LEXUS LC 500h จะเลิกขาย เหลือแค่ V8 เป็นขุมพลังหลักของตระกูล LC
ธนวัฒน์Jul 22, 2025, 04:52 PM
【PCauto】Lexus LC รุ่นปี 2026 มีการปรับไลน์อัปครั้งใหญ่ โดยรุ่น LC 500h ที่ใช้ขุมพลังไฮบริด V6 ขนาด 3.5 ลิตร จะถูกถอดออกจากไลน์การผลิต เหลือเพียงขุมพลัง V8 ขนาด 5.0 ลิตรแบบ NA เป็นตัวเลือกเดียวของทั้งซีรีส์
เสียงเครื่อง V8 ที่เร้าใจและอารมณ์การขับขี่ที่เข้าถึงจิตวิญญาณของนักขับ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของ LC ได้ดีกว่า ประกอบกับกระแสรถน้ำมันเครื่องใหญ่เริ่มหายากในตลาด ยิ่งทำให้ LC500h หมดความได้เปรียบลงไปอีก
สัญญาณถอด LC 500h มีมาให้เห็นตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
LC 500h มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 104,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ แพงกว่ารุ่น LC 500 ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ถึง 3,150 ดอลลาร์ แต่กลับให้พละกำลังเพียง 354 แรงม้า
ในขณะที่ LC 500 ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 471 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.4 วินาที แถมยังมาพร้อมเสียงท่อที่หนักแน่นเร้าใจกว่า ช่องว่างด้าน “ราคาที่แพงกว่าแต่สมรรถนะด้อยกว่า” ทำให้เวอร์ชันไฮบริดได้รับความนิยมน้อยในตลาดหลักอย่างอเมริกาเหนือและยุโรป จากข้อมูลภายในของ Lexus ระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา LC 500h มียอดขายไม่ถึง 15% ของยอดรวมทั้งซีรีส์
LC 500h เคยเป็นตัวโชว์เทคโนโลยีไฮบริดระดับเรือธงของ LEXUS
ระบบ “Multi-Stage Hybrid” ที่มีเฉพาะใน LC 500h ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ชุดเกียร์ดาวเคราะห์ และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เข้าด้วยกัน เพื่อเลียนแบบจังหวะเปลี่ยนเกียร์ของรถน้ำมัน
แต่ในโลกความจริง ผู้ใช้กลับมองว่าระบบนี้ซับซ้อนเกินไป การสลับแรงบิดระหว่างมอเตอร์กับเครื่องยนต์มีอาการสะดุดชัดเจน ทำให้ความรู้สึกเร้าใจลดลง อีกทั้งเสียงเครื่อง V6 ก็ไม่สามารถเทียบชั้นกับเสียงดุดันของ V8 ได้เลย
กลุ่มลูกค้าที่เลือกซื้อ LC ต้องการความเร้าใจ ไม่ใช่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลือง ผู้แทนจำหน่าย LEXUS รายหนึ่งในอเมริกาเหนือเผยตรง ๆ ว่า “พอลูกค้าเห็นว่ารุ่น V8 ทั้งถูกกว่า แรงกว่า และเสียงดีกว่า พวกเขาก็เลิกสนใจรุ่นไฮบริดทันที”
2026 LEXUS LC เปิดตัวแล้ว
LEXUS LC รุ่นปี 2026 จะคงไว้เพียงรุ่น LC 500 ตัวถังคูเป้ (Coupe) และเปิดประทุน (Convertible) เท่านั้น พร้อมเพิ่มรุ่นพิเศษแบบผลิตจำนวนจำกัด “Inspiration Series” เข้ามาเสริมไลน์ รุ่นคูเป้ผลิตเพียง 200 คัน มาพร้อมสีตัวถังใหม่ Smoke Matte Gray แบบด้าน ติดตั้งหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อฟอร์จขนาด 21 นิ้วสีดำด้าน และคาลิเปอร์เบรกสีแดงแบบ 8 พอต ส่วนรุ่นเปิดประทุนจำกัด 350 คัน เลือกได้ทั้งสีตัวถังขาวมุก Wind White และหลังคาผ้าใบสีน้ำตาล ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบเลี้ยวล้อหลังแบบแอคทีฟ ช่วงล่างปรับอัตโนมัติ AVS และเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก Mark Levinson
ด้านสมรรถนะ LC 2026 ยังใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร กำลังสูงสุด 471 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แม้อัตราสิ้นเปลืองจะไม่หวือหวานัก (วิ่งในเมืองประมาณ 6.8 กม./ลิตร) แต่เวอร์ชัน V8 ยังคงมีอัตราการเก็บมูลค่าในตลาดรถมือสองสูงกว่ารุ่นไฮบริดถึง 12%-15% สะท้อนให้เห็นชัดเจนถึงความนิยมในพลังงานเครื่องยนต์ล้วนของกลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย
นี่อาจเป็น LC รุ่นสุดท้ายที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันล้วน
