Q

รถยนต์ Toyota Yaris ใช้น้ำมันเครื่องประเภทไหน?

รถ Toyota Yaris ในตลาดไทยแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์เต็มรูปแบบ (Full Synthetic) เกรด 0W-20 หรือ 5W-30 โดยเลือกตามปีรถและประเภทเครื่องยนต์ เช่น รุ่นปี 2020 ขึ้นไปที่ใช้เครื่องยนต์ 1.2L 4 สูบ จะเหมาะกับ 0W-20 เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ส่วนรุ่นเก่าหรือเครื่องยนต์ 1.5L อาจใช้ 5W-30 เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนของไทย ผู้ใช้ในไทยควรตรวจสอบคู่มือเจ้าของรถหรือปรึกษาตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าเป็นหลัก เพราะสภาพถนนและอากาศของไทย (ทั้งรถติดบ่อยและอากาศร้อนตลอดปี) มีผลต่อความหนืดของน้ำมันเครื่อง การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ (แนะนำทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน) จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้ดี ต้องบอกว่าแม้น้ำมันสังเคราะห์เต็มรูปแบบจะราคาสูงกว่า แต่ให้ความเสถียรในอุณหภูมิสูงและคุณสมบัติการทำความสะอาดดีกว่า โดยเฉพาะในประเทศร้อนแบบไทย หากงบประมาณของคุณจำกัด คุณอาจพิจารณาใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ที่ได้รับการรับรองจากโตโยต้า แต่คุณจะต้องลดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง นอกจากนี้ ควรตรวจสอบมาตรฐาน API SN หรือ SP และมาตรฐาน ILSAC GF-6 เมื่อเลือกน้ำมันเครื่อง การรับรองเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์ของโตโยต้าได้ และป้องกันคราบเขม่าและปัญหาการสึกหรอที่เกิดจากการใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำ
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
วิธีเปิดฝาถังน้ำมัน Toyota Yaris 2023
สำหรับรถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2023 การเปิดฝาถังน้ำมันทำได้ง่ายมาก แค่คุณปลดล็อครถแล้วกดเบาๆ ที่ด้านขวาของฝาถังน้ำมัน มันจะเปิดออกอัตโนมัติเลย ไม่ต้องมานั่งหาปุ่มเปิดในรถให้ยุ่งยาก แบบนี้เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยทั้งร้อนทั้งชื้น เพราะไม่ต้องกังวลว่าปุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในรถจะเสียจากความชื้น แต่ต้องระวังหน่อย เพราะบางปั๊มในไทยต้องให้พนักงานช่วยเติมน้ำมัน แค่บอกเขาไปว่า "กรุณาเติมน้ำมัน" แล้วบอกเลขน้ำมันที่ต้องการ เช่น แก๊สโซฮอล์ 91 หรือ 95 อีกเรื่องที่คนใช้รถในไทยควรจำไว้คือ ต้องคอยตรวจสอบยางซีลของฝาถังน้ำมันบ่อยๆ เพราะความร้อนกับความชื้นในไทยทำให้ยางเสื่อมเร็ว ถ้าเห็นว่ายางเริ่มแตกต้องเปลี่ยนด่วนๆ เลย ไม่งั้นระบบ EVAP จะทำงานผิดปกติได้ และอย่าลืมเรื่องความปลอดภัยเวลาจอดรถเติมน้ำมัน โดยเฉพาะช่วงอากาศแห้งๆ ควรแตะตัวรถโลหะสักหน่อยเพื่อระบายไฟฟ้าสถิตก่อนเติมน้ำมัน ถ้าเกิดฝาถังน้ำมันเปิดไม่ออก ลองเช็คดูว่ารถยังล็อคอยู่หรือเปล่า หรือไม่ก็ดูว่ามีสายดึงฉุกเฉินในห้องสัมภาระไหม เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ช่วยให้การใช้รถในไทยสะดวกขึ้นเยอะเลย
Q
รถยนต์ Yaris 2023 มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) หรือไม่?
