Q

ยางขนาด 18 นิ้ว Isuzu MU-X ควรเลือกแบบไหน?

สำหรับรถ SUV อย่าง Isuzu MU-X การเลือกยางขนาด 18 นิ้วต้องคำนึงถึงสภาพอากาศในไทยที่ฝนชุกและถนนหลากหลายรูปแบบ แนะนำให้ใช้ยางออฟโรด (AT) หรือยางสำหรับ SUV แบบทางเรียบ (HT) ถ้าขับในเมืองบ่อย ยาง HT เช่น Bridgestone Dueler H/P Sport หรือ Michelin Primacy SUV+ จะให้ความรู้สึกเงียบกว่าและเกาะถนนดีเวลาฝนตก เหมาะกับฤดูฝนของไทย แต่ถ้าต้องเจอทางลูกรังหรือโคลนบ้างเป็นครั้งคราว ยาง AT อย่าง Toyo Open Country A/T หรือ Pirelli Scorpion ATR จะทนทานกว่าและเหมาะกับการขับออฟโรดเล็กน้อย อย่าลืมว่าอากาศร้อนของไทยส่งผลต่อการระบายความร้อนของยาง แนะนำให้เลือกยางที่มีมาตรฐานรับความร้อนสูง (เช่น TEMP ระดับ A) และตรวจสอบลมยางสม่ำเสมอ (ควรอยู่ที่ 32-35 psi ตามที่ผู้ผลิตกำหนด) นอกจากนี้กฎหมายไทยกำหนดว่าดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ช่วงก่อนฝนควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อการระบายน้ำที่ดี ส่วนขนาดยางที่เหมาะกับกระทะล้อ 18 นิ้วของ MU-X จะเป็น 255/60R18 ต้องเช็คดัชนีรับน้ำหนัก (Load Index) อย่างน้อย 110 ขึ้นไปเพื่อให้รับน้ำหนักรถได้ และอัตราความเร็ว (Speed Rating) อย่างน้อยระดับ H (210km/h) เพื่อให้เหมาะสมกับการขับบนทางด่วนในไทย
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ราคา Isuzu MUX 2025 ในประเทศไทยอยู่ที่เท่าไร?
ขณะนี้ราคาขายจริงของ Isuzu MU-X รุ่นปี 2025 ในตลาดไทยยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่หากอ้างอิงจากช่วงราคาของรุ่นปี 2024 (ประมาณ 1,199,000–1,799,000 บาท) คาดว่ารุ่นใหม่อาจมีราคาที่ใกล้เคียงกัน และอาจปรับเล็กน้อยตามการอัปเกรดออปชันหรือเทคโนโลยีใหม่ MU-X เป็น SUV 7 ที่นั่งยอดนิยมในไทย ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่เชื่อถือได้ เช่น 3.0L BluePower ระยะต่ำจากพื้นสูง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในพื้นที่หลากหลาย รุ่นปี 2025 อาจยังคงดีไซน์ใช้งานได้จริงเช่นเดิม พร้อมปรับปรุงระบบช่วยขับอัจฉริยะ เช่น ครูสคอนโทรลอัตโนมัติ หรือกล้อง 360 องศา เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แนะนำติดตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Isuzu ประเทศไทยหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อรับข้อมูลราคาที่ถูกต้องและโปรโมชั่น สำหรับผู้เปรียบเทียบในรุ่นเดียวกัน Toyota Fortuner หรือ Mitsubishi Pajero Sport ก็เป็นตัวเลือกที่ผู้บริโภคไทยมักพิจารณา แต่ MU-X มีความได้เปรียบด้านความประหยัดน้ำมันดีเซลและพื้นที่บรรทุก
Q
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน 2025 MU-X คืออะไร?
