NETA Auto Thailand ระบุว่ากำลังพยายามแก้ไขปัญหาความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจอย่างเต็มที่
วิรุฬห์Jun 06, 2025, 03:09 PM
【PCauto】NETA แบรนด์จีนรายนี้กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของการพัฒนาในตลาดประเทศไทย โดยชะตากรรมของ NETA Thailand ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างบริษัทแม่ในจีนอย่าง Hozon Auto เป็นอย่างมาก ผู้บริหารระดับสูงอย่าง Sun Baolong และ Chen Yinbin ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานนี้ว่า ตราบใดที่บริษัทแม่ในจีนยังคงดำเนินอยู่ ธุรกิจในประเทศไทยก็จะเดินหน้าต่อไป
NETA และบริษัทแม่กำลังอยู่ระหว่างการดึงดูดนักลงทุนรายใหม่
NETA และบริษัทแม่กำลังอยู่ระหว่างการดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการปรับโครงสร้าง คาดว่าจะมีการนำเงินทุนใหม่เข้ามาภายในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งรวมถึงนักลงทุนทั้งจากจีนและต่างประเทศ พร้อมกันนี้จะมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารใหม่ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนรายใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนเพิ่มเติม หากการปรับโครงสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น ธุรกิจในประเทศไทยอาจสามารถฟื้นตัวได้ แต่ในขณะนี้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักได้ส่งผลให้การผลิตต้องหยุดลงโดยตรง และกระทบต่อการจัดจำหน่ายรุ่นต่าง ๆ เช่น NETA V II และ NETA X อย่างชัดเจน
ปัญหาของ NETA Thailand อยู่ที่ขั้นตอนการผลิตและการขายเป็นหลัก โรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตบางชัน กรุงเทพฯ ได้หยุดการผลิตลงแล้ว เนื่องจากโรงงานของบริษัทแม่ในจีนหยุดดำเนินการ ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน และทำให้โรงงานในไทยไม่สามารถจัดหาชิ้นส่วนที่จำเป็นได้ นั่นหมายความว่าการผลิตในประเทศของรุ่น NETA V II และ NETA X ได้หยุดชะงักโดยสมบูรณ์ และต้องรอให้นักลงทุนรายใหม่เข้ามาเสริมสภาพคล่องก่อนจึงจะสามารถเริ่มการผลิตอีกครั้งได้
โรงงานไม่มีสต็อกรถยนต์แล้ว และตัวแทนจำหน่ายกำลังเร่งขายรถ
ในด้านสต็อกรถ รุ่น NETA V II ยังคงเหลือประมาณ 400 คัน ซึ่งบริษัทได้ทำข้อตกลงขายให้กับกลุ่มนักลงทุนจากจีน โดยคาดว่านำไปใช้เพื่อการส่งออกหรือนำไปจัดจำหน่ายแบบเหมารวม ไม่ได้เปิดขายให้กับผู้บริโภคทั่วไป ส่วนรุ่น NETA X ไม่มีสต็อคคงเหลือแล้ว
ด้านช่องทางการจำหน่ายก็กำลังเผชิญความท้าทาย โดยจำนวนดีลเลอร์ลดลงจากเดิม 60 ราย เหลือเพียงประมาณ 40 ราย บางดีลเลอร์ที่ถอนตัวออกจากเครือข่ายถึงขั้นขายรถในราคาต่ำกว่าต้นทุน เช่น NETA V II ที่บางแห่งขายเพียง 300,000 บาท ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของราคาจำหน่ายเดิม เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาด บริษัทกำลังวางแผนกำหนดราคาและแคมเปญส่งเสริมการขายให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการตัดราคาจากตัวแทนจำหน่าย
แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือบริการหลังการขาย ซึ่งกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนอะไหล่อย่างรุนแรง เช่น กระจกบังลมหน้าที่ต้องรอนานกว่า 10 เดือน และจำเป็นต้องจัดหาอะไหล่ผ่านตัวแทนภายนอกจากประเทศจีนเท่านั้น ขณะเดียวกัน บริการรับประกันก็ถูกระงับชั่วคราว และจะกลับมาให้บริการได้ก็ต่อเมื่อมีเงินทุนจากจีนเข้ามาเสริมสภาพคล่อง สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเจ้าของรถกว่า 22,000 รายในประเทศไทย บริษัทจึงหวังให้ตัวแทนจำหน่ายที่ยังเหลืออยู่สามารถให้บริการหลังการขายขั้นพื้นฐานต่อไปได้ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์
การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายและการเงินยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา กรรมการเพียงคนเดียวของบริษัทในไทยได้เปลี่ยนเป็นคุณ Saranya Sritai โดยผู้บริหารชาวจีนเดิมได้ถอนตัวออกทั้งหมด ซึ่งนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมายบางประการ ขณะเดียวกัน สำนักงานที่อาคาร RSU Tower ในกรุงเทพฯ ก็กำลังเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากสัญญาเช่าจะหมดอายุในเดือนมิถุนายนนี้และยังไม่มีการต่อสัญญา อีกทั้งเงินเดือนของพนักงานจะเปลี่ยนไปจ่ายโดยตรงจากสำนักงานใหญ่ในจีน
ในด้านการเงิน บริษัทย่อยในประเทศไทยมีหนี้สินรวมประมาณ 600 ล้านบาท ครอบคลุมยอดค้างชำระที่มีกับดีลเลอร์ ซัพพลายเออร์ และบริษัทขนส่งต่าง ๆ โดยบริษัทมีแผนทยอยชำระหนี้หลังจากได้รับเงินลงทุนใหม่และการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ของไทย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นอยู่ที่บริษัทแม่ในจีน โดย Hozon Auto มียอดค้างชำระกับซัพพลายเออร์มากถึง 134 ราย รวมเป็นมูลค่าราว 9.4 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทในไทยได้ยื่นหนังสือค้ำประกันธนาคารต่อกรมสรรพสามิต โดยอ้างว่าครอบคลุมหนี้สินที่มีอยู่ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยยอดที่แน่ชัด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ความต่อเนื่องในการดำเนินงานดูเปราะบาง ผู้บริหาร Chen Yinbin ระบุว่า แม้หนี้ของฝ่ายไทยจะมีขนาดไม่ใหญ่ แต่ระยะเวลาการชำระหนี้จะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างของบริษัทแม่ในประเทศจีน
NETA ในประเทศไทยมียอดขายที่ต่ำ
จากข้อมูลพบว่า ผลประกอบการของ NETA ในประเทศไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ โดยจำนวนการจดทะเบียนรถยนต์รวมอยู่ที่ 19,387 คัน ซึ่งเป็นรถนำเข้า (รวมทั้ง NETA V และ NETA X) ขณะที่รถที่ประกอบในประเทศอย่าง NETA V II มีเพียง 3,069 คัน คิดเป็นเพียง 14.3% ของจำนวนขั้นต่ำ 21,440 คันที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไทย
รายงานการเงินยิ่งเพิ่มความกังวลมากขึ้น รายงานประจำปี 2023 ระบุว่าบริษัทในไทยขาดทุนสะสมถึง 1,882 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียนมีเพียง 232 ล้านบาท ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความยากลำบากในการดำเนินงานในตลาดไทยอย่างชัดเจน ทั้งในด้านกำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอและปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
ความท้าทายสำคัญอยู่ที่การขาดช่วงของห่วงโซ่อุปทานและแรงกดดันจากภายนอก การหยุดดำเนินการของโรงงานในจีนทำให้ชิ้นส่วนไม่สามารถส่งเข้ามาได้ ส่งผลให้สายการผลิตในไทยหยุดชะงัก และระบบบริการหลังการขายในไทยพังทลายลง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสบการณ์ของลูกค้า
แบรนด์เองก็เผชิญความเสี่ยงในการดำรงอยู่
นักลงทุนรายใหม่อาจพิจารณาเปลี่ยนชื่อแบรนด์ แต่ในเบื้องต้น ตลาดไทยจะยังคงใช้ชื่อ NETA ต่อไป ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ผู้บริหารระดับสูง Sun Baolong เน้นย้ำว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญ และบริษัทกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ ท่าทีของนักลงทุนรายใหม่ในช่วง 1 เดือนข้างหน้าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอนาคตของ NETA
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