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยนั้นมีระบบ Cruise Control ให้ใช้งานจริง โดยระบบนี้จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นท็อปของไทย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาความเร็วคงที่ได้เมื่อใช้บนทางด่วนหรือเส้นทางที่การจราจรไม่หนาแน่น ลดความเหนื่อยล้าจากการขับทางไกล และยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าสภาพการจราจรของไทยค่อนข้างซับซ้อน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่การจราจรติดขัดบ่อยๆ และมีรถมอเตอร์ไซค์สัญจรปนอยู่มาก อาจทำให้โอกาสได้ใช้ระบบนี้มีจำกัด ดังนั้นควรเปิดใช้ระบบตามความเหมาะสมของสภาพถนนจริงด้วย เทคโนโลยี Cruise Control นี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ยุค 50s พัฒนามาอย่างยาวนานจนตอนนี้มีความเสถียรมาก แม้แต่รถยนต์ระดับเอ็นทรีก็มีระบบนี้ให้ใช้งานแล้ว มักทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบเตือนการชน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกขั้น ในตลาดไทยนอกจาก Yaris แล้ว ยังมีรถรุ่นเดียวกันอย่าง Honda City และ Mazda 2 ที่มีระบบนี้ให้เลือกเช่นกัน ลูกค้าสามารถพิจารณาตามความต้องการและงบประมาณที่มีได้
Q
ใน Toyota Yaris 2023 มีทั้งหมดกี่สูบ?
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร แบบสูบธรรมชาติ (4 สูบ แถวเรียง) ให้กำลังสูงสุดประมาณ 88 แรงม้า คู่กับเกียร์ CVT ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันและให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองอย่างเช่นสภาพการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ พูดถึงเครื่องยนต์ 4 สูบแล้วต้องบอกว่าเป็นที่นิยมในตลาดรถขนาดเล็กของไทย เพราะให้สมดุลที่ดีและสั่นสะเทือนน้อยเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 3 สูบ ซึ่งคู่แข่งอย่าง Honda City ในตลาดไทยก็ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแบบเดียวกัน แสดงให้เห็นว่านี่คือมาตรฐานของรถระดับนี้ นอกจากนี้ Toyota ยังปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพแม้อากาศร้อนจัด ถ้าคุณเน้นเรื่องค่าบำรุงรักษาต่ำต้องบอกว่าเครื่องยนต์ตัวนี้มีความน่าเชื่อถือในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่แนะนำว่าควรทดลองขับดูก่อนเพื่อเช็คว่ากำลังเครื่องตอบโจทย์ความต้องการของคุณหรือไม่
Q
"Toyota Yaris 2023 ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเท่าไหร่ต่อลิตร?"
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมีประสิทธิภาพด้านประหยัดน้ำมันที่โดดเด่น โดยอัตราสิ้นเปลืองจริงจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและสภาพการขับขี่ ข้อมูลจากทางบริษัทระบุว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบดูดธรรมดาที่ติดตั้งเกียร์ CVT จะประหยัดน้ำมันประมาณ 15-17 กม./ลิตรเมื่อขับในเมือง และสามารถทำได้ถึง 20-22 กม./ลิตรเมื่อขับทางไกล ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.2 ลิตรนั้นประหยัดน้ำมันได้ดีกว่า เหมาะสำหรับการเดินทางระยะยาว แต่ต้องระวังว่าอัตราสิ้นเปลืองจริงในกรุงเทพฯ อาจสูงขึ้นเนื่องจากปัญหารถติด การเปิดแอร์บ่อย หรือพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคน แนะนำให้บำรุงรักษายางและเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ในกลุ่มรถขนาดเดียวกัน Yaris มีจุดแข็งด้านการประหยัดน้ำมันจากเทคโนโลยี Hybrid ที่พัฒนามาอย่างดีของ Toyota (เช่นบางรุ่นในต่างประเทศที่ติดตั้งระบบ Hybrid) รวมถึงการออกแบบตัวรถที่น้ำหนักเบา ถ้ามีการนำเข้ารุ่น Hybrid มาไทยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกมาก นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังมีมาตรการลดภาษีสำหรับรถประหยัดพลังงาน ก่อนตัดสินใจซื้อสามารถสอบถามโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากตัวแทนจำหน่ายได้โดยตรง
Q
"" ราคา Toyota Yaris Cross 2023 เท่าไหร่? ""