รุ่นปี 2025 ของ MU-X คาดว่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตรจากอิซูซุที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งเครื่องยนต์นี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดไทย ด้วยกำลัง 190 แรงม้าและแรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ประจำวันและการเดินทางระยะไกลบนเส้นทางภูเขาอันหลากหลายของไทย พร้อมทั้งผ่านมาตรฐานยูโร 6 ที่เข้มงวด เครื่องยนต์ตัวนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานและการให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในสภาพอากาศร้อนและถนนซับซ้อนของประเทศไทย ที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีดีเซลของอิซูซุมีชื่อเสียงโด่งดังในไทย โดยเฉพาะระบบฉีดเชื้อเพลิงคอมมอนเรลและเทอร์โบแบบเวอร์ริเอเบิลเจโอเมทรี ที่ช่วยให้ทั้งแรงม้าและประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน สำหรับ MU-X ซึ่งเป็น SUV ยอดนิยมในไทย เครื่องยนต์ยังถูกออกแบบมาให้เหมาะกับคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิงท้องถิ่น โดยสามารถทำงานได้ดีแม้กับน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันสูง ส่วนด้านการบริการ อิซูซุมีเครือข่ายศูนย์บริการกระจายทั่วประเทศและอะไหล่พร้อมจำหน่าย ทำให้ค่าบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ นี่คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ MU-X ขายดีต่อเนื่องในตลาดไทย
Q
ราคา Isuzu MU-X 2025 รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ แล้วเท่าไหร่?
ขณะนี้ราคาจริงสำหรับรถ Isuzu MU-X 2025 ที่พร้อมจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากทางบริษัท แต่หากอ้างอิงจากราคาของรุ่นปี 2024 ที่อยู่ในช่วงประมาณ 1.2 - 1.6 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของรุ่นและภาษี) คาดว่ารุ่นปี 2025 น่าจะอยู่ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน โดยราคาสุดท้ายจะรวมค่าจดทะเบียน ประกันภัย และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ในตลาดไทย MU-X ได้รับความนิยมจากความทนทานและสมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับเคลื่อนบนเส้นทางชนบทและการเดินทางไกล คาดว่ายังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเช่นเดิม เพื่อความประหยัดน้ำมันและแรงบิดต่ำที่ตอบโจทย์การใช้งาน ส่วนผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอิซูซุประเทศไทยหรือตัวแทนจำหน่ายท้องถิ่น ก่อนตัดสินใจซื้ออาจเปรียบเทียบกับรถระดับเดียวกันอย่าง Toyota Fortuner หรือ Ford Everest แต่ควรศึกษาความแตกต่างของอุปกรณ์มาตรฐานและนโยบายบริการหลังการขายด้วย ทั้งนี้ลูกค้ายังสามารถใช้สิทธิ์โปรโมชั่นรถยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อมหรือแผนผ่อนชำระจากรัฐบาลเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรถได้อีกทางหนึ่ง
Q
สีของรถ Isuzu MU-X 2025 มีอะไรบ้าง?
รถยนต์ Isuzu MU-X รุ่นปี 2025 ในตลาดประเทศไทยมีตัวเลือกสีสันที่ทั้งทันสมัยและใช้งานได้จริง เริ่มจากโทนสีคลาสสิกอย่างขาว ดำ และเงิน ซึ่งไม่เพียงดูดีตลอดเวลาแต่ยังดูแลง่าย เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีโทนสีเข้มอย่างน้ำเงินกรมท่าและแดงเข้มสำหรับลูกค้าที่ต้องการความแตกต่าง ส่วนในประเทศไทยเจ้าของรถหลายคนมักเลือกโทนสีอ่อนเนื่องจากไม่ดูดซับความร้อนจากแสงแดด ช่วยลดความเสี่ยงการเสื่อมสภาพของสีรถเมื่อต้องจอดตากแดดเป็นเวลานาน ในขณะที่โทนสีเข้มให้ความรู้สึกหรูหราเหมาะสำหรับการใช้งานในแวดวงธุรกิจ นอกจากการเลือกสีแล้ว MU-X 2025 ยังคงความแข็งแกร่งและสมรรถนะออฟโรดตามสไตล์อีซูซุ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูงที่ตอบโจทย์ทุกสภาพถนนในไทย ทั้งการขับขี่ในเมืองและการเดินทางไกล สำหรับผู้บริโภคไทยที่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ใช้สอยแล้ว การผสมผสานระหว่างสีสันและสมรรถนะของ MU-X ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างแน่นอน
Q
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของ MU-X 2025 เป็นอย่างไร?
