Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ
LienJul 14, 2025, 11:32 AM
【PCauto】SUV รุ่นที่ใช้ชื่อว่า Rogue ในตลาดอเมริกาเหนือ และ X-Trail ในตลาดอื่นทั่วโลก กำลังกลายเป็นหมากสำคัญของ Nissan ในการพลิกสถานการณ์ทางธุรกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจากการลดกำลังการผลิตในโรงงานและปัญหาขาดทุนทางการเงิน โดยรุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับโฉมเต็มรูปแบบมีกำหนดเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 พร้อมแบกรับความหวังในการฟื้นฟูแบรนด์
แม้จะยังคงพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-CD เช่นเดิม แต่การออกแบบและระบบขับเคลื่อนที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Nissan ที่พร้อมสู้แบบไม่มีถอย
ดีไซน์ใหม่ตามแนวทาง “Nissan NEXT”
ภาพสิทธิบัตรเผยให้เห็นดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ไฟฟ้า Ariya โดยยังคงเอกลักษณ์กระจังหน้า V-Motion เอาไว้ แต่มีขนาดเล็กลง เพิ่มความล้ำสมัยด้วยไฟหน้าแบบเมทริกซ์เลเซอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เฉพาะในรุ่นท็อป ขณะที่ไฟ DRL รูปทรงหกเหลี่ยมห้าชิ้นที่ติดตั้งสองข้าง ก็กลายเป็นเอกลักษณ์ใหม่ที่โดดเด่นของตัวรถ
ด้านข้างตัวถังมีการใช้เส้นสายลักษณะคล้ายเปลือกหอยเพื่อเพิ่มมัดกล้ามให้ตัวรถดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะที่เสา D ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์อันดุดันของ Nissan Patrol รุ่นใหม่ ส่วนด้านท้ายติดตั้งไฟ LED แบบพาดยาวรอบด้าน เชื่อมโยงกับดีไซน์ด้านหน้าได้อย่างลงตัว ทำให้ภาพรวมของรถดูมีมิติมากขึ้นและเฉียบคมกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน
การเปลี่ยนแปลงภายในห้องโดยสารเห็นได้ชัดเช่นกัน
ดีไซน์ภายในที่เคยเผยภาพต้นแบบแบบจอคู่ ได้ถูกยกเลิกในเวอร์ชันผลิตจริง เปลี่ยนมาใช้หน้าจอกลางแบบลอยขนาด 12.3 นิ้ว ร่วมกับหน้าจอแสดงผลบนกระจก HUD ขนาด 10.8 นิ้วแทน ปุ่มควบคุมแบบกายภาพถูกลดจำนวนลงอย่างชัดเจน โดยแผงแดชบอร์ดวางแนวนอนยังคงกลิ่นอายความเรียบง่ายแบบเดียวกับ Ariya
ระบบอินโฟเทนเมนต์ภายในอัปเกรดเป็น Nissan Connect 3.0 รองรับการเชื่อมต่อ 5G และอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลในรถยนต์อย่างรอบด้าน
ขุมพลังกลายเป็นไฮไลต์สำคัญของการเปลี่ยนโฉมครั้งนี้
Nissan เตรียมวางจำหน่ายรถรุ่นนี้พร้อมขุมพลังให้เลือกถึง 3 แบบ
รุ่นเครื่องยนต์เบนซินยังคงใช้เครื่อง 1.5 ลิตร เทอร์โบ VC-Turbo แบบ 3 สูบ โดยปรับปรุงประสิทธิภาพความร้อนขึ้นเป็น 42% อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันตามมาตรฐาน EPA อยู่ที่ 8.4 ลิตร/100 กม. สำหรับการขับขี่ในเมือง และ 6.9 ลิตร/100 กม. บนทางหลวง
ขณะที่ไฮไลต์อยู่ที่ระบบขับเคลื่อน e-Power เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นใหม่ที่ชาร์จและจ่ายไฟได้มีประสิทธิภาพขึ้น 15% สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 80 กม. ตามมาตรฐาน WLTC โดยเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบจะทำหน้าที่เพียงเป็นเครื่องปั่นไฟเท่านั้น ส่วนระบบขับเคลื่อนทั้งหมดใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่จะเปิดตัวตามมาในภายหลัง
อีกจุดที่น่าจับตามองคือรุ่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน e-X-Trail ถูกเลื่อนการเปิดตัวออกไปเป็นปี 2027 หลังจากที่ Nissan ประกาศปรับกลยุทธ์ในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยลดเป้าหมายสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 จาก 40% เหลือ 30% และหันมาเน้นระบบไฮบริดเป็นหัวใจสำคัญของช่วงเปลี่ยนผ่าน
ระบบช่วยขับ ProPILOT 2.5 เวอร์ชันอัปเกรด เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ ฟังก์ชันจอดอัตโนมัติแบบจดจำเส้นทางได้สูงสุด 5 เส้นทาง และระบบตามรถในสภาพจราจรติดขัดที่สามารถตรวจจับรถที่แทรกเข้ามาได้แม่นยำยิ่งขึ้น ด้านระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน คาดว่าจะติดตั้งระบบเตือนการชนล่วงหน้ารุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งจะต้องรอผลการทดสอบจาก NHTSA เพื่อยืนยันสมรรถนะอีกครั้ง
รถรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ตามประกาศจากเว็บไซต์ทางการของ Nissan ระบุว่า การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ถูกเลื่อนออกไปเป็นไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 เนื่องจากต้องใช้เวลาปรับจูนระบบซอฟต์แวร์เพิ่มเติม โดยงานมหกรรมรถยนต์ที่ลอสแอนเจลิสหรือแฟรงก์เฟิร์ตมีแนวโน้มจะถูกเลือกเป็นเวทีเปิดตัวครั้งแรก SUV รุ่นนี้นับเป็นความหวังสำคัญของ Nissan ในการฟื้นแบรนด์ และกำลังจะถูกทดสอบในตลาดอย่างจริงจัง
เมื่อเทียบกับ Toyota RAV4 ที่มียอดขายทะลุ 350,000 คันต่อปี Rogue/X-Trail เจเนอเรชันใหม่จะสามารถชิงพื้นที่กลับมาในสมรภูมิ SUV ขนาดคอมแพกต์ที่มีการแข่งขันดุเดือดได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