รถยนต์ Toyota Yaris Cross รุ่นปี 2023 ในประเทศไทยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 800,000 ถึง 1,200,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์เสริมที่เลือก แนะนำให้ลูกค้าติดต่อตัวแทนจำหน่าย Toyota ในพื้นที่เพื่อสอบถามราคาล่าสุดและโปรโมชั่นปัจจุบัน โดย Yaris Cross เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดที่พัฒนามาเฉพาะสำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม TNGA ของ Toyota และการออกแบบที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้น เช่น ระบบปรับอากาศที่ได้รับการปรับปรุงและกระบวนการป้องกันสนิม ทำให้เหมาะกับการใช้งานในเมืองและครอบครัวชาวไทยเป็นอย่างดี รถรุ่นนี้มาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์ 2 แบบ คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และระบบไฮบริด ซึ่งแบบไฮบริดช่วยประหยัดน้ำมันได้มากในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นอย่างกรุงเทพฯ ที่สำคัญ Toyota มีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้คนไทยนิยมเลือกใช้แบรนด์นี้ นอกจากราคาแล้ว ลูกค้ายังสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบริการผ่อนชำระ แพ็กเกจประกันภัย และบริการเสริมอื่นๆ ได้ที่โชว์รูม Toyota ทั่วประเทศ
Q
"เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris 2023 มีปริมาณเท่าไหร่?"
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2023 ที่วางขายในตลาดไทยมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์หลัก 2 แบบ คือ เครื่องยนต์เบนซินแบบสูบธรรมชาติขนาด 1.2 ลิตร และ 1.5 ลิตร โดยมีปริมาตรกระบอกสูบ 1,197 ซีซี และ 1,496 ซีซี ตามลำดับ สำหรับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรให้กำลังสูงสุดประมาณ 88 แรงม้า ส่วนเครื่อง 1.5 ลิตรทำกำลังได้ถึง 110 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความประหยัดน้ำมันและความทนทาน เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในเมืองไทยที่ต้องเร่งและหยุดบ่อยๆ เมื่อจับคู่กับเกียร์ CVT แล้วยังช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นอีกด้วย ที่น่าสนใจคือตลาดไทยมีความต้องการรถขนาดเล็กค่อนข้างสูง และ Yaris ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมเพราะมีขนาดกะทัดรัดและขับเคลื่อนคล่องตัว แถมยังได้ประโยชน์จากนโยบายลดภาษีจดทะเบียนครั้งแรกสำหรับรถประหยัดพลังงานของรัฐบาลไทย นอกจากนี้ในสภาพอากาศร้อนแบบประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและเปลี่ยนไส้กรองแอร์เป็นประจำ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด การดูแลรายละเอียดเล็กน้อย แบบนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรถและรักษาสมรรถนะให้คงที่ได้ในระยะยาว
Q
การระงับของ Toyota Yaris ปี 2020 เป็นอย่างไร?
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2020 ที่วางขายในตลาดประเทศไทย ใช้ระบบช่วงล่างแบบแมคเฟอร์สันสตรัทด้านหน้าและคานบิดทอร์ชันบีมด้านหลัง ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่พบได้บ่อยในรถเก๋งขนาดกะทัดรัด ช่วยให้ตอบโจทย์ทั้งความนุ่มนวลและความมั่นคงในการขับขี่ โดยเฉพาะเหมาะกับสภาพถนนในเมืองที่ซับซ้อนและเส้นทางชนบทของไทยเป็นอย่างดี การตั้งค่าสปริงและโช้คถูกปรับให้เน้นความสบายเป็นหลัก สามารถกรองแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความมั่นคงเมื่อเข้าโค้งด้วย เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยที่ทั้งร้อนและฝนชุก ทำให้ชิ้นส่วนยางและโช้คของระบบช่วงล่างต้องมีความทนทานเป็นพิเศษ ซึ่งระบบช่วงล่างของ Yaris นี้ก็ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือ และยังดูแลรักษาได้ง่ายด้วย ที่น่าสนใจคือการออกแบบช่วงล่างของรุ่นนี้ยังถูกพัฒนาร่วมกับระยะความสูงจากพื้นรถที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษสำหรับตลาดไทย ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนได้ดีขึ้น สำหรับผู้บริโภคไทยที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ดีแต่มีงบประมาณจำ ระบบช่วงล่างชุดนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ และยังมีความสามารถในการแข่งขันเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันอีกด้วย
Q
รถ Toyota Yaris ปี 2020 มีซันรูฟหรือไม่?
