Q

ยาริสของโตโยต้าใช้สลักล้อเบอร์อะไร

ข้อมูลจำเพาะยางที่ใช้โดย Toyota Yaris คือ 185/60 R15 และยางใดๆ ที่ตรงตามข้อกำหนดนี้สามารถใช้ได้
ข้อความพิเศษ: เนื้อหานี้โพสต์โดยผู้ใช้ และไม่ได้แสดงถึงมุมมองและจุดยืนของ PCauto

Q&A เกี่ยวข้อง

Q
ข้อเสียของ Toyota Yaris มีอะไรบ้าง?
Tแม้ว่า Toyota Yaris จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีจุดที่ควรพิจารณาเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรแบบไม่มีเทอร์โบ กำลังสูงสุด 92 แรงม้า ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชอบการขับขี่ที่เร้าใจหรือเร่งแซงบ่อยในความเร็วสูง ด้านพื้นที่ภายใน ด้วยขนาดตัวรถแบบ B-Segment (ยาว 4,171 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475–1,500 มม. ฐานล้อ 2,550 มม.) อาจทำให้พื้นที่วางขาและศีรษะด้านหลังรู้สึกคับแคบ โดยเฉพาะกับผู้โดยสารที่รูปร่างสูงใหญ่ นอกจากนี้ ในขณะที่รถรุ่นอื่น ๆ ในระดับเดียวกันมีการอัปเดตดีไซน์และฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง Toyota Yaris บางรุ่นกลับดูขาดความทันสมัย ทั้งในด้านการออกแบบภายในและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ระบบมัลติมีเดียที่ยังมีฟังก์ชันจำกัด วัสดุภายในที่ให้สัมผัสไม่หรูหรามากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่เน้นความล้ำสมัยหรือความหรูหรา Yaris จึงอาจดูเป็นรองในแง่ของความโดดเด่นและความน่าสนใจค่ะ
Q
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับไหน?
Toyota Yaris จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ B-Segment หรือที่เรียกว่าตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก โดยมีขนาดตัวถังค่อนข้างกะทัดรัด ได้แก่ ความยาวประมาณ 4,140 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,550 มม. ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเมืองและหาที่จอดรถได้ง่าย ราคาจำหน่ายอยู่ในช่วงประมาณ 559,000 – 694,000 บาท ถือว่าเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับผู้บริโภคทั่วไป เครื่องยนต์มีขนาดความจุ 1.2 ลิตร (1197 ซีซี) เป็นแบบ ดูดอากาศธรรมดา (ไม่มีเทอร์โบ) ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า (PS) โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ดีอยู่ที่ 4.3 ลิตร / 100 กม. จึงเหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน เช่น ขับไปทำงานหรือเดินทางระยะสั้น ภายในรถยังมาพร้อมกับ อุปกรณ์ความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VSC) เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารค่ะ
Q
มูลค่าขายต่อ (Resale Value) ของ Toyota Yaris คือเท่าไร?
ราคาขายต่อของ Toyota Yaris มือสอง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งาน (ปีของรถ), ระยะทางที่วิ่งมา, สภาพตัวรถ, และ ระดับของอุปกรณ์หรือรุ่นย่อย รถที่อายุยังน้อย, วิ่งมาน้อย, ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ และได้รับการดูแลรักษาอย่างดี จะมีราคาสูงกว่ารถรุ่นเดียวกันที่มีอายุการใช้งานนานกว่า วิ่งมาเยอะ หรือเคยเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ รุ่นที่เป็น ตัวท็อปหรือมีออปชันครบ มักจะมีราคาขายต่อที่ดีกว่ารุ่นพื้นฐาน แม้จะไม่สามารถระบุราคาที่แน่นอนได้แบบชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับสภาพรถแต่ละคัน แต่โดยรวมแล้ว ถ้ารถอยู่ในสภาพดี ก็จะขายได้ราคาที่น่าพอใจในตลาดมือสอง ในทางกลับกัน หากรถมีสภาพไม่ดี ราคาก็จะลดลงอย่างมาก ผู้บริโภคควรพิจารณาปัจจัยหลายด้านร่วมกันในการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของรถก่อนซื้อหรือขายค่ะ
Q
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris มีกี่ CC?