นี่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มีกำลังมากที่สุดของ Toyota เท่าที่เคยมีมา โดยจะเปิดตัวในยุโรปเป็นที่แรกในปีหน้า
【PCauto】bZ4X Touring มีแผนวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก bZ4X เวอร์ชันมาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการบรรทุกและการใช้งานแบบออฟโรดได้ดีขึ้น พร้อมกำลังรวมสูงสุด 280 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระดับกำลังที่สูงที่สุดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota จนถึงขณะนี้ bZ4X Touring มีขนาดตัวถังและพื้นที่ภายในที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในฐานะรุ่นแฝดของ Subaru Trailseeker รถรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกัน แต่ได้รับการขยายมิติตัวรถเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น

หลังจากความสำเร็จของ Tank 300 รุ่นดีเซลแล้ว Tank 500 รุ่นดีเซลก็จะถูกนำเข้ามาเช่นกัน
【PCauto】หลังจาก Tank 300 รุ่นดีเซลประสบความสำเร็จเกินคาด GWM วางแผนนำ Tank 500 รุ่นดีเซลเข้าสู่ตลาดไทยในไตรมาสที่สี่ของปี 2025 รถเอสยูวีออฟโรดระดับพรีเมียมที่มาพร้อมขุมพลังดีเซล 24 เทอร์โบรุ่นนี้จะผลิตในประเทศที่โรงงานจังหวัดระยอง ราคาคาดการณ์ราวสองล้านบาท เจาะตลาดเดียวกับ Toyota Fortuner และ Isuzu MU X ซึ่งเป็นเอสยูวีดีเซลยอดนิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่เปิดตัวทั่วโลก 16 มิถุนายน 2025 มาพร้อมนวัตกรรมหลากหลายด้าน
【PCauto】แบรนด์ Audi ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Audi Q3 เจเนอเรชันใหม่ จะเปิดตัวครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 16 มิถุนายน 2025 โดยระบุว่า SUV รุ่นใหม่นี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานในหลายมิติ จากข้อมูลเบื้องต้น รถรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในด้าน ภาษาในการออกแบบ, ห้องโดยสารแบบดิจิทัล และ ระบบขับเคลื่อน Q3 ถือเป็นหนึ่งในรุ่นขายดีที่สุดของ Audi โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกทะลุ 2 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก

GWM เปิดตัว Tank 500 ดีเซล SUV 7 ที่นั่งสายลุยรุ่นใหม่
【PCauto】TANK 500 ดีเซลเปิดตัวในไทย! เอาใจสายครอบครัวลุยๆ ด้วยพลัง 2.4 เทอร์โบ แรงบิดจัดเต็ม 480 นิวตันเมตร หลังจาก TANK 300 ดีเซลประสบความสำเร็จ GWM ก็ไม่รอช้า เปิดตัว TANK 500 ดีเซล เอสยูวีขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะสายลุยอย่างลงตัว เหมาะทั้งสำหรับคนรักการเดินทางแบบครอบครัวและสายออฟโรดตัวจริงTANK 500 ดีเซลมาพร้อมขุมพลังใหม่ล่าสุด เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 190 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 480 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำ ช่วยให้ผ่านอุปสรรคหนักๆ ได้สบาย จับคู่เก

Nissan เตรียมพลิกโฉม SUV รุ่นสำคัญ หวังพาแบรนด์พ้นวิกฤตธุรกิจ
【PCauto】Nissan X-Trail ใหม่ (หรือ Rogue ในตลาดอเมริกาเหนือ) กำลังจะเปิดตัวโฉมใหม่ปลายปี 2025 นี้ พร้อมบทบาทสำคัญในการกู้วิกฤตของแบรนด์ ท่ามกลางแรงกดดันจากการลดกำลังการผลิตและผลประกอบการขาดทุน แม้จะยังพัฒนาบนแพลตฟอร์ม CMF-CD เดิม แต่รุ่นใหม่นี้มาพร้อมดีไซน์และระบบขับเคลื่อนที่เปลี่ยนใหม่หมด ใช้แนวทางออกแบบ “Nissan NEXT” ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถไฟฟ้า Ariya ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้า V-Motion ที่เล็กลง พร้อมไฟหน้าเลเซอร์แบบ Matrix ในรุ่นสูงสุด และไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมห้าชิ้นสุดเฉียบ ด้านข้างเน้นเส้น
รถยอดนิยม
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ
ภาพภายใน