่ประมาณ 8,000–15,000 บาทต่อล้อ สำหรับผู้ที่ต้องการ อัปเกรดระบบเบรก และยังคงใช้ PCD ขนาดเดิม 4×100 มม. สามารถเลือกชุดเบรกยอดนิยมในไทย เช่นแบรนด์ Endless หรือ Project μ ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจค่ะ
Q
รถ Toyota Yaris มีระบบ Apple CarPlay หรือไม่?
Toyota Yaris รุ่นปรับโฉมตั้งแต่ปี 2020 (รวมถึง Yaris ATIV) มีบางรุ่นย่อย เช่น SV และ RS ที่มาพร้อมกุญแจ Smart Entry และระบบ Push Start ได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัส 7 หรือ 9 นิ้ว ซึ่งรองรับ Apple CarPlay แล้ว แต่รุ่นพื้นฐานอย่าง JL หรือ J ยังไม่มีฟีเจอร์นี้ และใช้แค่ระบบวิทยุมาตรฐาน ผู้ที่ใช้รุ่นเก่า สามารถอัปเกรดเป็นหน้าจอที่รองรับ CarPlay ได้ผ่านศูนย์บริการโตโยต้าในไทย ราคาประมาณ 8,000 – 15,000 บาท โดยแนะนำให้ใช้สาย Lightning ที่ผ่านการรับรอง MFi เพราะอากาศร้อนในไทยอาจทำให้สายคุณภาพต่ำเสียหายได้ง่าย นอกจากนี้ โตโย่ายังมีอัปเดตระบบปีละ 1–2 ครั้ง ล่าสุดเพิ่มการรองรับ Siri ภาษาไทยด้วย หากสนใจซื้อ Yaris มือสอง แนะนำเลือกจาก Toyota Sure ที่รับรองคุณภาพ และมีการตรวจสอบระบบ CarPlay พร้อมประกันระบบมัลติมีเดีย 3 เดือน
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Toyota Yaris คืออะไร?
ยางติดรถของ Toyota Yaris จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปมักใช้ยางยี่ห้อ Bridgestone รุ่น ECOPIA EP150 หรือ TURANZA T005A และ Dunlop ENASAVE EC300+ ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะกับถนนในเอเชีย เน้นความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน รุ่นที่ใช้ล้อขนาด 15 นิ้ว มักใช้ยางขนาด 175/65 R15 ขณะที่รุ่นสปอร์ตอย่าง RS จะใช้ขนาดใหญ่ขึ้นคือ 195/50 R16 ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางเหล่านี้จึงผลิตจากสูตรยางพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะบนถนนเปียกและทนความร้อนได้ดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนควรเพิ่มความระมัดระวัง และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัย โชว์รูมโตโยต้าในไทยยังมีตัวเลือกยางอัปเกรด เช่น Michelin หรือ Yokohama (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ที่เหมาะกับถนนไทยที่มีทั้งเรียบและขรุขระ แนะนำให้สลับยางทุก 10,000 กม. เพื่อยืดอายุการใช้งาน และตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนที่ความดันลมยางอาจสูงเกิน Toyota มีบริการสลับยางในราคาประมาณ 300–500 บาท หากต้องการเปลี่ยนยางขนาดเดิม ราคายางระดับเดียวกับยางติดรถในไทยอยู่ที่ประมาณเส้นละ 2,500–4,500 บาท (รวมติดตั้งและถ่วงล้อ) และสามารถผ่อนจ่ายผ่าน Toyota Easy Finance ได้อีกด้วย
Q
Toyota Yaris เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียของมันกันที่นี่เลย!
Toyota Yaris เป็นรถที่มีข้อดีหลายด้าน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน โดยจุดเด่นหลักคือความประหยัดน้ำมัน ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้มาก ในด้านความปลอดภัย Toyota Yaris ก็มาพร้อมระบบมาตรฐานครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ, สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ด้านอุปกรณ์ภายในก็ถือว่าครบถ้วน โดยเฉพาะรุ่นท็อปที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว, ช่องชาร์จ Type-C, แอร์อัตโนมัติ รวมถึงบางรุ่นที่มีเบาะหนังและกล้องรอบคัน เพิ่มความสะดวกและความสบายในการใช้งาน ดีไซน์ภายนอกก็ดูทันสมัย สีสันหลากหลาย และด้านหน้าของตัวรถมีความเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มความโดดเด่น อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของ Yaris คือเรื่องกำลังเครื่องยนต์ ซึ่ง 1.2 ลิตร อาจไม่แรงพอสำหรับคนที่ต้องการอัตราเร่งแรงหรือขับเร็วบนทางด่วน นอกจากนี้เบาะหลังของบางรุ่นอาจแคบไปเล็กน้อย ทำให้การนั่งระยะไกลรู้สึกไม่ค่อยสบาย โดยรวมแล้ว Toyota Yaris เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถประหยัดน้ำมัน ใช้งานในเมือง มีความปลอดภัย และมีฟีเจอร์พื้นฐานครบ โดยไม่เน้นเรื่องพละกำลังหรือพื้นที่กว้างมากนัก เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถเล็กค่ะ