เครื่องยนต์ของ Toyota Yaris มีความจุ 1197 มิลลิลิตร (mL) ซึ่งเมื่อแปลงเป็นหน่วยลูกบาศก์เซนติเมตร (CC) จะเท่ากับ 1197 CC (เนื่องจาก 1 mL = 1 CC) เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นแบบ ดูดอากาศธรรมดา (Naturally Aspirated) มี 4 สูบ ให้กำลังขับเคลื่อนที่เสถียรและเชื่อถือได้ ด้านความประหยัดน้ำมันก็ทำได้ดี โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 4.3 ลิตร / 100 กิโลเมตร (ตามข้อมูลจากผู้ผลิต) เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุดที่ 68 กิโลวัตต์ (kW) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 109 นิวตันเมตร (N·m) ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเกียร์ CVT (เกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง) ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองหรือถนนทั่วไปในชีวิตประจำวันค่ะ
Q
Toyota Yaris ใช้เครื่องยนต์อะไร?
Toyota Yaris มาพร้อมกับเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบเรียง ขนาด 1.2 ลิตร (1,197 ซีซี) แบบดูดอากาศธรรมดา (ไม่มีเทอร์โบ) เครื่องยนต์นี้ใช้ระบบ DOHC 16 วาล์ว และมีลักษณะเป็นเครื่องยนต์ “สมดุล” เพราะขนาดกระบอกสูบและช่วงชักเท่ากัน (72.5 มม.) นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ (EFI) และเทคโนโลยี Dual VVT-iE (ระบบวาล์วแปรผันคู่แบบควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ด้านระบบเกียร์ ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ พร้อมระบบ Shift-Lock ที่ช่วยปลดเกียร์ว่างเมื่อรถจอด เครื่องยนต์และชุดส่งกำลังนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่น และยังช่วยในเรื่อง ความประหยัดน้ำมัน ในบางประเทศ (รวมถึงไทย) หากมีการเปิดตัวรุ่นใหม่เพิ่มเติม อาจมีการใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แบบ Dual VVT-i ที่ให้กำลัง 107 แรงม้า และแรงบิด 140 นิวตันเมตร พร้อมจับคู่กับเกียร์ Super CVT-i ที่สามารถจำลองการเปลี่ยนเกียร์ได้ถึง 7 จังหวะ เพื่อให้การขับขี่เร้าใจมากขึ้นค่ะ
Q
Toyota Yaris ใช้เกียร์แบบไหน?
Toyota Yaris มีระบบเกียร์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ • เกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i (ใช้ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FBE) • เกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด (ใช้หลักในรุ่นเชิงพาณิชย์ เช่น รุ่นที่ใช้เพื่อการขนส่ง) ส่วนรุ่น Yaris ATIV จะใช้เกียร์ CVT เป็นมาตรฐานทุกรุ่น โดยเกียร์ CVT ของ Yaris ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนและการจราจรติดขัดในประเทศไทย เช่นในกรุงเทพฯ โดยใช้ น้ำมันเกียร์ความหนืดต่ำ และเพิ่มระบบ ระบายความร้อน เพื่อให้ทนต่อการใช้งานในเมืองที่ต้องหยุด–ออกตัวบ่อย คำแนะนำจาก Toyota ประเทศไทย คือควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ CVT ทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร แต่ถ้าขับรถในพื้นที่อุณหภูมิสูงตลอดปี เช่น ภาคใต้ ควรเปลี่ยนทุก 60,000 กิโลเมตร และควรใช้น้ำมันเกียร์มาตรฐาน Toyota CVTF FE ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในประเทศไทย สำหรับผู้ที่ชอบขับรถแนวสปอร์ต แม้ Yaris จะไม่มีเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิม แต่เกียร์ CVT รุ่นนี้สามารถปรับเป็นโหมดแมนนวลจำลอง 7 จังหวะ ช่วยควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้แม่นยำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีภูเขาเยอะอย่างเชียงใหม่ นอกจากนี้ ตัวแทนจำหน่าย Toyota ยังแนะนำว่า หากใช้รถในพื้นที่ชายทะเล เช่น ชลบุรี ควรล้างคราบเกลือที่เกาะบริเวณตัวเกียร์ด้านนอกเป็นประจำ เพื่อป้องกันสนิม รุ่นปรับโฉมล่าสุดของ Yaris ยังได้ปรับปรุงชุดเฟืองเริ่มต้นในเกียร์ CVT เพื่อให้ตอบสนองการออกตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องขนของหนักออกจากเขตนิคมอุตสาหกรรม เช่น ที่ระยองค่ะ
Q
ขนาด PCD ของ Toyota Yaris คือเท่าไร?