เตรียมเปิดตัว! Toyota Yaris ATIV HEV ใหม่ 21 ส.ค.นี้ ใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross
【PCauto】Yaris ATIV HEV ใหม่ จ่อเปิดตัว 21 ส.ค.นี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดประหยัดสุด 26.3 กม./ลิตร Toyota เตรียมส่ง Yaris ATIV รุ่นไฮบริดบุกตลาดไทย 21 สิงหาคมนี้ โดยใช้ขุมพลังเดียวกับ Yaris Cross ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VEX ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวม 111 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 0.7 kWh รองรับน้ำมัน E20 ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยมที่ 26.3 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WMTC เตรียมเปิดศึกรถซีดานไฮบริดประหยั

Mitsubishiเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งรุ่น Destinator เพื่อแข่งขันกับ Honda CR-V
【PCauto】Mitsubishi Motors ได้เปิดตัว SUV เจ็ดที่นั่งรุ่นใหม่ Destinator อย่างเป็นทางการที่จาการ์ต้า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อครอบครัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ และจะเริ่มจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก ก่อนขยายตลาดไปยังไทยและประเทศในอาเซียนอื่นๆ Mitsubishi Destinator มาพร้อมกับฐานล้อยาวพิเศษ 2815 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวรถ 214 มิลลิเมตร รถรุ่นนี้ตั้งเป้าหมายในตลาด SUV ขนาดกลางที่มี Honda CR-V ครองตำแหน่งผู้นำอยู่แล้ว

BYD SEALION 8 ลุ้นขายไทย-ออสเตรเลียปีหน้า!
【PCauto】BYD SEALION 8 เตรียมบุกไทย-ออสซี่ปีหน้า! ใหญ่เทียบ Kluger พร้อมดีไซน์ล้ำยุคจาก Egger BYD SEALION 8 หรือ Tang L เวอร์ชันจีน เตรียมเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2026 ในออสเตรเลีย และมีแผนรุกตลาดไทยพร้อมกัน จุดเด่นคือขนาดใหญ่กว่า Toyota Kluger ถึง 120 มม. กับตัวถังยาวกว่า 5 เมตร เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมขุมพลัง PHEV สองรุ่นย่อย และดีไซน์ “Loong Face” นำโดย Wolfgang Egger ไฟหน้า LED แยกส่วน-โลโก้ BYD เรืองแสง เสริมความพรีเมียมด้วยประตูไร้กรอบ ไฟท้าย “ปีกฟีนิกซ์” และหลังคาพาโนรามา ครบเครื่องทั้งความหรู

Toyota bZ4X เปิดตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ Xpeng G6 รุ่นใดคุ้มค่ากับการซื้อมากกว่ากัน
【PCauto】Toyota bZ4X เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม และภายในสามวันแรกมียอดสั่งจองถึง 1,000 คันรุ่นย่อยและราคาของรถรุ่นนี้แบ่งเป็น:ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคา 1,599,000 บาทและขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ราคา 1,699,000 บาทในฐานะรถ SUV ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Toyota ที่ทำตลาดในประเทศไทย bZ4X นำเข้ามาขายโดยมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 73.11 kWh ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 600 กม. (FWD) และ 570 กม. (AWD)ในอีกฝั่งหนึ่ง XPeng G6 ก็ได้เปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่:รุ่น Long Range ราคา

Xpeng P7 ฮอตแรง! เปิดจองแค่ 7 นาที ยอดสั่งทะลุ 10,000 คัน
【PCauto】XPeng P7 ใหม่ เปิดพรีออเดอร์เพียง 6 นาที 37 วินาที ยอดจองทะลุ 10,000 คัน ทำลายสถิติเดิมของแบรนด์ มาพร้อมดีไซน์ XMART FACE ไฟหน้า-ไฟท้ายแบบ X Shape หลังคาลอย เสา A ซ่อน ขอบประตูไร้กรอบ และสปอยเลอร์ไฟฟ้าสร้างแรงกดสูงสุด 900 นิวตัน ค่าลากอากาศเพียง 0.198Cd ภายในล้ำสมัยด้วยจอ 3 ชุด และ AR-HUD ขนาด 87 นิ้ว คมชัดแม้แดดจ้า
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน
รุ่นปีรถยนต์
รุ่นรถยนต์