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
เครื่องยนต์เชื่อถือได้ คุ้มค่าสูง ราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการกำหนดค่าใหม่จำนวนมาก มันคุ้มค่าราคา 5.39 - 6.49 หมื่นบาท
ยี่ห้อที่สามารถเชื่อถือได้ ระบบบริการทั่วประเทศ มากกว่า 300 แห่ง การขายหลังการขายมีการรับประกัน
ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยเ outstandingางค์ มาตรฐานด้วย 7 ถุงลมนิรภัยได้รับการรับรองความปลอดภัย 5 ดาวจากอาเซียน
รถยนต์หลากหลายแบบที่มี 3 แบบการกำหนดค่าที่แตกต่างกันให้เลือก
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ได้รับการอัพเกรดทำงานดีขึ้น
ประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันดีเ outstandingางค์ ขับขี่ได้สูงสุด 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานการปล่อย Euro 5
ตกแต่งภายในเฉียบขาดความหรูหราและสปอร์ต ใช้วัสดุเช่นหนัง ฝังเชือกสีแดงทำให้ดูรูปลักษณ์สปอร์ต จอแสดงผลสีเพิ่มความรู้สึก

ข้อเสีย

ภายในออกแบบเป็นลายเก่า
เครื่องยนต์มีกำลังดันน้อยเมื่อความเร็วสูง, ขาดความน่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nissan Almera
รูปแบบรถไม่โดดเด่น, แสดงสภาพโดยรวมที่เฉยๆ
รุ่นรถเก่า, ต้องรอรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี TNGA