รถ Toyota Yaris ที่วางจำหน่ายในตลาด (รวมถึงรุ่น Yaris ATIV) ใช้ขนาด PCD มาตรฐานที่ 4×100 มม. หมายความว่าล้อแม็กมี รูน็อต 4 รู และแต่ละรูจะเรียงอยู่บนวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่นิยมใช้ในรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาด รูดุมกลาง (Hub Bore) ของ Yaris อยู่ที่ 54.1 มม. ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับเจ้าของรถในไทยที่ต้องการ เปลี่ยนล้อแม็กหรือแต่งล้อ เนื่องจากล้อทดแทนหรือแต่งจากแบรนด์ดังในไทย เช่น RAYs, SSR หรือแบรนด์ล้อแม็กผลิตในประเทศ ต้องใช้ขนาดนี้จึงจะใส่ได้พอดี เกลียวน็อตล้อ ที่ใช้คือ M12×1.5 และควรขันด้วยแรงบิดประมาณ 103 นิวตันเมตร (Nm) ในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย แนะนำให้ตรวจสอบความแน่นของน็อตล้อทุก ๆ 10,000 กม. ชาวไทยที่นิยมแต่งล้อมักเลือกออฟเซ็ต (ET) ประมาณ ET38 ถึง ET45 เพื่อให้ล้อดูเต็มซุ้มและมีมิติยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังอย่าให้ล้อชนกับบังโคลนหรือชิ้นส่วนอื่น หากต้องเปลี่ยนเป็นล้อสำหรับยางฤดูหนาว (เช่น ในพื้นที่ภูเขาทางภาคเหนือของไทย) ก็ควรเลือกใช้ล้อที่มี PCD เท่ากัน (4×100 มม.) ราคาแม็กซ์แท้จากศูนย์ Toyota ในไทย อยู่ที่ประมาณ 8,000–15,000 บาทต่อล้อ สำหรับผู้ที่ต้องการ อัปเกรดระบบเบรก และยังคงใช้ PCD ขนาดเดิม 4×100 มม. สามารถเลือกชุดเบรกยอดนิยมในไทย เช่นแบรนด์ Endless หรือ Project μ ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจค่ะ
Q
รถ Toyota Yaris มีระบบ Apple CarPlay หรือไม่?
Toyota Yaris รุ่นปรับโฉมตั้งแต่ปี 2020 (รวมถึง Yaris ATIV) มีบางรุ่นย่อย เช่น SV และ RS ที่มาพร้อมกุญแจ Smart Entry และระบบ Push Start ได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัส 7 หรือ 9 นิ้ว ซึ่งรองรับ Apple CarPlay แล้ว แต่รุ่นพื้นฐานอย่าง JL หรือ J ยังไม่มีฟีเจอร์นี้ และใช้แค่ระบบวิทยุมาตรฐาน ผู้ที่ใช้รุ่นเก่า สามารถอัปเกรดเป็นหน้าจอที่รองรับ CarPlay ได้ผ่านศูนย์บริการโตโยต้าในไทย ราคาประมาณ 8,000 – 15,000 บาท โดยแนะนำให้ใช้สาย Lightning ที่ผ่านการรับรอง MFi เพราะอากาศร้อนในไทยอาจทำให้สายคุณภาพต่ำเสียหายได้ง่าย นอกจากนี้ โตโย่ายังมีอัปเดตระบบปีละ 1–2 ครั้ง ล่าสุดเพิ่มการรองรับ Siri ภาษาไทยด้วย หากสนใจซื้อ Yaris มือสอง แนะนำเลือกจาก Toyota Sure ที่รับรองคุณภาพ และมีการตรวจสอบระบบ CarPlay พร้อมประกันระบบมัลติมีเดีย 3 เดือน
Q
ยี่ห้อยางรถยนต์ของ Toyota Yaris คืออะไร?