เกี่ยวกับความประหยัดน้ำมันของ Isuzu MU-X รุ่นปี 2025 ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลทางการเผยแพร่ แต่หากอ้างอิงจากรุ่นปัจจุบันในตลาดไทย รุ่นดีเซลของ MU-X มักมีอัตราการใช้น้ำมันประมาณ 13-15 กม./ลิตร ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ ในสภาพอากาศร้อนและถนนผสมของไทย แนะนำให้เจ้าของรถบำรุงรักษาไส้กรองอากาศและตรวจความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมัน ทั้งนี้ เครื่องยนต์ดีเซล 3.0T ของ MU-X ใช้เทคโนโลยีเทอร์โบแปรผันช่วยสร้างสมดุลระหว่างแรงบิดและความประหยัดน้ำมัน สิ่งที่ควรสังเกตคือ รัฐบาลไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับรถดีเซลสะอาด การเลือกใช้รถดีเซลมาตรฐาน Euro 6 สามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้รถ สำหรับผู้ที่ขับทางไกลบ่อยหรือใช้งานในพื้นที่ภูเขาทางเหนือของไทย คุณสมบัติแรงบิดสูงของ MU-X เหนือกว่ารถ SUV เครื่องยนต์เบนซิน แนะนำให้สังเกตการแสดงผลการใช้น้ำมันแบบเรียลไทม์บนหน้าปัดขณะทดลองขับและประเมินตามสภาพการใช้งานจริง
Q
MU-X 2025 ในฟิลิปปินส์ราคาเท่าไหร่?
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับราคาของ MU-X รุ่นปี 2025 ในฟิลิปปินส์ แนะนำให้ติดตามข่าวสารล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของ Isuzu ฟิลิปปินส์หรือตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น MU-X เป็น SUV ขนาดกลางภายใต้แบรนด์ Isuzu ที่ได้รับความนิยมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความทนทานและสมรรถนะออฟโรดที่โดดเด่น ในตลาดไทยก็มีจำหน่ายเช่นกัน และมักถูกใช้งานเป็นรถครอบครัวหรือสำหรับการเดินทางไกล เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตรของ MU-X แสดงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสภาพถนนที่ซับซ้อนและภูมิประเทศเป็นภูเขาของไทย พร้อมกับความประหยัดน้ำมันที่ค่อนข้างดี สำหรับผู้บริโภคไทยที่สนใจ MU-X อาจเปรียบเทียบราคาในประเทศไทยกับรุ่นที่จำหน่ายในฟิลิปปินส์ โดยควรสังเกตความแตกต่างของอุปกรณ์ เช่น ระบบขับเคลื่อน (บางตลาดอาจมีตัวเลือกขับเคลื่อนล้อหลังหรือสี่ล้อ) และระบบความปลอดภัย (รุ่นไทยอาจมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาตรฐานมากกว่า) นอกจากนี้ รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยมักมีระยะเวลารับประกันที่ยาวนานกว่าและบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์คนไทยมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อรถ หากมีแผนจะซื้อรถจากต่างประเทศ ควรคำนึงถึงเรื่องภาษีนำเข้า กระบวนการจดทะเบียน และการสนับสนุนหลังการขายด้วย
Q
สเปคของ Isuzu MU-X 2025 เป็นอย่างไร?