Q&A ล่าสุด

Q
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 มีเกียร์ CVT หรือไม่?
แน่นอนว่า รุ่น 2023 ของ Mitsubishi Attrage ในตลาดไทยได้ติดตั้งเกียร์ CVT ซึ่งเป็นเกียร์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ที่ลื่นไหลและประหยัดน้ำมัน เหมาะมากกับสภาพการจราจรในเมืองไทยที่ต้องหยุดและเคลื่อนตัวบ่อยๆ สำหรับ Attrage ที่เป็นรถยนต์ประหยัด การมีเกียร์ CVT ถือเป็นการเพิ่มจุดแข็งให้กับตัวรถ โดยเฉพาะในสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ดี แถมยังได้ความคล่องตัวในการขับขี่ประจำวันจากเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT อีกด้วย ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยี CVT ในตลาดไทยได้รับความนิยมสูงมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ยี่ห้อญี่ปุ่นอื่นๆ อย่าง Toyota หรือ Honda ก็ใช้เกียร์แบบนี้กันแพร่หลาย โดยมีการออกแบบโซ่ที่ไม่ต้องบำรุงรักษาและโปรแกรมที่ปรับตัวได้ดีกับสภาพอากาศร้อนและถนนซับซ้อนของไทย Mitsubishi ยังให้ความมั่นใจกับลูกค้าชาวไทยด้วยการรับประกันช่วงถ่ายกำลังนาน 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นในความทนทานของเกียร์ CVT ถ้าคุณกำลังคิดจะซื้อ Attrage แนะนำให้ลองขับดูสักหน่อยเพื่อสัมผัสการตอบสนองของเกียร์ CVT ในความเร็วต่ำ และลองเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City เพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของคุณมากที่สุด
Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 น่าเชื่อถือหรือไม่?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ในตลาดไทยเป็นรถเก๋งขนาดเล็กที่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ด้วยความประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคจำนวนมาก รถคันนี้ใช้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบ MIVEC คู่กับเกียร์ CVT ให้การขับขี่ในเมืองที่เรียบและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรติดขัดอย่างในกรุงเทพฯ ในด้านความทนทานถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันไม่มีปัญหา แต่เรื่องกำลังเครื่องยังถือว่าค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะเมื่อบรรทุกหนักหรือขึ้นเขาอาจจะรู้สึกได้ วัสดุภายในรถเป็นพลาสติกแข็งซึ่งสอดคล้องกับระดับราคาเริ่มต้น ส่วนพื้นที่ด้านหลังอาจจะคับแคบสำหรับผู้โดยสารที่ตัวสูง ในตลาดไทย มิตซูบิชิมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวกและราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันอย่าง Toyota Yaris หรือ Honda City ข้อได้เปรียบของ Attrage คือราคาที่ถูกกว่าและค่าดูแลรักษาที่ต่ำกว่า แต่ในเรื่องอุปกรณ์และมูลค่าของแบรนด์อาจจะสู้ไม่ได้ สำหรับผู้บริโภคไทยที่งบประมาณจำกัดแต่เน้นความประหยัดและใช้งานได้จริง ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่แนะนำให้ทดลองขับก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่ากำลังเครื่องและพื้นที่ภายในตอบโจทย์ความต้องการ ส่วนมูลค่าขายต่อของรถมือสองมิตซูบิชิในไทยอยู่ในระดับปานกลาง ควรคำนึงถึงเรื่องนี้หากคิดจะใช้รถในระยะยาว
Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 มีระดับความปลอดภัยอยู่ที่เท่าไร?
คะแนนความปลอดภัยของมิตซูบิชิ แอททราจ ปี 2023 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึงประเทศไทย) อ้างอิงจากผลการทดสอบของ ASEAN NCAP เป็นหลัก โดยได้รับคะแนนความปลอดภัย 4 ดาวจาก 5 ดาว โดยมีคะแนนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ที่ 78.17 คะแนน และคะแนนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็กอยู่ที่ 40.97 คะแนน แม้จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ แต่ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันกลับค่อนข้างต่ำ สำหรับผู้บริโภคชาวไทย แอททราจมีราคาที่เอื้อมถึงและความทนทานเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ ทำให้เหมาะสำหรับการเดินทางในเมือง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูงอาจพิจารณารุ่นในระดับเดียวกันที่มีถุงลมนิรภัยมากกว่า (เช่น 6 ถุง) และระบบเบรกแบบแอคทีฟ ทั้งนี้ สภาพอากาศที่ร้อนและมีฝนตกของประเทศไทยต้องการการบำรุงรักษารถยนต์ที่สูง และขอแนะนำให้ตรวจสอบยางและเบรกเป็นประจำ นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมของไทยยังได้เพิ่มการบังคับใช้มาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์ ดังนั้นควรพิจารณาคะแนนล่าสุดของ ASEAN NCAP เมื่อซื้อรถยนต์
Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 มีพื้นที่เก็บสัมภาระเท่าไร?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage ปี 2023 ในตลาดไทยเป็นรถเก๋งคอมแพคต์ที่เน้นความใช้งานได้จริง โดยมีปริมาตรกระโปรงท้ายมาตรฐาน 450 ลิตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัว เช่น การใส่ถุงช้อปปิ้ง กระเป๋าเดินทาง หรือรถเข็นเด็ก สำหรับคนไทยแล้ว พื้นที่แบบนี้ถือว่าสะดวกมากทั้งการขับขี่ในเมืองหรือทริปสั้นๆ อีกทั้งเบาะหลังของแอทเทรจยังพับลงได้แบบทั้งแถว แม้จะไม่เรียบสนิทแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใส่ของได้มากขึ้น เหมาะสำหรับขนสิ่งของยาวๆ อย่างเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กหรืออุปกรณ์กีฬา ด้วยสภาพอากาศไทยที่ทั้งร้อนและฝนบ่อย ดีไซน์กระโปรงท้ายแบบปิดของแอทเทรจช่วยปกป้องสิ่งของจากแดดและฝนได้ดี แถมยังติดตั้งเครื่องยนต์ MIVEC 1.2 ลิตรที่ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-บ่อยในไทย อย่างไรก็ตาม ความจุจริงอาจขึ้นอยู่กับรูปทรงและการจัดวางของสิ่งของ แนะนำให้ลองสัมผัสพื้นที่ด้วยตัวเองก่อนซื้อ เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันแล้ว Attrage ทำได้ค่อนข้างดีในเรื่องพื้นที่ สอดคล้องกับแนวคิดรถประหยัดแต่ใช้งานได้จริง ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่ต้องการรถใช้งานทั่วไปในงบประมาณจำกัดแต่ยังต้องการความมั่นใจในการขับขี่
Q
Mitsubishi Attrage ปี 2023 มีแรงม้าเท่าไร?
รถยนต์ Mitsubishi Attrage รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย มาพร้อมเครื่องยนต์ MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ แบบสูบธรรมดา ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า (58 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์ 5 สปีดมือถือหรือเกียร์ CVT รุ่นนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเมืองไทยเพราะประหยัดน้ำมันและราคาคุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานในเมืองอย่างเช่นกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่น แม้ตัวเลขแรงม้าจะดูไม่สูง แต่ Mitsubishi ได้ปรับแต่งเครื่องยนต์เฉพาะสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อให้มีแรงบิดที่ดีที่รอบต่ำ ทำให้การขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุด-บ่อยยังรู้สึกกระชับอยู่ นอกจากนี้ Attrage ยังมีจุดเด่นที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกันด้วยฟีเจอร์เช่น แพดเดิลชิฟต์ (ในรุ่นเกียร์ CVT) และระบบควบคุมความมั่นคงของรถ แสดงถึงความคุ้มค่าในราคาที่สมเหตุสมผล ส่วนเรื่องความประหยัดนั้นทางบริษัทประกาศไว้ว่าสามารถวิ่งได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่ให้ความสำคัญกับการประหยัดน้ำมันเป็นอย่างดี
ดูเพิ่มเติม