รุ่น Toyota Yaris ปี 2020 ที่วางขายในตลาดไทย สำหรับบางรุ่นระดับสูงจะมีซันรูฟ (sunroof) ให้เลือก แต่รายละเอียดอุปกรณ์จะขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของรุ่นนั้นๆ เช่น รุ่น 1.2G และ 1.2S มักจะมาพร้อมซันรูฟมาตรฐาน ในขณะที่รุ่นระดับเริ่มต้นอาจไม่มีฟังก์ชันนี้ แนะนำให้ผู้ซื้อตรวจสอบรายละเอียดอุปกรณ์ของรุ่นที่สนใจผ่านเว็บไซต์ทางการของ Toyota Thailand หรือสอบถามโดยตรงกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เพื่อความชัดเจน ด้วยสภาพอากาศร้อนของไทย ซันรูฟช่วยเพิ่มแสงสว่างและระบายอากาศภายในรถได้ดี แต่ควรเลือกรุ่นที่มีการเคลือบป้องกันรังสียูวีเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด โดยซันรูฟของ Toyota Yaris มักมาพร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิดอัตโนมัติและระบบป้องกันการหนีบ ซึ่งใช้งานง่ายและปลอดภัย ข้อสังเกตคือตลาดไทยนิยมรถที่มีซันรูฟค่อนข้างมาก ทำให้หลายแบรนด์อย่าง Honda และ Mazda ในระดับเดียวกันก็มีอุปกรณ์นี้ให้เลือกเช่นกัน ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบฟังก์ชันเสริมระหว่างแบรนด์ต่างๆ ตามงบประมาณและความต้องการได้ เช่น วัสดุม่านบังแดดหรือดีไซน์ลดเสียงรบกวน นอกจากนี้ การบำรุงรักษารางซันรูฟและยางขอบหน้าต่างอย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งาน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนของไทยที่อาจเกิดปัญหาน้ำรั่วได้
Q
ราคารถมือสอง Toyota Yaris ปี 2020 อยู่ที่เท่าไร?
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2020 ในตลาดมือสองของประเทศไทยมีอัตราการรักษามูลค่าค่อนข้างคงที่ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 60%-70% ของราคารถใหม่ ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ระยะทาง และสภาพการดูแลรักษา โดยเฉพาะรุ่นไฮบริดแบบสูงสุดที่มีจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันมักจะมีมูลค่าสูงกว่าในตลาดมือสอง คนไทยให้ความสำคัญกับความประหยัดน้ำมันและความทนทานของรถ ซึ่ง Yaris ได้รับความนิยมในทั้งสองด้านนี้ นอกจากนี้เครือข่ายบริการหลังการขายของ Toyota ในประเทศไทยยังช่วยสนับสนุนมูลค่ามือสองได้ดี สิ่งที่ควรทราบคือ ตลาดรถมือสองไทยให้ราคาสูงกว่าปกติสำหรับรถที่มีประวัติการซ่อมบำรุงตามศูนย์บริการอย่างครบถ้วน ดังนั้นควรเข้าศูนย์บริการอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษามูลค่าไว้ให้สูงสุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Honda City แล้ว Yaris มีอัตราการรักษามูลค่าใกล้เคียงกัน แต่ด้วยขนาดตัวถังที่กะทัดรัดกว่า ทำให้ Yaris คล่องตัวกว่าในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ได้รับความนิยม หากต้องการขายรถ แนะนำให้ใช้ช่องทางยอดนิยมอย่างเว็บขายรถมือสองหรือช่องทางรถมือสองรับประกันโดยโตโยต้า (Toyota Used Car) ซึ่งจะให้ราคาที่สมเหตุสมผลกว่าการขายแบบส่วนตัว หลังจากการประเมินสภาพรถอย่างมืออาชีพแล้ว
Q
Toyota Yaris ปี 2020 ขับเป็นอย่างไรบ้าง?