LEXUS LC รุ่นปี 2026 เคาะราคาจำหน่ายในอเมริกาเหนือเริ่มต้นที่ 101,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,295,000 บาท) สำหรับรุ่นคูเป้ และ 109,200 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,540,000 บาท) สำหรับรุ่นเปิดประทุน พร้อมยืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีรุ่นเปลี่ยนโฉมอีกต่อไป ส่งผลให้ LC รุ่นปัจจุบันกลายเป็นบทส่งท้ายของรถสปอร์ตขุมพลัง V8 แบบ NA จาก LEXUS อย่างเป็นทางการ
จากข้อมูลสายการผลิต ปริมาณการผลิต LC ทั่วโลกลดลงจากช่วงพีคที่เคยแตะ 6,000 คันต่อปี เหลือไม่ถึง 2,000 คันในปัจจุบัน รุ่นพิเศษแบบผลิตจำกัดคาดว่าจะขายหมดภายในไม่เกินสามเดือน สำหรับสายซิ่ง นี่คือช่วงเวลาบอกลา “ยุคของการประนีประนอมกับเทคโนโลยีไฮบริด” และเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้สัมผัสเสียงคำรามของเครื่องยนต์ V8 อย่างแท้จริง
การเลิกขาย LC 500h ไม่ได้แปลว่า LEXUS จะเลิกใช้เทคโนโลยีไฮบริด
จากข้อมูลของซัพพลายเออร์ LEXUS กำลังพัฒนารถรุ่นใหม่ชื่อว่า LFR ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2027 โดยจะมาพร้อมขุมพลังไฮบริดแบบ V8 ทวินเทอร์โบเจเนอเรชันใหม่ ที่ให้กำลังสูงสุดทะลุ 600 แรงม้า รถรุ่นนี้ถูกวางตำแหน่งให้ชนตรงกับ Chevrolet Corvette และ Porsche 911 โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีไฮบริดเพื่อรีดสมรรถนะขั้นสุด ไม่ใช่เพื่อประหยัดพลังงานแบบที่ผ่านมา
LC 500h เปรียบเสมือนการทดลองล้ำยุค ที่ช่วยเปิดเผยข้อจำกัดของระบบไฮบริดในโลกของรถสปอร์ตหรู เมื่อกระแสยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มกลายเป็นมาตรฐาน เครื่องยนต์เบนซินความจุสูงกลับกลายเป็นของหายากที่มีคุณค่า ดังที่ Koji Sato หัวหน้าวิศวกรของ LEXUS เคยกล่าวไว้ว่า “บางสิ่งบางอย่าง… มอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีวันแทนที่ได้”
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ
【PCauto】Nissan X-Trail ใหม่ (หรือ Rogue ในตลาดอเมริกาเหนือ) กำลังจะเปิดตัวโฉมใหม่ปลายปี 2025 นี้ พร้อมบทบาทสำคัญในการกู้วิกฤตของแบรนด์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการลดกำลังการผลิตและผลประกอบการขาดทุน แม้จะยังพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-CD เดิม แต่รุ่นใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์และระบบขับเคลื่อนที่เปลี่ยนใหม่หมด ใช้แนวทางออกแบบ “Nissan NEXT” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถไฟฟ้า Ariya ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ที่เล็กลง พร้อมไฟหน้าเลเซอร์แบบ Matrix ในรุ่นสูงสุด และไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมห้าชิ้นสุดเฉียบ ด้านข้างเน้นเส้น

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross
【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V
【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!
【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู

Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน
【PCauto】Toyota bZ4X เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และภายในสามวันแรกมียอดสั่งจองถึง 1,000 คันรุ่นย่อยและราคาของรถรุ่นนี้แบ่งเป็น:ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคา 1,599,000 บาทและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,699,000 บาทในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย bZ4X นำเข้ามาขายโดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 73.11 kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 600 กม. (FWD) และ 570 กม. (AWD)ในอีกฝั่งหนึ่ง XPeng G6 ก็ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่:รุ่น Long Range ราคา
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน