นิสสันวางแผนยุติการผลิตที่โรงงานหนึ่งแห่งในจีน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวม
สุรเดชApr 29, 2025, 03:47 PM

【PCauto】มีรายงานว่า โรงงานนิสสันในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน มีกำหนดจะยุติการผลิตในช่วงสิ้นปีงบประมาณ 2025 (ถึงเดือนมีนาคม 2026)
โรงงานตงเฟิง-นิสสันอู่ฮั่น เริ่มก่อสร้างในปี 2019 และเริ่มเดินสายการผลิตอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2022 ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 9.851 พันล้านหยวน โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตปีละ 300,000 คัน และมีความยืดหยุ่นในการผลิตทั้งรถยนต์ใช้น้ำมัน ระบบไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นส่วนสำคัญในการวางกลยุทธ์ของนิสสันในตลาดจีน
อย่างไรก็ตาม ผลการตอบรับในตลาดกลับน่าผิดหวัง โรงงานที่ผลิตรถรุ่น X-Trail เครื่องยนต์สันดาป, X-Trail e-POWER และ ARIYA เป็นหลัก มียอดใช้กำลังการผลิตในปี 2023 ต่ำกว่า 10% และในปี 2024 เพียง 19% เท่านั้น

นิสสันมีกำลังการผลิตติดตั้งในจีนสูงถึง 1.6 ล้านคันต่อปี แต่ในปี 2566 กลับเดินสายผลิตจริงได้เพียง 737,000 คัน หรือใช้งานไลน์ผลิตไม่ถึงครึ่งเดียว ส่วนโรงงานอู่ฮั่นที่ออกแบบไว้สำหรับ 300,000 คันต่อปี ผลิตจริงไม่ถึง 30,000 คัน ทำให้สายการผลิตจำนวนมากถูกปล่อยว่างและกลายเป็นต้นทุนถ่วงงบก้อนโต
ขณะเดียวกัน ตลาดรถพลังงานใหม่ในจีนโตพรวดพราด บรรดาค่ายสัญชาติจีนเปิดตัวรถไฟฟ้าและไฮบริดรุ่นใหม่แทบทุกเดือน แต่นิสสันกลับขยับตัวตามหลัง ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุครถพลังงานสะอาดช้ากว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ผลประกอบการทั่วโลกของนิสสันยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง บริษัทจึงประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ด้วยการเลิกจ้างพนักงานราว 9,000 ตำแหน่งทั่วโลก ลดกำลังการผลิตลง 20 % และขายหุ้นที่ถืออยู่ใน Mitsubishi Motors เพื่อดึงสภาพคล่องกลับมา การปิดสายการผลิตที่โรงงานอู่ฮั่นจึงกลายเป็นก้าวสำคัญในแผนรีแบลานซ์ทั่วโลก ลดการลงทุนด้านกำลังการผลิตที่ไม่จำเป็น กดต้นทุนดำเนินงาน และจัดสรรทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การหยุดผลิตที่อู่ฮั่นส่งผลชัดเจนต่อธุรกิจนิสสันในจีนและระบบนิเวศอุตสาหกรรมในท้องถิ่น เมื่อสายการผลิตที่อู่ฮั่นปิดตัวลง ฐานการผลิตของนิสสันในจีนจะเหลือเพียง 4 แห่งเท่านั้น
ผู้บริหารระดับสูงของนิสสันเผยว่า บริษัทกำลังพิจารณาปิดโรงงานแห่งอื่นเพิ่มเติม นั่นหมายความว่ากำลังการผลิตของนิสสันในจีนอาจถูกปรับลดลงอีกในอนาคต

สำหรับระบบนิเวศอุตสาหกรรมในพื้นที่ “เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอู่ฮั่น” เป็นแหล่งรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จำนวนมาก ผู้บริหารของโรงงานเบาะรถยนต์ที่ป้อนชิ้นส่วนให้ Nissan เผยว่า หลังสายการผลิตนิสสันหยุดเดิน เครื่องจักรของตนต้องนอนนิ่ง ทำให้สูญเสียออเดอร์กว่า 20 ล้านหยวนทุกเดือน หลายบริษัทจึงจำเป็นต้องหันไปส่งออกสินค้าไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แทน — ซึ่งต้นทุนในการย้ายไลน์ผลิตสูงถึง 20 % ของกำไรสุทธิทั้งปี
เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว Nissan และทางการท้องถิ่นได้เร่งออกมาตรการเยียวยา รัฐบาลเมืองใช้แพลตฟอร์ม “ห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ลุ่มแยงซี” จับคู่ผู้ผลิตชิ้นส่วนกับลูกค้ารายใหม่อย่าง BYD และ Geely จนถึงขณะนี้มีผู้ประกอบการ 37 รายปรับตัวสำเร็จแล้ว
ขณะเดียวกัน มีแผนดัดแปลงโรงงานอู่ฮั่นให้เป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ มุ่งประกอบกระบะปลั๊กอินไฮบริด Frontier Pro PHEV พร้อมใช้ช่องทางขายต่างประเทศของกลุ่มตงเฟิงบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นิสสันวางแผนทุ่มเงินลงทุนเพิ่มในจีนอีก 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า/พลังงานทางเลือกใหม่ราว 10 รุ่นก่อนปี 2027 เพื่อกอบกู้ยอดขายในแดนมังกรผ่านการยกระดับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี
ในอนาคต นิสสันจะยึดกลยุทธ์ “ผลิตในจีน เพื่อคนจีน และส่งออกสู่ตลาดโลก” เป็นแกนหลัก ด้านแผนพัฒนาและทำตลาดผลิตภัณฑ์ ภายในฤดูร้อน 2027 จำนวนรถพลังงานใหม่ที่ทำตลาดจะเพิ่มจาก 8 เป็น 10 รุ่น โดย 9 รุ่นจะติดตรานิสสันเต็มตัว ครอบคลุมทั้งเก๋ง SUV และกระบะ พร้อมตัวเลือกระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน (EV) และปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV)

ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ดงเฟิง-นิสสัน จะทุ่มงบกว่า 1 หมื่นล้านหยวน ขยายศูนย์วิจัย-พัฒนาให้รองรับวิศวกรและนักพัฒนาได้ถึง 4,000 คน พร้อมย่นวงจรพัฒนาโมเดลใหม่เหลือเพียง 24 เดือน โดยให้อำนาจทีมงานในประเทศเป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการหลักอย่างเต็มที่
ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัทเดินหน้าจับมือสตาร์ตอัปและบรรษัทไฮเทคสัญชาติจีน เช่น Momenta และ Huawei เพื่อพัฒนาระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะและห้องโดยสารดิจิทัล อีกทั้งร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง ชิงหัว จัดตั้ง “ศูนย์วิจัยร่วมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมยานยนต์” และร่วมกับ WeRide ทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองซูโจว เพื่อเร่งนำโซลูชันอัจฉริยะลงสู่ภาคสนามอย่างต่อเนื่อง
ในด้านการส่งออกและขยายตลาดโลก รถรุ่นใหม่ที่พัฒนาในจีนอย่าง N7 และ Frontier Pro PHEV จะถูกส่งออกผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกของนิสสัน ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้าใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธุรกิจระดับโลกและสินทรัพย์ในจีนต่อยอดธุรกิจส่งออกรถยนต์ สร้างระบบนิเวศห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจรในระยะยาว

นอกจากนี้ เจิ้งโจว-นิสสัน มีแผนเปิดตัวรถใหม่ 9 รุ่นภายในสองปีข้างหน้า — 5 รุ่นแรกจะติดตรานิสสันเต็มตัว ครอบคลุมรถกระบะ, SUV และ CDV
แผนการหยุดเดินสายการผลิตที่โรงงานอู่ฮั่นของนิสสันครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในยุทธศาสตร์ของบริษัทในจีนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนการแข่งขันที่ทวีความดุเดือดในตลาดรถยนต์แดนมังกร และเผยให้เห็นความท้าทายกับคลื่นการเปลี่ยนแปลงที่บริษัทรถยนต์ข้ามชาติทุกแบรนด์ต้องเผชิญในประเทศจีนอนาคตจึงต้องจับตาดูว่า มาตรการใหม่ชุดใหญ่ของนิสสันจะเพียงพอให้แบรนด์พลิกเกมกลับมาได้หรือไม่
คุณสามารถติดต่อเราให้ลบออกเนื้อหาถ้าละเมิดลิขสิทธิ์
ข้อมูลยอดนิยม

Jeacoo J7 เปิดตัวรุ่น PHEV ใน Motor Expo 2024 สามารถขับขี่โดยใช้แบตเตอรี่ได้ 80 กิโลเมตร
หลังจาก Jaecoo J7 วางจำหน่ายในประเทศแถบเซียนใต้ Chery ที่พึงพอใจกับผลการขายดังนั้นในงานรถยนต์ที่ประเทศไทยที่จะมาถึงนี้ แพลนที่จะวางจำหน่าย Jaecoo J7 เวอร์ชัน PHEV ที่ประเทศไทยที่เหมาะกับ Jaecoo J7 PHEV สำหรับมาเลเซียครั้งนี้ Chery ที่เตรียมวางจำหน่าย Jaecoo J7 PHEV ที่ประเทศไทยสนับสนุนระยะทางการเดินทางด้วยแบตเตอรี่เต็ม 80 กม. (WLTP) นั่นหมายความว่าถ้าคุณขับ J7 ไป-กลับที่ทำงานราคาน้ำมันจะต่ำมากJaecoo J7 PHEV ที่จะใช้เครื่องยนต์ 1.5T มีแรงม้า 156Ps และมอเตอร์ไฟฟ้ามีแรงม้า 204Ps แรงม้ารวม 360Ps แรง

Toyotaเปิดตัวรุ่น Sienta Juno ซึ่งคุณสามารถนอนหลับ ทำงาน หรือดื่มกาแฟในรถได้
【PCauto】ในตลาด MPV ขนาดกะทัดรัดของญี่ปุ่น Toyota Sienta ได้ครอบครองตำแหน่งสำคัญเสมอด้วยการจัดพื้นที่ใช้งานที่ยืดหยุ่นและการติดตั้งฟังก์ชันที่ใช้งานได้จริง ล่าสุด Toyota ได้ร่วมมือกับแบรนด์แต่งรถ Modellista เปิดตัว Sienta Juno รุ่นพิเศษ ที่ใช้การออกแบบโมดูลาร์ที่ล้ำสมัย เพื่อเปลี่ยนรถตู้ขนาดเล็กให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ

Toyota Land Cruiser FJ ไม่ทำให้ผิดหวัง รถออฟโรดสำหรับทุกคนที่น่าตื่นเต้นที่สุดกลับมาแล้ว
นับตั้งแต่เปิดตัวในชื่อ Toyota BJ ในปี 1951 ซีรีส์ Land Cruiser ได้มียอดขายรวมประมาณ 12.15 ล้านคันในกว่า 190 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการขับขี่ออฟโรดที่ยืนยาวมากว่า 70 ปี

JAECOO 6 EV เปรียบเทียบกับ BYD Atto 3 JAECOO 6 EV จะท้าทาย Atto 3 ที่ขายดีทั่วโลกอย่างไร?
Atto 3 สามารถกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ BYD ในระดับโลก อย่างไรก็ตาม สำหรับ Atto 3 ซึ่งมีความสำคัญต่อ BYD อย่างมาก ขณะนี้ได้มีคู่แข่งที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้น คู่แข่งรายนี้มีการออกแบบภายนอกที่น่าประทับใจ และมาจากผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเช่นกัน

ตารางผ่อนชำระล่าสุดอย่างเป็นทางการของ TANK 300 มีทั้งรุ่นดีเซลและรุ่น HEV
Tank 300 เป็น SUV ที่รวมความแข็งแกร่งแบบออฟโรดเข้ากับความสบายสไตล์เมือง ดีไซน์มาพร้อมกับโครงสร้างรถแบบ Non-bearing Body และล็อคดิฟเฟอเรนเชียล 3 ตัว ทำให้มันมีความสามารถในการฝ่าอุปสรรคได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะและโหมดขับขี่หลายภูมิประเทศ ก็ช่วยให้ปรับตัวได้ดีแม้ในเส้นทางที่หลากหลาย สำหรับคนที่ชอบการผจญภัยกลางแจ้งแต่ก็ยังต้องการรถสำหรับใช้ในเมือง Tank 300 ถือเป็นจุดสมดุลที่น่าสนใจ แถมยังมีโอกาสปรับแต่งเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์นักรบออฟโรดตัวจริง เช่น อัพเกรดเป็นโช้กไนโตรเจนหรือยางออฟโรดเพื่อรับมือกับเส้นทางสุดทรหดได้อีกด้วย
รถยอดนิยม
รุ่นปีรถยนต์
เปรียบเทียบรถยนต์
รูปภาพรถ