รถยนต์ Toyota Yaris รุ่นปี 2020 ให้ประสบการณ์การขับขี่ในไทยได้ดีมากๆ ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัดและระบบพวงมาลัยที่ตอบสนองแม่นยำ ทำให้เหมาะกับถนนแคบๆ ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ เป็นพิเศษ ตัวรถคล่องตัว ช่วยให้การจอดหรือเปลี่ยนเลนทำได้ง่ายขึ้น เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ให้กำลังส่งที่เนียนสม่ำเสมอ เมื่อจับคู่กับเกียร์ CVT แล้วตอบสนองดีในความเร็วต่ำ เหมาะกับสภาพการจราจรที่ต้องหยุด-เริ่มบ่อยๆ ในไทย แถมยังประหยัดน้ำมันได้ดี ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการประหยัดน้ำมัน การตั้งค่าตัวถังเน้นความนุ่มสบาย สามารถลดแรงสั่นสะเทือนจากถนนขรุขระที่พบได้ทั่วไปในไทยได้ดี แต่เวล้าโค้งอาจมีอาการโคลงเล็กน้อย จึงเหมาะกับการขับขี่ทั่วไปมากกว่าการขับแบบสปอร์ต ที่น่าสนใจคือ Yaris ในไทยมีเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม อะไหล่พร้อม และค่าบำรุงรักษาไม่แพง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญ สำหรับคนไทยที่กำลังมองหารถขนาดเล็ก Yaris ถือเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามอง ด้วยสมรรถนะที่รอบด้านและความน่าเชื่อถือของแบรนด์โตโยต้าในไทย ส่วนคู่แข่งอย่าง Honda City และ Mazda 2 ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แนะนำให้ลองทดลองขับเปรียบเทียบตามความต้องการส่วนตัวก่อนตัดสินใจซื้อ
  • รถยอดนิยม

  • รุ่นปีรถยนต์

  • เปรียบเทียบรถยนต์

  • รูปภาพรถ

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
เครื่องยนต์เชื่อถือได้ คุ้มค่าสูง ราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการกำหนดค่าใหม่จำนวนมาก มันคุ้มค่าราคา 5.39 - 6.49 หมื่นบาท
ยี่ห้อที่สามารถเชื่อถือได้ ระบบบริการทั่วประเทศ มากกว่า 300 แห่ง การขายหลังการขายมีการรับประกัน
ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยเ outstandingางค์ มาตรฐานด้วย 7 ถุงลมนิรภัยได้รับการรับรองความปลอดภัย 5 ดาวจากอาเซียน
รถยนต์หลากหลายแบบที่มี 3 แบบการกำหนดค่าที่แตกต่างกันให้เลือก
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ได้รับการอัพเกรดทำงานดีขึ้น
ประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันดีเ outstandingางค์ ขับขี่ได้สูงสุด 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานการปล่อย Euro 5
ตกแต่งภายในเฉียบขาดความหรูหราและสปอร์ต ใช้วัสดุเช่นหนัง ฝังเชือกสีแดงทำให้ดูรูปลักษณ์สปอร์ต จอแสดงผลสีเพิ่มความรู้สึก

ข้อเสีย

ภายในออกแบบเป็นลายเก่า
เครื่องยนต์มีกำลังดันน้อยเมื่อความเร็วสูง, ขาดความน่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nissan Almera
รูปแบบรถไม่โดดเด่น, แสดงสภาพโดยรวมที่เฉยๆ
รุ่นรถเก่า, ต้องรอรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี TNGA

Q&A ล่าสุด

Q
เครื่องยนต์ที่อยู่ใน BMW X1 ปี 2021 คืออะไร?