ยางติดรถของ Toyota Yaris จะแตกต่างกันไปตามรุ่นและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยทั่วไปมักใช้ยางยี่ห้อ Bridgestone รุ่น ECOPIA EP150 หรือ TURANZA T005A และ Dunlop ENASAVE EC300+ ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะกับถนนในเอเชีย เน้นความนุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน รุ่นที่ใช้ล้อขนาด 15 นิ้ว มักใช้ยางขนาด 175/65 R15 ขณะที่รุ่นสปอร์ตอย่าง RS จะใช้ขนาดใหญ่ขึ้นคือ 195/50 R16 ด้วยสภาพอากาศในไทยที่ร้อนและมีฝนบ่อย ยางเหล่านี้จึงผลิตจากสูตรยางพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะบนถนนเปียกและทนความร้อนได้ดี อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนควรเพิ่มความระมัดระวัง และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัย โชว์รูมโตโยต้าในไทยยังมีตัวเลือกยางอัปเกรด เช่น Michelin หรือ Yokohama (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ที่เหมาะกับถนนไทยที่มีทั้งเรียบและขรุขระ แนะนำให้สลับยางทุก 10,000 กม. เพื่อยืดอายุการใช้งาน และตรวจเช็กลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนที่ความดันลมยางอาจสูงเกิน Toyota มีบริการสลับยางในราคาประมาณ 300–500 บาท หากต้องการเปลี่ยนยางขนาดเดิม ราคายางระดับเดียวกับยางติดรถในไทยอยู่ที่ประมาณเส้นละ 2,500–4,500 บาท (รวมติดตั้งและถ่วงล้อ) และสามารถผ่อนจ่ายผ่าน Toyota Easy Finance ได้อีกด้วย
Q
Toyota Yaris เป็นรถที่ดีไหม? มาดูข้อดีข้อเสียของมันกันที่นี่เลย!
Toyota Yaris เป็นรถที่มีข้อดีหลายด้าน แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเช่นกัน โดยจุดเด่นหลักคือความประหยัดน้ำมัน ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียง 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้มาก ในด้านความปลอดภัย Toyota Yaris ก็มาพร้อมระบบมาตรฐานครบครัน เช่น ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพรถ, สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ด้านอุปกรณ์ภายในก็ถือว่าครบถ้วน โดยเฉพาะรุ่นท็อปที่มีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว, ช่องชาร์จ Type-C, แอร์อัตโนมัติ รวมถึงบางรุ่นที่มีเบาะหนังและกล้องรอบคัน เพิ่มความสะดวกและความสบายในการใช้งาน ดีไซน์ภายนอกก็ดูทันสมัย สีสันหลากหลาย และด้านหน้าของตัวรถมีความเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มความโดดเด่น อย่างไรก็ตาม จุดด้อยของ Yaris คือเรื่องกำลังเครื่องยนต์ ซึ่ง 1.2 ลิตร อาจไม่แรงพอสำหรับคนที่ต้องการอัตราเร่งแรงหรือขับเร็วบนทางด่วน นอกจากนี้เบาะหลังของบางรุ่นอาจแคบไปเล็กน้อย ทำให้การนั่งระยะไกลรู้สึกไม่ค่อยสบาย โดยรวมแล้ว Toyota Yaris เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถประหยัดน้ำมัน ใช้งานในเมือง มีความปลอดภัย และมีฟีเจอร์พื้นฐานครบ โดยไม่เน้นเรื่องพละกำลังหรือพื้นที่กว้างมากนัก เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถเล็กค่ะ

ข้อดี

พื้นที่ภายในรถกว้างขวางและสบาย
เครื่องยนต์เชื่อถือได้ คุ้มค่าสูง ราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับการกำหนดค่าใหม่จำนวนมาก มันคุ้มค่าราคา 5.39 - 6.49 หมื่นบาท
ยี่ห้อที่สามารถเชื่อถือได้ ระบบบริการทั่วประเทศ มากกว่า 300 แห่ง การขายหลังการขายมีการรับประกัน
ประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยเ outstandingางค์ มาตรฐานด้วย 7 ถุงลมนิรภัยได้รับการรับรองความปลอดภัย 5 ดาวจากอาเซียน
รถยนต์หลากหลายแบบที่มี 3 แบบการกำหนดค่าที่แตกต่างกันให้เลือก
เครื่องยนต์รุ่นใหม่ได้รับการอัพเกรดทำงานดีขึ้น