รุ่นปี 2025 ของ Isuzu MU-X ในตลาดไทยคาดว่าจะยังคงรักษาคุณสมบัติของ SUV บนพื้นฐานรถปิคอัพที่แข็งแรงทนทาน มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ปรับปรุงใหม่ กำลังสูงสุดประมาณ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับการขับขี่ทั้งออฟโรดและในเมือง โครงสร้างตัวถังเป็นแบบไม่รับน้ำหนักและมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบแบ่งเวลา เหมาะกับสภาพถนนหลายรูปแบบในไทย ด้านภายในอาจติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ รองรับ Apple CarPlay/Android Auto และเพิ่มระบบช่วยขับขี่ เช่น ครูสคอนโทรลอัตโนมัติและระบบช่วยรักษาเลน ข้อมูลที่ผู้ใช้ไทยให้ความสนใจ ได้แก่ ความสูงใต้ท้องรถ ช่องแอร์ด้านหลัง และกระจกต้านรังสี UV เหมาะกับภูมิอากาศร้อนชื้น ในฐานะ SUV ดีเซลยอดนิยม MU-X มีจุดเด่นที่แรงบิดสูงในรอบต่ำ เหมาะกับถนนภูเขาและการเดินทางไกล อีกทั้งเครือข่ายบริการหลังการขายของอีซูซุในไทยครอบคลุม ทำให้การซ่อมบำรุงสะดวก คู่แข่งในระดับเดียวกันได้แก่ Toyota Fortuner และ Mitsubishi Pajero Sport แต่ MU-X ได้รับความนิยมจากผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งด้วยความสามารถในการบรรทุกสูงและศักยภาพในการปรับแต่ง แนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณาการปรับแต่งช่วงล่างและความประหยัดน้ำมันตามความต้องการใช้งานจริง
Q
MU-X 2025 ราคาเท่าไหร่?
รุ่นปี 2025 ของ Isuzu MU-X ในไทยคาดว่าจะมีราคาอยู่ระหว่าง 1.2 ถึง 1.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก SUV ระดับกลางรุ่นนี้โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะออฟโรดและความทนทาน ที่ทำให้ได้รับความนิยมในตลาดไทยมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับรุ่นปี 2025 คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตรและ 3.0 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ได้รับการอัปเกรด ส่วนภายในคาดว่าจะใช้วัสดุระดับพรีเมียมและระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุด สำหรับประเทศร้อนอย่างไทย ระบบแอร์และความทนทานของ MU-X เป็นจุดสำคัญที่รถรุ่นนี้ทำได้ดีเสมอมา สำหรับคนไทยที่ต้องขับทางไกลหรือชอบลุยออฟโรด MU-X ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะระยะความกว้างจากพื้นรถสูงและโครงสร้างช่วงล่างแข็งแรง เหมาะกับสภาพถนนหลากหลายในไทย แนะนำให้ติดตามข้อมูลการเปิดตัวจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อดูราคาที่แน่นอนและโอกาสทดลองขับ
Q
ยางขนาดไหนที่ติดตั้งใน Isuzu MU-X 2025
จากข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ คาดว่ารุ่น Isuzu MU-X 2025 ที่จะวางจำหน่ายในตลาดไทยจะยังคงใช้ขนาดยางแบบเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ซึ่งมี 2 แบบคือ 255/60 R18 และ 255/65 R17 โดยจะแยกตามระดับเครื่องแต่งรถแต่ละแบบ การเลือกขนาดยางแบบนี้ถือว่าครอบคลุมทั้งการใช้งานบนถนนทั่วไปและการขับลุยแบบเบาๆ ในสภาพเส้นทางหลากหลายแบบของไทยได้ค่อนข้างดี สำหรับเจ้าของรถในไทยที่ใช้ MU-X ซึ่งเป็น SUV โครงสร้างแบบแชสซีแข็ง ควรให้ความสำคัญกับการเลือกยางที่มีสัญลักษณ์ M+S (โคลนและหิมะ) เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งในภาคเหนือช่วงฤดูฝนและเส้นทางแถบชายทะเลภาคใต้ และต้องไม่ลืมว่ากรมการขนส่งทางบกไทยกำหนดให้ดอกยางต้องเหลือไม่ต่ำกว่า 1.6 มม. ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ หากต้องการเปลี่ยนยาง แนะนำให้เลือกยี่ห้อที่มีศูนย์บริการในไทย เช่น Bridgestone หรือ Michelin ที่มีการพัฒนาสูตรยางสำหรับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ ทนทานต่อความร้อนจากพื้นถนนได้ดี แถมยังคุ้มราคาหากเลือกยางที่ผลิตในไทย แต่ต้องตรวจสอบด้วยว่ายางนั้นได้มาตรฐาน TISI เพื่อความปลอดภัยตามกฎหมายไทย