สำหรับรุ่น BMW X1 ปี 2021 ในตลาดท้องถิ่นนั้น มีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินหลักๆ 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จจากซีรีส์ B48 (รุ่น sDrive20i/xDrive20i) ที่ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้าและแรงบิด 280 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์ 7 สปีด DCT หรือ 8 สปีดออโตเมติก ส่วนอีกแบบคือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 3 สูบ เทอร์โบชาร์จ (รุ่น sDrive18i) ให้กำลัง 140 แรงม้าและแรงบิด 220 นิวตันเมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo ของ BMW ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันและความคล่องตัว โดยเฉพาะในสภาพการขับขี่ในเมืองที่รถติดหรือการขับทางไกล ต้องบอกว่า BMW ออกแบบเครื่องยนต์แบบโมดูลาร์ซึ่งช่วยให้ค่าบำรุงรักษาไม่สูงจนเกินไป และตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นยังมีแพ็กเกจบริการที่ยืดหยุ่นอีกด้วย ถ้าเทียบกับรถ SUV คอมแพคต์ในระดับเดียวกัน ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาดเล็กแบบนี้แหละ เพราะช่วยลดภาษีและเหมาะกับการใช้งานประจำวัน แต่ถ้าอยากได้พลังมากขึ้น ก็สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ แต่อย่าลืมว่าอาจมีผลกับเงื่อนไขการรับประกันนะ
Q
แบตเตอรี่สำหรับ BMW X1 ปี 2021 มีราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถ BMW X1 ปี 2021 ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่และสถานที่ซื้อ โดยทั่วไปแบตเตอรี่จากโรงงานผู้ผลิตจะมีราคาอยู่ระหว่าง 15,000 ถึง 25,000 บาท ในขณะที่แบตเตอรี่จากแบรนด์อื่นอาจมีราคาต่ำสุดที่ 10,000 บาท ราคาที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปตามความจุของแบตเตอรี่ ยี่ห้อ และว่ารวมค่าติดตั้งหรือไม่ ขอแนะนำให้ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่เข้ากันได้กับรถและได้รับบริการตามการรับประกัน ร้าน 4S หลายแห่งยังมีบริการตรวจสอบและติดตั้งฟรีอีกด้วย โดยทั่วไป BMW X1 ใช้แบตเตอรี่ AGM (Absorbent Glass Fiber) ซึ่งทนทานกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบบดั้งเดิมและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่นที่มีระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติ แต่ก็มีราคาแพงกว่าเช่นกัน การตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอสามารถยืดอายุการใช้งานได้ โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงซึ่งแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทุกๆ 2-3 ปี หากคุณประสบปัญหาในการสตาร์ทรถ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว และควรเปลี่ยนใหม่โดยเร็วเพื่อป้องกันรถเสีย
Q
รถ BMW X1 ปี 2021 เป็นรถที่ดีไหม?
รถ BMW X1 รุ่นปี 2021 เป็น SUV คอมแพคต์หรูที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองและการใช้งานในครอบครัว เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบชาร์จให้กำลังดีเยี่ยม คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ขับเคลื่อนลื่นไหลและตอบสนองเร็ว แถมยังประหยัดน้ำมันพอสมควร เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องเจอรถติดบ่อยๆ ด้านภายในตกแต่งสไตล์ BMW มาตรฐาน งานประกอบละเอียดเรียบร้อย ระบบ iDrive ใช้งานง่าย รุ่นท็อปมีทั้งหลังคากระจกพาโนรามาและประตูท้ายอัตโนมัติ สเปซด้านหลังนี่ถือเป็นจุดเด่น ขนาดเกือบเท่า SUV รุ่นใหญ่กว่า ส่วนท้ายรถก็จุของได้เยอะพอใช้ ในไทยมีศูนย์บริการครอบคลุม ซ่อมบำรุงสะดวก แต่ต้องระวังเรื่องค่าบำรุงที่สูงกว่าปกติ แนะนำให้ศึกษาดูก่อนซื้อ ถ้าเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes GLA และ Audi Q3 แต่ละรุ่นก็มีจุดขายต่างกัน GLA ให้ความรู้สึกหรูหรากว่า ส่วน Q3 เน้นเทคโนโลยีล้ำๆ แนะนำให้ลองขับดูก่อนตัดสินใจ จะได้รู้ว่าแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด
Q
ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงของ BMW X1 2021 คือเท่าไหร่?
ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ BMW X1 รุ่นปี 2021 จะแตกต่างกันไปตามรุ่นเครื่องยนต์ อัตราการประหยัดน้ำมันของ BMW X1 ปี 2021 แตกต่างกันไปตามการกำหนดค่าเครื่องยนต์ รุ่น sDrive18i ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 3 สูบ 1.5 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยประมาณ 6.2-6.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ในขณะที่รุ่น xDrive25i ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 2.0 ลิตร มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยประมาณ 7.1-7.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจริงจะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการบำรุงรักษา ในสถานการณ์การใช้งานในเมือง เช่น การขับขี่แบบหยุดๆ ไปๆ มาๆ ในกรุงเทพฯ อาจทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 10%-15% ในขณะที่การขับขี่บนทางหลวงจะใกล้เคียงกับตัวเลขอย่างเป็นทางการ รถคันนี้ใช้เทคโนโลยี EfficientDynamics ของ BMW ซึ่งรวมถึงระบบสตาร์ท-หยุดอัตโนมัติและการสร้างพลังงานจากการเบรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แนะนำให้รักษาแรงดันลมยางให้เหมาะสม (ประมาณ 2.3-2.5 เยน) หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับรถ SUV ขนาดกะทัดรัดระดับหรูอื่นๆ ในระดับเดียวกัน X1 xDrive25e รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางระยะสั้นเป็นประจำ แนะนำให้ทดลองขับรถก่อนซื้อเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์การขับขี่จริง และตรวจสอบข้อมูลการกำหนดค่าและราคาที่เฉพาะเจาะจงจากตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่
Q
"BMW ปี 2021 วิ่งได้เร็วแค่ไหน?"
ความเร็วสูงสุดของรถ BMW ปี 2021 ขึ้นอยู่กับรุ่นและเครื่องยนต์ ตัวอย่างเช่น M5 Competition ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 305 กม./ชม. (หลังจากปลดล็อกระบบจำกัดความเร็วอิเล็กทรอนิกส์แล้ว) ในขณะที่ 330e ปลั๊กอินไฮบริด จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 230 กม./ชม. สำหรับการขับขี่ในเมือง ควรทราบว่าแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจำกัดความเร็วบนทางหลวงไว้ที่ 120 กม./ชม. แต่รถยนต์สมรรถนะสูงของ BMW สามารถแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบด้านพละกำลังได้อย่างเต็มที่บนสนามแข่งปิดหรือสนามแข่งระดับมืออาชีพ รถยนต์หรูจากเยอรมนีเหล่านี้มักติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ และระบบช่วยรักษาเลน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแม้ในสภาพถนนที่ซับซ้อนรอบกรุงเทพฯ ที่สำคัญคือ ประสิทธิภาพการเร่งความเร็วแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละรุ่นเครื่องยนต์ ตัวอย่างเช่น M340i xDrive เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที ในขณะที่ 520d ดีเซลใช้เวลา 7.5 วินาที ในการเลือกซื้อ ควรพิจารณาความสมดุลระหว่างความต้องการด้านกำลังเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานการณ์การขับขี่ในชีวิตประจำวันของคุณ ความเร็วสูงสุดของรถยังได้รับผลกระทบจากคุณสมบัติเสริมต่างๆ เช่น ข้อกำหนดของยางและชุดแอโรไดนามิก ขอแนะนำให้ตรวจสอบพารามิเตอร์เฉพาะจากช่องทางอย่างเป็นทางการก่อนซื้อ
ดูเพิ่มเติม