ประสิทธิภาพด้านการประหยัดน้ำมันดีเ outstandingางค์ ขับขี่ได้สูงสุด 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานการปล่อย Euro 5
ตกแต่งภายในเฉียบขาดความหรูหราและสปอร์ต ใช้วัสดุเช่นหนัง ฝังเชือกสีแดงทำให้ดูรูปลักษณ์สปอร์ต จอแสดงผลสีเพิ่มความรู้สึก

ข้อเสีย

ภายในออกแบบเป็นลายเก่า
เครื่องยนต์มีกำลังดันน้อยเมื่อความเร็วสูง, ขาดความน่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nissan Almera
รูปแบบรถไม่โดดเด่น, แสดงสภาพโดยรวมที่เฉยๆ
รุ่นรถเก่า, ต้องรอรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี TNGA

Q&A ล่าสุด

Q
การใช้เชื้อเพลิงของ Neta V คืออะไร
Neta V ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าล้วน มีการวัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยใช้ค่าการใช้ไฟฟ้า (kWh ต่อ 100 กิโลเมตร) แทนการวัดอัตราการใช้น้ำมันแบบรถยนต์ทั่วไป โดยจากข้อมูลทางการและการทดสอบในสภาพถนนจริงของประเทศไทย Neta V มีอัตราการใช้ไฟฟ้ารวมประมาณ 12-14 kWh ต่อ 100 กิโลเมตร คำนวณตามราคาค่าไฟฟ้าปัจจุบันในไทย จะมีต้นทุนต่อการขับขี่ 1 กิโลเมตร ประมาณ 0.5-0.7 บาท ต่ำกว่ารถน้ำมันอย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมืองไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งรถไฟฟ้าจะประหยัดพลังงานมากขึ้นเพราะไม่ใช้พลังงานในขณะจอดนิ่ง ส่วนการชาร์จไฟ Neta V รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที พร้อมทั้งระบบสถานีชาร์จที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังมีนโยบายส่งเสริมและลดหย่อนภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้ซื้อ Neta V ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม แนะนำให้ผู้บริโภคพิจารณารุ่นที่เหมาะสมตามระยะทางใช้งานและความพร้อมของสถานีชาร์จไฟ รวมทั้งดูแลบำรุงรักษาแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า
Q
Neta V คุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่ ตรวจสอบคุณสมบัติของมันที่นี่
Neta V เป็น SUV ไฟฟ้าที่เน้นกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่น มีความสามารถแข่งขันในตลาดไทย ด้วยระยะทางวิ่งประมาณ 380 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC เหมาะกับการใช้งานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ สำหรับการเดินทางประจำวัน รองรับการชาร์จเร็วที่ชาร์จไฟได้ถึง 80% ภายใน 30 นาที ระบบควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ช่วยรักษาความเสถียรท่ามกลางสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในติดตั้งหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รุ่นใหม่ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาด 335 ลิตร เหมาะสำหรับซื้อของที่ตลาดหรืองานท่องเที่ยวระยะสั้น เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน Neta V มีราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐบาลไทย เช่น การลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้ต้นทุนการซื้อรถถูกลง ควรตรวจสอบแผนที่สถานีชาร์จไฟผ่านแอปพลิเคชัน เช่น EV Station Planner เพื่อให้มั่นใจว่ามีจุดชาร์จเพียงพอในพื้นที่ที่ใช้บ่อย ระยะยาวรถไฟฟ้าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันอย่างมาก แต่ต้องระวังการเสื่อมของแบตเตอรี่ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็คสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำเพื่อรักษาประสิทธิภาพสูงสุด
Q
วันที่เปิดตัว Neta V คือเมื่อไร