Q
เครื่องยนต์ของ 2025 MU-X คืออะไร
รุ่น MU-X 2025 คาดว่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตรของอิซูซุที่ทันสมัย ซึ่งเครื่องยนต์นี้โดดเด่นในเรื่องความทนทานและการให้แรงบิดสูงที่รอบต่ำ (430 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที) ทำให้แสดงประสิทธิภาพได้ดีในสภาพพื้นที่หลากหลายของประเทศไทย พร้อมทั้งยังได้มาตรฐานยูโร 5 ซึ่งตอบโจทย์ทั้งเรื่องสมรรถนะและสิ่งแวดล้อม สำหรับตลาดไทย อิซูซุได้ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ เช่น การปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ทนต่ออุณหภูมิสูง และออกแบบระบบฉีดเชื้อเพลิงให้เข้ากับน้ำมันดีเซลคุณภาพท้องถิ่น ที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 1.9 ลิตร RZ4E-TC ที่อิซูซุกำลังส่งเสริมในระยะหลังนี้อาจจะมาเป็นตัวเลือกสำหรับรุ่นเริ่มต้น โดยใช้เทคโนโลยีเทอร์โบแบบปรับ geometry ได้เพื่อประหยัดน้ำมัน (ข้อมูลทางการระบุว่าสามารถวิ่งได้ประมาณ 14-15 กิโลเมตรต่อลิตร) ซึ่งเหมาะกับเทรนด์การประหยัดพลังงานที่ไทยให้ความสำคัญมากขึ้น ผู้ใช้ในไทยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยคนที่ขับทางไกลหรือบรรทุกหนักบ่อยๆน่าจะชอบเครื่อง 3.0 ลิตรที่ให้กำลังเหลือเฟือ ส่วนครอบครัวที่ใช้ในเมืองอาจจะชอบเครื่อง 1.9 ลิตรที่ประหยัดน้ำมันมากกว่า ทั้งนี้เครือข่ายศูนย์บริการกว่า 200 แห่งของอิซูซุในไทยก็พร้อมให้บริการดูแลเครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นที่ผ่านการทดสอบสำหรับสภาพท้องถิ่นมาแล้วอย่างดี

ข้อดี

ภาชนะขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาดูหรูหรามาก ขนาดร่างกายของรถใหญ่กว่าคู่แข่งในทุกด้าน ทำให้ความสัมพันธ์โดยรวมดูอิ่มตัว ซึ่งเพิ่มความรู้สึกว่ารถคันใหม่ดูหรูหราและทันสมัยมากขึ้น
มีการจัดรูปแบบที่นั่งของผู้โดยสารหลากหลาย ยางสำรองติดตั้งไว้ที่ด้านล่างของรถ ทำให้สามารถจัดการกับพื้นที่ในรถได้อย่างเต็มที่ ทำให้สะดวกสบายในการเข้าออกมากขึ้น
เพิ่มอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยจำนวนมาก มีการติดตั้งระบบ ADAS ทำงานร่วมกับระบบหลายระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ปลอดภัยในระดับสูงสุด

ข้อเสีย

ควรมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากขึ้นให้เลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า, 350 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า, 450 นิวตันเมตร การทำงานของเครื่องยนต์ Isuzu ไม่ได้โดดเด่นในด้านคุณสมบัติ
ควรเพิ่มอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มากขึ้น คู่แข่งเกือบทุกคนมีถุงลมนิรภัย 7 ใบ แต่ Isuzu มีเพียง 6 ใบ และคู่แข่งยังมีอุปกรณ์บางอย่างที่ดีกว่า Isuzu

Q&A ล่าสุด

Q
ราคา BYD SEALION 7 เท่าไหร่
รถ BYD Sealion 7 เป็นรุ่น SUV ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก BYD ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดไทย ตอนนี้ยังไม่มีประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ถ้าดูจากนโยบายการตั้งราคาของ BYD ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงสเปกของรถรุ่นนี้ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความจุแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี e-platform 3.0 ล่าสุดจาก BYD ที่ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 500 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) และรองรับระบบชาร์จเร็ว ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยที่มองหารถไฟฟ้าระยะทางไกลและชาร์จสะดวก ในตลาดไทย BYD Sealion 7 จะแข่งกับรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เช่น Tesla Model Y และ MG Marvel R แต่ BYD ได้เปรียบเรื่องการผลิตในประเทศที่อาจทำให้ราคาดีกว่าและมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมมากกว่า ที่สำคัญตอนนี้รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถ EV ค่อนข้างดี ทั้งการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ซึ่งช่วยให้ราคารถถูกลงอีก ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการรถยนต์อีโคคาร์ที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงอย่าง BYD Sealion 7 คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด
Q
BYD SEALION 7 มีที่นั่งกี่ที่
BYD SEALION 7 เป็น SUV ขนาดกลางที่ออกแบบมา 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของครอบครัวไทยหรือการออกทริปกับเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี โอกาสนี้ยังมีพื้นที่ด้านหลังและกระโปรงหลังที่กว้างขวาง เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนไทยที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวหรือต้องขนสัมภาระจำนวนมาก รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid แบบ Plug-in (DM-i Super Hybrid) ของ BYD ที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีแม้ในสภาพอากาศร้อนของไทย โหมด EV ก็เหมาะกับการใช้ชีวิตในเมือง ส่วนเรื่องที่สำคัญคือ ตลาดไทยกำลังเติบโตในเรื่องรถพลังงานสะอาด ซึ่ง Sealion 7 เป็น Plug-in Hybrid ที่ได้สิทธิประโยชน์เหมือนรถ EV แถมยังไม่ต้องกังวลกับสถานีชาร์จที่อาจยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ อีกทั้งยังติดตั้งระบบปรับอากาศแรงๆ สำหรับเมืองร้อน และระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ ที่สำคัญแบตเตอรี่มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ทนสภาพฝนตกชุกของไทยได้ดี เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota RAV4 ที่ก็เป็น 5 ที่นั่งเหมือนกัน แต่ Sealion 7 โดดเด่นกว่าในเรื่องเทคโนโลยีเชื่อมต่อและนวัตกรรมพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตามผู้ซื้อควรเลือกตามความต้องการและงบประมาณที่มี เพราะตอนนี้รัฐบาลไทยกำลังสนับสนุนนโยบาย EV 3.5 ทำให้ SUV ประหยัดพลังงานแบบนี้จะเป็นทางเลือกยอดนิยมของครอบครัวไทยมากขึ้นเรื่อยๆ
Q
Isuzu MU-X 1.9 ต้องเสียภาษีเท่าไหร่
ในประเทศไทย ภาษีของรถ Isuzu MU-X 1.9 จะประกอบไปด้วยภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริงจะขึ้นอยู่กับราคา CIF ของรถ (รวมค่าการขนส่งและประกัน) รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่นขนาดเครื่องยนต์ ตามนโยบายภาษีของไทย รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรจะถูกจัดอยู่ในอัตราภาษีสรรพสามิต 20% และต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% โดยรวมแล้วภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 30% ของราคา CIF แต่จำนวนสุดท้ายต้องรอการประเมินจากศุลกากร นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีสิทธิประโยชน์สำหรับรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยถ้า Isuzu MU-X 1.9 ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องดีเซลสามารถผ่านมาตรฐาน Euro ก็อาจจะได้รับส่วนลดภาษีบางส่วน ควรระวังไว้ว่ารัฐบาลไทยอาจมีการปรับอัตราภาษีรถยนต์เป็นครั้งคราว ดังนั้นก่อนซื้อควรสอบถามข้อมูลล่าสุดจากตัวแทนจำหน่ายหรือหน่วยงานด้านภาษีในพื้นที่ สุดท้ายแล้ว Isuzu MU-X 1.9 เป็นรถที่ได้รับความนิยมในตลาดไทยเนื่องจากความทนทานและประหยัดน้ำมัน แม้ว่าภาษีจะเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการซื้อรถ แต่ในระยะยาวการประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำก็ช่วยให้เจ้าของรถประหยัดเงินได้ไม่น้อย
Q
รีโมทคอนโทรลของ Isuzu MU-X รุ่นอะไร?