Neta V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2023 ผ่านพันธมิตรท้องถิ่นที่รับผิดชอบด้านการจำหน่ายและบริการหลังการขาย ตัวรถเป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและเน้นความคุ้มค่า รองรับระยะทางวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็วโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการชาร์จจาก 30% ถึง 80% พร้อมระบบจัดการความร้อนของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนของไทย ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่ายแต่ตอบโจทย์การใช้งาน มาพร้อมหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 10.1 นิ้วและฟังก์ชันเชื่อมต่ออัจฉริยะเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภควัยรุ่น รัฐบาลไทยยังมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าผ่านมาตรการลดภาษีมูลค่าสูงสุดประมาณ 150,000 บาท อีกทั้งสถานีชาร์จไฟในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Neta V เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าราคาเข้าถึงได้ และมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นตามการเติบโตของตลาด EV ในประเทศไทย
Q
วันที่วางจำหน่ายของ Neta V คือเมื่อไร
Neta V เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดประเทศไทย โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2023 ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในไทย รถรุ่นนี้จัดอยู่ในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าราคาประหยัด มุ่งเป้ากลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นในเมือง มีให้เลือกสองรุ่นตามระยะทางวิ่งคือประมาณ 384 กิโลเมตร และ 401 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC รองรับระบบชาร์จเร็วที่สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ได้ภายในประมาณ 30 นาที พร้อมระบบจัดการความร้อนแบตเตอรี่ที่ปรับให้เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าผ่านการลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ช่วยให้รถรุ่นนี้มีราคาที่แข่งขันได้ ขณะเดียวกันโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จไฟก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับกับตัวแทนจำหน่ายเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงและเปรียบเทียบกับรถไฟฟ้ารุ่นอื่นในระดับราคาใกล้เคียงก่อนตัดสินใจซื้อ
Q
ความยาวของ Neta V คือเท่าไร
Neta V มีความยาวตัวถัง 4070 มิลลิเมตร เป็นรถ SUV พลังงานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง ขนาดตัวรถทำให้เหมาะกับถนนแคบและที่จอดรถแออัดในประเทศไทย ทั้งยังขับขี่คล่องตัวและมีพื้นที่ภายในเพียงพอ ในฐานะที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Neta V ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดไทย เนื่องจากรัฐบาลไทยกำลังส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยมีนโยบายลดภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิต ทำให้รถรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามากขึ้น Neta V มีระยะทางวิ่งประมาณ 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเพียงพอต่อการเดินทางในชีวิตประจำวันและทริประยะสั้น นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จไฟฟ้าในประเทศไทยก็มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยศูนย์การค้าและพื้นที่สาธารณะจำนวนมากเริ่มติดตั้งสถานีชาร์จไฟ เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งาน หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาประหยัด ขนาดเหมาะสม และเหมาะกับสภาพแวดล้อมในเมืองของไทย Neta V เป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งช่วยประหยัดค่าน้ำมัน ลดการปล่อยคาร์บอน และตอบโจทย์แนวโน้มการเดินทางแบบรักษ์โลกในประเทศไทย
ดูเพิ่มเติม