สำหรับรถยนต์ Isuzu MU-X ในตลาดไทย รีโมทคีย์ที่นิยมใช้จะเป็นยี่ห้อ 4D-TECH ซึ่งมักเป็นรุ่น 4D-60 หรือ 4D-63 ขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตและระดับเครื่องของรถ แนะนำให้เจ้าของรถตรวจสอบป้ายด้านหลังของกุญแจหรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายอีซูสุอย่างเป็นทางการในไทยเพื่อความถูกต้อง ส่วนการเปลี่ยนหรือตั้งค่ารีโมทคีย์ในประเทศไทย ต้องทำผ่านช่องทางมืออาชีพโดยเฉพาะรถที่ติดตั้งระบบอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) ควรเลือกบริการศูนย์บริการทางการของอีซูสุหรืออู่ที่ได้รับการรับรอง เพื่อความปลอดภัยและความเข้ากันได้ของระบบ นอกจากนี้สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของไทยอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ของรีโมท (ปกติใช้แบตเตอรี่รุ่น CR2032) ถ้ารีโมททำงานไม่ดีหรือกดแล้วไม่ค่อยตอบสนอง ลองเปลี่ยนแบตเตอรี่ดูก่อน สำหรับการดูแลรักษารีโมทคีย์ในชีวิตประจำวัน ควรหลีกเลี่ยงการวางทิ้งไว้ในที่ร้อนเช่นแผงหน้าปัด และระวังไม่ให้น้ำเข้า เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของรีโมทได้ หากต้องการทำกุญแจเพิ่ม ในไทยมีร้านค้าชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่เช่น Zeer Rangsit หรือร้านอิเล็กทรอนิกส์รถยนต์เฉพาะทางที่ให้บริการได้ แต่ต้องมั่นใจว่าชิปที่ใช้เข้ากันได้กับของเดิมเพื่อป้องกันระบบรักษาความปลอดภัยของรถทำงานล็อกโดยไม่จำเป็น
Q
Isuzu Mu x 1.9 ใช้น้ำมันเท่าไหร่ต่อกิโลเมตร
ในตลาดไทย Isuzu MU-X 1.9 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ BluePower ขนาด 1.9 ลิตร ได้รับความนิยมในเรื่องความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ข้อมูลทางการระบุว่าอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ประมาณ 6.5-7.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือคิดเป็นประมาณ 0.065-0.07 ลิตรต่อกิโลเมตร ซึ่งตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปตามสภาพการขับขี่ เช่น การจราจรติดขัดในเมือง การขับทางไกลบนทางหลวง หรือการบรรทุกของ เครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีคอมมอนเรลและเทอร์โบชาร์จแบบเวนเทรียเบลจีออเมทรี ที่ช่วยให้มีกำลังขับเคลื่อนที่ดีในขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมัน เหมาะสมกับสภาพเส้นทางที่เป็นภูเขาและการเดินทางไกลในไทย สังเกตว่าในไทยรถดีเซลมักเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัวและผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย เพราะราคาน้ำมันถูกกว่าและมีแรงบิดสูง แนะนำให้เจ้าของรถบำรุงรักษาเครื่องยนต์และเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ รวมถึงรักษาความดันลมยางให้เหมาะสม เทคนิคง่ายๆเหล่านี้จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น ถ้าอยากได้ข้อมูลเปรียบเทียบเรื่องความประหยัดน้ำมัน สามารถดูมาตรฐาน Eco-Car ของกรมการขนส่ง แต่ Isuzu MU-X 1.9 ก็มีความน่าเชื่อถือและทนทานจากการสั่งสมเทคโนโลยีของอีซูซุในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ที่ไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับมานานแล้ว
ดูเพิ่มเติม